หัวข้อ: อกุศลกรรมบท 10 เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 23 มีนาคม 2553 15:45:13 (http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/nirux/P00-014018.jpg) http://www.fungdham.com/download/song/allhits/22.wma ...............................ผลของกรรมไม่ดี 10 ข้อ............................... ถ้าหากผู้นั้นไม่ได้ลงนรก เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์แล้วจะได้รับสิ่งเหล่านี้ ได้แก่................................ ปาณาติบาต ผลของการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต รวมไปถึงการทำร้ายสัตว์ด้วยแม้ไม่ถึงตายก็ตาม มี 9 ประการ คือ พิการ รูปไม่งาม กำลังกายอ่อนแอ กำลังกายเฉื่อยชา เป็นคนขลาด ฆ่าตนเอง หรือถูกฆ่า โรคภัยเบียดเบียน ความพินาศของบริวาร กำลังปัญญาไม่ว่องไว อายุสั้น หัวข้อ: Re: อกุศลกรรมบท 10 เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 23 มีนาคม 2553 15:48:58 (http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/nirux/P00-014018.jpg) .............อทินนาทาน ผลของการลักทรัพย์ของผู้อื่น แม้เพียงเงินหนึ่งบาทมี 6 ประการ คือ.............. ด้อยทรัพย์ ยากจน อดอยาก ไม่ได้สิ่งที่ตนปรารถนา พินาศในการค้า ทรัพย์พินาศเพราะอัคคีภัย อุทกภัย ราชภัย โจรภัยเป็นต้น กาเมสุมิจฉาจาร ผลของการล่วงละเมิดในคนรักของผู้อื่น มี 11 ประการ คือ........................... มีผู้เกลียดชังมาก มีผู้ปองร้ายมาก ขัดสนทรัพย์ ยากจนอดอยาก เป็นหญิง (เป็นหญิงที่อับโชค) เป็นกระเทย เป็นชายในตระกูลต่ำ ได้รับความอับอายเป็นอาจิณ ร่างกายไม่สมประกอบ มากไปด้วยความวิตกห่วงใย พลัดพรากจากผู้ที่ตนรัก หัวข้อ: Re: อกุศลกรรมบท 10 เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 23 มีนาคม 2553 15:53:30 (http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/nirux/P00-014018.jpg) .............................มุสาวาท ผลของการพูดเท็จ มี 8 ประการ คือ.................... พูดไม่ชัด ฟันไม่เป็นระเบียบ ปากเหม็นมาก ไอตัวร้อนจัด ตาไม่อยู่ในระดับปกติ กล่าววาจาด้วยปลายลิ้น และปลายปาก ท่าทางไม่สง่าผ่าเผย จิตไม่เที่ยงคล้ายวิกลจริต ปิสุณาวาท ผลของการพูดยุยงนินทา ให้ผู้อื่นรังเกียจ แตกสามัคคีรักใคร่กัน มี 4 ประการ คือ...................... ตำหนิตนเอง มักจะถูกลือโดยไม่มีความจริง ถูกบัณฑิตตำหนิติเตียน แตกมิตรสหาย ผรุสวาท ผลของการพูดเพราะความโกรธ การด่า ให้ผู้อื่นเจ็บปวดช้ำใจ หรือพูดหยาบให้เขาโกรธเคือง มี 4 ประการ คือ พินาศในทรัพย์ ได้ยินเสียง เกิดไม่พอใจ มีกายและวาจาหยาบ ตายด้วยอาการงงงวย หัวข้อ: Re: อกุศลกรรมบท 10 เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 23 มีนาคม 2553 15:58:10 (http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/nirux/P00-014018.jpg) สัมผัปปลาปะ ผลของการพูดเพ้อเจ้อ เช่น การล้อเล่น พูดจาไม่มีประโยชน์ พูดเล่น พูดเรื่องหนัง เรื่องดารา เรื่องไม่มีเหตุผล ฯลฯ มี 4 ประการ คือ............................................ เป็นอธัมมวาทบุคคล (เป็นคนพูดไม่มีสาระที่จะถือเอาได้) ไม่มีผู้เลื่อมใสในคำพูดของตน พูดอะไรก็ไม่มีใครเชื่อฟัง ถูกรังเกียจ ไม่มีอำนาจ เป็นคนต้อยต่ำ จิตไม่เที่ยง คือ วิกลจริต อภิชฌา ผลของความอยากได้ อยากมีในทรัพย์ของผู้อื่นมี 4 ประการ คือ เสื่อมในทรัพย์และคุณงามความดี ปฏิสนธิในตระกูลต่ำ มักได้รับคำติเตียน ขัดสนในลาภสักการะ ผลในปวัตติกาลของพยาบาท ความเพ่งเล็ง คิดร้าย อยากให้ผู้อื่นเสียหาย - เช่นขอให้ตายไวไวเป็นต้น มี 4 ประการ คือ มีรูปทราม มีโรคภัยเบียดเบียน อายุสั้น ตายโดยถูกประทุษร้าย หัวข้อ: Re: อกุศลกรรมบท 10 เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 23 มีนาคม 2553 16:01:05 (http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/nirux/P00-014018.jpg) มิจฉาทิฏฐิ ผลของความเห็นผิด มี 4 ประการ คือ............................ ห่างไกลรัศมีแห่งพระธรรม มีปัญญาทราม ปฏิสนธิในพวกคนป่าที่ไม่รู้อะไร เป็นผู้มีฐานะไม่เทียมคน สุราเมรัย ผลของเสพสุราเมรัย มี 6 ประการ คือ....................................... ทรัพย์ถูกทำลาย เกิดวิวาทบาดหมาง เป็นบ่อเกิดของโรค เสื่อมเกียรติ หมดยางอาย ปัญญาเสื่อมถอย หัวข้อ: Re: อกุศลกรรมบท 10 เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 23 มีนาคม 2553 16:03:45 (http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/nirux/P00-014018.jpg) ......................................กรรมทางใจที่ทำให้รวย........................... กรรมทางใจที่ทำให้ร่ำรวยสูงสุดให้ ของเหมือนกัน แต่ใจแตกต่าง ก็ให้ผลผิดกันได้ลิบลับ พระพุทธเจ้าจำแนกอาการของใจในขณะให้ไว้เป็นต่างๆ แต่ละอาการล้วนเป็นกำลังหนุนให้วิบากออกดอกออกผลเป็นความมั่งคั่ง หากใครให้ทานด้วยอาการของใจดังต่อไปนี้ครบถ้วนเป็นประจำสม่ำเสมอ ก็จะมีผลไพบูลย์สูงสุด ส่งผลเป็นความมั่งคั่งถึงที่สุดเท่าที่ทานนั้น ๆ จะอำนวย ให้ด้วยความศรัทธา คือมีความเลื่อมใสอยู่ก่อนว่าทานเป็นของดี เป็นของที่ให้ความสุขในปัจจุบัน และเที่ยงที่จะติดตามไปให้ความสุขแก่เราในอนาคต ทั้งนี้ไม่ได้หมายเอาอาการโลภแบบจำเพาะเจาะจงว่าขอให้รวยเท่านั้นเท่านี้ เมื่อนั่นเมื่อนี่ อาการทางใจเช่นนั้นไม่ใช่ศรัทธาในบุญ แต่เป็นการลงทุนของนักธุรกิจอย่างหนึ่งผู้ศรัทธาในการเอากำไรเข้าตัว หรือถ้าให้โดยปราศจากศรัทธา ให้อย่างเสียไม่ได้ ให้เพราะจำใจ ให้เพราะตามๆญาติมา แม้เกิดบุญขึ้นมากก็ไม่ได้เป็นกรรมสว่างสร้างภพแห่งความมั่งคั่งแต่อย่างใด และเมื่อมีนิสัยให้ด้วยความศรัทธาดีแล้ว ยังมีผลให้รูปร่างหน้าตาและผิวพรรณงดงามยิ่งอีกด้วย ให้ด้วยความเคารพ คือมีความรู้สึกอยู่ว่าการทำทานเป็นของสูง ไม่ใช่ของต่ำ จึงไม่ควรโยนให้หรือเสือกให้เหมือนเป็นของเหลือเดน การถวายทานแด่สงฆ์จัดเป็นการฝึกใจให้ทำทานด้วยความเคารพได้อย่างดี เพราะรู้สึกอยู่ว่าท่านใช้ชีวิตที่สะอาดสูงส่งกว่าเรา หรืออย่างน้อยพวกท่านก็นุ่งห่มจีวรอันเป็นธงชัยพระอรหันต์ สืบทอดพระศาสนาให้ต่อเนื่องไม่สาบสูญ ถ้าให้ทานโดยปราศจากความเคารพ ให้แบบโยนกระดูกลงพื้น ให้ด้วยความเหยียดหยาม หรือให้แบบแดกดัน แม้เกิดบุญขึ้นมากก็ไม่ได้เป็นกรรมสว่างสร้างภพแห่งความมั่งคั่งแต่อย่างใด และเมื่อมีนิสัยให้ด้วยความเคารพดีแล้ว ยังมีผลให้ดูเป็นคนน่าเลื่อมใสควรแก่การเชื่อฟังอีกด้วย...................................... หัวข้อ: Re: อกุศลกรรมบท 10 เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 23 มีนาคม 2553 16:06:03 (http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/nirux/P00-014018.jpg) ให้โดยกาลอันควร คือให้อย่างรู้จักความเหมาะสมกับสถานการณ์ในเวลาหนึ่งๆ เช่นเมื่อเห็นพระตาแดงก็ขวนขวายเป็นธุระหายาหยอดตามาให้ท่านเห็นวัดมีทางโคจรของพระที่เฉอะแฉะ ก็ร่วมแรงร่วมใจกันทำทางให้แห้งหรือเทปูนให้พวกท่านไปเลยไม่ใช่เห็นท่านอยู่ปกติก็เอายาหยอดตาไปถวายขวดเดียวโดด ๆ ด้วยความคิดว่าสักวันหนึ่งท่านอาจจะตาแดง แต่ถ้าซื้อยาสามัญครบชุดไปถวายด้วยความคิดว่าเป็นหนึ่งในปัจจัย 4เผื่อไว้ว่าท่านอาจจำเป็นต้องใช้ อย่างนี้ถือว่าให้โดยกาลอันควร ถ้าให้ทานโดยปราศจากความเหมาะสมกับกาลแม้เกิดบุญขึ้นมากก็ไม่ได้เป็นกรรมสว่างสร้างภพแห่งความมั่งคั่งแต่อย่างใด และเมื่อมีนิสัยให้โดยกาลอันควรดีแล้ว ก็จะเป็นผู้ได้ของตามต้องการในเวลาไม่เนิ่นช้าอีกด้วย ห้ด้วยจิตอนุเคราะห์ คือให้ด้วยความปรารถนาจะช่วยผู้รับในเรื่องหนึ่งๆอย่างแท้จริง เช่นเมื่อเลือกซื้อยาสีฟันถวายพระก็หยิบเอายี่ห้อดีที่สุดที่เราทราบว่ามีคุณภาพในการรักษาเหงือกและฟัน โดยไม่เกี่ยงงอนเรื่องราคาอย่างนี้ถือว่าให้ด้วยจิตอนุเคราะห์ถ้าให้ทานโดยปราศจากจิตคิดอนุเคราะห์แม้เกิดบุญขึ้นมากก็ไม่ได้เป็นกรรมสว่างสร้างภพแห่งความมั่งคั่งแต่อย่างใด และเมื่อมีนิสัยให้ด้วยจิตคิดอนุเคราะห์ดีแล้ว ก็จะเป็นผู้มีรสนิยมดี เลือกใช้ของมาทำความเพลิดเพลินเจริญสุขอันเป็นไปด้วยกามคุณ 5 ได้อย่างฉลาดอีกด้วย ตรงนี้ขอให้สังเกตว่าบางคนเงินไม่ได้เนรมิตทุกสิ่งในชีวิตให้ดูดีโดยอัตโนมัติ บางคนมีเงินมากก็จริงแต่ไม่รู้จักร้านอร่อย ซื้ออาหารผิดสุขลักษณะเลือกของแต่งบ้านไม่เป็นนั่งทำงานในที่สกปรกรุงรัง(งก)เสียจนแม้ข้าวของเครื่องใช้ผุพังก็ดันทุรังใช้ต่อ ในขณะที่บางคนมีทรัพย์สมบัติเพียงปานกลางก็อยู่ได้........................................ |