[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => สมถภาวนา - อภิญญาจิต => ข้อความที่เริ่มโดย: Maintenence ที่ 17 สิงหาคม 2562 14:43:42



หัวข้อ: ต้องแก้ที่ต้นเหตุของปัญหา โดย พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
เริ่มหัวข้อโดย: Maintenence ที่ 17 สิงหาคม 2562 14:43:42
.

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/45890635458959_69394634_2357308420973762_5982.jpg)

ต้องแก้ที่ต้นเหตุของปัญหา

ความอยากนี้มันจะฉุดให้เรากลับมาเกิดอยู่เรื่อยๆ มันจะดึงใจของเราให้มาเกิดอยู่เรื่อยๆ ให้มาหาความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกายอยู่เรื่อยๆ พอมาเกิดพอมีร่างกายก็มีปัญหาต่างๆตามมาทันที มีเรื่องราวที่จะต้องมาคอยแก้คอยบำบัด คอยไปหาอาหาร คอยหาอะไรต่างๆมาให้ร่างกาย คอยปกป้องรักษาร่างกาย แล้วก็ใช้ร่างกายไปหาความสุขตามความอยากที่หามาได้เท่าไรก็ไม่รู้จักอิ่มไม่รู้จักพอ แล้วเวลาที่มีปัญหาไม่สามารถหาตามความอยากได้ ก็จะทุกข์ทรมานใจจนอาจจะถึงอยากจะฆ่าตัวตาย คนที่เคยหาความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกายตอนที่เป็นหนุ่มเป็นสาว ตอนที่มีกำลังวังชานี้มันจะเพลิดเพลินจนติด พอเวลาแก่เวลาเป็นโรคภัยไข้เจ็บที่ไม่สามารถหาความสุขแบบตอนที่เป็นหนุ่มเป็นสาวได้ ทีนี้ก็อยากจะฆ่าตัวตายเท่านั้นเอง เพราะมันทุกข์ทรมานมากไม่มีความสุขเลย ไม่รู้จักวิธีหาความสุขตามที่พระพุทธเจ้าสอนให้หา คือหาความสุขจากความสงบ หาความสุขจากการทำบุญทำทานสร้างบุญสร้างกุศล หาไม่เป็น เพราะไม่รู้ไม่เคยศึกษามาก่อน

ดังนั้น ถ้าเราอยากจะแก้ปัญหาแบบราบคาบต้องแก้ด้วยการไม่มาเกิด การที่จะไม่มาเกิดได้เราก็ต้องกำจัดความอยากที่มีอยู่ในใจ ๓ ข้อ คือความอยากในรูปเสียงกลิ่นรส เรียกว่า “กามตัณหา” ความอยากมีอยากเป็นเรียกว่า “ภวตัณหา” และความอยากไม่มีอยากไม่เป็นเรียกว่า “วิภวตัณหา” ถ้าเรากำจัดความอยากทั้ง ๓ ข้อนี้ให้หมดไปจากใจได้ เราก็จะไม่ต้องมาเกิดอีกต่อไป เมื่อไม่มาเกิดแล้วปัญหาต่างๆ ก็หมดไป ไม่ต้องมาดิ้นรนแบบที่เราต้องดิ้นรนกันอยู่ทุกวันนี้ ดิ้นรนทำมาหากิน ดิ้นรนหาความสุข ดิ้นรนหนีความทุกข์ นี่คือปัญหาของพวกเรา ดิ้นรนเลี้ยงดูร่างกาย ดิ้นรนหาความสุข ดิ้นรนหนีความทุกข์ ดิ้นอย่างไรก็หนีไม่พ้น พอตายไปก็กลับมาหาใหม่ ก็กลับมาหามันใหม่อีก กลับมาเกิดใหม่อีก ดังนั้น ถ้าไม่อยากจะต้องมาเจอปัญหาเหล่านี้แบบไม่รู้จักจบจักสิ้น ก็ต้องแก้ที่ต้นเหตุ ต้นเหตุก็คือความอยากทั้ง ๓ นี้ คือ กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา ต้องกำจัดมันด้วยการเจริญ “วิปัสสนา” ด้วยการเจริญ “สมถะภาวนา” ๒ อย่างนี้ถึงจะสามารถกำจัดความอยากต่างๆ ให้หมดไปจากใจได้ “สมถะภาวนา” คือการฝึกใจทำใจให้สงบเรียกว่าสมาธิ พอใจมีสมาธิมีความสงบแล้วก็จะมีกำลังที่จะสอนใจให้เห็นโทษของการทำตามความอยาก ให้เห็นว่าสิ่งที่อยากได้นั้นเป็นทุกข์ไม่ใช่เป็นสุข เพราะทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้มันไม่เที่ยง มันสุขเดี๋ยวเดียวแล้วเดี๋ยวมันก็จะกลายเป็นความทุกข์ต่อไป ถ้าเห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นทุกข์ เป็น “อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา” ถ้าเห็นว่าความอยากนี้เป็นตัวที่ทำให้ใจเราวุ่นวาย เราก็อย่าไปทำตามความอยาก แล้วใจเราก็จะหายวุ่นวาย ใจเราก็จะหายอยากหายหิว ใจของเราก็จะมีแต่ความสุขความอิ่มไปตลอด ไม่ต้องมามีร่างกายอีกต่อไป นี่คือวิธีแก้ปัญหาของพวกเรา ต้องแก้ด้วยวิธีของพระพุทธเจ้า คือละการกระทำบาปทั้งปวง สร้างบุญสร้างกุศลทั้งหลายให้ถึงพร้อม ชำระจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์ปราศจากความอยากต่างๆ แล้วใจของเราก็จะไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/14204919627971_67814161_2355531441151460_2917.jpg)
สนทนาธรรมบนเขา  วันที่ ๒๙ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๒
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี
ณ จุลศาลา เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาชีโอน