หัวข้อ: “พระพุทธเจ้า” เคยเสวยพระชาติเป็น “เหี้ย” เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 29 พฤษภาคม 2564 15:18:01 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/51943531466854__696x364_Copy_.jpg)
ชาดกเรื่องที่ 138 โคธชาดก พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นเหี้ย จิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถวัดเครือวัลย์วรวิหาร ธนบุรี ค้นหลักฐาน “พระพุทธเจ้า” เคยเสวยพระชาติเป็น “เหี้ย” ที่มา - ศิลปวัฒนธรรม ฉบับสิงหาคม 2552 ผู้เขียน - บุญเตือน ศรีวรพจน์ เผยแพร่ - วันพฤหัสที่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2563 …เหี้ยไม่ใช่สัตว์ที่พึงรังเกียจ พระพุทธเจ้าของเราแต่ปางก่อนก็เคยเสวยพระชาติเป็นเหี้ย ในนิบาตชาดกหมวดเอกนิบาต ชาดกเรื่องที่ 138 โคธชาดก มีเรื่องย่อว่า ครั้งหนึ่งพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นเหี้ยโคธบัณฑิตอาศัยในจอมปลวกใกล้อาศรมของพระดาบสผู้สัมมาปฏิบัติ ทุกวันพระโพธิสัตว์จะเข้าไปสู่อาศรมเพื่อสดับธรรม ต่อมาดาบสตนนั้นย้ายไปอยู่ถิ่นอื่น มีดาบสทุศีลอีกตนหนึ่งเข้ามาอาศัยอยู่ในอาศรมแทน วันหนึ่งชาวบ้านปรุงอาหารจากเนื้อเหี้ยนำไปถวาย ‘…ครั้นดาบสฉันเนื้อเหี้ยแล้ว ความปรารถนาในรสก็ผูกไว้ [คือติดใจในรสอันอร่อย] จึงถามว่ามังสะนี้มีรสอร่อยนัก เป็นมังสะสัตว์อะไร ครั้นได้ฟังว่ามังสะเหี้ยดังนี้ จึงคิดว่าเหี้ยใหญ่มาสู่สำนักเราตัวหนึ่ง อย่าเลยเราจะฆ่าเหี้ยใหญ่ตัวนั้นกินเสียเถิด…’ ดาบสทุศีลจ้องจะทำร้ายเหี้ยพระโพธิสัตว์แต่ไม่สำเร็จและถูกเหี้ยพระโพธิสัตว์ตำหนิความด่างพร้อยในพรหมจรรย์จนต้องหลีกลาไปอยู่ที่อื่น เหี้ยไม่ใช่สัตว์เลวร้ายและไม่มีอะไรน่ารังเกียจถึงขั้นปรักปรำให้มันเป็นต้นเหตุของเสนียดจัญไร เหี้ยเป็นสัตว์ที่คนรังเกียจทำไมสมุทรปราการมีแม่น้ำ-วัด-อำเภอชื่อ“(บาง)เหี้ย” หากมนุษย์จะให้ความเป็นธรรมกับมันสักหน่อย เหี้ยควรจะถูกจัดขึ้นทำเนียบเป็นสัตว์ชั้นสูงเสียด้วยซ้ำ เนื่องจากรูปกายมีเกล็ด มีขาทั้งสี่และท่อนหางทรงพลัง มีลิ้น 2 แฉก ลักษณะที่ว่านี้ไม่ต่างอะไรกับมังกร ที่สำคัญคือมันไม่ได้สร้างความเดือดร้อนรุนแรงให้มนุษย์ มันจึงน่าจะได้รับการยกย่องมากกว่าถูกหยามเหยียด เหี้ยเองก็คงจะภูมิใจที่ได้กำเนิดเป็นมัน มนุษย์ต่างหากที่คิดมากเกินเหี้ย… |