[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

ช่วงระยะเวลานับจากปัจจุบันถอยหลังไปในอดีตถึงประมาณ 60 - 70  ปีกรุงเทพฯได้เปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมากในหลายสิ่งหลาย
อย่าง
อาคารที่ทำการหลายแห่งได้ถูกรื้อลงและก่อสร้างใหม่ พัฒนาเปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯ ไปในทางนำความเจริญก้าวหน้าขึ้นเรามาลอง ฟื้นความจำกันสักหน่อยดีไหม อาคารหลายแห่งท่านอาจรู้จัก อาคารหลายแห่งท่านอาจไม่รู้จัก บางท่านยังจำได้ดีและมีส่วนคุ้นเคยใน ชีวิตท่านด้วย บางท่านอาจไม่ทัน
เห็นก็คงไม่เป็นไรจะได้ทราบว่าเคย มีอาคารนี้อยู่ในอดีต  และมีความเจริญเสื่อมไปเป็นธรรมดาลองนำอาคารที่ทำการ ที่มีความรุ่งโรจน์ในอดีต
แต่ได้ถูกรื้อถอนไปหมดแล้ว มารื้อฟื้นความจำกันสักหน่อย




โรงภาพยนต์ เฉลิมเขตต์ ใกล้โรงพยาบาล หัวเฉียว ในปัจจุบันตั้งอยู่เชิงสะพานยศเส ชื่อโรงภาพยนตร์

เฉลิมเขตต์มาจากพระนาม ของ พระองค์เจ้าหญิงเฉลิมเขตรมงคล พระธิดาพระองค์เล็กของจอมพลเรือ สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าฯ  

กรมพระยา ภาณุพันธุวงศ์วรเดช ฯ ประสูติแต่หม่อมแม้น พระองค์เจ้าหญิงเฉลิมเขตต์เป็นพระชายาในสมเด็จ เจ้าฟ้า กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์

ตั้งอยู่ ย่านวังบูรพา หลาย ๆ คนอาจเคยได้ดูโฆษณา ชุดนี้ ปัจจุบันยังเหลือเค้าเดิมออยู่บ้างแต่ต่อไป(อาจจะไม่เหลือ)ภาพถ่ายที่เห็น


อยู่นี้คือ ร่องรอยแห่งอดีตของห้างเซนทรัลในยุคเมื่อ 60 กว่าปีผ่านมาแล้ว

ศาลาเฉลิมไทย ถูกรื้อถอนเพื่อสร้าง พลับพลาเจษฎาบดินทร์ เท่าที่จำได้ประมาณปี พ.....ศ......2530 - 2531 และเพื่อไม่ให้บดบัง


ทัศนียภาพของโลหะปราสาทอันงดงามของกรุงเทพ ฯ ทางรัฐบาลจึงมีมติให้รื้อถอน ก่อนอำลาได้มีการจัดแสดงละครเวทีถ่ายในตอนนั้นได้มีการถ่าย


ทอดสดออก ทีวี ด้วย เรื่อง พันท้ายนรสิงห์


นำแสดงโดย พิศาล อัครเศรณี(นำแสดงเป็นสมเด็จพระเจ้าเสือ) ศรันยู วงศ์กระจ่าง รับบท พันท้ายนรสิงห์ ยังคงตราตรึงอยู่ในใจตลอดมา

ตรงนี้คือบริเวณราชดำริอาเขตหรือ ราชประสงค์ภาพนี้ถ่ายราวประมาณปีพุทธศักราช 2508 ถ้าตรงไปคือ ประตูน้ำ ถ้าเลี้ยวขวาจะไปทาง

ถนนเพราชบุรีตัดใหม่ ถ้าเลี้ยวซ้ายก็ไปทางราชเทวีหรือ พันทิพย์ ถ้าเดินย้อนขึ้นมาจะเป็นโรงพยาบาลตำรวจ สังเกตุรถเมล์จะเป็สีต่าง ๆ แต่ละสี

วิ่งไม่ทับเส้นทางกัน เช่น รถเมล์ขาวของบริษัท นายเลิศ เส้นทางวิ่งประตูน้ำ - วัดโพธิ์ รถเมล์เหลือง วิ่งอนุเสาวรีชัย - วังบูรพา รถ ร.ส.พ สาย 4

วิ่งตลาดพลู - คลองเตย และสาย 53 รถสีเทาตราสิงห์โตวิ่งรอบเมือง รถสาย 43 สีเทาคาดเขียววิ่ง บางขุนเทียน - เทเวศร์ เป็นต้น

หมายเหตุ............สมัยนั้นยังมีรถรางวิ่งอยู่ ไว้จะนำมาให้ชม

ภาพรถรางวิ่งสายรอบเมือง เยาวราช - เจริญกรุง - รองเมือง - เทเวศร์ - สนามหลวง มีโฆษณาฉายภาพยนต์ ค่าโดยสาร 10


สตางค์ 15 สตางค์ 25 สตางค์ รถรางหยุดวิ่งราวปี 2513 ประมาณนี้ ป้ายจอดรถรางเป็นรูปธงมีดาวจอดกันระยะห่างกับรถเมล์สมัยนี้ถึงจะช้าแต่ก็

ปลอดภัยกะประมาณ 1 กิโลเมตรจอด 1 ป้ายแล้วแต่ว่าจุดไหนผู้ดดยสารมากหรือน้อย

หน้าร้านค้าขายของชำซึ่งเป็นตึกเก่าแก่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ปัจจุบันตึกรามบานช่องสถาปัตย์กรรมเก่าแก่ได้ค่อย ๆ เลือนหาย


ไป จะสังเกตุเห็นได้ตรงป้ายหน้าร้านและประตูบ้านซึ่งมีความเก่าอายุราว 100 ปี กว่า ๆ ตึกเหล่านี้ถูกรื้อถอนไปมากน่าเสียเป็นอย่างยิ่ง

siam - lido - scala เมื่อเอ่ยชื่อโรงภาพยนต์๋ 3 โรงนี้ทุกคนต้องรู้จัก โรงภาพยนต์ 3 โรงนี้ให้ความบันเทิงจากรุ่นพ่อมาสู่รุ่นลูก

จนมาถึงรุ่นหลาน แต่บัดนี้ สยาม เหลือเพียงแต่ชื่อ รอวันกลับฟื้นคืนชีพอีกครั้ง โรงหนัง 3 โรงนี้อยู่ย่านปทุมวัน หรือชื่อเรียกชื่อเดิมเมื่อสมัยก่อน

ว่าปทุมวันแสคว ไม่ใช่สยามแสควอย่างที่เคยเรียกติดปากกันจนชินในยุคปี 1965 - 1970 สยาม ฉายแต่หนังฝรั่งเป็นส่วนใหญจะมีหนังไทยบ้าง

ประปลายเล็กน้อยในยุคเริ่มแรก ตั๋วหนังจะเป็นใบเล็ก ๆ คล้าย ๆ ตั๋วรถไฟ คนขายตั๋วต้องดึงมาจากเครื่องแล้วมาปั๊มตรายางระบุรอบฉาย - วัน

ที่ - เวลาฉาย ว่ารอบกี่โมง เช่น รอบเที่ยง - รอบบ่ายแต่ในเล็กและกระดาษอ่อนกว่าตั๋วรถไฟ(น่าเสียดายไม่มีรูปให้ดู)โรงหนังทั้ง 3 โรงเวทีและจอ

จะไม่ยกสูงราคาตั๋วสมัยก่อนมีตั้งแต่ 10 บาท - 20 บาท จนถึง 40 บาท เก้านั่งในสมัยก่อนค่อนข้างจะแข็งแม้ว่าเป็นเบาะแต่เป็นเบาชนิด

แข็ง(รู้พ่อรู้ดี)สมัยก่อนย่านนี้ยังไม่มีรถไฟฟ้าตัดผ่านแลดูโล่งกว่านี้เยอะเลยตรงข้ามจะเป็น สยามเซ็นเตอร์และเลยถัดตรงเป็นพาราก้อนเมือ่ก่อนเคย

เป็นโรงแรมสยามอินเตอร์ไว้จะเขียนต่อในรายละเอียดปลีกย่อย