[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน => ข้อความที่เริ่มโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 03 กรกฎาคม 2554 17:39:36



หัวข้อ: สัจจะความจริง คือ.......................
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 03 กรกฎาคม 2554 17:39:36
(http://static.panoramio.com/photos/original/55136171.jpg)

Sometime Home

http://poerlife.fx.gs



สัจจะความจริง คือ กุศลย่อมเป็นกุศล อกุศลย่อมเป็นอกุศล การกระทำอะไรก็ตาม

หากขาดควาเข้าใจถูกในพระธรรมเป็นพื้นฐานแล้ว ก็ย่อมทำให้คิดผิด พิจารณาผิด

ไปจากสิ่งที่ถูกต้องได้

การรักษาพระธรรมให้พระศาสนาดำรงอยู่ได้นั้นในมหาปรินิพพานสูตร พระพุทธองค์

แสดงเมื่อครั้งจะปรินิพพานเมื่อคราวที่พระองค์ประทับที่ต้นสาละคู่ มีดอกไม้ทิพย์

หล่นมาบูชามากมาย พระองค์ตรัสกับพระอานนท์ว่าการบูชาด้วยสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่การ

บูชาเราอย่างแท้จริง เพราะตถาคตไม่ใช่บำเพ็ญบารมีมาเพื่อสิ่งเหล่านี้แต่พระองค์

บำเพ็ญบารมีมาเพื่อให้สัตว์ทั้งหลายศึกษาพระธรรม ปฏิบัติธรรมในหนทางที่ถูกเพื่อถึง

ความดับทุกข์ดังเช่นพระองค์ การปฏิบัติบูชาเท่านั้นจึงรักษาพระศาสนาไว้ได้แม้วัตถุ

วัดวาอารามจะมีมากมายเท่าไหร่ก็ตาม ไม่สามารถดำรงพระศาสนาไว้ได้ แต่ศาสนา

อยู่ที่ใจของแต่ละคนที่จะน้อมพิจาณา ศึกษาและปฏิบัติตามพระธรรมอันเกิดจากการ

ศึกษาพระธรรมการศึกษาพระธรรมและมีความเข้าใจขึ้นจากใจพุทธบริษัทเป็น

การรักษาพระศาสนาดังนั้นจุดประสงค์ของพระพุทธศาสนาจึงเป็นเรื่องของ

การละ ทั้งสิ้นละแม้ความต้องการที่จะได้บุญทำด้วยความติดข้องในผลของบุญละ

ด้วยปัญญา ด้วยการศึกษาพระธรรม และภิกษุ กิจที่สำคัญคือ การศึกษาพระธรรมและ

น้อมปฏิบัติธรรมเพื่อให้ถึงความเจริญขึ้นของปัญญา นี่คือกิจที่ควรทำของพระภิกษุทั้ง

หลายที่ได้บวชเป็นเพศบรรพชิตแล้ว.........................................



จะเห็นได้ว่าเป็นเรื่องของธรรมและ{อนัตตา}

ที่แต่ละคน - สัตว์โลกก็แตกต่างกันไป

ไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลง{อกุศล}ให้เป็นกุศลได้ โลกก็ต้องเป็นไปอย่างนี้แม้ใน

สมัยพุทธกาล ก็ยังมีผู้ที่เห็นผิดมากมาย มากกว่าคนที่เห็นถูกในปัจจุบันก็ต้องเป็น

ไปตามอย่างนั้นเช่นกันความเห็นผิดและ{อกุศล}ไม่ได้เลือนหายไปจากใจของ

สัตว์โลกเลย ตราบใดที่ยังเป็นผู้มีความไม่รู้และเป็นปุถุชนผู้ที่ปัญญาจึงพิจารณาจิต

ตนและอบรมปัญญาของตนเอง เพื่อความเข้าใจถูกในพระธรรมมากขึ้นส่วนสัตว์

อื่นก็มีกรรมและก็ต้องเป็นไปตามกิเลสที่สะสมมา

ดังนั้นจึงไม่ต้องรอพระพุทธเจ้าองค์หน้าขณะนี้มีพระธรรมของพระพุทธเจ้าก็ยัง

อยู่ประโยชน์คือ ศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรมเพื่อความเจริญขึ้นของปัญญาอยู่กับ

ขณะนี้ ปัจจุบันอนาคตไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นจะเกิดเป็นอะไรในชาติไหนในสมัยพระ

พุทธเจ้า(พระศรีอริยเมตไตรย์)หากไม่ทำเหตุคือสะสมอบรมปัญญา ณ.ตอนนี้เมื่อ

อนาคตได้พบพระพุทธเจ้า ก็ไม่ต่างจากพบพระพุทธรูป ก็เพียงแต่ขอและจะทำให้ได้

บุญแต่ไม่สนใจที่จะศึกษาพระธรรมเพราะไม่มีความเข้าใจพระธรรมที่สะสมมาในอดีต

นั่นเองสำคัญคือการอบรมปัญญาในขณะนี้ ไม่ใช่ไปทำอย่างอื่นเลย



ได้ยินว่า.............................................

พระนีตเถระได้ภาษิตคาถานี้ไว้ อย่างนี้ว่า...........................................

คนโง่เขลา

มัวแต่นอนหลับ

ตลอดทั้งคืน

คลุกคลีอยู่ในหมู่ชน

ตลอดวันยังค่ำ

เมื่อไรจักทำที่สุดแห่งทุกข์ได้เล่า

ข้อมูลจาก มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาบ้านธัมมะ 136 หมู่ 5 ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ 50230

(http://fx.gs/emo/0bc09-283.gif)

http://www.youtube.com/v/TIknxf7DlO0?version=3