[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ) => ข้อความที่เริ่มโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 12 มิถุนายน 2553 14:15:54



หัวข้อ: EARTH MONITOR ACTIVITIES
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 12 มิถุนายน 2553 14:15:54
[ โดยคุณ zz จากบอร์ดเก่า ]


EARTH MONITOR ACTIVITIES


1. Activity in Lake Toba Super Volcano :

Remote Sensing Satellites have pinpointed significant increases in magma hot spots welling up in the caldera of Lake Toba in Sumatra, Indonesia. Lake Toba is the site of a super volcano that last exploded 75,000 years ago, and its increasing magmatic activity is alarming in the run-up to 2012.

2. Island Researchers Warn of Galactic Alignment :

Volcanologists in the Mascarene Islands have confirmed what leading scientists have postulated for years: the Galactic Alignmentwhen the Suns meridian aligns in the center of the Milky Waywill catalyze catastrophic disruptions on Earth. The alignments drastic effect on Earths inner-molten core.

3. Scientists Observe Earths Dwindling Magnetism :

Physicists studying the Earths paleomagnetic record have estimated that our planets magnetic shield has been dwindling for 2,000 years and could reach a critical low point in 2012. When coupled with increased solar wind activity in 2012, the weakened magnetic shield could have numerous extraordinary consequences: in the best-case scenario there would be a sharp increase in auroral activity, the beautiful, bouncing display of lights caused by solar particles following magnetic field lines into Earths atmosphere.

4. Nearly 300 Tremors Recorded in Yellow Stone :

Geophysicists have recorded an intense surge in seismic activity in the volcanic and tectonic areas of Yellow Stone National Park. The majority of the park sits in a caldera, which was formed when a massive super volcano erupted 70,000 years ago. Though park scientists could notor would notidentify the significance of the tremors, they sees this seismic hyper-activity as a clear portent of the cataclysms to come in 2012.

5. Operation Safe Heaven to Launch Venture Fund :

Operation Safe Haven is set to launch a venture fund to give global financiers the option of investing in its colonization and escape technologies. In lieu of the global financial meltdown, philanthropic giving to Operation Safe Haven has reduced dramatically. Believes in creating a formal fund will spur equitable investment in--and streamline development of--OSHs leading-edge survival technologies.


http://www.nettby.no/community/article.php?id=2154656&community_id=486609 (http://www.nettby.no/community/article.php?id=2154656&community_id=486609)




โทบา (Lake Toba) ที่สุดแห่งทะเลสาบบนปากปล่องภูเขาไฟ

โดย บัวอื่น

          ทะเลสาบโทบา (Lake Toba)  ณ เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เป็นทะเลสาบที่เกิดในบริเวณปากปล่องภูเขาไฟ กล่าวได้ว่าเป็น Caldora ที่ใหญ่ที่สุดในโลก  (largest volcanic lake in the world) เสห่น์ของทะเลสาบโทบาอยู่ที่ความเป็นธรรมชาติที่ยังสะอาด อากาศสดชื่นบริสุทธิ์ถูกรายล้อมด้วยสีเขียวชะอุ่มของพันธุ์ไม้ที่ขึ้นปกคลุม สร้างความรู้สึกได้ถึงความเป็นชนบทของวิถีชีวิตท้องถิ่น ความสวยงามของทะเลสาบสีฟ้าอมเขียวที่กลายร่างมาจากภูเขาไฟที่เคยน่าสะพรึงกลัวมาก่อน 


(http://www.vcharkarn.com/uploads/152/153006.jpg)


ภาพ : Lake Toba - view of the crater lake.


Photographers A.M. & K.D.Hollitzer. Copyright 1996.


          ทะเลสาบโทบา อยู่ทางทิศใต้ของเมืองเมดาน (Medan) ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ของสุมาตราเหนือ เป็นศูนย์กลางทางการค้าและท่าเรือที่สำคัญ ราว 160 กิโลเมตร ทะเลสาบแห่งนี้ มีเกาะขนาดใหญ่ ชื่อซาโมซีร์ (Samosir)อยู่ตรงกลางทะเลสาบ และมี Parapat เป็นเมืองท่องเที่ยวริมชายฝั่ง 


(http://www.vcharkarn.com/uploads/152/153007.jpg)


ภาพ : ที่ตั้ง ทะเลสาบโทบา (Lake Toba) 


ทะเลสาบโทบา เกิดจากการระเบิดแบบซูเปอร์ภูเขาไฟ (supervolcano)


          การระเบิดของซูเปอร์ภูเขาไฟ (supervolcano) นั้นแตกต่างจากการระเบิดของภูเขาไฟทั่วไป แน่นอนว่ามันรุนแรงมากกว่าแรงระเบิดของภูเขาไฟธรรมดาหลายร้อยเท่า พ่นเถ้าถ่าน และก๊าซพิษจำนวนมหาศาลขึ้นไปปกคลุมในชั้นบรรยากาศ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลกครั้งใหญ่


          ภูเขาไฟโดยทั่วไปจะมีลักษณะเป็นปล่องภูเขาไฟ การระเบิดจะเกิดจากการสะสมของหินละลาย (Magma)ใต้เปลือกโลก จำนวนมากและถูกแรงดันมหาศาลภายในโลกผลักดันให้ปะทุออกมาบนผิวโลก แต่สำหรับ Supervolcanoe นั้นมันซ่อนตัวอยู่ลึกใต้พื้นดินจึงทำให้ยากต่อการตรวจพบ แทนที่หินละลายเหล่านี้จะระเบิดออกมาที่ผิวโลก หินละลาย(Magma) เหล่านี้กลับสะสมกันก่อนเป็นเวลาหลายพันปีจนเกิดเป็นบ่อหินละลายขนาดยักษ์ (Magma chamber) ทับถมกันจนหนาหลายสิบกิโลเมตรอยู่ลึกลงไปใต้พื้นโลก  ระหว่างนั้นมันจะดูดซับเอาก๊าซต่างๆ เช่น ก๊าซซัลเฟอร์ไดอ๊อกไซด์ และ คารบอนไดอ๊อกไซด์ไว้  เมื่อสะสมนานนับพันปีก็จะเกิดแรงดันมหาศาล และในที่สุดก็เพียงพอที่จะถึงกาลปะทุอออกมาเหนือผิวโลกอย่างรุนแรง เถ้าถ่านภูเขาไฟจากการระเบิดจะขึ้นไปปกคลุมบรรยากาศ ก๊าซจำพวกซัลเฟอร์ไดออกไซด์จะสะท้อนแสงอาทิตย์ไม่ให้ตกลงมาสู่พื้นโลกได้ เต็มที่ ทำให้อุณหภมิโลกลดลงอย่างรวดเร็ว เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่าฤดูหนาวนิวเคลียร์ ( nuclear winter )


(http://www.vcharkarn.com/uploads/152/153008.jpg)


ภาพ : ความแตกต่างของการระเบิดของภูเขาไฟธรรมดาและ Supervocano
ที่มา : www.vcharkarn.com (http://www.vcharkarn.com)


          และลาวาที่ทะลักออกมาด้วยความเร็วสูง และหมดไปอย่างรวดเร็ว การยุบตัวลงของโครงสร้างด้านในของแหล่ง Magma ในก้นหลุม (Magma chamber) ทำให้เปลือกโลกที่อยู่ข้างบนยุบตัวลงไป เกิดเป็นหลุมขนาดยักษ์ ซึ่งนักธรณีวิทยาเรียกหลุมที่เกิดจากการระเบิดของ Supervolcanoes ว่า Caldora และเมื่อเกิดการระเบิดครั้งต่อๆมา ก็จะทำให้บริเวณด้านข้างภูเขาไฟยิ่งยุบตัว เมื่อมีฝนตกลงมาสายน้ำก็จะถูกกักขังไว้ในแอ่ง เมื่อเวลาผ่านไปจึงกลายเป็นทะเลสาบบนปากปล่องภูเขาไฟ (Crater Lake) โดยลักษณะของ Caldera volcano จะมีลักษณะปากหลุมกว้างใหญ่เป็นวงกลม หรือเป็นหลุมแอ่งกระทะ


(http://www.vcharkarn.com/uploads/152/153009.jpg)


ภาพ : การเกิด Magma chamber และการเปลี่ยนแปลง
ที่มา : www.vcharkarn.com (http://www.vcharkarn.com)


          นักธรณีวิทยาพบว่าการเกิด Supervolcanoes มักจะเกิดในบริเวณที่เรียกว่า Subduction zone ซึ่งเป็นบริเวณที่แผ่นเปลือกโลกภาคพื้นมหาสมุทรกับแผ่นเปลือกโลกภาคพื้นทวีปเคลื่อนที่เข้าชนกัน แผ่นเปลือกโลกภาคพื้นมหาสมุทรที่บางและมีความหนาแน่นสูงกว่าจะมุดตัวลงไปใต้แผ่นเปลือกโลกภาคพื้นทวีปที่หนาและความหนาแน่นน้อยกว่าเช่น บริเวณชายฝังแปซิฟิกของสหรัฐอเมริกา และ บริเวณประเทศอินโดนิเชียเป็นต้น


(http://www.vcharkarn.com/uploads/152/153010.jpg)


ภาพ : ของภูเขาไฟโทบา จะเห็นว่าพื้นดินนั้นยุบตัวลงไป


และมียอดแหลมๆ ตรงกลางหลงเหลืออยู่ ที่มา : www.seanet.com (http://www.seanet.com)


(http://www.vcharkarn.com/uploads/152/153013.jpg)


ภาพ : caldera of Kaguyak volcano


(http://www.vcharkarn.com/uploads/152/153019.jpg)


ภาพ : Aerial photo of the crater lake in Katmai NationalPark and Preserve, Alaska.


          Lake Toba หรือที่รู้จักกันอีกชื่อตามภาษาบาตักเรียกว่า Danau Toba นักธรณีวิทยาประมาณกันว่าทะเลสาบโทบา เกิดภายหลังจากการระเบิดแบบซูเปอร์ภูเขาไฟ (supervolcano) เมื่อ 74,000 ปีมาแล้ว นับว่าเป็นเหตุการณ์ “perfect horror” เพราะมันทั้งอบอวลไปด้วยรุนแรงและยิ่งใหญ่น่าสะพรึ่งกลัว นักธรณีวิทยากำหนดค่าชี้วัดระดับความรุนแรงของการระเบิดของภูเขาไฟเป็นระดับ เรียกว่า Volcano Explosivity Index (VEI) เป็นสเกลตั้งแต่ 0-8 คือ จากไม่มีการระเบิดเลยจนถึงระดับการทำลายล้างสูงสุด แน่นอนว่า การระเบิดของภูเขาไฟโทบาได้ถูกจัดไว้ที่ระดับ 8 (described as "mega-colossal") จากการเกิดระเบิดใกล้กับเส้นศูนย์สูตรจึงทำให้เถ้าภูเขาไฟ และก๊าซกระจายไปยังซีกโลกเหนือและใต้อย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดมลภาวะทางอากาศ เชื่อกันว่าการระเบิดครั้งนั้นมีแรงดันมหาศาลทำให้ลาวาพุ่งไปไกลถึงภาคใต้ของประเทศอินเดีย คิดเป็นระยะทางกว่า 3,000 กิโลเมตร และกว่าจะพ่นลาวาออกมาจนกว่าจะมอดไปต้องใช้เวลานาน 6 ปี อีกทั้งยังทำให้เกิดการเปลี่ยนสภาพภูมิอากาศของโลกตามมา เมื่อศึกษาหลักฐานจากชั้นหินใต้มหาสมุทรอินเดีย และแท่งน้ำแข็งจึงทำให้รู้ว่า จากการระเบิดในครั้งนั้น ได้ทำให้สภาพภูมิอากาศของโลกลดลง 3-3.5 degrees Celsius เกิดฤดูหนาวภูเขาไฟอย่างน้อย 6 ปี ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อย่างรุนแรงพืชและสัตว์มากมาเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์  มีการสันนิษฐานของนักวิทยาศาสตร์ที่ว่า การระเบิดของภูเขาไฟโทบาทำให้โลกเข้าสู่ยุคน้ำแข็ง


          ปริมาณของเถ้าถ่านภูเขาไฟที่ โทบาปล่อยออกมา คิดเป็นประมาณ 2800 ลูกบาศก์กิโลเมตร(2800 cubic km)  เทียบกับ Supervolcanoes ของ Yellowstone ซึ่งปะทุขึ้นเมือ 2 ล้านปีมาแล้ว นั้นปล่อยเถ้าถ่านออกมา 2500 ลูกบาศก์กิโลเมตร (2500 cubic km) จากหลักฐานที่มีอยู่ จึงเชื่อกันว่าโทบา คือการระเบิดครั้งที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยขึ้นมาในโลก


(http://www.vcharkarn.com/uploads/152/153020.jpg)


          เมื่อภูเขาไฟระเบิดจึงทำให้กรวยภูเขาไฟพังทลายลง เกิดเป็นแอ่งภูเขาขนาดใหญ่  และเมื่อผ่านการระเบิดมาอย่างยาวนาน จึงทำให้ปากปล่องขยายทั้งทางกว้างและลึกขึ้นเรื่อยๆ หินเหลวและก๊าซต่างๆที่สะสมอยู่ใน Magma chamber  เมื่อถูกพ่นออกมาจนหมด ภายในก็จะกลายเป็นพื้นที่ว่างขนาดใหญ่และแผ่นดินเบื้องบนก็จะยุบตัวลงเข้าไปแทนที่พื้นที่ว่างดังกล่าว จนเกิดเป็นแอ่งขนาดใหญ่รองน้ำฝนที่ตกลงมาจนกลายเป็นทะเลปากปล่องภูเขาไฟ (Volcano crater) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีเนื้อที่ 1,645 ตารางกิโลเมตร อยู่สูง 906 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีความยาวยาวของทะเลสาบกว่า 1๐๐ กิโลเมตร กว้าง 30 กิโลเมตร) มีความลึกเฉลี่ย 450 เมตร จุดที่ลึกที่สุด มีความลึกที่สุดถึง 505 เมตร จากการระเบิดของภูเขาไฟได้ทำให้เกิดทัศนียภาพของหน้าผาสูงถึง 500 เมตร กลางทะเลสาบจะมี samosir island  และมีทะเลสาบขนาดย่อมอยู่บนเกาะ samosir อีกต่อหนึ่ง


(http://www.vcharkarn.com/uploads/152/153015.jpg)


ภาพ : Lake Toba (Images courtesy of Google Earth)


ชนเผ่าบาตัก (Bataks)


          ประชากรที่อาศัยอยู่รอบๆทะเลสาบ และบนเกาะซาโมเซอร์คือชนเผ่าบาตัก (Bataks)


(http://www.vcharkarn.com/uploads/152/153017.jpg)


ภาพ : Batak Toba
ที่มา : www.flickr.com (http://www.flickr.com)


          ชาวบาตักเองมีหลายเผ่า เช่น บาตัก  เปซิเซอร์, บาตัก ไสมาลุงกุน, บาตัก มันไดลิ่ง, บาตัก ปากพัก, ฯลฯ สำหรับเผ่าที่อยู่บนเกาะซาโมเซอร์เป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด เรียกชื่อตามชื่อของทะเลสาบว่า  “บาตัก โทบา (Batak Toba)” ในอดีตชาวบาตักมีความเชื่อบูชาธรรมชาติ และอินโดนีเซียก็ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีประชากรถือศาสนาอิสลามมากที่สุดในโลก  แต่เมื่อชาวดัชท์ยึดครองอินโดนีเซียเป็นอาณานิคม มิชชั่นนารีตะวันตกจะเข้ามาเผยแพร่คริสต์ศาสนา ทำให้ภายหลังชาวบาตักบนเกาะซาโมเซอร์ส่วนมาก เปลี่ยนจากความเชื่อดั้งเดิมมานับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแต้นท์และโรมัน คาทอลิก แต่ก็ยังแฝงไปด้วยการนับถือภูตผี และความเชื่อบูชาธรรมชาติอยู่ด้วย


          เอกลักษณ์ของชาวบาตักที่เห็นได้ทั่วไปนั้นก็คือ การออกแบบหลังคามีลักษณะสูง รูปร่างคล้ายเรือ สีดั้งเดิมจะเป็นสีแดง ดำ ขาว 


(http://www.vcharkarn.com/uploads/152/153018.jpg)


ภาพ : Batak houses on Lake Toba, Sumatra
ที่มา : www.pbase.com (http://www.pbase.com)


          สำหรับอาชีพของชาบาตักนั้น จะให้ความสำคัญไปทางการประมง ด้วยสภาพภูมิประเทศในบางส่วนจะมีความลาดชันจึงไม่เอื้อต่อการเพาะปลูกนัก การปลูกข้าวก็พอมีแค่เพียงพอต่อการบริโภคเท่านั้น แต่ด้วยความที่เป็นดินแดนภูเขาไฟมาก่อนดินจึงมีความสมบูรณ์เพาะปลูกได้ผลดี และอีกหนึ่งรายได้หลักย่อมหนีไม่พ้นรายได้จากการท่องเที่ยว


          สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่หลายคนเฝ้าฝันอยากไปยืนสูดอากาศบริสุทธิ์ พลางสัมผัสกับเสน่ห์ความงามของดินแดนภูเขาไฟแห่งนี้ และหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งอยู่ในลิสต์ของนักเดินทางย่อมหนีไม่พ้น ทะเลสาบโทบา


ข้อมูลอ้างอิง

ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟ ; วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
แทมโบร่า...อภิมหาภูเขาไฟในรอบหมื่นปี ; วิรุฬหกกลับ
Lake Toba  ;  Wikipedia, the free encyclopedia
แนวแผ่นเปลือกโลกลู่เข้าหากัน (Convergent Plate Boundaries) ; วิชาการธรณีไทย
Volcanoes : สำรวจภูเขาไฟ ; www.sunflowercosmos.org (http://www.sunflowercosmos.org)
Toba, Sumatra, Indonesia ; www. volcano.oregonstate.edu
The Lake Toba Super Volcano Eruption  ; Administrator   

http://www.vcharkarn.com/varticle/38880 (http://www.vcharkarn.com/varticle/38880)





Proof of Wormwood, Planet X´s Existence
- Norge


NEW WORLD ORDER LINKS TO PLANET X, WORMWOOD AND 2012
Torsdag 22. januar 2009, 15:12, lest 714 - hellwege 28
ARTICLE UPDATED : 02.03.2009

Firstly, Wormwood, Planet X, was discovered by Nasa in 1983.

It was published a small article in The Washington Post, this was actually the THE MOST REVERED HEAVENLY BODY IN ALL ANTIQUITY. What worried them, was the enormous ammount of heat the signature of the object had, and there was speculation that it was heading directly toward earth.

"It's not incoming mail," Cal Tech's Neugebauer said. "I want to douse that idea with as much cold water as I can.

The article was shortly thereafter withdrawn from the publics eyes, and has still been kept shut about by Nasa officialls.

Source : http://www.planet-x.150m.com/washpost.html (http://www.planet-x.150m.com/washpost.html)

PEOPLE ARE POSTING AND CONFIRMING CHEMTRAIL USE WORLDWIDE

These are obviously made to fog up the horizontal view of
Wormwood \ Planet X. Often before or after sunset.
By may 2009, most of us here in Norway will be able to see it, if not already.

Source Part 1 : YouTube - Broadcast Yourself. (http://www.youtube.com/watch?v=-KCXRGpWOXM&feature=channel_page#)
Source Part 2 : Chemtrails...Project obscuration planet "X" exposed part 2 (http://www.youtube.com/watch?v=yULIX9tKn80#normal)
Source Part 3 : Nibiru / Planet X Picture - REAL (http://www.youtube.com/watch?v=0joYNtxSf5I&feature=related#normal)

There is also alot of disinfo going on and around as we speak. concerning anomalies
on WWT. google earth and wikisky.

The eye opener was that all three programs did indeed show a censured area in ALL three apps, keeping us occupied with "anomalies" just to confuse and trick us too look at something completely of target, is exactly OFFTARGET.

Source : What are Wikisky, Google sky and WWT hiding? Part 2 (http://www.youtube.com/watch?v=3IpShX66_h0&feature=channel_page#normal)

"Insiders from NASA, DoD national military intelligence, SETI, and the CIA speculate 2/3 of the population of the planet could perish during the coming pole-shift caused by the passage of Planet X. Another 2/3 of those that survive initially could pass away to starvation and exposure to the elements within 6 months. Most every secretive government agency in the USA is fully aware of what is expected and are readying themselves. The Vatican is fully abreast of what is expected. The public is not being warned and given their chance to prepare"

"The volume of leaks from insiders, observatories, and the Vatican is bursting the dam of this disclosure wide open. The most important story on earth in over 3000 years is fast breaking loose from being held back by the controllers of the financial markets and major media for fear of panic and financial collapse"

Having that said, we really need to be on alert for
The next three years or so will obviously be tough. And with global warming on top of that, we see alot of other planets in our system that seems to have heated up aswell. This may or not be the logic cause of the large magnetic field around Wormwood, pulling stars and astroids with it, in its way.

X's MASS, HIGH-PLASMA-CHARGED MAGNETISM, and DENSITY is such that it DISRUPTS the surface of EVERY PLANET IT PASSES. In fact, history shows a few YEARS PRIOR to its passage that its far reaching electromagnetic influence changes Earth's core flows, TRIGGERING MAJOR WEATHER CHANGES.

Here are three crucial scenarios that we need to be aware of when 2012 approaches :

1 : Solar activity :

Every second of every day massive amounts of solar radiation slam into Earth. Without the energy radiated by the Sun, life on Earth would be impossible. This is not always a bad thing. Climate systems, ecosystems, and hydrologic systems - all are dependent upon solar radiation. And luckily, the Earths atmosphere and magnetic field shields us from excessive radiation, letting just the right amount through so that Earth can stay in balance.
Until now.

As 2012 approaches, two factors increase the probability that solar radiation will cause
the cataclysmic end of life on Earth : increased solar activity and the corresponding rise in solar radiation to catastrophic levels: and the depletion of the Earths magnetic field.

2 : Crustal Displacement :

Think of Earth like a giant onion, covered by several layers of skin. The outer layer of Earth, called the lithosphere,
includes the continents and ocean basins. This is the Earths crust.

Under normal conditions the crust stays in place. There are disturbances, like earthquakes, but the intire skin basically stays wrapped in place around the planet, allowing for the development of stable ecosystems and flourishing of life.

But in 2012 that will change. Scientists predict that two extraordinary and cataclysmic forces will set off crustal displacement : the gravitational pull caused by the Galactic Alignment and the corresponding rise in solar radiation.

3 : Planet X :

A large, mysterious celestial body of the fringes of our solar system: named "Planet X" by scientists that first observed trace evidence of it in the 1980s, the enigmatic object has ever since been wrapped in myth and conspiracy theories as reputable astronomers questioned its existence.

Scientists and astronomers has monitored the science and mythology accosiated with Planet X, but recent data collected by astronomers and astrophycisists, and mathematicians points to an incontestable conclusion: Planet X exists and will interact with our Solar System in catastrophic ways in 2012.

Cultural and Historical Analysis \ Mayan and Native American

NEWS: IHC anthropologist Dr. Joshua H. Corrigan, PhD, reports on his team's remarkable discovery of a 5th Mayan Codex.

The Mayan codices are the Holy Grail of pre-Columbian Mayan research. These folding books are the primary written records of Mayan civilization. They feature a sophisticated system of hieroglyphics inscribed upon Mesoamerican paper known as huun. Currently, Mayanists universally recognize three authentic codices, named after the cities in which they are kept. These are the Dresden Codex, the Madrid Codex, and the Paris Codex. A fourth codex, the Grolier Codex, has a disputed provenance, although some Mayanists believe it to be genuine. Mayanists, including those from the IHC, consider the Dresden Codex to be the most scientifically important, as it contains extremely accurate astrological tables and agricultural almanacs.

http://www.members.shaw.ca/mjfinley/codex.htmlhttp://rohrabacher.house.gov/News/DocumentSingle.aspx?DocumentID=98633 (http://www.members.shaw.ca/mjfinley/codex.htmlhttp://rohrabacher.house.gov/News/DocumentSingle.aspx?DocumentID=98633) "

Leaks!

After some extensive digging, I managed to find some .gov leaks on Wormwood \ Planet X :

Source 1 : http://www.ips.gov.au/IPSHosted/neo/index.html (http://www.ips.gov.au/IPSHosted/neo/index.html)

Source 2 : http://www.ips.gov.au/IPSHosted/neo/img/wormwood/2003wx153.htm (http://www.ips.gov.au/IPSHosted/neo/img/wormwood/2003wx153.htm)

US CONGRESS NEWS :

"Would like to commend Dana Rohrbacher (R CA) for introducing to Congress HR 4917, the NEO Preparedness Act, which if passed would establish an Office of Potentially Hazardous Near-Earth Object Preparedness. As Congressman Rohrbacher has acknowledged, NEOs range in size from small dust particles to near planet sized behemoths. As Planet X approaches our galaxy, its gravitational pull will interact with these NEOs in potentially disastrous ways for our planet. Read the congressmans Press Release on his website here:
http://rohrabacher.house.gov/News/DocumentSingle.aspx?DocumentID=98633 (http://rohrabacher.house.gov/News/DocumentSingle.aspx?DocumentID=98633)

I would also like to mention that one of our own politicians here in Norway has gone publically with this article :

http://www.vgb.no/31881/perma/380296 (http://www.vgb.no/31881/perma/380296)

Pulling in names like The Svaldbard Global Seed Vault, with money booster Bill Gates and the Bilderberg accociation, Rockefeller Foundation to mention a few.

INTERESTING OBJECTS :

OROT-Exo-3b is an uncategorized celestial object detected by the French-led COROT mission. It appears to be something between a brown dwarf, a sub-stellar object without nuclear fusion at its core but with some stellar characteristics, and a planet. Its radius is too small for it to be a super-planet. If it is a star, it would be among the smallest ever detected. Follow-up observations have pinned it at 20 Jupiter masses. This makes it twice as dense as the metal Platinum. It takes only 4 days and 6 hours to orbit its parent star, which is slightly larger than the Sun.

Scientists suspect that with the detection of COROT-exo-3b, they may have discovered the missing link between stars and planets.

What missing link are they refering to ?

http://smsc.cnes.fr/IcCOROT/results/2008-10-06/Corot-Exo-3bp.jpg (http://smsc.cnes.fr/IcCOROT/results/2008-10-06/Corot-Exo-3bp.jpg)

G1.9+0.3 is "Located about 25,000 light years from Earth, G1.9+0.3 was first identified as a SNR in 1985 as a radio source inside our galaxy by astronomers using the VLA. In 2007, images of it were made using the Chandra X-Ray observatory, and compared with the 1985 images. The differences in size allowed astronomers to calculate when the supernova exploded, sometime around 1868 C.E (relative to Earth-time). In 2008, observations by the VLA confirmed that G1.9+0.3 was "expanding" "(Incoming)" rapidly, and is calculated to be doing so at about 56 million km/h / 35 million mph, or about 5% the speed of light.

The supernova was not observed visually by astronomers at the time of explosion, because it is located near the centre of the galaxy, and is obscured by dust clouds. It is only since the advent of radio astronomy and X-ray astronomy that astronomers have been able to penetrate the dust clouds.

In the days leading up to the announcement, NASA would only hint that they were going "to announce the discovery of an object in our Galaxy astronomers have been hunting for more than 50 years."[

Coordinates for WWT : RA : 17h48m45s DEC : -27:10

Picture taken after object is added with coordinates :

http://img3.nettby.no/communities/n/i/b/nibiru/photos/Nibiru.jpg (http://img3.nettby.no/communities/n/i/b/nibiru/photos/Nibiru.jpg) ?

Obviously need to punch in the correct coordinates, and so it will be added to your discovery notification bar in WWT.Picture taken as far zoomed in as necessary, where you normaly can see it clearly after the discovery off the added object :

http://img3.nettby.no/communities/n/i/b/nibiru/photos/hmmm3.jpg (http://img3.nettby.no/communities/n/i/b/nibiru/photos/hmmm3.jpg)

Zoom into G1.9+0.3

High Res : http://chandra.harvard.edu/photo/2008/g19/g19_Zoom_lg_web.mpg (http://chandra.harvard.edu/photo/2008/g19/g19_Zoom_lg_web.mpg)

Low Res : http://chandra.harvard.edu/photo/2008/g19/g19_Zoom_sm_web.mpg (http://chandra.harvard.edu/photo/2008/g19/g19_Zoom_sm_web.mpg)

Comparison of X-ray and Radio Images

High Res : http://chandra.harvard.edu/photo/2008/g19/g19_Blink_lg_web.mpg (http://chandra.harvard.edu/photo/2008/g19/g19_Blink_lg_web.mpg)


EARTH MONITOR ACTIVITIES :

1. Activity in Lake Toba Super Volcano :

Remote Sensing Satellites have pinpointed significant increases in magma hot spots welling up in the caldera of Lake Toba in Sumatra, Indonesia. Lake Toba is the site of a super volcano that last exploded 75,000 years ago, and its increasing magmatic activity is alarming in the run-up to 2012.

2. Island Researchers Warn of Galactic Alignment :

Volcanologists in the Mascarene Islands have confirmed what leading scientists have postulated for years: the Galactic Alignmentwhen the Suns meridian aligns in the center of the Milky Waywill catalyze catastrophic disruptions on Earth. The alignments drastic effect on Earths inner-molten core.

3. Scientists Observe Earths Dwindling Magnetism :

Physicists studying the Earths paleomagnetic record have estimated that our planets magnetic shield has been dwindling for 2,000 years and could reach a critical low point in 2012. When coupled with increased solar wind activity in 2012, the weakened magnetic shield could have numerous extraordinary consequences: in the best-case scenario there would be a sharp increase in auroral activity, the beautiful, bouncing display of lights caused by solar particles following magnetic field lines into Earths atmosphere.

4. Nearly 300 Tremors Recorded in Yellow Stone :

Geophysicists have recorded an intense surge in seismic activity in the volcanic and tectonic areas of Yellow Stone National Park. The majority of the park sits in a caldera, which was formed when a massive super volcano erupted 70,000 years ago. Though park scientists could notor would notidentify the significance of the tremors, they sees this seismic hyper-activity as a clear portent of the cataclysms to come in 2012.

5. Operation Safe Heaven to Launch Venture Fund :

Operation Safe Haven is set to launch a venture fund to give global financiers the option of investing in its colonization and escape technologies. In lieu of the global financial meltdown, philanthropic giving to Operation Safe Haven has reduced dramatically. Believes in creating a formal fund will spur equitable investment in--and streamline development of--OSHs leading-edge survival technologies.

Planet X in Bible Prophecy :

Planet X / Nibiru Found
The Book of Revelation is revealing when it's coming, and where to be safe.
Wormwood is mentioned in The Book of Revelation for those of you interested.

"The third angel sounded his trumpet,
and a great star, blazing like a torch,
fell from the sky on a third of the rivers
and on the springs of water
- the name of the star is Wormwood."
Revelation 8:10-11.

"Invest in truth and wisdom, discipline and good sense & and don't part with them."

WEB LINKS TO PLANETARY DEFENCE AND SPACE DEBRIS SITES
(Note that the American spelling of "Defence" is "Defense")

PLANETARY DEFENCE
The paper by Major Lindley N. Johnson in which the term "Planetary Defense" was first coined (1993):
Preparing for Planetary Defense: Detection and Interception of Asteroids on Collision Course with Earth (2.8MB Word Document)

http://www.au.af.mil/Spacecast/app-r/app-r.doc (http://www.au.af.mil/Spacecast/app-r/app-r.doc)

Proceedings of the Planetary Defense Workshop held at the Lawrence Livermore National Laboratory in California in 1995 may be found at:
www.llnl.gov/planetary/ (http://www.llnl.gov/planetary/)

An interesting research paper presented to the USAF (1996) on planetary defense is located at:
Planetary Defense: Catastrophic Health Insurance for Planet Earth

http://www.au.af.mil/au/2025/volume3/chap16/v3c16-1.htm (http://www.au.af.mil/au/2025/volume3/chap16/v3c16-1.htm)

From the Federation of American Scientists web site:
Another version of Major Johnson's paper to Spacecast 2020

http://www.fas.org/spp/military/docops/usaf/2020/app-r.htm (http://www.fas.org/spp/military/docops/usaf/2020/app-r.htm)

From the Aerospace Power Journal - Summer 1997:
Planetary Defense: Department of Defense Cost for the Detection, Exploration and Rendezvous Mission of Near-Earth Onbjects

http://www.airpower.maxwell.af.mil/airchronicles/apj/sum97/nici.html (http://www.airpower.maxwell.af.mil/airchronicles/apj/sum97/nici.html)

A Policy Position Paper on NEO protection from the American Insitute of Aeronautics and Astronautics (2004):
Protecting Earth from Asteroids and Comets (160KB pdf file)

http://pdf.aiaa.org/downloads/publicpolicypositionpapers/Asteroids-Final.pdf (http://pdf.aiaa.org/downloads/publicpolicypositionpapers/Asteroids-Final.pdf)

NEAR EARTH OBJECTS
The United Kingdom (UK) Near Earth Object Information Centre was set up in response to a British government inquiry in the cosmic impact hazard. It may be found at:
www.nearearthobjects.co.uk (http://www.nearearthobjects.co.uk)

This site has available a copy of the "Report of the Task Force on Potentially Hazardous Near Earth Objects" at:
www.nearearthobjects.co.uk/report/resources_task_intro.cfm (http://www.nearearthobjects.co.uk/report/resources_task_intro.cfm)
(This is a very well considered and well written overview, and is available in pdf format.)


A NASA "Study to Determine the Feasibility of Extending the Search for Near-Earth Objects to Smaller Limiting Diameters". This study contains data on Near Earth Asteroid populations and expected impact frequencies (August 22, 2003 - 166 pages [1.2MB pdf]):
Report of the Near_Earth Object Science Definition Team
http://neo.jpl.nasa.gov/neo/neoreport030825.pdf (http://neo.jpl.nasa.gov/neo/neoreport030825.pdf)


The Cambridge Conference Network (CCN) moderated by anthropologist Dr Benny Peiser is a newsletter devoted to NEO's, catastrophism and related studies. Archives of the newsletters are maintained at:
abob.libs.uga.edu/bobk/cccmenu.html

NASA maintains a news page on Asteroid and Comet Impact Hazards:
impact.arc.nasa.gov/news/index.html

The Planetary Society maintains a web page of NEO news:
neo.planetary.org/NEONews


SPACEGUARD
Here we list the various global organisations concerned with the detection and analysis of near Earth objects.

The Spaceguard Foundation is an international organisation involving people concerned about the cosmic impact hazard. The home of the Spaceguard Foundation was first established in 1996 in Rome. It has since moved a few kilometres to the ESA (European Space Agency) European Space Research Institute at Frascati.

The home page of the Spaceguard Foundation (the Spaceguard Central Node or SCN) can be found at:
spaceguard.ias.rm.cnr.it/index.html

The online magazine of the SCN is called the Tumbling Stone and may be found at:
spaceguard.ias.rm.cnr.it/tumblingstone/index.html

Major NEO search groups are:


SPACEWATCH
University of Arizona Lunar and Planetary Laboratory

www.lpl.arizona.edu/spacewatch (http://www.lpl.arizona.edu/spacewatch)

LINEAR
Massachussets Institute of Technology Lincoln Laboratory

www.ll.mit.edu/LINEAR/ (http://www.ll.mit.edu/LINEAR/)

LONEOS
Lowell Observatory, Flagstaff, Arizona

www.lowell.edu/users/elgb/loneos_disc.html (http://www.lowell.edu/users/elgb/loneos_disc.html)

NEAT
Jet Propulsion Laboratory

neat.jpl.nasa.gov

CSS (Catalina Sky Survey)
University of Arizona Lunar and Planetary Laboratory
This group now has a southern NEO survey at Siding Spring in NSW, Australia, using the 0.5m Uppsala 0.5m Schnidt telescope

www.lpl.arizona.edu/css/ (http://www.lpl.arizona.edu/css/)


NEO Analysis

All observations are sent to the Harvard Smithsonian Center for Astrophysics Minor Planet Center at:
cfa-www.harvard.edu/iau/mpc.html

Orbital analysis is carried out at two major centres:


JPL at:

neo.jpl.nasa.gov

Italy at NEODyS (Near Earth Objects - Dynamic Site) site from the University of Pisa:
131.114.72.13/cgi-bin/neodys/neoibo

Spaceguard UK may be found at:

www.spaceguarduk.com (http://www.spaceguarduk.com)

The German spaceguard node is located at:

spaceguard.dlr.de/sgf/default_eng.htm

The Russians have set up a counterpart to Spaceguard called Space Shield:

www.snezhinsk.ru/asteroids/ (http://www.snezhinsk.ru/asteroids/)
(Unfortunately the Russian's web site tends to appear and disappear with some regularity - it may be better to use a search engine to find information on Space Shield.)

Michael Paine hosts an unofficial Australian "spaceguard" site at:

www1.tpgi.com.au/users/tps-seti/spacegd.htmlv

NATURAL SPACE DEBRIS (METEOROIDS and INTERPLANETARY DUST)
The International Meteor Organisation maintains a comprehensive web site at:

www.imo.net (http://www.imo.net)

ORBITAL SPACE DEBRIS
NASA Johnson Space Center Orbital Debris Program Office is at:

www.orbitaldebris.jsc.nasa.gov (http://www.orbitaldebris.jsc.nasa.gov)

ESA Space Debris program:

esapub.esrin.esa.it/pff/pffv4n4/ppfflunr4.htm

NASA ACTIVITIES :

Launch Rescheduled for NOAA-N on Friday

The NOAA-N Prime Mission
The NOAA-N Prime satellite, built for NASA by Lockheed Martin, will improve weather forecasting and monitor environmental events around the world. NOAA-N Prime is the fifth and last in the current series of five polar-orbiting satellites with improved imaging and sounding capabilities.

The satellite will collect meteorological data and transmit the information to NOAA's Satellite and Information Service, which processes the data for input to the National Weather Service for its long-range weather and climate forecasts. Forecasters worldwide also will be able to access the satellite's images and data.

NOAA-N Prime has sensors that will be used in the Search and Rescue Satellite-Aided Tracking System to monitor for distress signals around the world.

"1. NASA has declared it day before yesterday the size of Lulin -- it is 5,00,000 km -- almost 4 times bigger than Jupiter. (means almost 75 times bigger than our Earth )

2. Its closing in speed is 2,00,000 km per hour -- 48 lakh km per day.

3. Distance between Earth and Sun is 1 AU. and lulin is maintaining a distance of approx 1.2 to 1.4 AU away from Sun. So, on 24 Feb 09 -- it will be close to the earth at a distance of 0.2 to 0.4 AU ONLY -- (Jupiter distance from earth is 5.2 AU)"
 Diskuter





หัวข้อ: Re: EARTH MONITOR ACTIVITIES
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 12 มิถุนายน 2553 14:18:40
มีรายงานในปี 2005 ว่า...ใกล้กับทะเลสาบ Toba (เดิมเป็น Super Volcano ) นั้นมี Super Volcano อีกลูก (หรือหลายลูก) และอาจเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ขึ้นในไม่ช้า เพราะมีสัญญาณต่างๆเด่นชัดขึ้น


Early signs of mega volcano in Sumatra very close to where the Tsunami happened - it can be devastating to the human civilization

Staff Reporter
Apr. 18, 2005

(http://www.indiadaily.com/images/editorial/2350_320.jpg)

Volcanic ashes have made thousands of people in Sumatra flea the active volcanic regions that are experiencing harmonic tremor and some solid signs of an eminent mega volcano in that region soon. The recent volcanic activities with the accompanying harmonic tremor since last week is alarming and is making many geologists run towards their computer model for finding clues and validation of facts.

Toba in Sumatra experienced the massive volcano of VEI 8.0 – super volcano 74,000 years back. The deep Java trench marks the line where the Indo-Australian plate subducts, i.e. slips under, the section of the Eurasian plate on which Indonesia sits. While sinking, the Indo-Australian plate heats up and its water content turns to superheated steam under enormous pressure. Prodigious energies are generated and the volcanoes on the fault line release a part of these energies. The speed of that push is 70 mm (2.75 in.) per year, adding up to more than 5 km (3.1 miles) in the 73,000 years since the last major Toba eruption.

According to computer models, somewhere near Toba, along the fault line there may be another super volcano getting ready for eruption. 3.1 mile sinking of Indo-Australian plate under the Eurasian Plate in the last 74,000 years has created enough magma for a super volcano.

(http://tobavolcano.googlepages.com/Cooling.JPG/Cooling-full.jpg)


The recent series of volcanoes in that area have increased the level of alarm. Some of the quakes mistaken as aftershocks were harmonic tremors signifying lava movements. If Toba or along Toba the volcanic eruption take place, it can bring the human civilization to its knees. This has the potential 3000 cubic Kilometer of eruption. That can be so devastating that earth may experience a drop in temperature of 30degrees Fahrenheit for many years. It can actually larger than the one Toba experienced 74,000 years back.

The volcanic activities in the regions in the past week may be signaling an eminent mega volcano a sort of repeat of what happened 74,000 years back. One interesting fact is that this area is just on the opposite side in the globe from the “Yellow Stone Hot Spot” in America.

If a mega volcano happens in Sumatra of VEI 8.0. it can be catastrophic to our civilization. The ashes will engulf the whole world with serious reparation on livelihood, agriculture and weather. Last time it wiped out almost 75% of all living beings on the land surface on the earth.

Copyright © 2003-2005, Indiadaily.com. All Rights Reserved.

http://www.indiadaily.com/editorial/2350.asp (http://www.indiadaily.com/editorial/2350.asp)

http://tobavolcano.googlepages.com/ (http://tobavolcano.googlepages.com/)




On January 9, 2010 -Earthfiles reported Earthquakes Around the World.
January 9, 2010 - Earthquakes Around the World.


Today a 6.5-magnitude quake hit for 30 seconds near Eureka, California,
at 4:27 PM Pacific, causing ruptured gas lines and brief power interruptions.

- 5.0-magnitude quake hit Mariana Islands Region WSW of Guam.

5.0-magnitude quake hit Solomon Islands.

3.2-magnitude quake hit Southern Alaska southeast of Anchorage.

January 7, 2010 - 4.8-magnitude quake hit Ryukyu Islands, Japan.

4.1-magnitude quake hit San Francisco Bay area, California.

4.1-magnitude quake hit Gulf of California.

Read more:

http://gazbom.blogspot.com/2010/01/norway-time-hole-leak-plunges-northern.html#ixzz0fSn4cEGr (http://gazbom.blogspot.com/2010/01/norway-time-hole-leak-plunges-northern.html#ixzz0fSn4cEGr)




หัวข้อ: Re: EARTH MONITOR ACTIVITIES
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 12 มิถุนายน 2553 14:19:15

(http://i.dailymail.co.uk/i/pix/2009/07/30/article-1203028-05E123E2000005DC-967_964x538.jpg)

(http://i.dailymail.co.uk/i/pix/2009/07/30/article-1203028-05E11CB6000005DC-941_964x540.jpg)

(http://i.dailymail.co.uk/i/pix/2009/07/29/article-1203028-05E11CA9000005DC-540_964x536.jpg)



http://www.kroobannok.com/blog/16285 (http://www.kroobannok.com/blog/16285)


หัวข้อ: Re: EARTH MONITOR ACTIVITIES
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 12 มิถุนายน 2553 14:20:46
ทฤษฎี...อนุภาค Nuetrinos จากดวงอาทิตย์ เกิดการรบกวนแม๊กม่าในแกนโลก (เนื่องจากสนามแม่เหล็กโลกอ่อนตัวลง)

นำ Animation มาจากภาพยนต์เรื่อง 2012

Watch my animation (http://www.youtube.com/watch?v=vgM65EOfyGU#)


หัวข้อ: Re: EARTH MONITOR ACTIVITIES
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 12 มิถุนายน 2553 14:22:17
Russia's military window on space (http://www.youtube.com/watch?v=k_C9fdT_Ay0#)

Russian Space Military Control / Control Espacial Ruso (http://www.youtube.com/watch?v=orF2X4Vwtis#)


หัวข้อ: Re: EARTH MONITOR ACTIVITIES
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 12 มิถุนายน 2553 14:22:45
Global Warming - What the Government Isn't Telling You


This has been around before, but I think it's worth posting again.

The link posted below is a 12 part youtube video presentation from John Moore recorded in 2008. Moore is an exSpecial Forces, exMilitary intelligence, exPolice detective who has a radio show on Republic National Radio.org. In this presentation Moore relates what his souces in the Navy and FBI are saying about 'Global Warming' Moore says that Global Warming is a front for the climate changes from the incoming Planet X or Nibiru or whatever else we might call it.

Moore says according to the Navy the entire Eastern Coast, all of Florida, Southern Georgia, all of Alabama, all of Mississippi, all of Louisianna and the east coast of Texas will be completely underwater. Also the Mississippi River will increase in size to be 100 miles wide and merge with Lake Michigan. All of Illinois and Wisconsin will be completely under water. The West coast of the USA will also be effected the extent of which will depend on seismic activity. Part of Washington state would also be under water. Now this is only what is supposed to happen to the USA. The whole world will be effected. Most areas 100 feet or less above mean sea level will be underwater areas up to 400 feet will be effected in some manner.

ภาพจากภาพยนต์ 2012 แผ่นดินด้านชาวฝั่งตะวันตกของสหรัฐจมลงในทะเล

(http://www.arzulgrana.com/wp-content/uploads/2009/11/the-world-2012.jpg)


Moore cites some proofs like CIA heaquarters moving to Denver, CO. He mentions the Vatican library was closed in 2007 and has been moved. Moore has several other examples of the Governments of the world preparing for this event.

As for the timeline, Moore's video was recorded in March of 2008. He said at the time giving the speech that the Government's original plan was to be prepared by December 2010 and then the Government moved up their timeline to have everything ready December of 2009. According Moore the Government is expecting big things to start to happen in 2010. The USA Flood Map is given in Moore's 4th youtube video about a third of the way into it.

Some of you may have seen this before, if not this may change some plans you might be making. If this is true we don't have much time. I know we get a lot of doom and gloom posts but, I am still moved to let people know what the possibilities of coming events may be.

Global Warming - What the Government Isn't Telling You 1/12 (http://www.youtube.com/watch?v=YgimpoT92F4#)

http://www.godlikeproductions.com/forum1/message962677/pg1 (http://www.godlikeproductions.com/forum1/message962677/pg1)

http://science.nasa.gov/headlines/y2009/03aug_whathitjupiter.htm (http://science.nasa.gov/headlines/y2009/03aug_whathitjupiter.htm)








หัวข้อ: Re: EARTH MONITOR ACTIVITIES
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 12 มิถุนายน 2553 14:23:06
Comet/ G1.9 giant planetary body coming in to solar system

A large planetary body has been seen coming in from the Oort Cloud, presently 60AU distance. Don't know if this is the planet X from the past, but its impact would be similar.
"

Russia Prepares For Asteroid Strike As New Comet Nears Sun

(http://www.astroschool.in.th/picpost/news/part3_200508095809_small.)

(http://www.astroschool.in.th/picpost/news/part1_200508095809_small.jpg)

(http://starviewer.files.wordpress.com/2009/08/correlacion1.jpg?w=681&h=492)


(http://science.nasa.gov/headlines/y2008/images/galactichunt/Tmwpan_aitoff_s_strip.jpg)





Russian scientists are reporting today that our Sun’s worst Deep Solar Minimum in 100-years has been broken by a newly discovered comet currently plunging towards its surface that has increased this past months Sunspot Number to 15.7, the highest it has been in Solar Cycle 24 since March, 2008, and has caused a massive eruption of C-Class flares for the past 16 days.

Solar physicist David Hathaway of the NASA Marshall Space Flight Center had previously declared in 2008 about Solar Cycle 24 that it was “the blankest year of the space age”, a declaration he revised in 2009 when he stated “This is the quietest sun we’ve seen in almost a century”.

So powerful has this Deep Solar Minimum been during this cycle that scientists have reported a 50-year low in solar wind pressure, a 55-year low in solar radio emissions, and, most importantly, a 12-year low in solar “irradiance”; the sun’s brightness which has dropped by 0.02% at visible wavelengths and 6% at extreme UV wavelengths since the solar minimum of 1996.

The critical danger to our Earth with the dropping of our Sun’s brightness lies in its “irradiance” levels being long associated with periods of Global cooling, including the catastrophic period between the 16th and 19th centuries named the Little Ice Age, a fact which American scientists have been accused of hiding from the public so as to further advance their now discredited theories of Planetary warming.

But to the greatest danger facing our World it is not from the horrific effects a massive Global Cooling event would have upon us, warn Russian scientists, but rather it is from the rising potential of our Earth being struck by, or “electrically interacting” with, a comet emanating from the currently destabilizing Oort Cloud from which these ‘space missiles’ are being increasingly hurled into our Solar System.

One such “electrical interaction” between these Oort Cloud “space missiles” plunging into our inner Solar System towards the Sun is occurring now, and offering further evidence supporting these Russian scientists claims after its discovery this week by Australian amateur astronomer Alan Watson who found this ‘new comet’ while inspecting images obtained by NASA’s STEREO-A’s Hemispheric Imager. [Photo top left]

Important to note at this point are that Russian scientists stand adamantly opposed to their American counterparts over what constitutes a comet and defines their interactions in space. Where the American scientists state in their theories that comets are ‘dirty snowballs’ whose tails are formed by the ejection of an icy mass, Russian scientists ascribe to the theory of their being made of iron, and other such metals, and whose tails are formed by the electromagnetic interaction between them and the Sun. This is known as the Electric Comet Theory.

The comet currently plunging into the Sun whose arrival was ‘announced’ over a fortnight ago with the breaking of the Deep Solar Minimum and the mass ejection of solar flares supports the Russian scientist’s theories beyond all doubt, a fact, however, which the Americans will not acknowledge as their theories have never been designed for truth, but rather for the social engineering of their public to keep them as unaware as possible to what the future holds for our Earth.

And to what the American scientists fear above all else is their public becoming aware of the giant planetary body named G1.9 that is heading towards us and is now just 60 AU’s [1 AU=the distance from the Sun to Earth] from our Planet and growing in size.

Though not known to the American people about G1.9 is that since its discovery NASA has continued to maintain that it is the remnant of a supernova explosion that occurred about 140 years ago, an explanation deemed “absurd” by Russian scientists who point out, correctly, that for a supernova to have exploded in our own Solar System in the mid 1800’s it would have been not only visible to the entire Earth, it would have been extensively documented too.

Supporting these Russian scientists who state that G1.9 was never a supernova but either a new planet to our Solar System or a brown dwarf sun are their Spanish astrophysicist counterparts whose findings we can read:

“G1.9 was first identified as a “supernova remnant” in 1984 by Dave Green of the University of Cambridge and later studied in greater detail with NRAO’s Very Large Array radio telescope in 1985. Because it was unusually small for a supernova it was thought to be young — less than about 1000 years old.

But in 2007, X-ray observations made with NASA’s Chandra X-ray Observatory revealed that the object was much larger than the last time it was observed! It had grown in size by 16%. Puzzled by this observation, the Very Large Array repeated its observations of 23 years ago and verified that it had increased in size considerably. Knowing that supernova do not expand this quickly, unless they have just exploded, they explained that G1.9 must be a “very young” supernova — perhaps not more than 150 years old. But no record of a visible supernova has been found corresponding to that historical period (about the time of the American Civil War).

Spanish astronomers have tracked this object with great interest because they were anticipating its appearance. Gravitational anomalies have been appearing in the Oort Cloud for some time, suggesting the perturbations were caused by a nearby object with considerable mass. The announcement that G1.9 had increased in size was no mystery to them. It is exactly what they would expect as the object moved closer to Earth.”


(http://assets.nydailynews.com/img/2009/07/22/alg_jupiter.jpg)

(http://i.livescience.com/images/090721-jupiter-spot-02.jpg)

(http://www.windows.ucar.edu/jupiter/images/jupiter_impact_keck_ir_july_2009_big.jpg)

(http://www.firstbuddha.com/g19/24.jpg)




To the potential catastrophic danger posed to our Earth by G1.9 was evidenced in July, 2009, when the Planet Jupiter was hit by a large comet that entered its planetary zone unexpectedly, despite the efforts of astronomers to track these dangerous objects. Russian and Spanish astronomers contend that the comet that struck Jupiter was perturbed by the trajectory of G1.9, which until now, was not recognized and accounted for.

Though the Americans contend, also, that G1.9 has reached its closest approach to Earth in its orbit, Russian scientists couldn’t disagree more and point to the fact that NASA has so ‘continually failed’ in their explanations for this giant, and growing, “as yet unknown” space object as to have lost all credibility in any discussion of it.

And so alarmed have these Russian scientists become that this past week that Anatoly Perminov, head of Russia’s space agency, told Voice of Russia radio that they were ‘gearing up’ to protect our Earth from these ‘space missiles’, including the Apophis asteroid many believe could strike our Planet in the 2030’s.

In the reporting of these events it is also important to note that the ancient peoples of our Earth spoke many times about a G1.9 type object in our solar system (Marduk, Nibiru, Planet X) and warned that when it approached our inner Solar System chaos and catastrophe always ensued.
"

http://pakalert.wordpress.com/2010/01/07/earth-to-be-wiped-out-by-supernova-explosion/ (http://pakalert.wordpress.com/2010/01/07/earth-to-be-wiped-out-by-supernova-explosion/)


http://projectavalon.net/forum/showthread.php?t=19053 (http://projectavalon.net/forum/showthread.php?t=19053)


หัวข้อ: Re: EARTH MONITOR ACTIVITIES
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 12 มิถุนายน 2553 14:23:50
Here's another cross reference article on the brown dwarf information. It seems to be true:

http://www.abovetopsecret.com/forum/thread525353/pg1 (http://www.abovetopsecret.com/forum/thread525353/pg1)

We have our Brown Dwarf, interacting with and Bombarding asteroids of Oort against Pluto and Jupiter



(http://www.nasa.gov/images/content/402717main_pia12462-full.jpg)



Topic started on 8-12-2009 @ 06:13 PM by daz__
+2 more

This article translated from Spanish is breaking news from Australia.

What NASA is not telling us but the Starviewer Team is

Though not exactly breaking news as it appears to originate from Mysteries of the Astrophysics dated the 27th of August. you will have to excuse the babelfish translation. But it is good enough to let you know what has been found.

I could go into a big speel about this but here are a few short quotes.

They begin with the unusual orbit of Comet Russell

IMPORTANT NOTE TO 7 OF AUGUST: WE HAVE DETECTED ERRORS IN THE WORKSHEET NIII. THE CALCULATION OF THE RUSSELL ORBIT IS NOT CORRECT. THE RETROGRADE ORBIT MUST TO THE POSITION DE THE EARTH INDEED. WE VERIFIED IT YESTERDAY. ETAMOS PREPARING AN OFFICIAL NOTICE WITH THE NEW DATA. HOWEVER, THE WORKSHEET CONTINUES BEING VALID LIKE SIMULATION OF DISTURBANCE OORT-KUIPER AND POSSIBLE SCENES.


For two weeks, Pluto has undergone the impact, heating and disturbance of a new celestial body too next to its orbit. The reason: A Brown Dwarf as large as 1.9Mj than is positioned right in “Sagitario”, and that at the moment is disturbing the Pluto orbit. But not only the one of Pluto, also, she is disturbing the orbit of Jupiter, and the rest of planets of the Solar System. In fact, the Sun, has emitted CMEs during the last weeks that have brought about a displacement of our geomagnetic axis exactly in 19º, as well as an increase of the seismicity of 1.33 MW with respect to the average seismicity of year 2008, reason why “literally” the binary theory “of our Solar System” is confirmed. Something comes near, and clearly, the tip of the cloud of Oort in the zone of Sagitario, is caused by a Brown Dwarf, who in addition, can visualize in the WorldWideTelescope, (WWT), just, drawing up the Pluto orbit.


These Spanish scientists do not seem to be kidding. They continue,

If it is observed at great length, has two satellites, that can carefully be observed. This would explain the disturbances undergone by the cloud of Oort during last the three months, and by all means, the alterations that the sun is undergoing in the cycles and cosmic ray emissions. Clearly, the stellar attraction between both stars, gravitationally contracts the orbits of the rest of planets, and clearly, verify the theories of doctors Michael P. Aubry, Christopher T. Russell, and Margaret G. Kivelson as well as, the models proposed by the Dr. John. J. Matese, and Dr. John. B. Murray, and the observations realised by Doctors Geoffrey W. Marcy, and Horseradish tree. R. Oppenheimer. The model has been closed. Especially when day 17 of 2009 July, Basket affirms in a press note, That” the Asteroid belt can very have formed far from the sun “. The Basket tries to tell something to us of slanted form, but already it is an advance. There now, already it is a fact, We have our Brown Dwarf, interacting with Pluto and Bombardeando asteroids of Oort against Pluto and Jupiter. At the moment we can be calm, because the great outer planets protect to us against the asteroid impacts of Oort, but, do not prevent the gravitational contraction of 41% anticipated by Murray, Matese and Oppenhheimer.


They next attack NASA whom they accuse of hiding this information and ridiculing anyone trying to bring the truth of this matter out in the open. They name the object and even tell exactly from where it comes.

Why the NASA has waited for the 40 anniversary of mission APOLO, to tell part us of this? The information is dripping us. Something terrible, or perhaps no. The question is in the air. Why to duplicate scientific efforts on events that NASA already knew. For which NASA hopes 20 years to recognize that the Dr. Murray was right. Why to hope 20 years to corroborate the theories of doctors Michael P. Aubry, Christopher T. Russell, and Margaret G. Kivelson? And mainly… Why, just two days after the study deeper than it has realised the scientific community with pursuit in real time for the first time in history? . It is this tacit form to tell the truth us? The certain thing is that very little people will read east article. Perhaps only thousands of people will read this science, all will be pending of the 40 the very easy news of anniversary of the arrival of the man to the Moon, while a reduced group of scientists, we are trying to tell the world which today happens and the cause of it. Today, 20 of Julio of 2009, a Brown Dwarf of 1.9MJ is right intercepting the Pluto orbit literally. Its scientific denomination is: G1.9, and can be seen in WWT, Sagitario next to Pluto. Whoever, watches that it, and the one that does not want that it does not watch. The evidences are G1.9-Sagitarius there.


They detailed a brief form of the results of their investigations..
1º. - The G1.9+0.3 Object, is highly susceptible to be considered like a Body of T1.9 type, with an approximated mass of 1.9MJ, and to be located to an orbital distance that oscillates between 60UA and 66UA.

2º. - The residual heat disturbances in the phantom microwaves, reflect a temperature of 2,700 Degrees Kelvin, coming from the analyzed zone, circumstance that is explained by the methane presence. The mass analysis, in 3D, confirms, this circumstance, and additionally the image obtained by chandra, fits “exactly” in the data modeling observed.

3º. - In the infrared phantom, it can see clearly, that this blue color, corresponds with an object whose sphericity, it is demonstrated, and it shows methane, in its composition.

4º. - This Object T, comes accompanied, at least by other two orbital bodies (satellites), whose composition, mass and orbit, it is still controverted, although, both seem to be solid bodies. (Rocky).


Link to the source is

source  http://66.163.168.225/babelfish/translate_url_content?.intl=us&lp=es_en&trurl=http://starviewer.wordpress.com/tag/enana-marron/ (http://66.163.168.225/babelfish/translate_url_content?.intl=us&lp=es_en&trurl=http://starviewer.wordpress.com/tag/enana-marron/)



I want to post also some material from the Original in a second post and leave a link as it has some pictures which do not seem to have come out in this australian article.

peace to you all

daz__
"


หัวข้อ: Re: EARTH MONITOR ACTIVITIES
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 12 มิถุนายน 2553 14:24:15

The Earth could soon be wiped out by the explosion of a star more than 3,000 light years away, according to American scientists.

By Ben Leach | telegraph.co.uk

(http://i.telegraph.co.uk/telegraph/multimedia/archive/01553/Pyxidis_1553915c.jpg)

T Pyxidis Photo: NASA

The star, called T Pyxidis, is set to self-destruct in an explosion called a supernova with the force of 20 billion billion billion megatons of TNT.

Although the star is thought to be around 3,260 light-years away – a fairly short distance in galactic terms – the blast from the thermonuclear explosion could strip away the Earth’s ozone layer, the scientists said.

Astronomers from Villanova University, Philadelphia, in the US, said the International Ultraviolet Explorer satellite has shown them that T Pyxidis is really two stars, one called a white dwarf that is sucking in gas and steadily growing. When it reaches a critical mass it will blow itself to pieces.

It will become as bright as all the other stars in the galaxy put together, they said. The Hubble space telescope has photographed the star preparing for its big bang with a series of smaller blasts or “burps”, called novas.

These explosions came regularly about every 20 years from 1890 – but stopped after 1967.

So the next blast is nearly 20 years overdue, said scientists Edward M Sion, Patrick Godon and Timothy McClain at the American Astronomical Society in Washington.

Robin Scagell, vice-president of the UK’s Society for Popular Astronomy, said: “The star may certainly became a supernova soon – but soon could still be a long way off so don’t have nightmares.”

Russia Prepares For Asteroid Strike As New Comet Nears Sun

(http://pakalert.files.wordpress.com/2010/01/gip1.jpg)

Russian scientists are reporting today that our Sun’s worst Deep Solar Minimum in 100-years has been broken by a newly discovered comet currently plunging towards its surface that has increased this past months Sunspot Number to 15.7, the highest it has been in Solar Cycle 24 since March, 2008, and has caused a massive eruption of C-Class flares for the past 16 days.

Solar physicist David Hathaway of the NASA Marshall Space Flight Center had previously declared in 2008 about Solar Cycle 24 that it was “the blankest year of the space age”, a declaration he revised in 2009 when he stated “This is the quietest sun we’ve seen in almost a century”.

So powerful has this Deep Solar Minimum been during this cycle that scientists have reported a 50-year low in solar wind pressure, a 55-year low in solar radio emissions, and, most importantly, a 12-year low in solar “irradiance”; the sun’s brightness which has dropped by 0.02% at visible wavelengths and 6% at extreme UV wavelengths since the solar minimum of 1996.

(http://pakalert.files.wordpress.com/2010/01/gip2.jpg)

The critical danger to our Earth with the dropping of our Sun’s brightness lies in its “irradiance” levels being long associated with periods of Global cooling, including the catastrophic period between the 16th and 19th centuries named the Little Ice Age, a fact which American scientists have been accused of hiding from the public so as to further advance their now discredited theories of Planetary warming.

But to the greatest danger facing our World it is not from the horrific effects a massive Global Cooling event would have upon us, warn Russian scientists, but rather it is from the rising potential of our Earth being struck by, or “electrically interacting” with, a comet emanating from the currently destabilizing Oort Cloud from which these ‘space missiles’ are being increasingly hurled into our Solar System.

(http://pakalert.files.wordpress.com/2010/01/gip3.jpg)

One such “electrical interaction” between these Oort Cloud “space missiles” plunging into our inner Solar System towards the Sun is occurring now, and offering further evidence supporting these Russian scientists claims after its discovery this week by Australian amateur astronomer Alan Watson who found this ‘new comet’ while inspecting images obtained by NASA’s STEREO-A’s Hemispheric Imager. [Photo top left]

Important to note at this point are that Russian scientists stand adamantly opposed to their American counterparts over what constitutes a comet and defines their interactions in space. Where the American scientists state in their theories that comets are ‘dirty snowballs’ whose tails are formed by the ejection of an icy mass, Russian scientists ascribe to the theory of their being made of iron, and other such metals, and whose tails are formed by the electromagnetic interaction between them and the Sun. This is known as the Electric Comet Theory.

The comet currently plunging into the Sun whose arrival was ‘announced’ over a fortnight ago with the breaking of the Deep Solar Minimum and the mass ejection of solar flares supports the Russian scientist’s theories beyond all doubt, a fact, however, which the Americans will not acknowledge as their theories have never been designed for truth, but rather for the social engineering of their public to keep them as unaware as possible to what the future holds for our Earth.

And to what the American scientists fear above all else is their public becoming aware of the giant planetary body named G1.9 that is heading towards us and is now just 60 AU’s [1 AU=the distance from the Sun to Earth] from our Planet and growing in size.

(http://pakalert.files.wordpress.com/2010/01/gip4.jpg)

Though not known to the American people about G1.9 is that since its discovery NASA has continued to maintain that it is the remnant of a supernova explosion that occurred about 140 years ago, an explanation deemed “absurd” by Russian scientists who point out, correctly, that for a supernova to have exploded in our own Solar System in the mid 1800’s it would have been not only visible to the entire Earth, it would have been extensively documented too.

Supporting these Russian scientists who state that G1.9 was never a supernova but either a new planet to our Solar System or a brown dwarf sun are their Spanish astrophysicist counterparts whose findings we can read:

“G1.9 was first identified as a “supernova remnant” in 1984 by Dave Green of the University of Cambridge and later studied in greater detail with NRAO’s Very Large Array radio telescope in 1985. Because it was unusually small for a supernova it was thought to be young — less than about 1000 years old.

But in 2007, X-ray observations made with NASA’s Chandra X-ray Observatory revealed that the object was much larger than the last time it was observed! It had grown in size by 16%. Puzzled by this observation, the Very Large Array repeated its observations of 23 years ago and verified that it had increased in size considerably. Knowing that supernova do not expand this quickly, unless they have just exploded, they explained that G1.9 must be a “very young” supernova — perhaps not more than 150 years old. But no record of a visible supernova has been found corresponding to that historical period (about the time of the American Civil War).

Spanish astronomers have tracked this object with great interest because they were anticipating its appearance. Gravitational anomalies have been appearing in the Oort Cloud for some time, suggesting the perturbations were caused by a nearby object with considerable mass. The announcement that G1.9 had increased in size was no mystery to them. It is exactly what they would expect as the object moved closer to Earth.”

To the potential catastrophic danger posed to our Earth by G1.9 was evidenced in July, 2009, when the Planet Jupiter was hit by a large comet that entered its planetary zone unexpectedly, despite the efforts of astronomers to track these dangerous objects. Russian and Spanish astronomers contend that the comet that struck Jupiter was perturbed by the trajectory of G1.9, which until now, was not recognized and accounted for.

Though the Americans contend, also, that G1.9 has reached its closest approach to Earth in its orbit, Russian scientists couldn’t disagree more and point to the fact that NASA has so ‘continually failed’ in their explanations for this giant, and growing, “as yet unknown” space object as to have lost all credibility in any discussion of it.

And so alarmed have these Russian scientists become that this past week that Anatoly Perminov, head of Russia’s space agency, told Voice of Russia radio that they were ‘gearing up’ to protect our Earth from these ‘space missiles’, including the Apophis asteroid many believe could strike our Planet in the 2030’s.

In the reporting of these events it is also important to note that the ancient peoples of our Earth spoke many times about a G1.9 type object in our solar system (Marduk, Nibiru, Planet X) and warned that when it approached our inner Solar System chaos and catastrophe always ensued.

http://pakalert.wordpress.com/2010/01/07/earth-to-be-wiped-out-by-supernova-explosion/ (http://pakalert.wordpress.com/2010/01/07/earth-to-be-wiped-out-by-supernova-explosion/)


หัวข้อ: Re: EARTH MONITOR ACTIVITIES
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 12 มิถุนายน 2553 14:24:43
***EVERYTHING ON 2012***


Planet X, aka Nibiru is not a "planet", but an unborn star called a "Brown Dwarf". It is in our Solar System (just outside Pluto).
What we are in, is called a Binary System (actually, if we were NOT a binary system, we would be the first, since EVERY star you see in the sky, usually has a partner star; Sol is no different), where we have our Sun, and another star past the Kuiper Belt.
Every 3600 years, this star swings Jupiter, causing massive tidal and magnetic effects on the earth and sun.
3600 years ago, the plagues were caused on Egypt. The Egyptian Bible documents that it was a massive object that came out of the sky and caused the plagues. 3600 years before that, a massive flood hit the earth (every Ancient Culture, from the Jews to the Summarians, to the Native Americans, to the Mayans, have a record of this flood).
Now, the star will arrive again in 2012.

This "planet x" was discovered years ago, and an article was even put out by nasa, but was later withdrawn.


Solar Maximum will peak 2012
NASA researchers announced that a storm is coming--the most intense solar maximum in fifty years. The prediction comes from a team led by Mausumi Dikpati of the National Center for Atmospheric Research (NCAR). "The next sunspot cycle will be 30% to 50% stronger than the previous one," she says. If correct, the years ahead could produce a burst of solar activity second only to the historic Solar Max of 1958.
(Source #1 - NASA CONFIRMED FACT)


Mayan Calendar
This is one of the main cornerstones of the 2012 theories. To keep it short the Mayan calendar mysteriously ends on Dec 12, 2012. You can find numerous web sights to back this up which I wont bother to list here.
Note - The Mayan Calendar ends in 2012 winter solstice. According to the US Navy, the winter solstice will occur at 11:11UT Dec 21, 2012. There's a entire separate strange 11:11 phenomenon to add to the oddity that year

The Incas', Dogon(Africa)'s, and Aztecs' calendars also end in 2012


What is remarkable with the Mayan Calender, is that they have successfully pointed out every major war -- from America's Revolutionary War, to Civil Wars, even the cultural movements in he 1960s.

But the major point, is, that the Mayans wrote that on 11:11, December 21st, 2012, the Earth, the Sun, and the black hole at the Center of the Milkeyway, will be aligned on that date. THEY WERE RIGHT.

This Galactic Alignment occurs only once every 26,000 years, and was what the ancient Maya were pointing to with the 2012 end-date of their Long Count calendar.
#2 Source for more info


Nostradamus
Nostradamus prophecies have endured the test of time, and a recent book has been found that pertains to 2012.
See Source #3 for the Nostradamus video (in four parts)


Cherokee Calendar
In the year 2004 and 2012 an alignment will take place both on the Cherokee Calendar and in the heavens of the Rattlesnake Constellation both. It is the time of the doublehead serpent stick. It is the time of the Red of Orion and Jupiter against White Blue of Pleadies and Venus. It is the time of the Uku's choosing. It is the time of the Beloved Woman and MYSTERIES OF TIME UNTIME. It is the Time Untime of the THUNDERBOLT and the spirits of Lightning Mountains.
(Source #4)


The Hopi Indians of Arizona believe that we are living in the fourth of five eras - the Fourth World, and there will be a “Great Purification” just before the start of the Fifth World. They have a series of nine prophecies, starting with the coming of white men with guns, (which came true in the sixteenth century). The eighth prophecy is the hippie era, which was manifested in the nineteen sixties. The only remaining prophecy to be fulfilled is the appearance of a new star that they call Blue Star Kachina.

Speaking Wind, a Pueblo Indian from Northern New Mexico, has said that the Fifth World will start in December 2012. This conforms to Hopi Indian prophecies, even though some have put the transition at 2011.
(source #5)


Great Pyramid (stone calendar)
The 'calendar in stone' of the Great Pyramid, describes the so-called Phoenix Cycle of our galactic orbit, the present time period ends (converted to our present calendar) in the year 2012 AD. The Greek word Phoenix, derived from the Egyptian word, Pa-Hanok, actually means, The House of Enoch."
(source #6)


Hindu Calendar
Golden Age will start 5,000 years after the beginning of the Kali Yuga, and will last for 10,000 years. Based on Hindu calendars today is about 5100 solar years from the time when the Kali Yuga started. Golden Age could happen in 2012.
(Source #7)


The Great Cross of Hendaye (French: Croix d'Hendaye) is a stone cross located on the town square of Hendaye, in the Pyrénées-Atlantiques, in southwestern France.
The following article attempts to tie the Cross to 2012:

The inspiration for this article comes from my almost nineteen years of research into the Great Cross of Hendaye and the French alchemist Fulcanelli. The unknown, anonymous, alchemist Fulcanelli in his masterpiece The Mysteries of the Cathedrals first brought the cross at Hendaye, France to the world’s attention.
(source #8


The shamans in Peru tell us that we are approaching the Pacha Cuti, which means, literally ‘the world turned upside down’. They say that it will arrive in the year 2012
(Source #9)


Bible Code 2012
comet large - stone-like / stony : object - sped / Tongue-like : Sun - whole earth / earth annihilated - smitten / stricken - smitten Planetary / wanderer : fragmentary : sixty mile - blunderbuss / scatter-gun / Crater : Canada : ultimate : terrifying : appalling : lethal / Modifier - mantle - axis - tilting - tipping : Speeded / Seismic - eradication - It will be crumbled / I will tear to pieces
(Source #10 & #11)



Numerology
The galactic center of the galaxy is 26 degrees 54 minutes Sagittarius. It approaches 27 degrees 0 minutes in the year 2010. In the year 2012 the galactic center is 27 degrees and 1 minute. In Numerology (27+1)=10=1+0=1 = New Beginnings.
(Source #12 & #13)


Terrance McKenna's Time Wave theory
In that theory, the year 2012 is called "Time Wave Zero." McKenna took the I Ching, did some kind of mathematical fractal operation with it, and produced a computer program which supposedly produces a "time wave" which maps out something called "novelty" across the scale of time, from the Big Bang to the Eschaton, the ending of time. And guess what? The mapping of time mysteriously ends at 2012. The Omega point.
(Source #14)



Remote Viewing
Tibetan Monks are using Remote Viewing to predict the future. Between now and 2012 the world super powers will continue to engage in regional wars. Terrorism and covert war will be the main problem. In world politics something will happen in and around 2010. At that time the world powers will threaten to destroy each other. Between 2010 and 2012, the whole world will get polarized and prepare for the ultimate dooms day. Heavy political maneuvers and negotiations will take place with little progress. In 2012, the world will start plunging into a total destructive nuclear war. And at that time something remarkable will happen, says, Buddhist monk of Tibet. Supernatural divine powers will intervene. The destiny of the world is not to self-destruct at this time.
(Source #15, #16, & #17)


Prophecy of the Popes
The Prophecy of the Popes, attributed to Saint Malachy, is a list of 112 short phrases in Latin. They purport to describe each of the Roman Catholic popes (along with a few anti-popes), beginning with Pope Celestine II (elected in 1143) and concluding with a later added pope described in the prophecy as "Peter the Roman", whose pontificate will end in the destruction of the city of Rome. The current Pope - Benedict XVI, is the 111 of 112 on the list, which can be interpreted that the end is near.
(Source #18)


Polar Shift
A pole shift theory is a hypothesis that the axis of rotation of a planet has not always been at its present-day locations or that the axis will not persist there; in other words, that its physical poles had been or will be shifted.

Theories include:
- Ice mass at one or both poles over-accumulates which destabilizes the earth's rotational balance, causing slippage of all or much of earth's outer crust around the earth's core
- A high-velocity asteroid or comet which hits Earth at such an angle that the lithosphere moves independent of the mantle
- A high-velocity asteroid or comet which hits Earth at such an angle that the entire planet shifts axis.
- An unusually magnetic celestial object which passes close enough to Earth to temporarily reorient the magnetic field, which then “drags” the lithosphere about A new axis of rotation. Eventually, the sun's magnetic field again determines the Earth's, after the intruding celestial object “returns” to a location from which it cannot influence Earth.
- Perturbations of the topography of the core-mantle boundary, perhaps induced by differential core rotation and shift of its axial rotation vector, leading to CMB mass redistributions. See, e.g., Bowin.
- Mass redistributions in the mantle from mantle avalanches or other deformations. See, e.g., Ladbury, and Steinberger and O'Connell.
(Source #19)


Pandemic - Bird Flu
Health officials around the world agree that a pandemic of influenza is overdue, and they are most worried by the H5N1 strain of avian influenza that has been spreading through flocks from Asia to Africa.
(Source #20)

UFO/Crop Circle Sightings/Planet X
Again the websites are numerous...with some indicating 2012 is when Aliens will make their presence known.
(Source #21, #22, & #23)


Web Bots Project
A system of spiders, agents, and wanderers travel the Internet, much like a search engine robot, and look for particular kinds of words. It targets discussion groups, translation sites, and places were regular people post a lot of text. The web bot technology apparently taps in to an area of precognition awareness. The Web Bot Program claims to already have numerous successful predictions and supposedly the bot program also predicts a worldwide calamity taking place in the year 2012.
(Source #24 & #25)


If you want, you can FORGET 2012!
If you're on the East Cost of the USA, doomsday could be TOMORROW!

Volcanic eruption or strategically placed nuclear explosions in the Cumbre Vieja would devastate the eastern seaboard of America and Great Britain.

The collapse of the side of the Cumbre Vieja volcano into the Atlantic Ocean would create a dome of water 50 metres (330ft) high moving at 500 mph when it reaches the American coast line and travels 12 plus miles inland and potentially across Florida...

Florida would cease to be, and the east coast would be no more... Just think, this would take care of the building federal government - social security problem - among other things...

Is this the unknown terrorist threat? That the terrorists will put their nukes in this volcano and devastate America?

Just who is watching this killer volcano for terrorists?

Just think of all of the new beach front property for sale...

"Scientists Warn Of Massive Tidal Wave From Canary Island Volcano
By Steve Connor

A wave higher than Nelson's Column and traveling faster than a jet aircraft will devastate the eastern seaboard of America and inundate much of southern Britain, say scientists who have analyzed the effects of a future volcanic eruption in the Canary Islands.

A massive slab of rock twice the volume of the Isle of Man would break away from the island of La Palma and smash into the Atlantic Ocean to cause a tsunami - a monster wave - bigger than any recorded, the scientists warned yesterday.

Most of the wave's energy, equivalent to the combined output of America's power stations for six months, would travel westwards to the American coast but enough would be flicked north towards the English Channel to cause catastrophic coastal damage.

A computer model has been designed to show the way the tsunami will build after the volcano, called Cumbre Vieja, erupts on La Palma, at the western end of the Spanish island chain. It describes the almost unimaginable scale of an event that the scientists say could happen at any time within the foreseeable future.

'We're looking at an event that could be decades or a century away - but there will be a degree of warning beforehand,' said Simon Day, of the Benfield Greg Hazard Research Centre at University College London.

Most of the rocky western flank of Cumbre Vieja is unstable enough to be dislodged in the next big eruption of the volcano, which is active enough to explode at least once or twice a century. Its last big event was in 1949."

continued here: (Source #26)

"New York, US East Coast also face tsunami threat: scientists

PARIS (AFP) Dec 26, 2004
Cities on the US East Coast and in the Caribbean could be wrecked by a tsunami unleashed by the collapse of a volcanic island in the eastern Atlantic, British scientists believe.
A massive chunk of La Palma, the most volcanically active island in the Canaries archipelago, is unstable, says Simon Day, of the Benfield Grieg Hazard Research Centre at University College London.

He calculates that its flank could collapse the next time the volcano, Cumbre Vieja, erupts.

If so, that would send a dome-shaped wall of water up to 100 metresfeet) high racing across the Atlantic at 800 kilometers (500 miles) per hour, hitting the western coast of Africa and southern coast of England within a few hours.

Some eight hours after the collapse, the US East Coast and Caribbean would bear the brunt.

Cities from Miami to New York would get swamped by waves up to 50 metres (160 feet) high, capable of surging up to 20 kilometers (12 miles) inland, according to Day's research.

Tsunamis, mistakenly called tidal waves, are commonly caused by earthquakes that occur under or beneath the sea.

But around three decades ago, the theory was born that these gigantic waves can also be caused by collapsing islands. The evidence for this came from debris in the mid-Pacific believed to have been strewn from a titanic landslide in Hawaii."

Day published his findings on Cumbre Vieja in 1999 after a two-year study into the volcano, which occupies the southern half of La Palma.
(Source #27 & #28)


Sources:

#1 http://science.nasa.gov/headlines/y2006/21dec_cycle24.htm (http://science.nasa.gov/headlines/y2006/21dec_cycle24.htm)

#2 http://alignment2012.com/whatisGA.htm (http://alignment2012.com/whatisGA.htm)

#3 Part 1 Lost Books of Nostradamus 2012 and Ophiuchus 1 of 3 (http://www.youtube.com/watch?v=jF0CHi1RXX0#normal)

Part 2 Lost Books of Nostradamus 2012 and Ophiuchus 2 of 3 (http://www.youtube.com/watch?v=PPm6qCHCvjo&feature=related#normal)
Part 3 Lost Books of Nostradamus 2012 and Ophiuchus 3 of 3 (http://www.youtube.com/watch?v=IbpER_qKkcI&feature=related#normal)

#4 http://www.think-aboutit.com/native/CherokeeProphecies.htm (http://www.think-aboutit.com/native/CherokeeProphecies.htm)

#5 http://web.archive.org/web/19991006061817/http://lightnews.org/December+98/fifth_world_of_peace_and_l.htm (http://web.archive.org/web/19991006061817/http://lightnews.org/December+98/fifth_world_of_peace_and_l.htm)

#6 http://divinecosmos.com/index.php?option=com_content&task=view&id=76&Itemid=36 (http://divinecosmos.com/index.php?option=com_content&task=view&id=76&Itemid=36)

#7 http://hinduism.about.com/od/basics/a/goldenage.htm?nl=1 (http://hinduism.about.com/od/basics/a/goldenage.htm?nl=1)

#8 http://www.newdawnmagazine.com/Articles/The_Alchemy_of_Time.html (http://www.newdawnmagazine.com/Articles/The_Alchemy_of_Time.html)

#9 http://www.jayweidner.com/2012Topology3.html (http://www.jayweidner.com/2012Topology3.html)

#10 http://exodus2006.com/2012code.htm (http://exodus2006.com/2012code.htm)

#11 http://www.bible-codes.org/letters-2012-trueandfalse-prophecy.htm (http://www.bible-codes.org/letters-2012-trueandfalse-prophecy.htm)

#12 http://www.crystalinks.com/milkywaysag.html (http://www.crystalinks.com/milkywaysag.html)

#13 http://www.freespiritcentre.info/articles/37/21_emergence_into_concrete_manif/ (http://www.freespiritcentre.info/articles/37/21_emergence_into_concrete_manif/)

#14 http://en.wikipedia.org/wiki/Novelty_Theory (http://en.wikipedia.org/wiki/Novelty_Theory)

#15 http://www.rense.com/general63/rv.htm (http://www.rense.com/general63/rv.htm)

#16 http://www.mindpowernews.com/TibetanRV.htm (http://www.mindpowernews.com/TibetanRV.htm)

#17 http://www.december212012.com/articles/religion/2.shtml (http://www.december212012.com/articles/religion/2.shtml)

#18 http://en.wikipedia.org/wiki/Prophecy_of_the_Popes (http://en.wikipedia.org/wiki/Prophecy_of_the_Popes)

#19 http://www.divulgence.net/ (http://www.divulgence.net/)

#20 http://www.pandemicflu.gov/ (http://www.pandemicflu.gov/)

#21 http://www.diagnosis2012.co.uk/cro.htm (http://www.diagnosis2012.co.uk/cro.htm)

#22 http://www.freewebs.com/project2ccma/links.htm (http://www.freewebs.com/project2ccma/links.htm)

#23 http://www.cropcircleconnector.com/interface2005.htm (http://www.cropcircleconnector.com/interface2005.htm)

#24 http://halfpasthuman.com/ (http://halfpasthuman.com/)

#25 http://www.armageddononline.org/Current-Events/web-bot.html (http://www.armageddononline.org/Current-Events/web-bot.html)

#26 http://www.rense.com/general13/tidal.htm (http://www.rense.com/general13/tidal.htm)

#27 http://www.terradaily.com/2004/041226152117.76iv431d.html (http://www.terradaily.com/2004/041226152117.76iv431d.html)

#28 http://news.bbc.co.uk/1/hi/sci/tech/3553368.stm (http://news.bbc.co.uk/1/hi/sci/tech/3553368.stm)


http://projectavalon.net/forum/showthread.php?t=6432 (http://projectavalon.net/forum/showthread.php?t=6432)



หัวข้อ: Re: EARTH MONITOR ACTIVITIES
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 12 มิถุนายน 2553 14:28:27
Is Nibiru's Approach Path Hidden in the Avebury Crop Circle ? (http://www.youtube.com/watch?v=BJN7kQmkxmk#)


หัวข้อ: Re: EARTH MONITOR ACTIVITIES
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 12 มิถุนายน 2553 14:29:52
Avebury Manor Crop Circle- 2012 and Nibiru: Part 1 (http://www.youtube.com/watch?v=9-LKrC66xJI#)


หัวข้อ: Re: EARTH MONITOR ACTIVITIES
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 12 มิถุนายน 2553 14:30:37
Avebury Manor Crop Circle- 2012 and Nibiru: Part 2 (http://www.youtube.com/watch?v=JPBdsp6DOFk#)


หัวข้อ: Re: EARTH MONITOR ACTIVITIES
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 12 มิถุนายน 2553 14:31:11
New images of nibiru= May 2009 (http://www.youtube.com/watch?v=T9QF9T9pnPs#)


หัวข้อ: Re: EARTH MONITOR ACTIVITIES
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 12 มิถุนายน 2553 14:32:26
พระอาทิตย์ 2 ดวง.... ( What the Government Isn't Telling You )

G1.9 ?

Nibiru ?

ERIS ?

ภาพเมื่อ 20 December 2009


Two Suns In Sky? UFO? (http://www.youtube.com/watch?v=EW4L5hoS5mI#ws)


ภาพเมื่อ 21 December 2009

YouTube - Broadcast Yourself. (http://www.youtube.com/watch?v=H19S6IQqdMU&feature=related#)


ภาพเมื่อ 18 December 2009

YouTube - Broadcast Yourself. (http://www.youtube.com/watch?v=iciqoOM80Vk&NR=1#)


ภาพเมื่อ 21 April 2009

Nibiru 2012 real video 21 04 09 (http://www.youtube.com/watch?v=uVB3cvwz6ng#)


HERCOLOBUS (NIBIRU) SE ACERCA (http://www.youtube.com/watch?v=lOvrutDr_D4#)


Two Sun Sunset (http://www.youtube.com/watch?v=6oEO_KQyyNg#)



(http://www.zetatalk.com/index/zeta167a.jpg)

(http://www.zetatalk.com/index/zeta167b.jpg)



พระอาทิตย์ 2 ดวง....ที่พบในเมืองไทย

http://www.weekendhobby.com/board/photo/Question.asp?ID=15878 (http://www.weekendhobby.com/board/photo/Question.asp?ID=15878)

4 มีนาคม 2551

(http://www.weekendhobby.com/board/photo/picture/143255112554.jpg)

(http://www.weekendhobby.com/board/photo/picture/143255113445.jpg)

(http://www.weekendhobby.com/board/photo/picture/143255113511.jpg)













หัวข้อ: Re: EARTH MONITOR ACTIVITIES
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 12 มิถุนายน 2553 14:51:21
NASA Study Shows Sun Responsible for Planet Warming

http://www.dakotavoice.com/2009/06/nasa-study-shows-sun-responsible-for-planet-warming/ (http://www.dakotavoice.com/2009/06/nasa-study-shows-sun-responsible-for-planet-warming/)



The Whole Solar System is Undergoing Global Warming.

http://www.infowars.com/articles/science/global_warming_whole_system_undergoing_global_warming.htm (http://www.infowars.com/articles/science/global_warming_whole_system_undergoing_global_warming.htm)




 :-[


หัวข้อ: Re: EARTH MONITOR ACTIVITIES
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 12 มิถุนายน 2553 14:51:45


Planet X Special Report No. 01: Where is Planet X? (Full Length Version)

13 November 2009


# ลิ้งค์ ยูทูบ ผิดพลาด #




(http://www.firstbuddha.com/g19/03.jpg)

(http://www.firstbuddha.com/g19/10.jpg)

(http://www.firstbuddha.com/g19/11.jpg)

(http://www.firstbuddha.com/g19/12.jpg)

(http://www.firstbuddha.com/g19/13.jpg)

(http://www.firstbuddha.com/g19/14.jpg)

(http://www.firstbuddha.com/g19/15.jpg)

(http://www.firstbuddha.com/g19/20.jpg)

(http://www.firstbuddha.com/g19/21.jpg)

(http://www.firstbuddha.com/g19/22.jpg)

(http://www.firstbuddha.com/g19/23.jpg)











หัวข้อ: Re: EARTH MONITOR ACTIVITIES
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 12 มิถุนายน 2553 14:51:59
Norway Time Hole “Leak” Plunges Northern Hemisphere Into Chaos

Written by (Author )World
Jan 8, 2010


(http://4.bp.blogspot.com/_OhaHEeWqYU0/S0zrf3nmnbI/AAAAAAAAHBs/UN_Rp9rWW8U/s1600/norway_spiral.jpg)



Russian scientists are reporting to Prime Minister Putin today that the high-energy beam fired into the upper heavens from the United States High Frequency Active Auroral Research Program (HAARP) radar facility in Ramfjordmoen, Norway this past month has resulted in a “catastrophic puncturing” of our Plant’s thermosphere thus allowing into the troposphere an “unimpeded thermal  inversion” of the exosphere, which is the outermost layer of Earth’s atmosphere.

To the West’s firing of this ‘quantum’ high-energy beam we had previously reported on in our December 10, 2009 report titled “Attack On Gods ‘Heaven’ Lights Up Norwegian Sky”.

To how catastrophic for our Planet this massive thermal inversion has been Anthony Nunan, an assistant general manager for risk management at Mitsubishi Corporation in Tokyo, is reporting today that the entire Northern Hemisphere is in winter chaos, with the greatest danger from this unprecedented Global event being the destruction of billions of dollars worth of crops in a World already nearing the end of its ability to feed its self.

So powerful has this thermal inversion become that reports from the United States are stating that their critical crops of strawberries, oranges, and other fruits and vegetables grown in their Southern States, are being destroyed by record cold temperatures. The US is further reporting record amounts of snowfall in what they are now warning may be their worst winter in 25 years.

Reports from the United Kingdom today are, likewise, showing a Nation in chaos as brutal cold temperatures continue to batter the British people suffering under the worst snow blizzards to hit them in almost 50 years. So dire has it become in the UK that their National Grid yesterday issued only its second warning in its entire history stating that their Nation’s gas supply was running out due to this unprecedented event.

Not just to the UK, but also to the entire European Union has this thermal inversion been affecting as reports from that region show continued chaos is occurring due to plunging temperatures and snows. In the UK, also, reports are showing that the military has been called out to rescue over 1,000 stranded vehicles.

Though the Motherland, and its people, are some of the best equipped in the World to handle such severe winter conditions, the Russian island of Sakhalin was inundated this past week by a rare Snow Cyclone setting off no less than avalanches.

But to the worst affected region of the Northern Hemisphere no one has been hit harder than China, where in what is being described as a “soul-destroying snowstorm” this Asian Nation has been plunged into such havoc the entire country has been brought to a standstill. China further reports that the massive snowstorms hitting them are their worst in 60 years and necessitating their military forces to save over 1,400 people trapped when their train became covered in snow. So overwhelmed by this unprecedented event has China become that they have ordered all of their citizens to help with snow removal too.

South Korea has not been spared either as reports from that Nation are reporting their worst snow storms in their modern history of recording these events.

Reports from Japan are also reporting record snowfall in their Northern Regions, where according to one unnamed Kushiro resident, “Snow falls hard here in Kushiro, but this is the most I have ever seen. The snow’s piling up and we’re running out of places to dump it.”

Canada, another Nation used to extreme winter events, reports that the storm that had hit their maritime provinces this past week was so powerful buildings were knocked off of their foundations in what one resident, Tom Jardine, described as being “worse than a hurricane”.

To the long-term consequences of this thermal inversion caused by the West, these reports further warn that by the puncturing of our atmosphere by the HHARP radars our Planet has, also, been “needlessly exposed” to the growing threat posed to us by the giant mysterious object currently approaching us (named by NASA as G1.9) which we had previously reported on in our January 3rd report titled “Russia Prepares For Asteroid Strike As New Comet Nears Sun”, and which has been blamed for the rapid shifting of our Earth’s North Pole that was first documented in 2005.

But to the most critical aspect of these events it surely lies with the Western World’s continued arrogance in regards to experimenting on both our Planets natural species and human beings, and though who may think that they are ‘gods’, are continuing to give evidence that they are acting more like devils.
DISCLAIMER: Pakistan Daily News does not necessarily agree witht he views set forth by the Author of this article.

http://www.daily.pk/norway-time-hole-%E2%80%9Cleak%E2%80%9D-plunges-northern-hemisphere-into-chaos-14311/?hnbgfv (http://www.daily.pk/norway-time-hole-%E2%80%9Cleak%E2%80%9D-plunges-northern-hemisphere-into-chaos-14311/?hnbgfv)


หัวข้อ: Re: EARTH MONITOR ACTIVITIES
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 12 มิถุนายน 2553 14:52:16
คำทำนายของมนุษย์ต่างดาวของชายที่อ้างว่าถูกลักพาตัว...?

เดือน ตุลาคม ค.ศ. 2000 ชาวคอร์กิโนหลายคน เห็นดวงแสงลึกลับ ลอยวูบลงสู่พื้นดิน แล้วพุ่งกลับขึ้นไปในอากาศ ทิ้งรอยไหม้จนหินละลาย ซึ่งต่อมาหินละลายดังกล่าว ได้รับการตรวจสอบจากนักธรณีวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย สหรัฐอเมริกา ที่ลงความเห็นว่าหินได้รับความร้อนอย่างไม่น่าเชื่อ

นอกจากแสงลึก ลับแล้ว ที่นี่ยังมีชายผู้หนึ่งซึ่งอ้างว่าเขาสามารถติดต่อกับมนุษย์ต่า งดาวได้มานาน แล้ว ล่าสุดเมื่อปี 2002 เขาก็อ้างว่าเขาถูกลักพาตัวไปยังยางนอกโลกถึง 3 วัน ซึ่งงานนี้เขาไม่ได้อ้างลอยๆ นะ เขามีพยานหลักฐานอันน่าทึ่ง และยังไม่อาจพิสูจน์ค้านได้ว่าเป็นการทำปลอม หรือกุเรื่องขึ้นเสียด้วย

ชาย ผู้มีประสบการณ์พิเศษคนนี้ ชื่อ อูแรนเดอร์ โอลิเวียร่า เขาอ้างว่าเขาเคยติดต่อ กับมนุษย์ต่างดาวมาหลายครั้ง มนุษย์ต่างดาวของ โอลิเวียร่า ไม่ใช่ทอล ดาร์ค แอนด์ แฮนซัม แต่เป็นทอล บลอนด์ ผิวขาวร่างสูง ผมบลอนด์ ดวงตาสีฟ้าจาง โดยมีแก้วตาสีเหลืองอ่อนวางตามตัวตามแนวตั้งเหมือนตาแมว ฟังดูไม่น่าเกลียดเหมือนตัวอีทีโอลิเวียล่า บอกเราว่ามนุษย์ต่างดาวใช้สิ่งที่เรียกว่าแสงพลาสม่า เป็นเครื่องมือติดต่อสื่อสารกับเขาทางโทรจิต

เหตุการณ์ที่น่าทึ่งที่สุดที่เกิดขึ้นเมื่อ 15 กันยายน 2002 คืนนั้น

โอ ลิเวียร่า หายตัวไปจากห้องนอน ทิ้งไว้แต่รอยไหม้รูปร่างคนนอนบนผู้ปูเตียงและบนฝ้าเพดาน ไม่มีใครรู้ว่าเขาหายไปไหน อีก 3 วันต่อมมจู่ๆ เขาก็กลับมาอยู่ในห้องนอนนั้น และเขาอ้างตลอดว่า เวลาที่เขาหายไปนั้นเขาถูกนำตัวไปยังยานต่างดาว


(http://play.kapook.com/files/play/photo/3/19110_928075.jpg)

(http://play.kapook.com/files/play/photo/3/19110_928076.jpg)
 

โอลิเวียร่า บอกว่าเขารู้ตัวล่วงหน้าว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ โดยเขาได้รับการติดต่อ ทางโทรจิตผ่านแสงพลาสม่า ว่ามนุษย์ต่างดาวจะมานำตัวเขาไปในคืนดังกล่าว โดยก่อนเกิดเหตุการณ์จะมีสัญญาณนำมาให้รู้ โดยจะเกิดฝนก้อนหินตกลงมา

ค่ำ วันที่ 15 กันยายน 2002 เวลาประมาณ 19.13 น. เพื่อนบ้านใกล้เคียงของ โอลิเวียร่า ต้องประหลาดใจที่ได้ยินเสียงอะไร ร่วงกรูกราวอยู่บนหลังคา เมื่อออกมาดูพบว่าเป็นก้อนหินกลมๆ ก้อนเล็ก ๆ ตกลงมาจากท้องฟ้า หลายคนช่วยเก็บก้อนหิน บางคนก็ถ่ายวีดีโอไว้เป็นหลักฐานด้วย

เขา เล่าว่า ในขณะที่เขานอนอ่านหนังสืออยู่ยนเตียงสักครู่ก็มีแสงสีม่วงสว่า งไปทั้งห้อง แสงนั้นรวมตัวเข้าเหมือนฟองสบู่ ร่างของเขาลอยทะลุเพดาน รู้สึกเหมือนกระดูถูกยืดออก แต่ไม่มีความเจ็บปวด ครั้งลอยพ้นผ่านหลังคาบ้านไป ลำแสงสีม่วงก็พลิกร่างเขาให้ยืนขึ้น เมื่อไปถึงยานต่างดาว ( ซึ่งเขาไมได้บอกว่ามันเป็นอย่างไร ) เขาก็ถูกนำตัวเข้าไปในฟองอากาศ ใบใหญ่ ซึ่งมีผิวบางใส คล้ายๆ ว่าข้างในคงจะคล้ายๆ ห้องฆ่าเชื้อ ปรับพลังงานให้สมดุลย์อะไรทำนองนั้น จากนั้นมนุษย์ต่างดาวผมบลอนด์ร่างสูง ก็พาเขาขึ้นบันไดไปยังชั้นบนของยาน ซึ่งเป็นห้องกว้างใหญ่เหมือนไม่มีที่สิ้นสุด ที่นั่นมนุษย์ต่างดาวให้เขาดูจอภาพ อันเป็นภาพเกี่ยวกับโลก ระบบสุริยะ และกาแล็คซี่ของเรา มนุษย์ต่างดาวบอกว่า ในวันที่ 22 ธันวาคม 2012 ( พ.ศ. 2555 ) จะเกิดปรากฎการณ์ในอวกาศครั้งใหญ่ ซึ่งจะมีผลกระทบไปทั้งจักรวาล ในวันนั้นแกแล็คซี่จะส่งแสงวาบเจิดจ้าออกมาก ดวงอาทิตย์ทุกดวงในแกแล็คซี่ จะสะท้องแสงนั้นไปยังดาวเคราะห์ที่โคจรรอบตัวมัน สิ่งมีชีวิตทั้งมวลอันมีดวงตาจะได้เห็นแสงเจิดจ้านี้ทั่วหน้ากั น โลกของเราจะปั่นป่วน ด้วยพายุสุริยะทั้งแสงอาทิตย์ก็จะร้อนจัดขึ้น

คำ ทำนายของมนุษย์ต่างดาว ที่ว่าจะเกิดอาเพศขึ้นทั่วทั้งจักรวาลในวันนั้นจะเป็นจริงหรือไ ม่ น่าแปลกที่ว่า วันที่ 22 ธันวาคม 2012 นั้นเป็นวันสุดท้ายในปฏิทินของชาวมายาอีกด้วย

จาก... http://www.renaultclubthai.com/forum/forum_posts.asp?TID=7519 (http://www.renaultclubthai.com/forum/forum_posts.asp?TID=7519)


หัวข้อ: Re: EARTH MONITOR ACTIVITIES
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 12 มิถุนายน 2553 14:52:31
คัมภีร์ไบเบิ้ล

 "วันสิ้นโลก" หมายถึงยุคสุดท้ายที่พระเยซูจะเสด็จกลับมายังโลกครั้งที่ 2 ( ครั้งแรกคือการที่พระองค์เสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์และพลีชีพบนไ ม้กางเขนเพื่อไถ่บาปมนุษย์เมื่อสองพันกว่าปีที่ผ่าน ) ซึ่งพระคัมภีร์ได้ทำนายและบอกไว้ว่าจะมีเหตุการณ์สำคัญๆที่บ่งบ อกให้เราทราบถึงวันสิ้นโลกหรือวันที่พระเยซูคริสต์จะเสด็จกลับม าอีกครั้งดังนี้

1. ชนชาติยิวหรืออิสราเอลจะกลับคืนมามีประเทศอีกครั้งหนึ่ง

ชาวยิวหรือที่เรารู้จักกันในปัจจุบันคือประเทศอิสราเอลเป็นชนชา ติที่พระเจ้าได้เลือกสรรไว้ที่จะไม่มีวันสิ้นชาติไปจากแผ่นดินโ ลก เราเห็นได้ว่าในประวัติศาสตร์ได้บันทึกไว้ว่า เมื่อ 586 ปีก่อนพระเยซูจะเสด็จลงมาเกิดนั้น ชนชาติยิวหลงลืมพรเจ้าและพระองค์ได้อนุญาตให้อาณาจักรบาบิโลนซึ ่งรุ่งเรืองมากในสมัยนั้นยกทัพมาโจมรคกรุงเยรูซาเล็มและจับพวกเ ขาไปเป็นเชลย ในยุคต่อๆมาชาวยิวจึงแตกกระจัดกระจายไปตั้งถิ่นฐานอยู่ทั่วโลก(เหมือนม้งเราเลย) เมื่อ2000 ปีก่อนพระเยซูได้ตรัสไว้ว่าเมื่อไรก็ตามที่ชนชาติอิสราเอลกลับค ืนมรตั้งประเทศได้อีกที จะไม่มีใครสามารถทำลายพวกเขาได้อีก และเมื่อท่านเห็นเช่นนั้นเป็นสัญญาณตัวหนึ่งที่บ่งบอกว่าใกล้วั นที่พระเยซูจะเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่งแล้ว

ทุกท่านอิสราเอลกลับคืนสู่ประเทศและสหประชาชาติรับรองเอกราชของ ประเทศนี้เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 1948 ว่าเป็นประเทศ เมื่อเริ่มแรกอิสราเอลมีพลเมืองไม่ถึง 1,000,000 คน (น้อยกว่าจังหวัดเชียงใหม่เราอีก)ได้ถูกกลุ่มอาหรับรังแกจนแทบจะตั้งตัวไม่ติด และแล้วในเดือนมิถุนายน 1967 อาหรับ 5 ประเทศซึ่งมีประชากรกว่า 200,000,000 คนได้รวมตัวกันสู้รบและทำสงครามกับอิสราเอลซึ่งมีประชากรไม่ถึง หนึ่งล้านคน ทำการสู้รบกับประเทศอาหรับ 5 ประเทศเป็นเวลา 7 วัน ผลปรากฎว่าอิสราเอลขยี้อาหรับจนสิ้นฤทธิ์ เครื่องบินทิ้งระเบิดของประเทศอียิปต์และซีเรีย 4,000 กว่าลำยังไม่ทันบินขึ้นจากสนามบินก็ถูกอิสราเอลทิ้งระเบิดถล่มย ับเยิน แต่อาหรับยังไม่ท้อและเลิกโจมตีง่ายๆ ปี1972 ในเช้าของวันหยุดทางศานาของอิสราเอลที่กองทัพอิสราเอลไม่ได้เตร ียมตัวและตั้งตัวทันก็ถูกโจมตีจากอาหรับอีก (เหมือนหนังเรื่อง Pearl Harberเลย) คราวนี้ยืดเยื้อไปถึง 14 วัน แต่สุดท้ายอาหรับก็ต้องสยบยอมแพ้อีกเช่นเคย

ชนชาติอิสราเอลจะไม่มีใครทำลายได้ ( แม้แต่ฮิตเลอร์ที่มีกองทัพเกรียงไกรและไล่เข่นฆ่าชาวยิวจนกองได ้เป็นภูเขาๆ) นั่นเพราะพระเจ้าจะให้พวกเขากลับมาหาพระองค์ เมื่อเวลาที่พระเยซูคริสต์เสด็จกลับมาอีกครั้ง ทำไมอเมริกาและยุโรปมักจะอยู่ข้างอิสราเอลทุกครั้งที่เกิดปัญหา ที่ตะวันออกกลาง นั่นเป็นเพราะเขาตระหนักดีว่าไม่มีใครจะปรบมือสู้รบกับประชากรท ี่พระเจ้าเลือกได้

2. เหตุการณ์ทางการเมือง

(จากพระธรรม มัทธิวบทที่ 24 ข้อ 6 - 7)

2.1 สงคราม

ก่อนวันที่พระเยซูจะเสด็จกลับมา ประเทศต่างๆในโลกจะมีการแย่งชิงอำนาจ และความเป็นใหญ่ โดยการทำสงครามกัน จะมีการเกลียดชัง และเอาเปรียบกันซึ่งนำไปสู่การสู้รบที่รุนแรง นับแต่วันที่พระเจ้าสร้างโลกใบนี้มา ไม่มีสงคราใดจะใหญ่โตเลย จนกระทั่ง

- ศตวรรษที่ 20 ก็ได้อุบัติสงครามโลกครั้งที่ 1 (ปี 1914 - 1917 ) และสงครามโลกครั้งที่ 2 (1939 - 1945) ปะทุขึ้น มีคนเสียชีวิตมากว่า 29,000,000 คน

- สงคราเกาหลี (1950 - 1953 ) และสงครามเวียตนาม (1968 - 1972) ได้คร่าชีวิตผู้คนมากกว่า 10,000,000 คน

ปัจจุบันมีการสู้รบกันประปรายในประเทศต่างๆทั่วโลกไม่น้อยกว่า 20 สงครามในทุกๆวัน

2.2 การรวมตัวกันของประชาชาติต่างๆ

เห็นได้จากการรวมตัวกันของสหภาพยุโรปหรืออียู (E.U. = Europe Union) เป็นการรวมตัวกันของ 11 ประเทศในยุโรป ไม่ใช่สิ่งที่เป็นปรากฎการณ์ใหม่หรือแปลกประหลาดอะไรเลย เพราะในพระคัมภีร์ในพระธรรมดาเนียลบทที่ 7 ข้อ 19และ 24 ได้ทนายไว้เกือบ 500 ปีก่อนสมัยที่พระเยซูคริสต์จะเกิดเสียอีก และในพระธรรมวิวรณ์บที่ 17 ข้อ 12 ได้ทำนายไว้หลังจากพระเยซูเสด็จขึ้นสวรรค์แล้ว 95 ปีไว้อย่างชัดเจนว่าจะมีประเทศต่างๆ 10 ประเทศซึ่งเคยรวมตัวกันเป็นจักรวรรดิ์โรมันในสมัยก่อนกลับมารวม ตัวกันอีกครั้งก่อนที่พระเยซูคริสต์จะเสด็จกลับมาครั้งที่สอง การรวมตัวนี้จะเกิดขึ้นเป็น 2 ช่วงคือ

- ช่วงที่ 1 เป็นการรวมตัวกันเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็คือการประกาศใช้เงินสกุลยูโร(Euro)สกุลเดียวในช่วงปี 1999 ที่ผ่านมา (หรือแม้ASEANเราที่กำลังเป็นประเด็นพูดคุยกันอยู่ในปัจจุบัน ล่าสุดการประชุมคณะรัฐมนตรีต่างประเทศที่ประเทศกัมพูชาที่ผ่านม าก็ได้หยิบยกประเด็นนี้มาพูดอีกครั้งและมีการพูดถึงการใช้เงินส กุลอาเซียนเราด้วย)

- ช่วงที่ 2 จะมีการรวมตัวทางการเมืองคือ มียุโรปเดียว รัฐบาลเดียว ซึ่งในช่วงที่สองนี้กำลังมีการเจราจารายละเอียดอยู่ในขณะนี้ พระคัมภีร์ทำนายไว้ว่าจะมีการรวมตัวกันของ 10 ประเทศ นั่นหมายถึงอาจมีหนึ่งประเทศถอนตัวในอนาคตอย่างแน่นอน

3. เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ (จากพระธรรมมัทธิวบทที่ 24 ข้อ 7 )

3.1 เกิดการกันดารอาหารทั่วโลก

เมื่อปี 1800 ประชากรของโลกมีจำนวน 2,000,000,000 คน (สองพันล้านคน)ปี 1950 เพิ่มเป็น 3,000,000,000 คน (สามพันล้านคน)เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 1999 ประชากรโลกมี 6,000,000,000 คน (หกพันล้านคน) นักวิทยาศาสตร์ทำนายว่าอีก 50 ปีข้างหน้าน้ำมันเชื้อเพลิงจะหมดไปจากโลกนี้
ทุกวันนี้ประเทศเอธิโอเปียมีคนตายเพราะขาดอาหารวันละ 3,000 คน นักเศรษฐศาสตร์ทำนายว่าแต่ละวันประชากรโลก 2,000,000,000 คน(สองพันล้านคน)มีอาหารกินอิ่ม อีก 2,000,000,000 คน (สองพันล้านคน)มีอาหารกินอย่างเร้นแค้นและกินไม่อิ่ม ในขณะที่อีก 2,000,000,000 คน(สองพันล้านคน)ไม่มีแม้แต่จะกิน (ครบ 6,000,000,000 ล้านคนพอดี)

3.2 เกิดโรคระบาด (ในพระธรรมลูกาบทที่ 21 ข้อ 11และพระธรรมวิวรณ์บทที่ 6 ข้อ
ปัจจุบันโรคเอดส์ โรคอีโบล่า โรคฝีดาษลิง ล้วนแต่เป็นโรคสายพันธ์ใหม่ที่ยังไม่มียารักษาให้หายได้ โดยเฉพาะโรคเอดส์ที่เพิ่งค้นพบในปี 1982 ระยะเวลาอันสั้นแต่ปัจจุบันคนทั่วโลกติดเชื้อHIVนี้เข้าไปแล้ว 40,000,000 คน (สี่สิบล้านคน) ในจำนวนนี้ 1,500,000 คนเป็นเด็ก และในปี 1999ที่ผ่านมามีคนตายด้วยโรคเอดส์แล้ว 2,600,000 คน (ในขณะที่ประเทศไทยคาดว่าอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีคนไทยติดเชื้อเอดส์ถึง 4,000,000คน)

4. เหตุการณ์ทางธรรมชาติ (จากพระธรรมมัทธิวบทที่ 24 ข้อ 7)

คัมภีร์ทำนายไว้ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ทั่วโลก ซึ่งจะคร่าชีวิตคนเป็นแสนๆทีเดียว ตลอด 20 ปีท่ผ่านมา ได้เกิดแผ่นดินไหวในอเมริกา ญี่ปุ่น จีน อินเดีย อัฟกานิสถาน ตุรกี ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ได้มีคนเสียชีวิตนับล้านคนและทรัพย์สินสูญหายมหาศาล ลำดับคร่าวๆได้ดังต่อไปนี้

- ปี ค.ศ. 1000 - 1008 มีแผ่นดินไหว 21 ครั้ง (ในช่วงระยะเวลา 800 ปี)
- ปี 1800 - 1900 มีแผ่นดินไหว 18 ครั้ง (เป็นเวลา 100 ปี)
- ปี 1900 - 1950 มีแผ่นดินไหว 33 ครั้ง (50 ปี)
- ปี 1950 - 1990 มีแผ่นดินไหว 93 ครั้ง (40 ปี)
- ปี 1990 - 1999 มีแผ่นดินไหว 103 ครั้ง (9 ปี)

หากสังเกตตัวเลขในวงเล็บจะพบว่า ระยะเวลายิ่งน้อยลงเท่าไหร่จำนวนของแผ่นดินไหวก็ทวีมากขึ้นเท่า นั้น และทุกครั้งที่เกิดแผ่นดินไหว จะมีคนเสียชีวิตนับพันขึ้นไป

5. เหตุการณ์ทางสังคม (จากพระธรรมมัทธิว บทที่ 21 ข้อ 12)

5.1 ความรักความผูกพันจะเยือกเย็นลง (พระธรรมมัทธิวบทที่ 24 ข้อ 12 และ 2ทิโมธีบทที่3ข้อ 1 - 4 )
มนุษย์จะเห็นแก่ตัว ความเกลียดชังจะทวีขึ้น การให้อภัยกันแทบจะไม่มี ความโหดร้ายทารุณจะทวีความรุนแรงขึ้น เช่น การฆ่าล้างเผ่าพันธ์สมัยนาซี และที่ประเทศเขมร มนุษย์ดุร้ายเยี่ยงสัตว์เดรัจฉาน

5.2 ความรักทำให้ครอบครัวมั่นคงกำลังเสื่อสลาย

สถิติรวมทั่วโลกมีการหย่าร้าง 50%ต่อปี โลกต้องสูญเสียเงินจำนวน 25,000,000 บาท(ยี่สิบห้าล้านบาท)ต่อปีในการทำแท้ง

6. เหตุการณ์ทางฟ้าอากาศ (จากพระธรรมมาระโก บทที่ 13 ข้อ 24 -25)

ใกล้วันที่พระเยซูคริสต์จะกลับมาท้องฟ้าจะแปรปรวน ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาวจะไม่ส่องแสง ลมฟ้าอากาศจะทำให้ฤดูกาลเปลี่ยนไป

7. ความรู้มนุษย์จะทวีคุณ (จากพระธรรมดาเนียลบที่ 12 ข้อ 4)

7.1 ความรู้ทางวิชาการ

ความรู้ของมนุษย์เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวทุกๆ 8 ปี ความรู้ที่ตีพิมพ์เป็นเล่มหนังสือนั้นเฉลี่ยแล้วปีละ 500,000 กว่าเล่ม ถ้าจะอ่านอย่างละเอียดต้องใช้เวลาถึง 1,0000000 ปีจึงจะอ่านจบ ( แค่มหาลัยเชียงใหม่เดียวแต่ละปีมีวิทยานิพนธ์ไม่รู้กี่ร้อยกี่พ ันเล่มแล้ว) เทคโนโลยีและระบบComputorทำให้ความเป็นอยู่เปลี่ยนแปลงไปมาก เพราะความรู้ของมนุษย์ทวีคุณขึ้นอย่างรวดเร็ว มีคนกล่าวว่าเด็กชั้นประถมปัจจุบัน รู้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มากกว่านักวิทยาศาสตร์เมื่อร้อยกว่าปีท ี่แล้ว

7.2 การสื่อสาร

เมื่อ 50 ปีที่แล้ว การส่งจดหมาย ระยะทาง 100 กิโลเมตรต้องใช้เวลา 7 วัน ปัจจุบันสามารถถ่ายทอดเนื้อหาหนังสือทางEncyclopedia 25 volumesประมาณ 35,000 หน้าโดยใช้เวลาเพียง 3 วินาทีทางอิเลคทริคส์เท่านั้น

7.3 การเดินทาง

ในสมัยจักรพรรดิ์ซีซาร์แห่งกรุงโรม (ซึ่งเคยเป็นอาณาจักรที่รุ่งเรืองที่สุดแห่งหนึ่งของมนุษย์โลก) และในสมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก การเดินทางไม่ต่างกันเลย คือ ใช้ม้าหรือสัตว์เป็นพาหนะ แต่ปัจจุบันเครื่องบินเจ็ทรุ่นใหม่สามารถบินรอบโลกได้โดยใช้เวล าเพียง 80 วินาทีเท่านั้น (1นาทีกับอีก20วินาที) และยานอวกาศสามารถบินทะลุทะลวงอวกาศได้ถึงชั่วโมงละ 200,000 ไมล์ (ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า1 ไมล์เท่ากับ 3 กิโลเมตรครึ่งหรือเปล่า ไม่แน่ใจเหมือนกัน ใครชัวร์แชร์กันได้)

ทุกท่าน ท่านอาจเห็นว่านี่เป็นเรื่องเหลวไหล ชวนปวดหัวและตระหนกตกใจเปล่าๆ แต่ท่านลองพิจารณาดูว่าตลอดประวัติศาสตร์มนุษย์โลกที่ผ่านมาใช่ อย่างที่คัมภีร์ไบเบิ้ลกล่าวไว้หรือเปล่า ท่านอาจพบว่าเรื่องของพระเจ้า พระเยซูคริสต์ในHOLY BIBLE เป็นเรื่องที่เหลวไหลและโกหกที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมาหรือเป็นเ รื่องจริงที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา อยู่ที่ตัวท่านเองครับ ถ้าเป็นเช่นนั้นบุรุษนามชื่อเยซูคริสต์ก็ต้องเป็นนักโกหกที่เก่ งที่สุดในโลกเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามพระเยซูคริสต์บอกว่า อย่าตระหนกหรือตกใจเลย เหตุการณ์เหล่านี้จำเป็นต้องเกิด และยังตรัสอีกว่า

"เราเป็นทางนั้นเป็นความจริงและเป็นชีวิต ไม่มีใครไปถึงพระบิดา(สวรรค์)ได้ นอกจากมาทางเรา"


ที่มา(คัดมาบางส่วน)

http://www.tupr.net/board5/lofiversion/index.php?t745.html (http://www.tupr.net/board5/lofiversion/index.php?t745.html)

http://www.renaultclubthai.com/forum/forum_posts.asp?TID=7519 (http://www.renaultclubthai.com/forum/forum_posts.asp?TID=7519)