[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม => ข้อความที่เริ่มโดย: เงาฝัน ที่ 01 มิถุนายน 2553 20:39:13



หัวข้อ: พุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 01 มิถุนายน 2553 20:39:13


(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/5/5f/Sermon_in_the_Deer_Park_depicted_at_Wat_Chedi_Liem-KayEss-1.jpeg/445px-Sermon_in_the_Deer_Park_depicted_at_Wat_Chedi_Liem-KayEss-1.jpeg)
ภาพวาดปฐมเทศนาในวัดเจดีย์เหลี่ยม จ.เชียงใหม่

พุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ 
รายงานโดย :แม่ชีศันสนีย์:
วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2553

เมื่อเกือบ 2,600 ปีที่ผ่านมา บุรุษหนึ่ง...
ได้ประกาศชัยชนะต่อกิเลสแทนมวลมนุษยชาติ โดยมหาบุรุษนั้นมีพระนามว่า
สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า

และเมื่อเกือบ 2,600 ปีให้หลัง จากการบวชเรียนเป็นเวลา 30 พรรษา
หนึ่งในรางวัลชีวิต บนเส้นทางธรรมที่ข้าพเจ้าได้รับก็คือ
การได้รับเชิญให้ไปร่วมงานสาธยายพระไตรปิฎกนานาชาติ ซึ่งเป็นครั้งแรก
ในประวัติศาสตร์ ของนักบวชหญิงชาวพุทธ
ที่ได้มีโอกาสแสดงธรรมใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นไม้แห่งการตรัสรู้
ณ เมืองพุทธคยา ประเทศอินเดีย 

ในค่ำคืนแห่งประวัติศาสตร์ที่มีชาวพุทธจากนานาชาติมาร่วมฟังการแสดงธรรม
ของพุทธสาวิกาแห่งพระพุทธองค์
ปรากฏความรื่นรมย์ยิ่งภายในใจ ด้วยว่าบรรดางานที่พระพุทธองค์ทรงนับเป็นพุทธประสงค์ที่สุด

คือการช่วยเหลือให้สรรพชีวิตทั้งหลายรอดพ้นจากความทุกข์ และในฐานะธิดาของพระผู้มีพระภาคเจ้า
ข้าพเจ้าจึงทำงานตามที่พระองค์ได้ทรงวางรากฐานไว้ว่า

การปฏิบัติบูชา...ถือเป็นการบูชาอันสูงสุด
และการช่วยคนให้รอดพ้นจากความทุกข์...ถือเป็นธรรมทายาท
จากวันแรกบวชถึงปัจจุบัน...ทุกงานของทุกวันได้บ่มเพาะให้ 30 พรรษานี้แตกหน่อและต่อยอด
เป็น สาวิกาสิกขาลัย และทำให้ข้าพเจ้าหมดสงสัย

ในการใช้ชีวิตที่เป็น ธิดา

ของพระผู้มีพระภาคเจ้า เช่นที่พระองค์ได้ตรัสไว้ว่า
ธิดาของเราเป็นผู้มีปัญญามาก ฉลาดในทาง
และมิใช่ทาง



(http://www.igetweb.com/www/meesara/news/78993.jpg)


การเดินทางอยู่บนหนทางที่ประกอบด้วยปัญญา ศีล สมาธิ หรืออริยมรรคมีองค์ 8 นั้น ทำให้ข้าพเจ้าอาจหาญโดยธรรม และสามารถพิสูจน์ได้ว่า ธรรมศักดิ์สิทธิ์จริงและเห็นผลจริง เมื่อเราใช้จริง...พร้อมทั้งประจักษ์แจ้งแก่ใจว่า ชีวิตที่สงบเย็นนั้นปฏิเสธซึ่งการเป็นประโยชน์มิได้ ขอขอบคุณประโยชน์อันมหาศาลที่ทำให้ข้าพเจ้าได้ประจักษ์ชัดว่า เมื่อใดพุทธสาวิกา หรือธิดาของพระผู้มีพระภาคเจ้าทำตามคำสอนแล้ว เมื่อนั้นย่อมหมดสงสัยอย่างสิ้นเชิง

และเมื่อชีวิตที่เหลือนี้ปราศจากความสงสัย ด้วยว่าประจักษ์แจ้งแก่ใจ...จึงไม่แสวงหาสิ่งที่ไม่ใช่ทาง เพราะรู้แล้วว่าอะไรคือหนทาง และจะเดินอยู่บนหนทางนี้อย่างสม่ำเสมอด้วยลมหายใจเข้าที่สงบเย็น และมีลมหายใจออกที่เป็นประโยชน์ ข้าพเจ้ามุ่งมั่นที่จะส่งเสริมคนให้เป็น “อริยชน” ผ่านการสนับสนุนการศึกษา สร้างให้รู้จักใช้ปัญญาในการดำเนินชีวิต เพื่อเปลี่ยนจาก “การเป็นทุกข์” สู่ “การเห็นทุกข์” และดำเนินชีวิตอย่างรู้ ตื่น และเบิกบาน ดังอริยสัจจากพระโอษฐ์ที่ว่า “การเป็นพระอริยเจ้าไม่ใช่สิ่งสุดวิสัย” อันเป็นพุทธประสงค์ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ณ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ในคืนวันที่ 8 ธ.ค. 2552 ทุกสิ่งที่ได้กล่าวไว้ ยังคงกระจ่างชัดขึ้นในความทรงจำ “ทางนั้นเป็นทางสายตรง ทิศนั้นไม่มีภัย รถที่ไร้เสียงประกอบด้วยล้อคือธรรม ความละอาย คือ หิริ เป็นฝาประทุน ความรู้สึกตัว คือ สติ เป็นเกราะของรถ สัมมาทิฏฐิ เป็นตัวนำดังสารถี ยานนี้มีแก่ใคร ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย เขาย่อมถึงนิพพานได้ด้วยยานนี้”



(http://gallery.palungjit.com/data/557/white_water_lily_pad.jpg)


และท่ามกลางสังฆสมาคมในวันนั้น ข้าพเจ้าได้ประกาศว่า ในอีก 3 ปีข้างหน้า เราจะมาร่วมกันเฉลิมฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ธรรมของพระบรมศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

และเพื่อเป็นการเตรียมการเฉลิมฉลอง 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ เสถียรธรรมสถานจึงใช้เวลาตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปี 2555 เตรียมการทำงานโดยใช้งานเป็นฐานแห่งการภาวนา พวกเรามองว่าเป้าหมายของงานก็คือการประสบสุขจากการทำงานที่ได้ลดตัวตน และเพราะตัวตนเล็ก งานจึงใหญ่ สมดังที่ “พ่อ” สอนไว้ว่า ศักยภาพของมนุษย์ที่จะต้องไปให้ถึงก็คือ การใช้โอกาสในการเกิดนี้เป็นการเกิดที่ไม่เกิดอีกแห่งทุกข์ การเกิดที่ไม่เกิดอีกแห่งทุกข์คือการเกิดที่ทำลายตัวตนลง

หลังจากนั้นครูบาอาจารย์และกัลยาณธรรมที่มาเยี่ยมเยียนชุมชนเสถียรธรรมสถานก็ได้มีการปรึกษาหารือถึงเรื่องนี้กันอย่างต่อเนื่อง โดยอาคันตุกะที่เข้ามาเยียมเยือนล่าสุด คือ พระอาจารย์ปานขาว (Panekhao Chasane Sakhone) พระภิกษุชาวลาว เจ้าอาวาสวัดโพธิญาณาราม เมืองตุดนง ประเทศฝรั่งเศส พระอาจารย์ทำงานร่วมกับพุทธสมาคมฝรั่งเศส หรือ UBF (Union Buddhist in France) ท่านเมตตาเล่าว่าเมื่อปีที่แล้วได้จัดงานวิสาขบูชาร่วมกับนักบวชพุทธนิกายต่างๆ ที่กรุงปารีส โดยการสนับสนุนของรัฐบาล ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง

และยังเมตตาถ่ายทอดให้ฟังว่า หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุซึ่งเป็นอาจารย์ของพระอาจารย์ ได้เคยกล่าวกับพระอาจารย์ไว้ว่า เมื่อหมดภาระในการออกมาช่วยโลกแล้ว ต่อไปก็ควรจะช่วยให้สตรีที่เป็นผู้นำทางศาสนาของนานาชาติ อาทิ เกาหลี ทิเบต จีน ญี่ปุ่น และไทย ไปรวมตัวกันที่ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเป็นการบอกว่าพุทธศาสนามิได้มีการกีดกั้นสตรีเพศ และสามารถร่วมงานกันได้ และขอให้ช่วยแม่ชีศันสนีย์และสตรีเท่าที่จะมีกำลังช่วยได้ เมื่อได้มาเยือนประเทศไทย พระอาจารย์จึงมาเยี่ยมเยียนเพื่อจะได้มีโอกาสร่วมงานกัน

และเมื่อพระอาจารย์ปานขาวได้ฟังเรื่องของการเฉลิมฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้ธรรมของสมเด็จพระบรมศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงได้เมตตากล่าวว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ขอให้ปี 2012 (พ.ศ. 2555) นี้ เป็นปีแห่งการฉลองปีของผู้หญิงในพุทธศาสนา และดำริกับข้าพเจ้าว่า เราควรเชิญผู้หญิงในศาสนาอื่นมาร่วมแสดงความยินดีด้วย โดยพุทธสมาคมฝรั่งเศสและยุโรปจะร่วมกันจัดงานฉลองวิสาขบูชาอีกครั้ง ในเดือนวิสาขะปี 2012 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

ไม่มีการจัดสรรใดศักดิ์สิทธิ์เท่าการจัดสรรของธรรมะอีกแล้ว
และก็ไม่มีอะไรจะรื่นรมย์เท่าการที่เหล่าพระสงฆ์ หรือเพื่อนผู้ร่วมเดินทางบนเส้นทางธรรม จะให้โอกาสผู้หญิงทำงานอย่างเต็มที่เช่นนี้



(http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:g7YjRRhjor0bLM:http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/91/1091/blog_entry1/blog/2009-06-18/comment/455950_images/111_1246023657.jpg)  : http://www.posttoday.com/lifestyle.php?id=84944 (http://www.posttoday.com/lifestyle.php?id=84944)
Pics by : Google
อกาลิโกโฮม * ใต้ร่มธรรมดอทเน็ต
อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ



หัวข้อ: Re: พุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 02 มิถุนายน 2553 02:03:58
สาธุ ๆ

เนื้อหาดี ๆ อีกแล้ว

แค่ขึ้นต้นก็ชวนติดตามแล้วครับ


อ้างถึง

เมื่อเกือบ 2,600 ปีที่ผ่านมา บุรุษหนึ่ง
ได้ประกาศชัยชนะต่อกิเลสแทนมวลมนุษยชาติ โดยมหาบุรุษนั้นมีพระนามว่า
สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า



ฝีไม้ลายปากกาท่านผู้แต่ง ยอดเยี่ยมจริงเชียว



หัวข้อ: Re: พุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2554 16:55:12
(http://www.seesod.com/storage35/NUJbJgS6u51286704197/o.jpg)




(:LOVE:)ออมีทอฝ่อ ออมีทอฝ่อ ออมีทอฝ่อ (:LOVE:)




หัวข้อ: Re: พุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 04 มีนาคม 2554 23:00:43
แปลว่าไรอ่ะครับจารย์

 (:???:) (:???:) (:???:)


หัวข้อ: Re: พุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 05 มีนาคม 2554 12:26:35


คำภาวนาสรรเสริญเจ้าแม่กวนอิมค่ะ น้องแม๊ค

อนุโมทนาสาธุค่ะ น้อง"บางครั้ง"



หัวข้อ: Re: พุทธชยันตี หมายความว่าอะไร?
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 03 มิถุนายน 2555 14:00:45


(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/cover/115299.jpg)

ขอนอบน้อมแด่.. พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า.. พระองค์นั้น...

พุทธชยันตี
หมายความว่าอะไร?
พุทธชยันตี โดยรากศัพท์ของคำว่าชยันตีมาจากคำว่า “ชย” คือชัยชนะ
อันหมายถึงชัยชนะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่มีต่อหมู่มารและกิเลสทั้งปวง
อย่างสิ้นเชิง อันทำให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้บังเกิดขึ้นในโลก

พุทธชยันตีจึงมีความหมายว่าเป็น การตรัสรู้ และ การบังเกิดขึ้น ของ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย ในปัจจุบันพุทธชยันตียังถูกตีความ ในความหมาย
ถึงชัยชนะของพุทธศาสนาและชาวพุทธด้วย เช่น การได้รับเอกราช
และมีสิทธิในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเป็นครั้งแรก ของชาวพุทธใน
ประเทศศรีลังกา การฉลองปีใหม่ชาวพุทธโดยไม่มีเหล้าสุรา ยาเสพติด
สิ่งมึนเมาทั่วทั้งประเทศศรีลังกา การเอาชนะสิ่งเลวร้ายในสังคมจนทำให้
ประเทศศรีลังกามีสถิติอาชญากรรมต่ำมากๆ

ที่มาและความสำคัญ
พุทธชยันตี (बुद्ध जयंती, Buddha Jayanti) เป็นชื่อเรียกงานเฉลิมฉลองหรือพิธีบูชา
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเนื่องในวาระแห่งการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งตรงกับ
วันวิสาขบูชาในประเทศไทยนั่นเอง พุทธชยันตีนี้เป็นที่รู้จักกันดีของชาวพุทธ
นานาชาติอย่างในประเทศศรีลังกา อินเดีย พม่า เป็นต้น โดยเฉพาะในช่วงการ
เฉลิมฉลองพุทธชยันตี ๒๕ พุทธศตวรรษ เมื่อปี พ.ศ.2500 (ถือกันว่าเป็นกึ่งพุทธกาล)

แต่สันนิษฐานว่ามีการเริ่มต้นงานเฉลิมฉลองพุทธชยันตีนี้ ภายหลังจากที่ประเทศศรีลังกา
ได้รับเอกราชจากประเทศอังกฤษในปี พ.ศ.2491 และจากการที่ ดร.อัมเบดการ์
(Dr.Babasaheb Bhimrao Ramji Ambedkar) ได้ฟื้นฟูพุทธสาสนาในประเทศอินเดีย
โดยมีการนำชาวอินเดียประมาณ 2 แสนคนปฏิญาณตนเป็นชาวพุทธ เมื่อ
วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2499 (อินเดีย ศรีลังกา นับเป็นพ.ศ.2500 เร็วกว่าไทย 1 ปี)

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองพุทธชยันตี 25 พุทธศตวรรษ นอกจากนี้รัฐบาลประเทศอินเดีย
ยังได้สร้างสวนสาธารณะพุทธชยันตีไว้ที่กรุงนิวเดลีเพื่อเป็นอนุสรณ์สำหรับวาระนี้ด้วย
สำหรับรัฐบาลไทย จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีได้ร่วมเฉลิมฉลอง
พุทธชยันตี 25 พุทธศตวรรษ ด้วยการสร้างพุทธมณฑลเป็นอนุสรณ์สถาน ประกาศ
ให้พุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ โดยกำหนดให้วันพระหรือวันธรรมสวนะ
เป็นวันหยุดราชการ (ประกาศสำนักคณะรัฐมนตรี ฉบับที่ 9 ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2499)

และมีการพิมพ์พระไตรปิฎกภาษาไทยครบชุดฉบับแรก เป็นต้น
สำหรับการเฉลิมฉลองในระดับนานาชาตินั้น รัฐบาลพม่าได้เป็นเจ้าภาพในการจัด
“ฉัฏฐสังคีติ” คือการสังคายนาพระไตรปิฎก
ระดับนานาชาติ โดยทางพม่านับเป็นการสังคายนาครั้งที่ 6
แล้วได้จัดพิมพ์ พระไตรปิฎกบาลี และคัมภีร์ทั้งหลาย ขึ้นเป็นจำนวนมาก

(http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQyVCULCEK21NG7HKDlKvuP83yQBgfrY7yqoZZrgdKP7DkU12hg)

สำหรับวาระสำคัญในปีปัจจุบันเนื่องในมหาธัมมาภิสมัย พุทธชยันตี 2,600 ปี
แห่งการตรัสรู้นั้น ถ้าถือตามหลักการคำนวณปีพุทธศักราชแบบไทยอยู่ในช่วงระหว่าง
วิสาขบูชา 2554 – วิสาขบูชา 2555 ทั้งนี้ ในวันวิสาขบูชา 2554 ที่ผ่านมานี้
(17 พ.ค.2554) เป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ครบ 2599 ปีเต็ม และเริ่ม
เข้าสู่ปีที่ 2,600 แห่งการตรัสรู้

โดยคำนวณจากการนำปีพุทธศักราชที่เริ่มนับหลังจากการปรินิพพาน บวก
ด้วย 45 อันเป็นจำนวนพรรษาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ดำเนินพุทธกิจ
ภายหลังการตรัสรู้จวบจนเสด็จดับขันธปรินิพพาน (สูตรการคำนวณ จำนวนปี
การตรัสรู้ = ปี พ.ศ. + 45 ) ดังนั้นในวันวิสาขบูชาปีพ.ศ.2555

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะตรัสรู้ครบ 2,600 ปีบริบูรณ์ ในประเทศต่างๆ ที่มีชาว
พุทธเข้มแข็งได้ประกาศให้มีการเฉลิมฉลองในวาระนี้เป็นเวลา 3 ปี
(2553-2555) ดังเช่นในประเทศศรีลังกา พม่า อินเดียเป็นต้น ได้มีการจัด
งานเฉลิมฉลองอย่างตื่นตัวและยิ่งใหญ่ ที่สำนักงานใหญ่แห่งองค์การ
สหประชาชาติ สหรัฐอเมริกา ก็มีการจัดงานฉลองใหญ่ในช่วงวันวิสาขบูชา

ที่ผ่านมา สำหรับประเทศไทย ได้มีการจัดงานในระดับภาคประชาชนกว่า 2 ปี
ที่ผ่านมาในวงจำกัด ส่วนในระดับรัฐบาล สมควรที่ รัฐบาลไทยจะประกาศ
ให้มีการเฉลิมฉลองใหญ่ตลอดปีพุทธศักราช 2555 นี้ อย่างเป็นทางการ
                                                      : paderm

(http://www.dhammahome.com/site/gallery/gif/00234d4/gal0020701046f1.gif)

ที่มืดก็แจ่มแจ้ง            ดุจแสงสุรีย์ฉาย
โง่งมก็ค่อยคลาย                  กมเลศสว่างพลัน
ข้ออรรถบรรยาย          อธิบายชยันติ์นั้น
ขอบคุณพระคุณอัน               อธิธรรมอรรถา
ตั้งจิตประพฤติธรรม์       มนมั่นจะบูชา
แด่องค์พระสัมมา                 วสถ้วนชยันตี

                          รจนาโดย.. สรณ์

(http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQZrBpvwUax9k4uct-TYUChq5WXPXyq-JvOUkUoNcxYWTmM0bZj)

เมื่อก้มลง กราบพระ  ฉันจะ ไม่อธิษฐาน
เพราะหนึ่งอึดใจ ที่ไม่ มีความต้องการ จิตใจช่างสะอาดสะอ้านเหลือเกิน

รจนาโดย.. อรุณวดี  อรุณมาศ

paderm http://www.dhammahome.com/front/webboard/show.php?id=20198



หัวข้อ: Re: พุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 03 มิถุนายน 2555 14:02:37


(http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQu2jpBghukShfU_edi7kLRosFut6CsZbBDvRiidZp1xYsWBj0V)

'พระพุทธชยันตี'องค์ดำ นาลันทา...พระผู้เป็นเลิศแห่งการเยียวยา
เมื่อครั้งพุทธกาล...หลังการตรัสรู้ในคืนวันเพ็ญเดือน ๖ วิสาขบูชานักขัตฤกษ์...พุทธกิจตลอด ๔๕ พรรษาขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เพื่อสร้างธรรมทายาท ให้เกิดพุทธสาวก พุทธสาวิกา ที่แตกฉาน และจะทำงานตามพุทธประสงค์ คือการพัฒนาชีวิตให้สงบเย็น และไม่ละเลยการเป็นประโยชน์อย่างกว้างขวาง เพื่อมวลมนุษยชาติอย่างไม่เลือกปฏิบัติ

บัดนี้พุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ของพระองค์พุทธศาสนิกชน กำลังทำอะไรกันอยู่...
นี่เป็นคำถามที่ชาวพุทธควรถามตัวเอง และหาคำตอบให้ได้...ก่อนที่จะสาย...เกินไป

พุทธศักราช ๒๕๕๕…ปีแห่งพุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า...ในค่ำคืนของ วันวิสาขบูชา นักขัตฤกษ์ ๔ มิถุนายน ๒๕๕๕ ขอเชิญปฏิบัติบูชาครั้งประวัติศาสตร์ สวดมนต์ข้าม ๒๖ ศตวรรษ พุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ ด้วยการร่วมสวดพุทธคุณ ๒,๖๐๐ จบ โดยมี พระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา เป็นประธาน เพื่อเฉลิมฉลองพุทธชยันตี พร้อมกับพุทธศาสนิกชนจาก ๕ ทวีป ๑๕ ประเทศทั่วโลก อย่างพร้อมเพรียงกัน ผ่านการถ่ายทอดสดจากท้องสนามหลวง กทม. และอีก ๗๖ จังหวัดทั่วประเทศไทย ณ สถานที่ที่แต่ละจังหวัดจัดไว้ ตั้งแต่เวลา ๒๓.๐๐ น. เป็นต้นไป

หลายคนอาจสงสัยว่า...พระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา คืออะไร...
ทำไมต้อง พระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา

ณ แดนพุทธภูมิ เมื่อกว่า ๑,๐๐๐ ปีผ่าน...พระพุทธรูปองค์ดำ นาลันทา พระเกตุทรงบัวตูม ปางนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ชี้แม่พระธรณีเป็นพยาน แกะสลักด้วยหินดำ หน้าตักกว้าง ๖๐ นิ้ว สูงนับจากพระเพลาถึงยอดพระเกตุ ๖๙ นิ้วฟุต ประดิษฐานอยู่ที่มหาวิทยาลัยนาลันทา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ในบันทึกของ "ปิลาซิง" กล่าวว่า สร้างเมื่อสมัยพระเจ้าเทวาปาล คือระหว่าง พ.ศ.๑๓๕๓-๑๓๙๓ ต่อมาเมื่อ พ.ศ.๑๗๖๖ พวกต่างศาสนาได้ใช้วิธีเผยแผ่ศาสนาโดยใช้กำลังอาวุธ ถ้าใครไม่นับถือศาสนาของตนจะต้องถูกทำร้าย โดยเฉพาะผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ถือว่าเป็นศัตรูตัวสำคัญ จะต้องถูกทำลาย ไม่ว่าจะเป็นคนหรือทรัพย์สมบัติในพระพุทธศาสนา

ในบันทึกของ "ท่านตารนาท" ธรรมสวามินปราชญ์ ได้เขียนไว้และเล่าต่อกันมาว่า เมื่อกองกำลังติดอาวุธบุกมาถึงมหาวิทยาลัยสงฆ์นาลันทา ทั้งพระนักศึกษาและพระคณาจารย์พร้อมด้วยชาวพุทธพากันไปหลบภัยอยู่หลังพระพุทธรูปองค์ดำ ด้วยอภินิหารแห่งพระพุทธรูปองค์ดำทำให้กองกำลังต่างศาสนาไม่สามารถมองเห็นชาวพุทธเหล่านั้นได้ เมื่อกองทัพต่างศาสนายกทัพกลับไปแล้ว ผู้ที่หลบซ่อนอยู่ก็พากันออกมาจากที่ซ่อน สำรวจข้าวของที่ยังหลงเหลืออยู่ รวบรวมเท่าที่จะหาได้เพื่อฟื้นฟูบูรณะ กระทั่งอังกฤษเข้ายึดครองอินเดีย มีบันทึกกล่าวไว้ว่า ชาวอังกฤษเข้าไปค้นหาปูชนียวัตถุ และได้พระพุทธรูปมากมายหลายองค์ จึงส่งเข้าไปรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ประเทศอังกฤษ และบูรณะมหาวิทยาลัยสงฆ์นาลันทา

พระพุทธรูปองค์ดำ นาลันทา เป็นพระพุทธรูปองค์เดียวเท่านั้น ที่เหลือรอดจากการถูกทำลายของต่างศาสนา และไม่ถูกอังกฤษยึดไป ทั้งยังเล่าต่อๆ กันมาว่า ทุกครั้งที่มีการโยกย้ายไปจากที่ที่ประดิษฐานเดิมก็มักเกิดเหตุอาเพทที่ไม่คาดฝันเสมอ เช่น ฝนตกอย่างหนักเกิดฟ้าผ่าอย่างรุนแรง เป็นต้น เป็นเหตุให้การโยกย้ายองค์พระไม่สำเร็จ และชาวบ้านจึงเป็นผู้ดูแลรักษาหลวงพ่อดำไว้ หากเกิดเจ็บป่วยก็จะนำน้ำมันมาลูบองค์พระแล้วอธิษฐานขอให้พระพุทธรูปองค์ดำรักษาโรคต่างๆ ก็เป็นมหัศจรรย์ว่า โรคต่างๆ ได้ถูกรักษาด้วยพลังความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระ

ณ แดนสุวรรณภูมิ ในปีพุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้...พระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา พระเกตุทรงบัวตูม ปางนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ชี้แม่พระธรณีเป็นพยาน แกะสลักจากหินแกรนิตสีดำบ่อเดียวกันจากทวีปแอฟริกา สร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ (พ.ศ.๒๕๕๕) หลังจากเป็นพระประธานในการสวดมนต์ข้าม ๒๖ ศตวรรษ จากท้องสนามหลวง จะอัญเชิญไปประดิษฐานที่ เสถียรธรรมสถาน เพื่อเป็นพระประธานของสาวิกาสิกขาลัย มหาวิชชาลัยธรรมะที่จัดการศึกษาเพื่อส่งเสริมการบรรลุธรรมและเยียวยาสังคม เพื่อสังคมที่อยู่เย็นเป็นสุข พ้นทุกข์ร่วมกัน

จากศรัทธา...สู่ศรัทธา...จาการเยียวยาคน...สู่การเยียวยาสังคม...จากพระพุทธรูปองค์ดำ ณ มหาวิทยาลัยนาลันทา...สู่พระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา…พระผู้เป็นเลิศแห่งการเยียวยา ณ สาวิกาสิกขาลัย

http://board.palungjit.com/newthread...newthread&f=36



หัวข้อ: Re: ปฏิบัติบูชาครั้งประวัติศาสตร์ สวดมนต์ข้าม ๒๖ ศตวรรษ
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 03 มิถุนายน 2555 14:04:25


(http://thainews.prd.go.th/news/pictures/hotnews/Hotnews-255505240164.jpg)

ปฏิบัติบูชาครั้งประวัติศาสตร์ สวดมนต์ข้าม ๒๖ ศตวรรษ

เสถียรธรรมสถาน ร่วมกับ สสส.อัญเชิญพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา (จำลอง)
จากอินเดีย ประดิษฐาน ณ สนามหลวง เฉลิมฉลองพุทธชยันตี 2600 ปี

เสถียรธรรมสถาน ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพอัญเชิญพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา (จำลอง) จากประเทศอินเดีย ประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ให้พุทธศาสนิกชนชาวไทยสักการะในโอกาสวันวิสาขบูชา เฉลิมฉลองพุทธชยันตี 2600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า

แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ผู้อำนวยการเสถียรธรรมสถาน พร้อมด้วย ศาสตราจารย์ นายแพทย์อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ที่ปรึกษาคณะกรรมการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมพิธีอัญเชิญพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทาองค์จำลอง จากเมืองนาลันทา ประเทศอินเดีย มาประดิษฐานเป็นประธานในงานสวดมนต์ข้าม 26 ศตวรรษ พุทธชยันตี 2600 ปี เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา ประจำปี 2555 ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อให้พุทธศาสนิกชนชาวไทยได้ร่วมสักการะบูชา เฉลิมฉลองในโอกาสพุทธชยันตี 2600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า และเพื่อให้ชาวพุทธปฏิบัติบูชาด้วยการสวดมนต์ สร้างสิริมงคลในการดำเนินชีวิต อย่างพร้อมเพรียงกัน

(http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcT7g4w9h-4joLcz-nGJhnOWbVqnXTjg1-dHzMGXGPUcusbDadC0)

โดยระหว่างการประกอบพิธีอัญเชิญพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทาองค์จำลอง
ได้เกิดพุทธานุภาพ พระอาทิตย์ทรงกลด
สร้างความปิติยินดี เสริมสร้างแรงศรัทธาแก่ผู้ที่เข้าร่วมพิธีเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับพระพุทธรูปองค์ดำนาลันทา ถือเป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะงดงาม พระเกตุทรงบัวตูม ปางนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ชี้แม่พระธรณีเป็นพยาน คนไทยนิยมเรียกว่า ปางมารวิชัย แกะสลักจากหินสีดำ นับเป็นพระพุทธรูปองค์เดียวที่รอดจากการถูกทำลาย มีอายุกว่า 1,000 ปี ทั้งนี้ พุทธศาสนิกชนสามารถเดินทางเข้าร่วมสักการะด้วยการปลูกต้นข้าว ถวายดอกไม้ และน้ำมัน บูชาพระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทาองค์จำลองได้ ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 4 มิถุนายน 2555

             (http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTApkGsii45paPNwobc6znyR0i1OVyMIUWH842xEVSOd-p_1bE6)

ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : มาลี ไชโย / สวท.   Rewriter : ชนิดา ศรีปัญญา / สวท.
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์  :http://thainews.prd.go.th




หัวข้อ: Re: พุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้
เริ่มหัวข้อโดย: Compatable ที่ 03 มิถุนายน 2555 19:51:29
เพิ่งสังเกตว่ากระทู้นี้ตั้งครั้งแรกยาวนานมาตั้งแต่ปี 2553  (o0!)


หัวข้อ: Re: พุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 04 มิถุนายน 2555 09:59:00


(http://www.oknation.net/blog/home/user_data/file_data/201206/02/44480ca44.jpg)

การจัดกิจกรรมฉลองพุทธชยันตี ๒๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้พระสัมมาสัมพุทธเจ้า 
ที่มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
และที่ตึกสหประชาชาติ ถ.ราชดำเนิน กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ ๓๑ พฤษภาคม - ๒ มิถุนายน ๒๕๕๕ นี้
มีผู้นำชาวพุทธทั้งในประเทศและจากต่างประเทศ กว่า ๘๔ ประเทศ
จำนวนกว่า ๕๐๐๐ คน มาร่วมการประชุม นับว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่
 และเป็นสิ่งที่น่าดีใจของคนไทย ที่ศูนย์กลางพระพุทธศาสนา อยู่ในประเทศไทย





หัวข้อ: Re: พุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 04 มิถุนายน 2555 10:01:39


เพิ่งสังเกตว่ากระทู้นี้ตั้งครั้งแรกยาวนานมาตั้งแต่ปี 2553  (o0!)

(http://free-webboard.net/board/ben14/q290a2.jpg)

 (:Y:)  (:Y:)  (:Y:)