[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ไปเที่ยว => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 17 กันยายน 2555 13:26:43



หัวข้อ: วัดเจ็ดยอด จ.เชียงใหม่ สถานที่ประชุมสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งแรกของประเทศไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 17 กันยายน 2555 13:26:43
.
(http://www.sookjaipic.com/images_upload/54084875931342_1.jpg)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/44308466174536_3.jpg)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/39369627874758_2.jpg)
พระเจดีย์เจ็ดยอดก่อด้วยศิลาแลง จำลองแบบมาจากเจดีย์พุทธคยา  ประเทศอินเดีย  
ซึ่งถือเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามที่สุดในโลก

วัดเจ็ดยอด (Wat Jed Yod Royal Temple)    
ตำบลช้างเผือก  อำเภอเมือง  จังหวัดเชียงใหม่

วัดเจ็ดยอด เป็นวัดเก่าแก่ทางด้านประวัติศาสตร์  และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่  ด้วยเพราะเป็นวัดที่มีโบราณสถาน โบราณวัตถุที่ล้ำค่าครบทุกประการ  ทั้งศาสนธรรม  ศาสนวัตถุ  ศาสนบุคคล  ศาสนพิธีที่บรรพชนได้สร้างไว้  ทั้งในอดีตและปัจจุบันที่ชาวพุทธรู้จักดี  เพราะเป็นวัดที่กษัตริย์แห่งราชวงศ์มังรายสถาปนาขึ้น และยังเป็นสถานที่ประชุมสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ ๘ ของโลก เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๐๒๐ หรือเมื่อ ๕๐๐ กว่าปีล่วงมาแล้ว
 
ผู้สร้างวัดเจ็ดยอดคือ พระเจ้าติโลกราช กษัตริย์องค์ที่ ๙ แห่งราชวงศ์มังราย พระองค์โปรดให้สร้างวัดเจ็ดยอดขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๑๙๙๘  ในครั้งนั้นมีพระเถระชาวลังกาได้นำต้นศรีมหาโพธิ์มาจากประเทศศรีลังกา  จึงเกิดพระราชศรัทธาที่จะปลูกต้นศรีมหาโพธิ์  จึงนำต้นศรีมหาโพธิ์ ที่พระเถระชาวลังกานำมาจากลังกาทวีป นำมาปลูกไว้ในเขตอรัญญิกของเมือง ณ บริเวณที่ตั้งวัดปัจจุบันนี้ และตั้งชื่อว่า“วัดมหาโพธาราม” โดยถือต้นศรีมหาโพธิ์ เป็นโพธิบัลลังก์  อันเป็นสัญลักษณ์แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธองค์ และถือเป็นศูนย์กลางของวัด  ดังนั้น วัดเจ็ดยอดจึงมีชื่อเรียกมาแต่โบราณว่า “วัดมหาโพธาราม หรือโพธารามมหาวิหาร”   และนิมนต์พระอุตตมปัญญามหาเถระมาเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดนี้


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/87365012988448_4.jpg)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/79304263285464_5.jpg)
การประชุมสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ ๘ ของโลก
เมื่อ ๕๐๐ กว่าปีล่วงมาแล้ว ตรงกับ พ.ศ. ๒๐๒๐  พระเจ้าติโลกราชได้โปรดให้มีการทำสังคายนาชำระพระไตรปิฎกขึ้น ณ วัดเจ็ดยอดแห่งนี้  โดยได้อาราธนาพระเถระผู้แตกฉานในพระไตรปิฎกจากทั่วแคว้นแดนล้านนามามากกว่า ๑๐๐ รูป มาร่วมประชุมทำสังคายนาในครั้งนั้น นับได้ว่าการประชุมครั้งสำคัญนั้น ได้เกิดขึ้นในราชอาณาจักรไทยเป็นครั้งแรก และเป็นครั้งที่ ๘ ของโลก   เพราะส่วนใหญ่ การประชุมสังคายนาพระไตรปิฎกจะถูกจัดขึ้นในประเทศอินเดียและศรีลังกา  การประชุมครั้งนั้นใช้เวลา ๑ ปี จึงสำเร็จเรียบร้อย   เรียกได้ว่าเป็นการชำระตรวจสอบความถูกต้องโดยใช้ตัวอักษรล้านนาจารึกเป็นภาษาพระไตรปิฎกขึ้นเป็นครั้งแรก ณ วัดเจ็ดยอดแห่งนี้  โดยมีพระธรรมทินมหาเถระเป็นประธานฝ่ายสงฆ์  พระเจ้าติโลกราชเป็นประธานฝ่ายคฤหัสถ์


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/69931252093778_1.jpg)

ประวัติความเป็นมาของวัดเจ็ดยอด
(ข้อมูล คัดจากแผ่นป้ายคอนกรีตภายในวัดเจ็ดยอด)

วัดเจ็ดยอดหรือวัดโพธารามมหาวิหาร  ตั้งอยู่นอกเมืองเชียงใหม่ ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือริมแม่น้ำขาน นับเป็นปูชนียสถานที่สำคัญมากแห่งหนึ่งของประเทศไทย  พญาติโลกราช กษัตริย์ลำดับที่ ๑๒ (พ.ศ. ๑๙๘๕ – ๒๐๓๐) ของแคว้นล้านนา ทรงโปรดให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่จำพรรษาของพระอุตตมปัญญามหาเถร  เจ้าอาวาส เมื่อปี พ.ศ. ๑๙๙๘ พร้อมกับการปลูกต้นพระศรีมหาโพธิให้เหมือนเมื่อครั้งพระพุทธเจ้าทรงผจญมาร อีกทั้งจำลองสัตตมหาสถาน คือสถานที่สำคัญ ๗ แห่ง ที่พระพุทธเจ้าทรงประทับเสวยวิมุติสุข  แห่งละ ๗ วัน ก่อนการเผยแผ่ศาสนา ได้แก่โพธิบัลลังก์ (เจดีย์เจ็ดยอดในปัจจุบัน  ซึ่งถ่ายแบบศิลปกรรมจากเจดีย์มหาโพธิวิหารพุทธคยาในประเทศอินเดีย  ผนังวิหารด้านนอกประดับปูนปั้นเทพชุมนุม) อนิมิสเจดีย์  รัตนจงกรม  รัตนฆรเจดีย์  ราชายตนเจดีย์ อชปาลนิโครธ และมณฑปสระมุจลินท์ แล้วทำการสังคายนาพระไตรปิฎกขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย  และเป็นครั้งที่ ๘ ของโลก  เมื่อ พ.ศ. ๒๐๒๐  ใช้เวลาประชุมสังคายนานาน ๑ ปี  โดยมีพระธรรมทินมหาเถระ สำนักวัดป่าตาล เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และพญาติโลกราชเป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระราชทานนามว่า “โพธารามมหาวิหาร” เพราะมีต้นพระศรีมหาโพธิและวิหารใหญ่  แต่เนื่องจากวิหารมียอดเป็นเจดีย์ ๗ องค์  คนทั่วไปจึงนิยมเรียกชื่อว่า “วัดเจ็ดยอด”

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/69931252093778_1.jpg)
เจดีย์ที่บรรจุอัฐ พระเจ้าติโลกราช พ.ศ.๒๐๓๐

เมื่อพญาติโลกราชสวรรคตในปี พ.ศ. ๒๐๓๐  พญายอดเชียงราย  ราชนัดดาของพระองค์ทรงโปรดให้สร้างจิตกาธาน (เชิงตะกอน)  เพื่อเป็นที่ถวายพระเพลิงพระศพ  พร้อมกันนั้นได้ทรงสร้างเจดีย์ใหญ่บรรจุอัฐิและอังคารธาตุไว้ด้วย  ต่อมาในสมัยพญาเมืองแก้ว (พ.ศ. ๒๐๔๓–๒๐๖๘)  ทรงบูรณะ ปฏิสังขรณ์ และทรงโปรดให้สร้างอุโบสถ  ตามศาสนสถานต่าง ๆ เหล่านี้ ล้อมรอบด้วยกำแพงที่มีซุ้มประตูโขงหรือประตูทางเข้าหลักของทางวัดอยู่ทางด้านทิศตะวันออก  วัดเจ็ดยอดได้ร้างไประยะหนึ่ง จนกระทั่งต้นสมัยรัตนโกสินทร์ พระเจ้ากาวิละ เจ้าเมืองเชียงใหม่ (พ.ศ. ๒๓๓๙)  ได้มาฟื้นฟูบ้านเมือง และปฏิสังขรณ์อารามต่างๆ ทั่วเมืองเชียงใหม่ รวมทั้งวัดเจ็ดยอดแห่งนี้ด้วย วัดเจ็ดยอดจึงดำรงความสำคัญในฐานะเป็นแหล่งรวมศิลปกรรมชั้นเยี่ยม ที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาคู่เมืองเชียงใหม่สืบมาจนถึงปัจจุบัน  กรมศิลปากรดำเนินการบูรณะและอนุรักษ์ ครั้งแรก เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๘  ครั้งที่สอง พ.ศ. ๒๕๑๗-๒๕๒๗  และครั้งที่สาม พ.ศ. ๒๕๔๕–๒๕๔๗

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/97748115037878_3.jpg)
ต้นพระศรีมหาโพธิ์  ตามประวัติการสร้างวัด เมื่อพ.ศ. ๑๙๙๘
ในครั้งนั้นมีพระเถระชาวลังกาได้นำต้นศรีมหาโพธิ์มาจากประเทศศรีลังกา  
พระเจ้าติโลกราช ทรงนำต้นศรีมหาโพธิ์ต้นนั้น มาปลูกไว้ในบริเวณวัดนี้

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/95285039850407_4.jpg)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/35495182457897_5.jpg)