หัวข้อ: พระราชมงคลญาณ (เปลี่ยน ปณีโต) วัดไพชยนต์พลเสพย์ราชวรวิหาร จ.สมุทรปราการ เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 11 ธันวาคม 2561 15:32:21 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/36210119393136_1_1024x768_.jpg) พระราชมงคลญาณ (เปลี่ยน ปณีโต) วัดไพชยนต์พลเสพย์ราชวรวิหาร ต.บางพึ่ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ พระราชมงคลญาณ (เปลี่ยน ปณีโต) อดีตเจ้าอาวาสวัดไพชยนต์พลเสพย์ราชวรวิหาร ต.บางพึ่ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ อดีตพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่ได้รับการยกย่องว่ามีความสามารถสูงและอุทิศตนพัฒนาการศึกษา และสาธารณูปการ มีนามเดิมว่า เปลี่ยน นามสกุล สุทธิ เกิดวันที่ 23 พ.ย.2465 ที่บ้านเลขที่ 1 หมู่ที่ 5 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ บรรพชา พ.ศ.2480 วัดสุทธาโภชน์ กรุงเทพฯ มีพระอธิการโท วัดราษฎร์บำรุง กรุงเทพฯ เป็นพระอุปัชฌาย์ อุปสมบทวันที่ 1 พ.ค.2487 ณ วัดกลาง ต.บางพึ่ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ มีพระครูธรรมวิธานปรีชา (ก้อน) วัดกลาง อ.พระประแดง เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2480 สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จากโรงเรียนวัดสังฆราชา ลาดกระบัง พ.ศ.2489 สอบได้นักธรรมโท สำนักเรียนวัดกลาง อ.พระประแดง พ.ศ.2491 สอบได้ประโยค ป.ธ.4 นอกจากนี้ ยังท่องจำพระปาติโมกข์ได้และเริ่มสวดเอง พ.ศ.2518 เป็นเจ้าอาวาสพระอารามหลวง วัดไพชยนต์พลเสพย์ราชวรวิหาร พ.ศ.2519 เป็นพระอุปัชฌาย์วิสามัญ ปกครองวัดตามระเบียบของพระธรรมวินัย ตามกฎของมหาเถรสมาคม และเน้นหนักในด้านความสามัคคีทั้งในด้านศีลธรรมและความคิดเห็น โดยมีกติกาของวัด คือ พระภิกษุ สามเณรทุกรูปต้องท่องจำสวดมนต์ เรียนธรรมวินัย และถ้าจะศึกษาสูงขึ้นไปด้วยการเรียนบาลีไวยากรณ์ เพราะที่วัดเป็นสำนักเรียนบาลี และนักธรรมแห่งแรกของอำเภอพระประแดง พระภิกษุนวกะ ผู้อุปสมบทใหม่ ห้ามนำวิทยุ โทรทัศน์มาฟังและดู เมื่อมีกิจธุระจะต้องออกไปนอกวัดจะต้องกราบลาให้เจ้าอาวาสทราบทุกครั้ง พ.ศ.2538 ให้ความร่วมมือกับสำนักการศึกษา กทม. สนับสนุนการศึกษาแก่เยาวชนในโรงเรียนของกทม. ส่งพระภิกษุวิทยากรไปเป็นครูพระช่วยสอนวิชาจริยธรรม ที่โรงเรียนวัดสน โรงเรียนบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ และโรงเรียนนาหลวง เขตทุ่งครุ และในพื้นที่สมุทรปราการ เช่น โรงเรียนพลอยจาตุรจินดา เป็นต้น ด้านการศึกษาพระปริยัติธรรม ให้พระภิกษุ-สามเณรได้ศึกษาธรรมวินัยและบาลี โดยจัดหาอุปกรณ์การศึกษาให้ และส่งไปศึกษาในสำนักเรียนอื่นที่มีการศึกษาสูงกว่า เช่น วัดชนะสงคราม หรือวัดปากน้ำภาษีเจริญ นอกจากนี้ ได้มอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนชั้นระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา เช่น โรงเรียนอาษาวิทยา โรงเรียนวัดทรงธรรม โรงเรียนพลอยจาตุรจินดา โรงเรียนอำนวยวิทย์ โรงเรียนวัดกลาง และโรงเรียนวัดรวก เป็นต้น เป็นประจำทุกปี ส่งเสริมวิชาจริยศึกษาแก่เด็กนักเรียนให้มีการเรียนการสอนธรรมศึกษา โดยส่งนักเรียนโรงเรียนวัดสน เขตราษฎร์บูรณะ และโรงเรียนพลอย จาตุรจินดา ให้เข้าเรียนเข้าสอบในสนามหลวง สอบธรรมศึกษาชั้นตรี ชั้นโท และชั้นเอกในนามสำนักเรียนวัดไพชยนต์พลเสพย์ราชวรวิหาร ตั้งแต่ปีการศึกษา 2538 เป็นต้นมา นอกเหนือจากนี้ยังรับทำหน้าที่พิเศษหลายอย่างคือ ตั้งแต่ พ.ศ.2519 ถึงปัจจุบันนี้ ได้ทำหน้าที่ประธาน อ.ป.ต.หน่วยอบรมประชาชน ประจำตำบลบางพึ่ง อนึ่ง วัดไพชยนต์พลเสพย์ราชวรวิหารนี้เป็นพระอารามหลวง ชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร เป็นวัดวังหน้าวัดเดียวซึ่งตั้งอยู่หัวเมือง อ.พระประแดง (นครเขื่อนขันธ์เดิม) ดังนั้น เจ้าอาวาสจึงต้องเข้าไปเจริญพระพุทธมนต์ และรับอาราธนาฉันภัตตาหาร เนื่องในการพระราชกุศลบำเพ็ญทักษิณานุประทานอุทิศแด่บุรพมหากษัตริย์แห่งพระบรมจักรีวงศ์ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในวันที่ 15 เมษายน เป็นประจำทุกๆ ปี ให้ความร่วมมือกับทางคณะสงฆ์หรือทางราชการในการเผยแผ่ เช่น ให้ใช้สถานที่ในการประชุมพระสังฆาธิการ เป็นต้น ส่วนทางราชการนั้น ได้ให้ใช้เป็นสถานที่อบรมลูกเสือชาวบ้าน สละโลหิตเพื่อเป็นการกุศล และอบรมแพทย์หน่วยอาสาสมัคร เป็นต้น งานด้านพัฒนา สร้างซุ้มประตูชั้นนอกศิลปะเขมรผสมศิลปะไทยประยุกต์ สร้างซุ้มประตูชั้นในศิลปะพุทธคยาผสมศิลปะไทยประยุกต์ บูรณปฏิสังขรณ์ พระอุโบสถ ทั้งภายนอกและภายใน พร้อมด้วยอนุรักษ์ลายภาพจิตรกรรมฝาผนัง และลายภาพตลอดเสาทั้งหมด และอื่นๆ อีกมากมาย พัฒนาวัดไพชยนต์พลเสพย์ราชวรวิหาร จนได้รับยกย่องประกาศให้เป็นพระนักพัฒนาตัวอย่าง และเป็นอุทยานการศึกษาในวัดของกรมการศาสนา และได้รับพระราชทานเสมาธรรมจักรทองคำ กระทั่งวันที่ 7 ก.ย.2546 มรณภาพอย่างสงบ สิริอายุ 81 พรรษา 59 ที่มา ข่าวสดออนไลน์ |