[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม => ข้อความที่เริ่มโดย: sometime ที่ 02 เมษายน 2553 12:21:44



หัวข้อ: การเจริญกรุณาสั้น ๆ แต่ได้ใจความ
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 02 เมษายน 2553 12:21:44
(http://img258.imageshack.us/img258/2079/b9ab7a531c95a34032f1ddd.gif)

http://www.fungdham.com/download/song/allhits/18.wma

การเจริญกรุณา คือ การแผ่ความกรุณาในสัตว์ที่กำลังได้รับความทุกข์อยู่ หรือกำลังจะได้รับความทุกข์ในภายหน้า องค์ธรรมได้แก่ กรุณาเจตสิก ที่มีทุขิตสัตวบัญญัติเป็นอารมณ์
(อ่านว่า ทุ - ขิ- ตะ - สัต-ตะ - วะบัน - หยัด)
การแผ่ความกรุณา คือ การแผ่ความกรุณาสงสารในสัตว์ที่กำลังได้รับความทุกข์อยู่ หรือกำลังจะได้รับความทุกข์ในภายหน้า เช่น เห็นบุคคลที่กาลังได้รับทุกข์ก็พิจารณาว่า บุคคลนี้ถ้ากำลังเป็นทุกข์ เขาจะหลีกพ้นทุกข์ได้อย่างไร หรือขอให้สัตว์ทั้งหลายจงพ้นทุกข์เถิดหรือเห็นว่าบุคคลนี้ท้ากรรมชั่ว ก็คิดกรุณาสงสารว่าเขาจะต้องได้รับทุกข์ในภายภาคหน้า
การเจริญกรุณา ใช้คำภาวนาว่า สัพเพ สัตตา ทุกขา ปมุจจันตุ มี
ความหมายว่า ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงพ้นจากความทุกข์กายทุกข์ใจเถิด การเจริญกรุณานั้นจิตจะต้องเป็นโสมนัส
(เป็นสุขปลาบปลื้ม) ไม่ใช่เศร้าเสียใจ ถ้าเศร้าเสียใจนั่นเป็นอกุศล ไม่ใช่กรุณา เช่น เราไปงานศพเห็นว่าครอบครัวผู้ตายลำบาก เราสงสารเกิดเสียใจอย่างนี้จัดเป็นอกุศล เพราะจิตเป็นทุกข์ไม่ผ่องใส
การแผ่กรุณา ก็เช่นเดียวกับเมตตา คือต้องเริ่มต้นที่การแผ่ให้กับตนเองก่อน จนในที่สุดแผ่ถึงศัตรู การเจริญกรุณาภาวนาสามารถทำให้เกิดอุปจารสมาธิ อัปปนาสมาธิ ได้ถึงฌาน 4 ตามลาดับ
กรุณาแผ่ยากกว่าเมตตาเพราะในบุคคลที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก เช่น กำลังได้รับความทุกข์จากการสูญเสียญาติ ทรัพย์ ได้รับทุกข์จากโรคภัยไข้เจ็บ ฯลฯ อยู่นั้น เราก็ต้องแผ่ให้เป็นกรุณาให้ได้ ผู้ที่ปรารถนาที่จะเจริญกรุณาภาวนาจนได้ฌานก็ต้องพิจารณาในความทุกข์ ของบุคคลต่าง ๆ แล้วให้เป็นอารมณ์ของการเจริญกรุณาภาวนาให้ได้ สำหรับบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้เจริญกรุณาภาวนาอาจจะทนไม่ได้กับความทุกข์ ของสัตว์ทั้งหลาย
วิธีการแผ่กรุณาอัปปมัญญา
การแผ่กรุณาเพื่อยังฌาน จิตให้สาเร็จต้องทำตามลำดับขั้นตอนดังนี้ คือ
1. แผ่ให้กับตนเองก่อน
2. แผ่ให้กับมัชฌัตตบุคคล
3. ปิยบุคคล
4. เวรีบุคคล
แผ่ให้กับตนเองก่อน เพื่อผล 2 ประการ คือ
1. เพื่อให้สำเร็จฌาน
2.ให้ตัวเองเป็นพยาน แล้วจึงแผ่ไปในมัชฌัตตบุคคลไปตามลำดับ การที่จะแผ่ให้กับปิยบุคคลหรือบุคคลอันเป็นที่รักก่อนนั้น กรุณาแท้ก็จะไม่เกิด เกิดแต่กรุณาเทียม หรือถ้าแผ่ไปในเวรีบุคคลก่อน กรุณาก็ไม่เกิด อาจเกิดแต่ความดีใจที่ศัตรูของตนได้รับความลำบากได้รับทุกข์ อันเป็นโลภะที่ยินดีพอใจในทุกข์ของศัตรู ฉะนั้น จึงต้องแผ่กรุณาไปตาม ลำดับขั้นจนถึงขั้นสามารถทำลายสีมสัมเภทได้ ซึ่งวิธีการก็เป็นเช่นเดียวกับวิธีแผ่เมตตา และการที่จะไม่ให้โลภะเกิดขึ้นในขณะที่แผ่กรุณาต่อปิยบุคคล หรือไม่ให้โทสะเกิดขึ้นในขณะแผ่กรุณากับเวรีบุคคล ก็เป็นไปในทำนองเดียวกันกับที่กล่าวไว้ในเมตตา จะมีการพิจารณาต่างกันบ้างเพียงเล็กน้อย
ความอาฆาตพึงบังเกิดขึ้นในบุคคลใด.........................................
พึงนึกถึงความเป็นผู้มีกรรมเป็นของ ๆ ตนให้มั่นในบุคคลนั้นว่า........................
ท่านผู้นี้เป็นผู้มีกรรมเป็นของ ๆ ตน เป็นทายาทแห่งกรรม
มีกรรม เป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่ง
จักทำกรรมใด ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม
จักเป็นทายาท (ผู้รับผล) ของกรรมนั้น

....................................ขอเชิญดาวน์โหลดไฟล์ตามอัทยาศัย..............................


หัวข้อ: Re: การเจริญกรุณาสั้น ๆ แต่ได้ใจความ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 02 เมษายน 2553 15:40:37
สาธุครับ

เพิ่งได้ยินคำนี้ เจริญกรุณา ปกติคุ้น ๆ หูกับ เจริญภาวนาซะมาก

ขอโหลดไฟลล์ไปอ่านนะครับ

ขอบคุณครับ