[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน => ข้อความที่เริ่มโดย: sometime ที่ 14 กรกฎาคม 2553 17:39:23



หัวข้อ: พุทธอุทาน episode 1 อีกล่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 14 กรกฎาคม 2553 17:39:23
(http://album.taklong.com/addons/albums/images/137140619.jpg)

http://www.fungdham.com/download/song/allhits/20.wma


(:LOVE:)ถ่ายภาพประกอบโดย(บางครั้ง)เองแหละจ้า (:LOVE:)


(http://lh6.ggpht.com/_AYFPNs1xf64/TBr_4TvayfI/AAAAAAAABD0/ny96kFM6Zak/1276500000.gif)


นะโมตัสสะ ภะคะวะโต

อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต
อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต
อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

(:LOVE:)ลูกขอนอบน้อมแด่พระผุ้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น (:LOVE:)


พระพุทธอุทาน หรือ พุทธอุทาน คือคำอุทานของพระพุทธเจ้า ที่เปล่งออกจากพระโอษฐ์ด้วยความปีติโสมนัสด้วยมหากิริยาจิต

(จิตที่ไม่ประกอบด้วยกิเลส ทั้งกุศลและอกุศล)

ในพระไตรปิฏกฉบับ ประชาชนให้ความหมายไว้ว่า คำที่เปล่งออกมา หมายถึงคำอุทานที่เป็นธรรมภาศิต มีท้องเรื่องประกอบเป็นเหตุปรารภ

ในการเปล่งอุทานของพระพุทธเจ้าในวันนี้นำเสนอพุทธอุทานเป็น episode 1


หัวข้อ: Re: พุทธอุทาน episode 1 อีกล่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 14 กรกฎาคม 2553 17:45:14
(http://album.taklong.com/addons/albums/images/137140619.jpg)



(http://lh6.ggpht.com/_AYFPNs1xf64/TBr_4TvayfI/AAAAAAAABD0/ny96kFM6Zak/1276500000.gif)




...........................แรกเมื่อตรัสรู้......................


ในราตรีปฐมยามทรงชำระปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ในมัชฌิมยามทรงชำระ
ทิพยจักษุในปัจฉิมยาม  ทรงพิจารณาปัจจยาการ ทรงออกจากจตุตถฌานที่มีอานาปานสติเป็นอารมณ์ ทรงหยั่งสำรวจในปัญจขันธ์ ก็ทรงเห็นลักษณะทั้งหลายด้วยปัญญาอันสม่ำเสมอ โดยอุทยัพพยญาณ ทรงเจริญวิปัสสนาจนถึงโคตรภูญาณ ทรงแทงตลอดมรรคญาณ ๔ ผลญาณ ๔ ปฏิสัมภิทา ๔ ญาณกำหนดกำเนิด ๔ ญาณกำหนดคติ ๕ อสาธารณญาณ ๖ และพระพุทธคุณทั้งสิ้น ทรงมีความดำริบริบูรณ์แล้วประทับนั่ง ณ.โคนไม้ที่ตรัสรู้ทรงเปล่งอุทานอย่างนี้ว่า.............................
เราแสวงหานายช่างผู้สร้างเรือนคือตัณหาเมื่อไม่พบก็ต้องท่องเที่ยวไปตลอดชาติสงสารเป็นอันมากการเกิดบ่อย ๆ เป็นทุกข์ ดูกรนายช่างผู้สร้างเรือนคือตัณหา เราพบท่านแล้ว ท่านจักสร้างเรือนแก่เราอีกไม่ได้แล้ว โครงสร้างเรือนของท่าน เราก็หักหมดแล้วยอดเรือนคือ อวิชชา เราก็รื้อเสียแล้ว จิตเราถึงวิสังขารปัจจัยปรุงแต่งไม่ได้ เพราะเราบรรลุธรรมที่สิ้นตัณหาแล้ว
ทรงเปล่งการเกิดขึ้นแห่งญาณที่ประกอบด้วยโสมนัส แสดงอานุภาพแห่งการรู้เหตุ และธรรมที่เกิดขึ้นจากเหตุ ด้วยอำนาจการพิพจารณา ปัจจยาการ (อาการที่สิ่งทั้งหลายเป็นปัจจัยแก่กัน) หรือปฏิจจสมุปบาทในราตรีที่ ๗ นับตั้งแต่ตรัสรู้ว่า...................................
เมื่อใด ธรรมทั้งหลายปรากฏแก่พราหมณ์ผู้มีความเพียรเพ่งอยู่เมื่อนั้นความสงสัย ทั้งปวงของพราหมณ์นั้นย่อมสิ้นไปเพราะได้รู้ธรรม พร้อมทั้งเหตุ



หัวข้อ: Re: พุทธอุทาน episode 1 อีกล่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 14 กรกฎาคม 2553 17:53:15
(http://album.taklong.com/addons/albums/images/137140619.jpg)


(http://lh6.ggpht.com/_AYFPNs1xf64/TBr_4TvayfI/AAAAAAAABD0/ny96kFM6Zak/1276500000.gif)


ทรงเปล่งอุทานด้วยอำนาจพิจารณาพระนิพพานในราตรีที่ ๗ นับแต่วันตรัสรู้ว่าเมื่อใดธรรมทั้งหลายปรากฏแก่พราหมณ์ผู้มี ความเพียรเพ่งอยู่เมื่อนั้นความสงสัยทั้งปวงของพราหมณ์นั้นย่อมสิ้นไปเพราะได้รู้ความสิ้นไปแห่งปัจจัยทั้งหลาย
ทรงเปล่งด้วยอำนาจพิจารณามรรคในราตรีที่ ๗ นับแต่วันตรัสรู้ว่า
เมื่อใดแล  ธรรมทั้งหลาย ปรากฎแก่พราหมณ์ผู้มีความเพียรเพ่งอยู่เมื่อนั้น พราหมณ์นั้นย่อมกำจัดมารและเสนาเสียได้  ดุจดวงอาทิตย์อุทัยขึ้นสาดส่องท้องฟ้าให้สว่างไสว ฉะนั้น
เมื่อมีพราหมณ์ผู้หนึ่ง มีนิสัยเป็นหุหุกชาติ ชอบตวาดข่มขี่ผู้อื่นด้วยวาจาว่า หึ หึ มายังต้นอชปาลนิโคธ(ต้นไทร)ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชราได้ทูลถามถึงพราหมณ์และธรรม อันทำบุคคลให้เป็นพราหมณ์ว่า บุคคล ชื่อว่า เป็นพราหมณ์ด้วยเหตุเพียงเท่าไร และธรรมอะไร ทำบุคคลให้เป็นพราหมณ์ พระพุทธองค์ทรงเปล่งอุทานว่าพราหมณ์ใดลอยบาปธรรมได้แล้ว ไม่ตวาดผู้อื่นว่า หึ ! หึ ! ไม่มีกิเลสดุจน้ำฝาด สำรวมตน เรียนจบเวทย์ อยู่จบพรหมจรรย์ พรามหณ์นั้นไม่มีกิเลสเครื่องฟูขึ้นในอารมณ์ไหนๆในโลก ควรกล่าวพรหมวาทะได้โดยธรรม
ทรงมุ่งประกาศความเป็นพราหมณ์โดยปรมัตถ์ว่าบุคคล เหล่าใดลอยบาปธรรมได้แล้ว เป็นผู้มีสติอยู่ทุกเมื่อ มีสังโยชน์สิ้นแล้ว เป็นผู้ตรัวรู้ บุคคลเหล่านั้นแลชื่อว่า พราหมณ์ ในโลกทรงเปล่งแสดงความมุ่งมั่นของพระขีณาสพ โดยทรงมุ่งมั่นแสดงความเป็นผู้มักน้อยอย่างยิ่งเป็นหลักว่า
ผู้ไม่เลี้ยงคนอื่น ผู้รู้จักตนดี ผู้ฝึกฝนตนได้แล้ว ดำรงมั่นอยู่ในสารธรรม ผู้สิ้นอาสวะแล้ว ผู้คายโกรธได้แล้วเราเรียก พราหมณ์
ทรงเปล่งธรรมานุภาพที่เป็นเหตุให้ไม่ทรงคำนึงถึงการ กระทำน่ากลัวใดใดว่าเมื่อใดบุคคลถึงฝั่งในธรรมของตน ชื่อว่าเป็นพราหมณ์ เมื่อนั้น บุคคลนั้นย่อมไม่กลัวปิศาจและเสียงร้องโหยหวนอย่างนี้


หัวข้อ: Re: พุทธอุทาน episode 1 อีกล่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 14 กรกฎาคม 2553 17:58:21
(http://album.taklong.com/addons/albums/images/137140619.jpg)


(http://lh6.ggpht.com/_AYFPNs1xf64/TBr_4TvayfI/AAAAAAAABD0/ny96kFM6Zak/1276500000.gif)



ทรงเปล่งแสดงความเป็นผู้มั่นคงในอารมณ์ที่น่าปรารถนา - และไม่น่าปรารถนาว่า
ผู้ไม่ใยดีอดีตภรรยาผู้มาหา ไม่เศร้าโศกถึงอดีตภรรยาผู้จากไป เราเรียก ผู้ชนะสงคราม ผู้พ้นจากกิเลสเครื่องข้องแล้วว่า พราหมณ์
ทรงเปล่งอุทานว่าความสะอาดของน้ำ ไม่ใช่ทางความบริสุทธิ์ของสัตว์ และทรงแสดงว่าธรรมทั้งหลายมีสัจจะเป็นต้นเท่านั้น ที่เป็นทางแห่งความบริสุทธิ์ที่แท้จริงของสัตว์ว่า
บุคคลจะเป็นผู้สะอาดเพราะน้ำ ที่คนจำนวนมากพากันไปอาบก็หาไม่ ผู้ใดมีสัจจะและธรรมผู้นั้น ชื่อว่า เป็นผู้สะอาด และผู้นั้นชื่อว่า เป็น พราหมณ์
พระผู้มีพระภาคครั้งทรงทราบว่าพระพาหิยะปรินิพาน ด้วยอนุปาทิเสสนิพพาน และทรงทราบคติของพระขีณาสพ อันปุถุชนรู้ได้ยาก จึงทรงเปล่งแสดงอานุภาพแห่งการปรินิพพานว่า

ในนิพพานไม่มี ดิน น้ำ ไฟ ลม

ไม่มีดวงดาวส่องแสง

ไม่มีดวงอาทิตย์ส่องแสง

ไม่มีดวงจันทร์ส่องแสงและไม่มีความมืด

เมื่อใดพรามหณ์ชื่อว่า มุนี เพราะมีมโนธรรม

รู้แจ้งด้วยตนเอง เมื่อนั้นเขาย่อมหลุดพ้นจากรูปภพ อรูปภพ จากสุขและทุกข์

ทรงเปล่งอานุภาพแห่งวิเวกสุขว่า

วิเวก เป็นความสุขของผู้สันโดษ

ผู้มีธรรมปรากฎแล้วผู้เห็นอยู่

ความไม่เบียดเบียนคือความสำรวมในสัตว์ทั้งหลายเป็นสุขในโลก

ความเป็นผู้ปราศจากราคะ คือความล่วงกามทั้งหลายได้เป็นความสุขในโลก

ความกำจัดอัสมิมานะ(ถือเขาถือเรา)ได้เป็นสุขอย่างยิ่ง

ทรงเปล่งอานุภาพอริยวิหารสุขว่า
ความสุข(ที่เกิดจากกิเลสกาม)และทิพยสุข
ยังไม่ถึงเสี้ยวที่ ๑๖ แห่งความสุข คือ ความสิ้นตัณหา


เนื้อหาจาก ->หนังสือพุทธอุทานจากพระสุตตันตปิฎกขุททกนิกายอุทาน




หัวข้อ: Re: พุทธอุทาน episode 1 อีกล่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 14 กรกฎาคม 2553 18:29:18
ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ผมก้ะงง

จารย์เชื่อมะ ผมอ่านเป็น "พุทธอุทยาน"

ผมก้ะนึกว่าจารย์มาเที่ยวแล้วซะอีก

หน้าแตกดังโพล๊ะ !!!



๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕






หัวข้อ: Re: พุทธอุทาน episode 1 อีกล่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 14 กรกฎาคม 2553 18:42:48
ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ผมก้ะงง

จารย์เชื่อมะ ผมอ่านเป็น "พุทธอุทยาน"

ผมก้ะนึกว่าจารย์มาเที่ยวแล้วซะอีก

หน้าแตกดังโพล๊ะ !!!



๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕









(:???:)พุทธะ - อุท - ยาน มีด้วยเหรอ ? ก๊า................ก (:???:)



(:LOVE:)งั้นเดี๋ยวจะพาไปเที่ยวอุทยาน (:LOVE:)


(http://album.taklong.com/addons/albums/images/823924404.jpg)



หัวข้อ: Re: พุทธอุทาน episode 1 อีกล่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 14 กรกฎาคม 2553 19:22:15
ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ผมก้ะงง

จารย์เชื่อมะ ผมอ่านเป็น "พุทธอุทยาน"

ผมก้ะนึกว่าจารย์มาเที่ยวแล้วซะอีก

หน้าแตกดังโพล๊ะ !!!



๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕









(:???:)พุทธะ - อุท - ยาน มีด้วยเหรอ ? ก๊า................ก (:???:)



(:LOVE:)งั้นเดี๋ยวจะพาไปเที่ยวอุทยาน (:LOVE:)


(http://album.taklong.com/addons/albums/images/823924404.jpg)




พุทธอุทาน episode 1 อีกล่ะ <<< ผมอ่านเป็นพุทธอุทยาน

แล้วก็ที่จารย์ถามว่ามีหรอ มีสิครับ อยู่ที่นครสวรรค์

ที่จารย์ป้าแป๋มเค้าอยากไป

แล้วผมก็เอารูปพุทธอุทยานลงไว้แล้วในสุขใจไปเที่ยว

ถึงได้งงไงครับ นึกว่าจารย์บางครั้งไปเที่ยวพุทธอุทยานมา ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕



 ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D