หัวข้อ: ทำไมคนถึงชอบพูดแต่เรื่องคนอื่น{นินทา} เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 28 พฤษภาคม 2554 08:09:35 (http://www.seesod.com/storage36/HAhVvv2WYy1304301637/l.jpg) (http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=19987.0;attach=1169;image) (http://uyfz9q.bay.livefilestore.com/y1puwwLyY1hQGevKbPEFyCjgBoQn3NSNeo-y8gjotl_lxJ--glH5i3PgMx-t56j5hxrXEdhp0j_jvxReSFv7ti_moNX3z_jaCAr/hyooneunhye.gif?psid=1) ถาม เห็นคนไปไหนมีแต่มีแต่พูดเรื่องของคนอื่นเช่น นินทา ว่าร้าย บุคคลนั้นลับหลังคนที่ กระทำเช่นนี้ เขาเป็นคนอย่างไร หรือมีกรรมเก่าติดตัวมาหรือไม่ ? ตอบ ตราบใดที่ยังไม่สามารถดับกิเลสใด ๆ ได้เลยชีวิตที่ดำเินินไปในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นกาย หรือวาจา หรือใจก็ย่อมประกอบไปด้วยกิเลสนานาประการโลภะบ้าง โทสะ บ้าง โมหะ บ้าง เป็นต้น อยู่ตราบนั้นเป็นไปด้วยอำนาจของกิเลสที่แต่ละบุคคล ได้สะสมมาแม้ในเรื่องของการพูดก็เช่นเดียวกันขณะใดคำพูดเป็นไปเพราะอกุศล - จิตคำพูดเหล่านั้นจะเป็นวจีทุจริต ทั้งหมด(พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ)แม้แต่ตัวอย่างที่ผู้ถามได้ยกมา คือ การพูดนินทา ว่าร้ายรวมไปถึง พูดกระทบ พูดเสียดแทงให้เจ็บช้ำน้ำใจบางครั้งก็ด่าว่าสบประมาทหวังที่จะให้ผู้อื่น เกิดความอับอาย เป็นต้น ทั้งหมดทั้งปวงนั้นเป็นเรื่องของคำพูดที่เกิดขึ้นเพราะกิเลส ผู้ที่มีคำพูดอย่างนี้เกิดขึ้นเป็นผู้ประกอบด้วยอกุศลธรรมและเป็นการสะสมอกุศลให้ มีมากยิ่งขึ้นด้วยแต่ก็ไม่ใช่ว่าวันหนึ่ง ๆ จะมีแต่อกุศลตลอดเวลากุศลจิตก็สามารถเกิดขึ้นได้ใน ชีวิตประจำวันการพูดด้วยกุศลจิต ก็ย่อมจะมี ด้วยเช่นกันแต่อกุศลจะเกิดมากกว่า ถ้าเป็นผู้ที่ได้ฟังพระธรรมได้สะสมปัญญาไปตามลำดับถึงแม้ว่าจะยังไม่สามารถ ดับกิเลสใด ๆ ได้ก็สามารถรู้ได้ว่าถ้าเกิดคำพูดที่ไม่ดีอย่างนั้นขึ้นจิตในขณะนั้น เป็นอกุศลอย่างไรแล้วพร้อมที่จะขัดเกลาตนเองต่อไปเพราะเหตุว่าผู้ที่จะดับวจี - ทุจริตได้ต้องเป็นพระอริยบุคคลเท่านั้น จะเห็นได้ว่าคำพูดที่พูดกันมีมากมายการที่ไปสนใจคนอื่นหรือไปมองคนอื่น ก็ไม่มีประโยชน์เท่ากับมองตัวเองพิจารณาตัวเองโดยขอให้เริ่มพิจารณาสังเกตแม้ คำพูดของตนเองให้ทราบว่าขณะนั้นเป็นเพราะอกุศลประเภทใด จึงทำให้คำพูดชนิด นั้นเกิดขึ้นในลักษณะต่าง ๆ อย่างนั้นการพูดด้วยอกุศลจิตไม่มีประโยชน์กับบุคคลใด ทั้งสิ้นเป็นสิ่งที่ควรละเว้นควรระลึกได้ว่าไม่ควรเลยที่จะกล่าวควรกล่าวเฉพาะวจี - สุจริตเท่านั้นเมื่อเป็นอย่างนี้ได้การพูดด้วยกุศลจิตก็จะมีมากขึ้นการพูดด้วย กุศลจิตทั้งหมดย่อมจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ฟังพร้อมทั้งเป็นประโยชน์แก่ตนเองด้วย เพราะเหตุว่าในขณะนั้นกุศลธรรมเจริญขึ้นไม่เบียดเบียนทั้งตนเองและผู้อื่น พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงเป็นไปเพื่อความเข้าใจถูก เห็นถูก เป็นไป เพื่อขัดเกลากิเลสของตนเองเป็นสำคัญแต่ละบุคคลมีการสะสมที่แตกต่างกันเราไม่ สามารถเปลี่ยนแปลงการสะสมของผู้อื่นได้แต่เราสามารถที่จะขัดเกลากิเลสของตน เองได้ปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้นได้ด้วยกุศลธรรม.................................. ดูก่อนภิกษุทั้งหลายก็ทรัพย์คือ{โอตตัปปะ}เป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลายอริยสาวกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีความสะดุ้งกลัว คือ.............................................. สะดุ้งกลัวต่อกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต สะดุ้งกลัวต่อการถูกต้องอกุศลธรรมอันลามก นี้เรียกว่าทรัพย์คือ{โอตตัปปะ} ข้อมูลนี้มาจาก มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาบ้านธัมมะ 136 หมู่ 5 ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ 50230 http://www.fungdham.com/download/song/allhits/21.wma |