|
หัวข้อ: วัดครุฑธาราม ต.คลองสระบัว อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 14 พฤศจิกายน 2563 21:07:36 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/66301940795448_1_Copy_.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/28897774592041_3_Copy_.jpg) วัดครุฑธาราม ตำบลคลองสระบัว อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วัดครุฑธาราม ตั้งอยู่ปลายคลองสระบัวฝั่งตะวันออก มีจารึกที่พระอุโบสถระบุว่าเป็นวัดที่ได้รับการสร้างขึ้นในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าสุริยามรินทร์ (พระเจ้าเอกทัศน์) ในปี พ.ศ.๒๓๐๒ พร้อมกับการสร้างพระประธานในพระอุโบสถ ภายในวัดมีพระอุโบสถเป็นอาคารสำคัญของวัด มีลักษณะเป็นอาคารขนาดย่อมฐานอาคารแอ่นโค้ง ด้านหน้าต่อมุขยื่นและมีหลังคาจั่นหับคลุม ซึ่งเป็นแบบสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยาตอนปลาย ด้านหน้าพระอุโบสถมีประตูเข้า ๓ ประตู โดยประตูกลางเป็นที่สำหรับพระมหากษัตริย์เสด็จเข้าพระอุโบสถ (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/83408347889780_2_Copy_.jpg)
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/20579363405704_7_Copy_.jpg) ภาพเขียนที่ซุ้มประตูเข้าพระอุโบสถ เล่าเรื่องพระพุทธเจ้าแสดงธรรมโปรดปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/67876257043745_4_Copy_.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/82901507450474_6_Copy_.jpg) พระประธานพระอุโบสถวัดครุฑธาราม (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/98074236801928_5_Copy_.jpg) ภายในพระอุโบสถ ฉาบปูนเรียบทั้งสี่ด้าน เจาะช่องหน้าต่างรับแสงสว่างด้านข้าง ด้านละ ๒ ช่อง (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/98230737447738_7_2_Copy_.jpg) เจดีย์รายรอบพระอุโบสถ ซึ่งผุพังไปตามกาลเวลา (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/58933977203236_123951313_1022214254960921_198.jpg) ศิลปกรรมงานปูนปั้นประดับเจดีย์ราย สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย หัวข้อ: Re: วัดครุฑธาราม ต.คลองสระบัว อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 15 พฤศจิกายน 2563 19:41:30 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/60288962597648_8_Copy_.jpg) ประติมากรรมทรงคุณค่า “พญาครุฑ” วัดครุฑาราม ทรงเครื่องชั้นสูง สวมชฎายอดดอกบัว มีรัศมีบนเศียร เทวะลักษณะแสดงถึงอานุภาพและพละกำลังมหาศาล ในแต่ละวันจะมีผู้คนจำนวนมากหลั่งไหลมาที่วัดครุฑธาราม เพื่อกราบไหว้ขอพลังความศักดิ์สิทธิ์ของพญาครุฑด้วยความเชื่อความศรัทธา ว่าสามารถดัลบันดาลความรุ่งเรืองแก่ชีวิตและครอบครัว ตามคติของชาวอินเดีย ครุฑเป็นพญานก พาหนะทรงของพระนารายณ์ ซึ่งมีอิทธิพลต่อความคิดความเชื่อและการสร้างสรรศิลปกรรมของคนไทย ครุฑมีศีรษะ ปากและเล็บเหมือนนก แต่มีร่างกาย แขนและขาเหมือนมนุษย์ หน้าสีขาว ขนสีทอง ลำตัวสีทอง ปีกสีแดง ครุฑมีจำนวนมาก มีความสามารถ มีอานุภาพ และมีพละกำลังแข็งแรง มีกำเนิดตามความเชื่อจากทั้งวรรณคดีสันสกฤตและบาลี ครุฑในวรรณคดีสันสกฤตมีเพียงตัวเดียว ชื่อว่า “ไวนเตยะ” ในมหากาพย์ภารตะ กล่าวว่าครุฑเป็นบุตรของพระกัศยปพรหมฤๅษีประชาบดีกับนางวินตา มีกำเนิดจากฟองไข่ เมื่อเวลาผ่านไป ๕,๐๐๐ ปี ไข่จึงแตกออกเป็นนกตัวใหญ่มหึมา มีรัศมีพวยพุ่งออกจากกายสว่างรุ่งโรจน์ดังไฟไหม้ทั้งสี่ทิศ มีพละกำลังเกรียงไกร ส่วนครุฑในวรรณคดีบาลี จัดเป็นนกประเภทหนึ่ง เกิดจากอำนาจแห่งกุศลกรรมแต่ครั้งอดีตชาติ มีผิวพรรณผุดผ่อง มีเครื่องอุปโภคบริโภคเป็นทิพย์ อายุยืน แต่ไม่ดำรงสภาพเป็นอมตะเช่นครุฑในวรรณคดีสันสกต บุคคลสามารถกำเนิดเป็นครุฑได้ด้วยการทำบุญ ตามคติพุทธศาสนา แสดงความเชื่อเกี่ยวกับกำเนิดครุฑไว้ในหนังสือไตรภูมิพระร่วง ดังกล่าวว่า “ฝูงดิรัจฉานดังครุฑราชดังเมื่อเป็นดุจดังดิรัจฉานทั้งหลายแล เครื่องเขากินเขาอยู่นั้น ดังเทพยดาในสวรรค์ไส้ และมีเตชะตบะศักดานุภาพ รู้หลักนิมิตดังเทพยดาในสวรรค์” กำเนิดครุฑตามคติพุทธศาสนา มี ๔ ประเภท คือ ๑. ครุฑประเภทอัณฑชะ - ครุฑมีกำเนิดในฟองไข่ ๒. ครุฑประเภทชลามพุชะ – ครุฑมีกำเนิดในครรภ์ ๓. ครุฑประเภทสังเสทชะ – ครุฑมีกำเนิดในเถ้าไคล ๔. ครุฑประเภทอุปปาติก หรือ โอปปาติก - ครุฑเกิดขึ้นเองแบบเทวดา คนไทยนับถือศักดิ์และอำนาจของครุฑว่ามีฤทธานุภาพมาก เป็นพาหนะทรงของพระนารายณ์ และตามคติไทยแต่โบราณถือว่าพระมหากษัตริย์คือพระผู้เป็นเจ้าอวตารมาเกิดเพื่อปราบทุกข์เข็ญในมนุษย์โลก ครุฑซึ่งเป็นพาหนะของพระนารายณ์จึงนำมาใช้เป็นตราประจำพระองค์พระมหากษัตริย์และตราประจำแผ่นดิน ได้แก่ พระราชลัญจรกร พระครุฑพาห์ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดฯ ให้ใช้พระราชลัญจกรพระครุฑพ่าห์เป็นตราประจำรัชกาลแผ่นดินจวบจนปัจจุบัน นอกจากนี้ครุฑยังส่งอิทธิพลต่อศิลปกรรมไทยแขนงต่างๆ โดยเฉพาะจิตรกรรมและประติมากรรมตามพุทธศาสนสถานและที่ประทับของพระมหากษัตริย์ เช่น หน้าบันพระอุโบสถ วิหาร ยอดปรางค์ มณฑป พระที่นั่งองค์ต่างๆ ฯลฯ แสดงถึงความนิยมครุฑของคนไทยที่มีมาแต่โบราณ (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/75166375479764_9_Copy_.jpg) พระอุโบสถด้านหลัง เอกลักษณ์สกุลช่างสมัยอยุธยา นิยมทำอุโบสถฐานแอ่นท้องสำเภา (แอ่นโค้งเหมือนท้องเรือสำเภา) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/49879722338583_11_Copy_.jpg) ด้านหลังพระอุโบสถ มีประตูออก ๒ ประตู ส่วนกลางทำเป็นซุ้มประดิษฐานรูปปั้นพระสงฆ์ (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/77649234359463_10_Copy_.jpg) รูปปั้นครุฑประดับที่ฐานปัทม์พระพุทธรูป |