หัวข้อ: พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ เรื่องที่ เรื่องที่ ๔๓ โสมทัตตชาดก : โสมทัตคนประหม่า เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 06 กุมภาพันธ์ 2564 20:05:57 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/13576513404647__500_320x200_.jpg) พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ เรื่องที่ ๔๓ โสมทัตตชาดก โสมทัตคนประหม่า ในอดีตกาล ในสมัยที่พระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติอยู่ในเมืองพาราณสี รัฐกาสี ยังมีพราหมณ์ตระกูลมั่งคั่งตระกูลหนึ่ง อยู่ในรัฐกาสีนั้น ตระกูลนี้มีลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ชื่อว่าโสมทัต เมื่อเจริญวัยพอสมควรแล้ว โสมทัตได้ไปศึกษาอยู่ในสำนักของอาจารย์ทิศาปาโมกข์ ในเมืองตักสิลา เมืองแห่งการศึกษาในสมัยนั้น ครั้นเรียนสำเร็จเป็นบัณฑิตแล้ว โสมทัตก็เดินทางกลับบ้านได้พบเห็นฐานะทางบ้านยากจนลง ด้วยอิทธิพลของความผันผวนทางเศรษฐกิจของบ้านเมือง เขาจึงคิดกอบกู้ฐานะของทางบ้าน ด้วยการไปทำงานรับราชการอยู่ในเมืองหลวง โสมทัตทำงานดีจนเป็นที่โปรดปรานของพระราชา อยู่มาไม่นานบิดาของโสมทัตได้มาเยี่ยมเยียนเขาถึงเมืองหลวง และบอกให้ลูกชายทูลขอโคจากพระราชาสักตัวหนึ่ง เพราะโคที่บ้านที่มีสองตัวนั้น ตายไปเสียตัวหนึ่งแล้วยังเหลืออีกตัวเดียว โสมทัตบอกกับพ่อว่าให้พ่อขอเองเถอะ เพราะเขาเพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นาน จะขอโน่นขอนี่เกรงจะไม่บังควร พ่อของโสมทัตบอกว่าตัวเองไม่กล้าขอ เพราะพูดไม่เป็น เดี๋ยวพูดผิดพูดถูกเข้าก็จะยุ่งกันใหญ่ โสมทัตบอกว่าไม่เป็นไร เขาจะสอนให้พูดเอง รับรองว่าไม่ผิดแน่ พ่อจึงต้องอยู่กับโสมทัตอีกหลายวัน ทุกๆ วันหลังจากเลิกงาน โสมทัตจะพาพ่อไปในที่สงบสงัด มัดหญ้าฟางเป็นฟ่อนๆ ตั้งไว้เป็นจุดๆ สมมุติว่าเป็นพระราชาบ้าง อุปภาระบ้าง เสนาบดีบ้าง จากนั้นก็ฝึกซ้อมบทพูดกับพ่อ โสมทัตพูดกับพ่อว่า “พ่อครับ! พอเข้าเฝ้าพระราชาแล้ว พ่อต้องกราบทูลถวายพระพรว่า ขอพระองค์ทรงพระเจริญ จากนั้นก็กล่าวคำที่พ่อจะขอโค” “ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ข้าพระพุทธเจ้ามีวัวไถนาอยู่สองตัว แต่โคตัวหนึ่งตายไปเสียแล้ว ขอพระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานวัวตัวที่สองด้วยเถิดพระเจ้าข้า” พราหมณ์พ่อของโสมทัตตั้งใจท่องทุกวัน ในที่สุดก็ว่าได้คล่องปาก โดยใช้เวลานานนับปีทีเดียว จึงบอกกับลูกชายว่าพ่อพร้อมจะเข้าเฝ้าแล้ว รุ่งขึ้นโสมทัตก็พาพ่อไปเข้าเฝ้าพระเจ้าพรหมทัต เมื่อถึงท้องพระโรงแล้ว พราหมณ์พ่อของโสมทัตได้กราบทูลพระราชา “ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ! ขอพระองค์ทรงพระเจริญ” เขากราบทูลมาได้แค่นั้น พระเจ้าพรหมทัตก็ทรงหันพระพักตร์ไปทางพราหมณ์ พร้อมกับตรัสถามว่า “โสมทัต! พราหมณ์หน้าตาคล้ายเจ้า เขาเป็นอะไรกับเจ้าหรือ?” โสมทัตกราบทูลว่า “ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท! เป็นบิดาของข้าพระพุทธเจ้าเอง พระเจ้าข้า” พระราชาตรัสถามว่า “ลุงมาทำธุระอะไรที่นี่รึ” พอถูกซักไซ้ไล่เรียง พราหมณ์เริ่มรู้สึกประหม่าใจคอไม่เป็นปกติ ให้รู้สึกหวาดหวั่นสะทกสะท้านยังไงชอบกล เมื่อถูกถามถึงสาเหตุที่มา จึงรับทูลตามถ้อยคำที่ลูกชายสั่งสอนไว้ว่า “ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท! ข้าพระพุทธเจ้ามีวัวใช้ไถนาอยู่ ๒ ตัว แต่วัวตัวหนึ่งตายไปเสียแล้ว ขอพระองค์ทรงโปรดรับวัวตัวที่สองไปด้วยเถิดพระเจ้าข้า” พระเจ้าพรหมทัตทรงสดับแล้ว ก็ทรงพระสรวล เพราะทรงทราบว่าพราหมณ์นี้จะต้องพูดผิดแน่ จึงตรัสเย้าโสมทัตว่า “โสมทัต! เห็นทีที่บ้านพ่อของเจ้า จะมีโคหลายตัวละซิ” โสมทัตกราบทูลว่า “ขอเดชะ! พระอาญามิพ้นเกล้า หากพระองค์พระราชทานให้แล้วก็จะมีมากจริงๆ พระเจ้าข้า” พระเจ้าพรหมทัตทรงโปรดปรานคำตอบของโสมทัตมาก ประกอบกับทรงโปรดปรานเขาที่ทำงานด้วยกับอาการ ๒ อย่าง คือ ได้กับไม่ได้ เพราะว่าการขอจะมีอาการอย่างนี้เป็นธรรมดา ธรรมนิทานชาดกเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “คนโง่จะสอนให้จดจำอะไรก็ยาก” “การขอไม่มีใครชอบ ผู้ขอก็ลำบากใจ ผู้จะให้ก็ทุกข์ใจ” พุทธศาสนสุภาษิตประจำเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า หาเปติ อตฺถํ ทุมฺเมโร คนโง่ย่อมพร่าประโยชน์เสีย (๒๗/๑๕) คัดจาก : หนังสือ พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ ฉบับสมบูรณ์ / จัดพิมพ์เพื่อเผยแพร่พระพุทธศาสนาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดย สถาบันบันลือธรรม |