หัวข้อ: หลวงพ่อทองดำ ฐิตวัณโณ วัดท่าทอง ต.วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 15 ตุลาคม 2563 16:21:08 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/37327828879157_bud01p1_15_640x480_.jpg) หลวงพ่อทองดำ ฐิตวัณโณ วัดท่าทอง ต.วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ พระนิมมานโกวิท หรือ หลวงพ่อทองดำ ฐิตวัณโณ เป็นอดีตพระเถระชั้นผู้ใหญ่เมืองอุตรดิตถ์ มีความชำนาญด้านการออกแบบแปลน ก่อสร้างเสนาสนะ จนเป็นที่ยอมรับ นามเดิมว่า ทองดำ เม่นพริ้ง เกิดเมื่อ วันพุธ ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 5 พ.ศ.2441 ที่บ้านไซโรงโขน อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร เกิดในครอบครัวค้าขาย พ่อแม่ประสงค์ให้ได้เรียนหนังสือ จึงนำไปฝากไว้กับหลวงพ่อโต เจ้าอาวาสวัด ท่าทอง ต.วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ 5 พ.ค.2463 อายุครบ 22 ปี เข้าพิธีอุปสมบทที่อุโบสถวัดวังหมู ต.หาดกรวด อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ โดยมีพระครูวิเชียร ปัญญามหามุนี (เรือง) เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์แส เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ ต.ไผ่ล้อม อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูดวง เจ้าอาวาสวัดวังหมู เป็นพระอนุสาวนาจารย์ มุ่งมั่นศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับพระธรรมวินัยจนสอบได้นักธรรมชั้นตรี พ.ศ.2468 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าทอง ต.วังกะพี้ พ.ศ.2478 ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระฐานานุกรมของพระครูวิเชียรปัญญามหามุนี เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ.2482 เป็นเจ้าคณะตำบลหาดกรวด-วังกะพี้ อ.เมือง และในปีเดียวกัน ได้รับแต่งตั้งเป็นพระปลัดฐานานุกรมของพระครูธรรมสารโกวิท (ยศ) เจ้าคณะแขวงเมืองอุตรดิตถ์ พ.ศ.2500 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูธรรมาภรณ์ประสาท พ.ศ.2504 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระนิมมานโกวิท และ พ.ศ.2510 ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จวบจนวาระสุดท้าย หลังจากดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าทอง พัฒนาวัดวาอาราม ด้วยสภาพวัดขณะนั้นทรุดโทรมมาก ไม่มีเสนาสนะและถาวรวัตถุ เป็นเพียงวัดเล็กๆ เท่านั้น ตลอดเวลาของท่านที่ครองสมณเพศ ได้พัฒนาวัดให้เจริญรุ่งเรืองผิดไปจากสภาพเดิมอย่างมิอาจเทียบเปรียบได้ เริ่มจากการขยายที่ดินของวัด เริ่มก่อสร้างศาลาการเปรียญ โบสถ์ วิหาร กุฏิ โรงเรียนพระปริยัติธรรม ศาลาปฏิบัติธรรม กุฏิสำนักวิปัสสนากัมมัฏฐาน รั้ว กำแพง เมรุเผาศพ และถาวรวัตถุอีกมากมาย แต่เดิมวัดท่าทอง ต.วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ มีพื้นที่เพียง 3 ไร่เท่านั้น แต่ปัจจุบันมีมากกว่า 90 ไร่ นอกจากเป็นพระนักพัฒนาแล้ว ท่านยังมีความชำนาญในการออกแบบก่อสร้าง การอ่านแบบแปลนและดำเนินงานเอง จนเป็นที่ยอมรับในหมู่คณะสงฆ์ในจังหวัดอุตรดิตถ์ ดังนั้น การก่อสร้างศาสนสถานทุกแห่งท่านจะมีส่วนร่วมอยู่เสมอ บางวัดท่านก็เป็นผู้ริเริ่มดำเนินโครงการและวางแบบแปลนให้ด้วย มิใช่เพียงแค่สร้างเสนาสนะทางศาสนาเท่านั้น ยังได้มองการณ์ไกลเห็นความสำคัญของการศึกษา วัดที่ก่อสร้างมักจะให้ดำเนินการก่อสร้างโรงเรียนประชาบาลด้วย หลังจากรับใช้พระพุทธศาสนาอย่างเต็มความสามารถ ตรากตรำทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด ช่วงบั้นปลายชีวิต ท่านอาพาธด้วยโรคภาวะไตเสื่อมและโรคชรา สุดท้ายมรณภาพอย่างสงบ ที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เมื่อวันที่ 25 ส.ค.2548 สิริอายุ 104 ปี พรรษา 82 ข่าวสดออนไลน์ |