หัวข้อ: หนึ่งขณะจิต เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 29 พฤษภาคม 2554 12:51:37 (http://lh6.ggpht.com/_Sjz6qpNqFUs/TOU5UpEi73I/AAAAAAAAAHk/vF8osV_ASnw/DSCF722-7.jpg) (http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=20557.0;attach=1189;image) ทีบัญญัติว่าเป็นสัตว์บุคคล เป็นสิ่งมีชีวิต เพราะอะไรเพระามีจิต เจตสิก รูป ดังนั้นชีวิตก็คือเพราะมีจิต - เจตสิกเกิดขึ้นแต่โดยทั่วไปแล้ว เราย่อมสำคัญว่าชีวิตของ เราของใครก็ตามก็มีอายุ 60 ปี 50 ปี 20 ปี หรือน้อยกว่านั้นก็ตามแต่ในความเป็น จริงแล้วที่เรามีอายุเป็นเดือน เป็นปีก็เพราะความเกิดขึ้นและดับไปของจิตที่เกิดับสืบ ต่อกันไปนั่นเองและที่สำคัญก็สำคัญว่าชีวิตจะสิ้นสุดก็คือเมื่อตายจากโลกนี้ไป แต่นั่นเป็นความตายโดยสมมติเพราะเป็นเพียงจุติที่เกิดขึ้นและดับไปเท่านั้นแต่ใน ความเป็นจริงเมื่อมีแ่ต่จิต เจตสิกจึงบัญญัติว่ามีชีวิตเพราะฉะนั้นชีวิตก็คือ{จิต}และ เจตสิกทีเ่กิดขึ้น แต่อายุของจิตนั้นสั้นมาก เมื่อเกิดขึ้นและดับไปการดับไปนั้นก็เป็น การสิ้นสุดชีวิต สิ้นสุดในขณะที่จิตดับไปนั่นเองเป็นการตายโดยปรมัตที่เป็นสัจจะครับ ดังนั้นชีวิตจึงดำรงอยู่เพียงชั่วขณะจิต เล็กน้อยมาก เพียงจิตเกิดขึ้นและดับไปซึ่งจิตมี หลายประเภท ทั้งทีเ่ป็นกุศล อกุศล วิบาก เป็นต้นดังนั้นขณะที่เห็นจิตเห็นเกิดขึ้น ชีวิตเกิดขึ้นและดับไปก็ดำรงอยู่ชั่วขณะนั้นเองและจิตอื่นก็เกิดต่อก็ดำรงอยู่ชั่วขณะ อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ อันแสดงให้เห็นว่าชีวิตเป็นของน้อยดำรงอยู่เพียงชั่วขณะเท่านั้น ชีวิตเราดำรงอยู่เพียงชั่วขณะจิตเดียว เเละขณะจิตเดียวนี้จะให้เป็นกุศลหรืออกุศล ชีวิตก็คือขณะจิตที่เกิดขึ้นและดับไปแน่นอนว่าสิ่งที่คือ กุศลจิต ควรที่จะเป็น กุศลไม่ควรเป็นอกุศลเลยแต่ธรรมเป็นอนัตตาและเป็นไปตามเหตุปัจจัยไม่อยู่ใน อำนาจบังคับบัญชา รู้ว่าควร รู้ว่ากุศลเป็นสิ่งที่ดี แต่เมื่อสะสมปัญญามาน้อยสะสม กุศลธรรมาน้อยกว่ากิเลสที่สะสมมาก็ย่อมทำให้จิตที่เกิดขึ้นเป็นอกุศลจิต มากกว่า กุศลจิตที่สำคัญคือการอบรมเหตุ คือการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมเพื่อความ เจริญขึ้นของกุศลธรรมและปัญญาเพราะเมื่อปัญญาเจริญขึ้นกุศลจิตและกุศลธรรม ประการต่างๆก็เจริญขึ้นตามปัญญาที่เจริญขึ้นอันเป็นหน้าที่ของรรมทีทำหน้าที่ไม่มี เราไปจัดการไปบังคับให้เกิดกุศลหรืออกุศลเป็นไปตามปัจจัยและตามกำลัง ปัญญาที่สะสมคำว่า{ควร}จึงไม่ใช่เราที่จะทำแต่เป็นหน้าที่ของธรรม การเข้าใจเช่นนี้ย่อมเข้าใจหนทางในการอบรมปัญญาที่ถูกต้องเพื่อละควาเมห็น ผิดว่าเป็นสัตว์บุคคลว่าไม่ใช่การบังคับไม่ให้อกุศลไม่เกิดแต่ควรรู้ในสิ่งที่เกิดแล้ว แม้อกุศลเป็นสภาพธรรมที่มีจริงเป็นธรรมไม่เใช่เรา ชีวิตคือจิตที่ดำัรงอยู่เพียงชั่วขณะอย่างนี้แล้วผู้มีปัญญาควรพิจารณาว่าประโยชน์ สูงสุดในการมีชีวิตอยู่คือการฟังพะรธรรม ศึกษาพระธรรมเพราะไม่มีใครรู้เลยว่าชาติ หน้าจะได้พบพะรธรรมหรือได้เกิดเป็นมนุษย์หรือไม่แต่ชาตินี้ได้พบพระธรรมแล้วได้ เกิดเป็นมนุษย์แล้วดังนั้นขณะท่านทั้งหลายอย่าล่วงเลยไปอย่าได้เป็นผู้เดือดร้อนใน ภายหลังคือขณะที่ประเสริฐคือขณะที่ฟังพระธรรมและเข้าใจพระธรรม พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย มหานิทเทส เล่ม 5 ภาค 1 หน้าที่ 212 - 215 (:LOVE:)ชีวิตน้อยด้วยเหตุ ๒ ประการ (:LOVE:) {๔๙}คำว่า นักปราชญ์ทั้งหลายได้กล่าวชีวิตนี้ว่าเป็นของน้อยมีความว่าชีวิต ได้แก่อายุความตั้งอยู่ความดำเนินไปความให้อัตภาพดำเนินไปความหมุนไป ความเลี้ยงความเป็นอยู่ ชีวิตินทรีย์ก็ชีวิตน้อยโดยเหตุ ๒ ประการ คือ ชีวิตน้อยเพราะ....................... ตั้งอยู่น้อย ๑ ชีวิตน้อยเพราะมีกิจน้อย ๑ ชีวิตน้อยเพราะตั้งอยู่น้อยเป็นอย่างไร ? ชีวิตเป็นอยู่แล้วในขณะจิตเป็นอดีต ย่อมไม่เป็นอยู่จักไม่เป็นอยู่ชีวิตจักเป็นอยู่ในขณะจิตเป็นอนาคตย่อมไม่เป็นอยู่ ไม่เป็นอยู่แล้วชีวิตย่อมเป็นอยู่ในขณะจิตเป็นปัจจุบันไม่เป็นอยู่แล้วจักไม่เป็นอยู่ สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า.................................... ชีวิตอัตภาพสุขและทุกข์ทั้งมวลเป็นธรรมประกอบกันเสมอด้วยจิตดวงเดียว ขณะย่อมเป็นไปพลันเทวดาเหล่าใดย่อมตั้งอยู่ตลอดแปดหมื่นสี่พันกัปล์เทวดาเหล่า นั้นย่อมไม่เป็นผู้ประกอบด้วยจิต ๒ ดวงเป็นอยู่เลยขันธ์เหล่าใดของสัตว์ผู้ตายหรือ ของสัตว์ที่เป็นอยู่ในโลกนี้ดับแล้วขันธ์เหล่านั้นทั้งปวงเที่ยวเป็นเช่นเดียวกันดับไป แล้วมิได้สืบเนื่องกันขันธ์เหล่าใดแตกไปแล้วในอดีตเป็นลำดับและขันธ์เหล่าใด แตกไปแล้วในอนาคตเป็นลำดับความแปลกกันแห่งขันธ์ทั้งหลายที่ดับไปในปัจจุบัน กับด้วยขันธ์เหล่านั้นย่อมมิได้มีในลักษณะสัตว์ไม่เกิดแล้วด้วยอนาคตขันธ์ ย่อมเป็นอยู่ ด้วยปัจจุบันขันธ์สัตว์โลกตายแล้วเพราะความแตกแห่งจิตนี้เป็นบัญญัติทางปรมัตถ์ ขันธ์ทั้งหลายแปรไปโดยฉันทะย่อมเป็นไปดุจน้ำไหลไปตามที่ลุ่มฉะนั้นย่อมเป็นไป ตามวาระอันไม่ขาดสายเพราะอายตนะ ๖ เป็นปัจจัยขันธ์ทั้งหลายแตกแล้วมิได้ถึง ความตั้งอยู่กองขันธ์มิได้มีในอนาคตขันธ์ทั้งหลายที่เกิดแล้วย่อมตั้งอยู่เหมือนเมล็ด พันธุ์ผักกาดทั้งอยู่บนปลายเหล็กแหลมฉะนั้นก็ความแตกแห่งธรรมขันธ์ทั้งหลายที่เกิด แล้วนั้นสกัดอยู่ข้างหน้าแห่งสัตว์เหล่านั้นขันธ์ทั้งหลายมีความทำลายเป็นปกติมิได้ รวมขันธ์ที่เกิดก่อนย่อมตั้งอยู่ขันธ์ทั้งหลายมาโดยไม่ปรากฏแตกแล้วก็ไปสู่ที่ไม่ ปรากฏย่อมเกิดขึ้นและเสื่อมไปชีวิตน้อยเพราะมีกิจน้อยอย่างไร ? ชีวิตเนื่องด้วยลมหายใจเข้าชีวิตเนื่องด้วย ลมหายใจออกชีวิตเนื่องด้วยลมหายใจเข้าและลมหายใจออกชีวิตเนื่องด้วย มหาภูตรูปชีวิตเนื่องด้วยไออุ่นชีวิตที่เนื่องด้วยอาหารที่กลืนกินชีวิตเนื่องด้วย วิญญาณ{รัชกาย}อันเป็นที่ตั้งแห่งลมหายใจเข้าและลมหายใจออกเหล่านี้ก็ดีอวิชชา สังขารตัณหาอุปาทานและภพอันเป็นเหตุเดิมแห่งลมหายใจเข้าและลมหายใจออก เหล่านี้ก็ดีปัจจัยทั้งหลายก็ดีตัณหาอันเป็นแดนเกิดก่อนก็ดีรูปธรรมและอรูปธรรมที่ เกิดร่วมกันแห่งลมหายใจเข้าและลมหายใจออกเหล่านี้ก็ดีอรูปธรรมที่ประกอบกันแห่ง ลมหายใจเข้าและลมหายใจออกเหล่านั้นก็ดีขันธ์ที่เกิดร่วมกันแห่งลมหายใจเข้าและ ลมหายใจออกเหล่านี้ก็ดีตัณหาอันประกอบกันก็ดีก็มีกำลังทรามธรรมเหล่านั้นมีกำลัง ทรามเป็นนิตย์ต่อกันและกันมิได้ตั้งมั่นต่อกันและกันย่อมยังกันและกันให้ตกไปเพราะ ความต้านทานมิได้มีแก่กันและกันธรรมเหล่านั้นจึงไม่ดำรงกันและกันไว้ได้ธรรมแม้ใด ให้ธรรมเหล่านี้เกิดแล้วธรรมนั้นมิได้มีก็แต่ธรรมอย่างหนึ่งมิได้เสื่อมไปเพราะธรรม อย่างหนึ่งก็ขันธ์เหล่านี้แตกไปเสื่อมไปโดยอาการทั้งปวงขันธ์เหล่านี้อันเหตุปัจจัยมี ในก่อนให้เกิดแล้วแม้เหตุปัจจัยอันเกิดก่อนเหล่าใดเหตุปัจจัยเหล่านั้นก็ตายไปแล้ว ในก่อนขันธ์ที่เกิดก่อนก็ดีขันธ์ที่เกิดภายหลังก็ดีมิได้เห็นกันและกันในกาลไหน ๆ ฉะนั้น....................ชีวิตจึงชื่อว่าเป็นของน้อยเพราะมีกิจน้อยอย่างนี้ เหมือนสายฟ้าแลบในอากาศฉะนั้นชีวิตน้อยเพราะตั้งอยู่น้อยอย่างนี้ ข้อมูลนี้มาจากมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาบ้านธัมมะ 136 หมู่ 5 ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ 50230 My blog....................http://bangkokchinatown.wordpress.com (http://bangkokchinatown.wordpress.com) http://www.fungdham.com/download/song/allhits/21.wma (http://image.ohozaa.com/i/ecf/5932199131434.jpg) หัวข้อ: Re: หนึ่งขณะจิต เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 30 พฤษภาคม 2554 05:51:11 (http://img219.imageshack.us/img219/2340/171c82e025c63f49f7480edup0.jpg) (http://lh5.ggpht.com/_3F1lshAWYBc/TFfbW_W-yBI/AAAAAAAAAZM/KVrwFZ70Prs/seoju.gif) ใช่ที่เคยบอก หนึ่งขณะจิต (:RL:) มีสามพันดวงเกิดดับมั๊ยคะ? |