[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => เกร็ดศาสนา => ข้อความที่เริ่มโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 11 กันยายน 2555 14:27:07



หัวข้อ: อัจฉริยธรรม 12 ประการ ความมหัศจรรย์ของพุทธมารดา
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 11 กันยายน 2555 14:27:07
อัจฉริยธรรม 12 ประการ ความมหัศจรรย์ของพุทธมารดา

(http://palungjit.com/feature/data/502/5_163.jpg)

พระนางสิริมหามายา ได้บำเพ็ญกุศลบารมีมาอย่างเต็มเปี่ยมตลอดแสนกัปป์เพื่อความเป็นพุทธมารดา ในสมัยพระเวสสันดร ก็ทรงเกิดเป็นพระนางผุสดี พระมารดาของพระเวสสันดร เมื่อทรงสิ้นอายุขัยก็ได้ไปบังเกิดในดุสิตบุรีเทวพิภพ แล้วจุติลงเกิดในพระครรภ์ของพระมเหสีของพระเจ้าชนาธิปราช แห่งนครเทวทหะ เมื่อครบ 10 เดือนก็ทรงประสูติ ออกมาสมบูรณ์พร้อมด้วยอิตถีลักษณะ 64 ประการ มีเบฐจกัลยาณีเป็นต้น พราหมณ์ทั้งหลายได้ตรวจลักษณะและพยากรณ์ว่า จักได้ทรงเป็นพุทธมารดาอย่างแน่นอน

นอกจากพระรูปโฉมที่งามพร้อมทุกประการ พระนางสิริมหามายาก็ยังทรงมีความวิเศษที่เลิศล้ำกว่าผู้ใด ซึ่งเรียกว่าอัจฉริยธรรม 12 ประการ นั่นก็คือ

1. เมื่อพระนางถือถาดทองที่เต็มไปด้วยภัตตาหารเลิศรส ทรงสามารถตักอาหารนั้นให้แก่มนุษย์ทั่วทั้งชมพูทวีปให้อิ่มได้ทุกคน อาหารนั้นก็มิได้บกพร่องไปเลย มนุษย์ทั้งหลายที่บริโภคอาหารของพระนางก็มีอายุยืนยาวทั้งสิ้น

2. เมื่อพระนางทรงสัมผัสกายของผู้เจ็บป่วยคนใดก็ตาม หากผู้นั้นไม่ถึงกาลหมดอายุขัย โรคทั้งหลายก็จะมลายหายสูญไปในทันที

3. เมื่อพระนางจับใบรุกขชาติทั้งหลาย ใบไม้นั้นก็กลับกลายเป็นทองไปทั้งสิ้น

4. เมื่อพระนางนำพืชผลใดลงเพาะปลูกลงในดิน พลันที่พระนางไดหลั่งอุทกวารีลงไป พืชนั้นก็จะผุดขึ้นเติบใหญ่แตกกิ่งก้าน ผลิดอกออกผลในทันที

5. หากพระนางเสด็จขึ้นไปบนภูเขา และเอ่ยว่าทรงกระหายน้ำ ทันใดท่อธารน้ำร้อนและน้ำเย็นก็จะชำแรกปฐพีขึ้นมาถวายแด่พระนาง

6. เมื่อพระนางเสด็จไปในที่ใด เหล่าภุมมเทวาและรุกขเทวาก็จะเนรมิตซึ่งทิพยอาหารถวายแด่พระนางและบริวาร คำว่าอดอยากมิได้มี

7. เมื่อพระนางเสด็จประพาสอุทยาน เหล่าเทวดาก็จะนำมาซึ่งน้ำทิพย์ให้สรงสนานและนำอาภรณ์ทิพย์มาตกแต่งให้พระนาง

8. เมื่อพระนางบรรทม ราชายักษ์ทั้ง 8 ก็จะถือพระขรรค์มายืนเฝ้าแวดล้อมอารักขาในทิศทั้งหลาย

9. เมื่อพระนางเสด็จไปพักเล่นในตำบลใด เหล่าเทวดาก็จะแปลงเพศมาเล่นมหรสพถวายแด่พระนางให้เพลิดเพลิน

10. เมื่อถึงยามเย็น เทวดาที่สถิตในป่าหิมพานต์ก็จะนำมาซึ่งน้ำจากสัตตะมหาสระ ใส่หม้อทองมาสรงสนานให้แก่พระนาง

11. ในกาลที่ทรงเกิด เทวดาได้นำพระแท่นอันเป็นทิพย์ที่เกิดจากไม้กัลปพฤกษ์ ยาว 80 ศอก กว้าง 80 ศอก ถวายให้พระนางได้บรรทมบนแท่นอันเป็นสิริโดยตลอด

12. เมื่อพระนางทอดพระเนตรสมณชีพราหมณ์และชาวประชาทั้งปวง หากประสงค์จะบริจาคทาน ฝนรัตนชาติก็จะตกลงจากอากาศให้พระนางแจกจ่ายได้ดังประสงค์

(ถอดความจากพระปฐมสมโพธิกถา)


หัวข้อ: Re: อัจฉริยธรรม 12 ประการ ความมหัศจรรย์ของพุทธมารดา
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 11 กันยายน 2555 14:27:46
อัจฉริยธรรม 12 ประการนี้เป็นเพียงเศษเสี้ยวแห่งผลบุญที่พระนางได้ทรงสั่งสมมาตลอดแสนกัปป์เพื่อตำแหน่งอันยอดเยี่ยมคือพุทธมารดา ตำแหน่งพุทธมารดานี้เป็นฐานะที่ได้โดยยากยิ่ง เพราะพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งก็จะมีพุทธมารดาเพียงหนึ่งพระองค์เท่านั้น

พระนางศิริมหามายานั้น เมื่อบารมีเต็มเปี้นมแล้วก็ลงมาทำหน้าที่เป็นพุทธมารดาแห่งพระโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน โดยพระชาติที่สำคัญในการสร้างบารมีที่ปรากฏในพระคัมภีร์ต่างๆ ก็มีดังต่อไปนี้

ในกัปที่ 91 นับจากภัทรกัปนี้ พระนางสิริมหามายาได้พุทธพยากรณ์อีกครั้งจากพระวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังต่อไปนี้


ในกาลนั้น พระราชาพระนามว่าพันธุมราช เสวยราชสมบัติในพันธุมดีนคร เมื่อพระวิปัสสีศาสดาประทับอยู่ในเขมมฤคทายวัน อาศัยพันธุมดีนคร กาลนั้นมีพระราชาองค์หนึ่งส่งสุวรรณมาลาราคา ๑ แสน กับแก่นจันทน์อันมีค่ามาก ถวายแด่พระเจ้าพันธุมราช

พระเจ้าพันธุมราชมีพระราชธิดา ๒ องค์ พระเจ้าพันธุมราชมีพระราชประสงค์จะประทานบรรณาการนั้นแก่พระราชธิดาทั้งสอง จึงได้ประทานแก่นจันทน์แก่พระธิดาองค์ใหญ่ ประทานสุวรรณมาลาแก่พระธิดาองค์เล็ก.

ราชธิดาทั้งสองนั้นคิดว่า เราทั้งสองจักไม่นำบรรณาการนี้มาที่สรีระของเรา เราจักบูชาพระศาสดาเท่านั้น ครั้นคิดดังนี้แล้วจึงทูลพระราชาว่า ข้าแต่เสด็จพ่อ ข้าพระบาททั้งสองจักเอาแก่นจันทน์และสุวรรณมาลาบูชาพระทศพล พระเจ้าพันธุมราชทรงสดับดังนั้น ก็ประทานอนุญาตว่า ดีแล้ว ราชธิดาองค์ใหญ่บดแก่นจันทน์ละเอียดเป็นจุรณ บรรจุในผอบทองคำแล้วให้ถือไว้ ราชธิดาองค์น้อยให้ทำสุวรรณมาลาเป็นมาลาปิดทรวง บรรจุผอบทองคำแล้วให้ถือไว้ ราชธิดาทั้งสองเสด็จไปสู่มฤคทายวันวิหาร. บรรดาราชธิดาสององค์นั้น องค์ใหญ่บูชาพระพุทธสรีระซึ่งมีวรรณะดังทองคำของพระทศพลด้วยจุรณแก่นจันทน์ โปรยปรายจุรณแก่นจันทน์ที่ยังเหลือในพระคันธกุฎี ได้ทำความปรารถนาว่า ข้าแต่

พระองค์ผู้เจริญ ขอข้าพระองค์พึงเป็นมารดาแห่งพระพุทธเจ้าผู้เช่นพระองค์ในอนาคตกาล แล้วกล่าวคาถาว่า “ข้าพระพุทธเจ้าได้ทำการบูชาพระองค์ด้วยจุรณแห่งแก่นจันทน์นี้ ขอให้ข้าพระพุทธเจ้าได้เป็นมารดาแห่งพระพุทธเจ้าผู้เช่นพระองค์ในอนาคตกาล.

ฝ่ายราชธิดาองค์เล็กบูชาพระสรีระซึ่งมีวรรณะดังทองคำของพระทศพลด้วยสุวรรณมาลาทำเป็นอาภรณ์เครื่องปิดทรวง ได้ทำความปรารถนาว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เครื่องประดับนี้จงอย่าหายไปจากสรีระของข้าพระพุทธเจ้าจนตราบเท่าบรรลุพระอรหัต แล้วกล่าวคาถาว่า

“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระพุทธเจ้าบูชา พระองค์ด้วยสุวรรณมาลา ด้วยอำนาจพุทธบูชานี้ ขอบุญ จงบันดาลให้สุวรรณมาลามีที่ทรวงของข้าพระพุทธเจ้า.”

ส่วนพระบรมศาสดาก็ทรงทำบูชานุโมทนาแก่ราชธิดาทั้งสองนั้นว่า “ก็เธอทั้งสองได้ประดิษฐานการบูชาอันใดแก่เรา ในภพนี้ วิบากแห่งการบูชานั้น จงสำเร็จแก่เธอทั้งสอง ความปรารถนาเธอทั้งสองเป็นอย่างใด จงเป็นอย่างนั้น.

ราชธิดาทั้งสองนั้น ดำรงอยู่ตลอดพระชนมายุในที่สุดแห่งพระชนมายุ เคลื่อนจากมนุษยโลกไปบังเกิดในเทวโลก ใน ๒ องค์นั้น องค์ใหญ่เคลื่อนจากเทวโลก ท่องเที่ยวอยู่ยังมนุษยโลก เคลื่อนจากมนุษยโลกท่องเที่ยวอยู่ยังเทวโลก ในที่สุดแห่งกัปที่ ๙๑ ได้เป็นพุทธมารดามีพระนามว่ามหามายาเทวี

ฝ่ายราชกุมารีองค์เล็กก็ท่องเที่ยวอยู่อย่างนั้น ในกาลเมื่อพระทศพลพระนามว่ากัสสปะบังเกิด ได้เกิดเป็นราชธิดาแห่งพระราชา พระนามว่ากิกิราช ปทุมกุมาร เป็นราชกุมาริกาพระนามว่า อุรัจฉทา เพราะความที่ระเบียบแห่งเครื่องปิดทรวงราวกะว่าทำแล้วด้วยจิตรกรรม เกิดแล้วแต่พระทรวง อันตบแต่งแล้วในกาลเมื่อราชกุมาริกามีชนมพรรษา ๑๖ ปี ได้สดับภัตตานุโมทนาแห่งพระตถาคตเจ้า ก็ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล กาลต่อมาในวันที่พระชนกทรงสดับภัตตานุโมทนาแล้วทรงได้บรรลุโสดาปัตติผล พระนางได้บรรลุพระอรหัต ผนวชแล้วปรินิพพาน

พระเจ้ากิกิราชมีพระธิดาอื่นอีก ๗ องค์ พระนามของราชธิดาเหล่านั้นคือ นางสมณี นางสมณคุตตา นางภิกษุณี นางภิกขุทาสิกา นางธรรมา นางสุธรรมา และนางสังฆทาสี เป็นที่ ๗.

ราชธิดาทั้ง ๗ เหล่านั้น ในพุทธุปบาทกาลนี้ มีนามปรากฏคือ นางเขมา นางอุบลวรรณา นางปฏาจารา พระนางโคตมี นางธรรมทินนา พระนางมหามายา และนางวิสาขาเป็นที่ ๗.

(อรรถกถาพระเวสสันดรชากดก)

เมื่อพระนางสิ้นอายุขัยในชาตินั้นก็ท่องเที่ยวในเทวโลกและมนุษยโลกตลอด 91 กัปป์ จนมาบังเกิดเป็นมเหสีของท้าวสักกะเทวราช ได้รับพร 10 ประการจากท้าวสักกะลงมาเกิดเป็นพระนางผุสดี มารดาแห่งพรเวสสันดร เมื่อสิ้นอายุขัยจากชาตินั้นก็ทรงบังเกิดท่องเที่ยวในเทวโลกจนมาเป็นพุทธมารดาในชาตินี้
เมื่อทรงประสูติเจ้าชายสิตธัตถะได้ 7 วัน ก็ทรงกลับสู่เทวโลก เป็นเทพบุตรอยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิต จนเมื่อพระพุทธองค์ทรงเสด็จขึ้นจำพรรษาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ได้ทรงแสดงพระอภิธรรม 7 คัมภีร์โปรดสิริมหามายาเทพบุตรให้เป็นพระอริยบุคคลชั้นโสดาบัน