[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม => ข้อความที่เริ่มโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 16 มิถุนายน 2555 09:51:47



หัวข้อ: การเกิดเป็นภัย
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 16 มิถุนายน 2555 09:51:47
ถาม........เป็นภัยอย่างไร ? ขอความกรุณาขยายความ

ขอบพระคุณและขออนุโมทนา



ตอบ.......การเกิดดับนั้น

แสดงถึงความเป็นจริงของสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยแล้วก็ดับไป

ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน เป็นสิ่งที่ไม่น่ายินดี เพราะเป็นเพียงสภาพ

ธรรมที่เกิดปรากฏแล้วก็ดับไป ขณะนี้ซึ่งมีสภาพธรรมที่เกิดดับจึงเป็นภัยคือสิ่งที่น่ากลัว

เพราะตราบใดที่มีสภาพธรรมเกิดดับสืบต่อกันไป ก็ยังมีสภาพธรรมเกิดขึ้นเป็นไปทำ

ให้วนเวียนใน(สังสารวัฏฏ์)อย่างไม่มีวันจบสิ้น เป็นเหตุนำมาซึ่งทุกข์ในสังสารวัฏฏ์ต่าง ๆ

มากมาย เมื่อกล่าวโดยประมวลแล้วการเกิดขึ้นและดับไป เป็นภัย แต่ถ้าไม่มีสภาพธรรม

ใด ๆ เกิดขึ้นอีกเลย นั้นเป็นการปลอดภัย ไม่มีภัยใด ๆ เลย การที่จะเห็นการเกิดดับของ

สภาพธรรมว่าเป็นภัย ก็ต้องเป็นปัญญาระดับสูง

การศึกษาธรรม เป็นการศึกษาเพื่อให้เข้าใจถูกเห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรม

นั้น ๆ ซึ่งต้องเข้าใจถูกว่า นามธรรมเป็นนามธรรม รูปธรรมเป็นรูปธรรม โดยไม่ปะปน

กันเป็นสภาพธรรมแต่ละอย่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยแล้วก็ดับไป ไม่เที่ยง

ไม่ยั่งยืน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ซึ่งจะขาดการฟัง การศึกษาการ

พิจารณาไตร่ตรองในเหตุในผลของธรรมไม่ได้เลยและที่สำคัญการที่ปัญญาความเข้า

ใจถูกเห็นถูก จะรู้ความจริง ก็ไม่ใช่ไปรู้สิ่งอื่น นอกจากสิ่งที่มีจริง ๆ ที่กำลังปรากฏใน

ขณะนี้จนกว่าจะค่อย ๆ รู้ความจริงของสิ่งนั้นยิ่งขึ้นไม่ใช่ไปรู้ความจริงของสิ่งที่ไม่

ปรากฏหรือสิ่งที่ยังมาไม่ถึง สิ่งที่มีจริง ๆ ในขณะนี้เป็นธรรมซึ่งสามารถศึกษาให้เข้าใจ

ได้เพราะมีจริง ๆ ในชีวิตประจำวัน ปัญญาจะเจริญขึ้นก็ต้องจากการสะสมความเข้าใจ

ถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ๆ

สภาพธรรมที่เกิดดับก็เป็นภัยเพราะเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยงขณะนี้ก็มีภัย คือ สภาพ

ธรรมทีเกิดดับขณะทีเกิดขึ้นเป็นภัยแล้ว เพราะจะนำมาซึ่่งสภาพธรรมต่าง ๆ เพราะยัง

จะต้องมีสภาพธรรมทีเกิดดับวนเวียนไปไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้วนเวียนไปที่จะต้องได้รับ

ทุกข์ประการต่าง ๆ เพราะมีการสืบต่อของสภาพธรรมทีเกิดดับดังนั้น แม้สภาพธรรมที่

มีในขณะนี้แม้ยังไม่ได้ทำชั่วอะไรเลย ก็เป็นภัยที่น่ากลัวแล้ว ซึ่งจะเห็นตามความเป็น

จริงอย่างนี้ได้ ก็ต้องด้วยปัญญาระดับสูง

ซึ่่งโดยความละเอียดแล้ว การเกิดดับเป็นภัยเพราะเมื่อมีการเกิดขึ้นของสภาพ

ธรรม ก็จะต้องมีการดับไปและ เพราะอาศัยการเกิดขึ้นและดับไปของสภาพธรรมก็

ย่อมนำมาซึ่งสภาพธรรมอื่น ๆ เกิดขึ้นอีก ยกตัวอย่างเช่นเพราะอาศัย{ปัญจทวารา}

วัชชนจิต  เกิดขึ้นและดับไป เป็นปัจจัยให้เกิด ทุกขกายวิญญาณ มีการเจ็บปวดที่กาย

ในนรก เป็นต้น เพราะฉะนั้น ถ้าไม่มีการเกิดขึ้นและดับไปของสภาพธรรม มี ปัญจทวา

ราวัชนจิตแล้วก็จะไม่เกิด ทุกขกายวิญยาณ หรือ วิบากทางกายที่ไม่ได้เลยนี่คือการ

เกิดขึ้นและดับไปของสภาพธรรมนำมาซึ่ง{ภัย}คือ ความทุกข์ทรมานทางกาย

อีกนัยหนึ่งเพราะอาศัย สภาพธรรมที่เกิดขึ้นและดับไป เช่น อาศัย จิตเห็นเกิดขึ้น

และดับไป ก็เป็นปัจจัยให้ผู้ที่ยังมีกิเลส เกิด ความยินดี พอใจในสิ่งที่เห็น เป็นต้นได้

หากไม่มีการเกิดขึ้น และดับไปของจิตเห็น ก็จะไม่มีการเกิดกิเลส ยินดีพอใจ ในสีงที่

ปรากฏทางตาเลยจิตได้ยิน โสตวิญญาณ เมื่อเกิดขึ้และดับไปมีเสียง เป็น

อารมณ์หากไม่มีการเกิดขึ้นของ จิตได้ยิน ก็จะไม่การยินดีพอใจในเสียงนั้นเลย

เพราะฉะนั้น การเกิดขึ้นและดับไปของสภาพธรรม มีจิตเห็น เป็นต้น นำมาซึ่งภัยอะไร

นำมาซึ่งภัยคือ กิเลสนั่นเองดังนั้นที่กล่าวข้างต้นในความเห็นที่ 2 ไว้ว่าภัย มี

หลากหลายนัย ก็เพื่อให้เข้าใจว่า การเกิดดับนั้นเป็นภัย เพราะการเกิดดับของสภาพ

ธรรมนำมาซึงภัยประการต่าง ๆ ทั้งภัยที่ได้รับทุกข์ทรมาน และ นำมาซึ่งภัย คือ กิเลสด้วย

จะเห็นว่า การเกิดดับของสภาพธรรมเป็นภัยเพราะ นำซึ่งภัยประการต่าง ๆ

และเพราะมีภัยของกิเลส จึงมีการเกิดขึ้นของสภาพธรรม และเพราะอาศัยการเกิดขึ้น

ของสภาพธรรม ก็ทำให้ได้รับภัยต่าง ๆ

ซึ่งขณะนี้มีสภาพธรรมที่เกิดขึ้นและดับไป แต่ยังไม่ไ้ดประจักษ์ตัวธรรมที่กำลัง

เกิดขึ้นและดับไป จึงไม่เห็นว่าเป็นภัยเพราะขณะนี้ ก็ยังเห็นว่าเที่ยงเห็นไม่ได้ดับ

ไปเลย หากเห็นตามความเป็นจริงว่า เป็นแต่เพียงสภาพธรรมทีเ่กิดขึ้นและดับไป

ทุกขณะไม่มีอะไรเลย ย่อมเห็นว่า ขณะนี้เป็นภัย นำมาซึ่งความน่ากลัว ของสิ่งต่าง ๆ

และไม่มีสาระอะไรเลยในขณะนี้เพราะ เป็นแต่เพียงสภาพธรรมที่เกิดขึ้นและดับไป

เท่านั้นเป็นปัญญา ที่เป็นอาทีนวญาณ ที่เป็นวิปัสสนาญาณระดับสูง

ซึ่งกว่าจะเห็นการเกิดขึ้นและดับไปเป็นภัย จะต้องเริ่มจากปัญญาเริ่มต้น โดยเริ่มจาก

ความเข้าใจว่า เป็นแต่เพียงธรรมก่อน หากยังไม่รู้จักตัวธรรม ก็ไม่รู้ว่าอะไรเป็นภัย

ซึ่งก็จะต้องเริ่มจาการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม


บทความจากมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระอภิธรรม เลขที่ ๑๗๔/๑ ซอยเจริญนคร ๗๘ แขวง

ดาวคะนอง เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร ๑๐๖๐๐ ท่านใดสนใจก็ไปฟังการสนทนาธรรมได้

(http://image.free.in.th/z/ig/1dom5.gif)

http://www.crs.mahidol.ac.th/Audio/Chinese%20Pureland%20Chant/01_-_Praise_of_the_Lotus_Pond.mp3
1