หัวข้อ: ตายแล้วฟื้นมีจริงหรือไม่จริง เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 09 กรกฎาคม 2554 12:38:33 (http://www.sookjai.com/index.php?action=dlattach;topic=22138.0;attach=1270;image) พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ ไม่ใช่ทรงปริวิตก หรือ ตรึก หรือ คิด ทรงประจักษ์แจ้งลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง ทรงแสดงธรรม ผู้ฟังสามารถที่จะพิสูจน์ธรรมที่กำลังฟังได้ทุกขณะ เมื่อมีความเข้าใจธรรมเพิ่มขึ้น ธรรมเป็นเรื่องละเอียดไม่สามารถคิดหรือ ปฏิบัติเองโดยไม่ฟังพระธรรม นี่เป็นข้อที่สำคัญมาก................................... {สัพพะธานัง ธัมมะทานัง ชินาติ} การให้ธรรมเป็นทานชนะการให้ทั้งปวงผู้ปฏิบัติธรรมย่อมอยู่เย็นเป็นสุขทั้งในโลกนี้และใน โลกหน้าด้วยการมี ศีล สมาธิ ปัญญา คือ การงดเว้นไม่กระทำความชั่วทั้งปวงประพฤติแต่ความดีทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว จะบังเกิดความสุขอันแท้จริงที่สุขสงบ ผู้ประพฤติ ปฏิบัติธรรมเท่านั้นจึงจะหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้ และการเคารพรัก ดูแลบิดามารดา หรือผู้มีพระคุณ ของตนให้เป็นสุข เป็นมงคลอันสูงสุด เทวดาจะปกปัก รักษาปกป้องคุ้มครองให้ท่านปราศจากโรคาพยาธิ มีความเจริญทั้งแก่ตนเองและผู้ที่อยู่รอบข้างอันจะมีผลให้ท่าน กินก็เป็นสุข หลับก็เป็นสุข ตื่นก็เป็นสุข และเมื่อท่านสิ้นอายุขัยจากโลกนี้แล้วท่านก็จะมีแต่ความสุขในเบื้องหน้า ผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำไม่ว่าในวันใด ๆ ขอส่งผลให้กับเจ้ากรรมนายเวรของคุณพ่อ - คุณแม่และญาติพี่น้องพร้อมทั้งตัวข้าพเจ้า รวมถึงได้รับบุญกุศลในการที่ ข้าพเจ้าได้เผยแพร่พระธรรม ขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนี้ให้กับญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว มีปู่ย่าตา ยายทั้งหลายได้มารับผลบุญนี้ด้วย หากผลบุญที่ข้าพเจ้าส่งไปไม่ถึงญาติข้าพเจ้าอาจอยู่ในที่ ๆ ไม่พร้อมที่จะรับบุญนี้ ข้าพเจ้าขอมอบบุญกุศลนี้ให้กับพยายมราชและขอฝากผลบุญไว้กับพยายมราชช่วยนำส่งให้กับญาติของข้าพเจ้าต่อไปด้วยเทอญ...................................................... มัชฌิมประภาสปุญสถาน ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำนี้จงเป็นปัจจัยเกื้อหนุนสรรพชีวิตทั้งหลายให้ได้บำเพ็ญอนุตรวิถี กลับจิตแปรใจ ได้คืนจิตเดิม มีความสงบเย็นใจกาย ปราศจากเสียซึ่งสรรพกำทุกข์ ปลอดพ้นจากภัยเวร สงครามข้าวยาก ด้วยเดชะบุญนี้ จงช่วยค้ำชูบิดา - มารดา ครูบาอาจารย์ - ผู้มีพระคุณ ญาติสนิท - มิตรรัก ศัตรูหมู่มาร สรรพเจ้ากรรมนายเวร เทวาทุกชั้นฟ้า อารักษ์ทั่วชั้นดิน เหล่าภูติ นาคา - นาคี เหล่าวิญญา - หมู่เปรต - อสูรกายเหล่าสัตว์ใด ๆ จงเป็นผู้ได้รับอานิสงค์เดชะแห่งผลบุญนี้ท่วนทั่วทุกคนเทอญ... ถาม........เดี๋ยวนี้เรื่องคนที่ตายแล้วฟื้นกลับมาใหม่ มีคนนำมาเล่าและออกอากาศในรายการทีวี บางรายการมากขึ้นผู้ทีเล่าก็คือผู้ที่ประสพกับเหตุการณ์นั้นด้วยตัวเอง และได้พบกับ ยมทูตหรือบางท่านได้ถูกพาไปเที่ยวในอบายภูมิมาด้วย แต่เนื่องจากยังไม่ถึงเวลา ต้องจากโลกนี้ไป จึงกลับฟื้นขึ้นมาอีก และได้เล่าบอกเหตุการณ์ที่ตัวเองไปประสพ พบมา รายที่เจอยมทูตเล่าว่าตกลงมาจากพื้นชั้น 2 ของห้องแถวเพราะมีวิญญาณ ของเจ้าที่ดึงลงมา พื้นนั้นเป็นช่องโหว่เขาถ่ายภาพมาให้ดูด้วย เพราะเคยบนไว้ว่า............. จะตั้งศาลเจ้าที่ให้ถ้าซื้อห้องแถวนี้ได้ แต่ก็ยังไม่ได้ตั้งให้หลังจากที่ซื้อได้แล้ว เมื่อ ตัวเองตกลงมาก็หมดสติไปและได้พบกับยมทูต เพราะเห็นหน้าและที่ศีรษะมีรูปโค้ง 2 ข้างแต่เนื่องจากกุศลที่เธอทำไว้เนือง ๆ และสามีของเธอได้บอกขออุทิศบุญ กุศลไปให้เธอช่วยให้เธอฟื้นบุญนี้จึงส่งผล ยมทูตบอกว่ายังไม่ถึงเวลาจึงนำเธอ กลับมาเข้าร่างที่นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล และยืนเฝ้าดูเธออยู่สักพักจึงจากไป ถ้าเราจะนำมาเที่ยบกับความหมายของ{ปฏิสนธิจิต}หรือภวังคจิต จิตของเธอที่ได้ท่อง เที่ยวไปเป็นอะไรคะ แล้วเรื่องแบบนี้เป็นไปได้หรือไม่ อย่างไร ? ตอบ........ตายแล้วเกิดทันทีสำรับผู้ที่มีกิเลสอยู่แต่ไม่ใช่ตายแล้วฟื้นดังนั้นถ้าฟื้นขึ้น แสดงว่าไม่ได้ตายไปเพียงอาจสลบไม่รู้สึกตัวก็ได้จึงสำคัญว่าตายแล้วฟื้นซึ่ง ขณะนั้น ก็อาจมีการคิดนึกสลับก็ได้คิดนึกในเรื่องราวต่าง ๆ ว่าเห็นสิ่งนั้น - สิ่งนี้ - จึงก็ไม่ ต่างจากความฝันที่มาจากการคิดนึและก็พอตื่นขึ้นจากความฝัน ก็เหมือนได้เห็น ได้ยินเรื่องราวต่าง ๆ และก็สามารถมาเล่าได้ดังนั้น.........เพราะวิถีจิตเกิดดับเร็วมากเพราะ ฉะนั้น..........ขณะที่สลบหรือไม่รู้สึกตัวก็อาจจะมีการคิดนึกสลับอยางรวดเร็วซึ่งยังไม่ตาย จากความเป็นบุคคลนั้น จึงฟื้นขึ้นได้เพราะฉะนั้น ถ้าจุติจิตเกิดจริง ตาย ตาม สภาพธรรมที่เป็นเหตุปัจจัย ที่ต้องเกิดต่อที่ยังมีกิเลส ปฏิสนธิจิตเกิดต่อทันที แสดงว่า เมื่อตายแล้วจะต้องเกิดทันทีจึงไม่ใช่ตายแล้วฟื้นเลยส่วนที่กำลังสลบไปและไม่ รู้สึกบางครั้งก็สลับกับภวังคจิต แต่ขณะที่เป็นภวังคจิต ไม่รู้อารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้น กายและใจเลยจึงไม่มีการคิดนึกใด ๆ ทั้งสิ้นแต่ขณะที่จำเรื่องราวต่าง ๆ ได้ว่าไปทำ อะไรมานั่นแสดงว่าเป็นความคิดนึกสลับในขณะที่ไม่รู้สึกตัวที่คิดผิดว่าตายขณะ ที่คิดนึกจึงจำเรื่องราวต่าง ๆ และก็พอรู้สึกตัว ฟื้นก็เลยจำได้ว่าทำอะไรมา เป็นต้น ดังนั้น จึงไม่ใช่ตายแล้วฟื้นตามเหตุผลที่กล่าวมา{ขออนุโมทนา} สภาพธรรมที่ยึดถือว่า เป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน เราเขานั้น เป็นเพียงนามธรรมและรูปธรรม ซึ่งสมมุติบัญญัติเรียกชื่อ ตามอาการที่ปรากฏต่าง ๆ กันเท่านั้น แท้จริงแล้วก็เป็นสภาพธรรมแต่ละประเภท เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย แล้วก็ดับ เกิดดับสืบต่อกันเรื่อย ๆ Credit By......มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาบ้านธัมมะ 136 หมู่ 5 ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ 50230 (http://image.ohozaa.com/i/b49/2324414910222198p.jpg) http://www.fungdham.com/download/song/allhits/21.wma |