หัวข้อ: ทำอย่างไรจึงจะรักษาศีล ๕ ตลอดชีวิตได้ เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 15 กรกฎาคม 2553 09:14:35 (http://lh3.ggpht.com/_0PApGu2nb30/TDr9scV3czI/AAAAAAAAAuc/RoZ8EYpO9Mc/9463994416.jpg) http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/09.%20Track%209.wma ...................................คำอนุโมทนา............................. คำแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลแด่ดวงวิญญาณไร้ญาติ…...................................……. สัพเพสัตตา(สพสตตา)สัตว์ ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิด - แก่ เจ็บตายด้วยกันทั้งสิ้น อเวรา จงเป็นสุขเป็นสุขเถิดอย่าได้มีเวรซึ่งกันและกันเลย ข้าแต่..............องค์สัมมาสัมพุทธเจ้า องค์พระไต้ฮงกง องค์พระโพธิสัตว์กวนอิม องค์ยมบาล ท่านยี่กอฮง ข้าพเจ้า .......................................................................................... (นึกถึงชื่อตัวเองครอบครัว) ขออุทิศส่วนบุญกุศลแด่ดวงวิญญาณไร้ญาติขาดมิตร ผู้ล่วงลับและเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายขอบารมีจากทุกพระองค์จงบันดาลให้เกิดผล เป็นเนื้อนาบุญหนุนเนื่องต่อตัวข้าพเจ้าเพื่อประโยชน์และความสุขตลอดจนถึง ครอบครัววงศ์ตระกูลญาติสนิทมิตรสหาย ครูบาอาจารย์ จงประสบแต่ความโชคดีมีสุขคิดสิ่งใดขอให้สมมาดปรารถณา ขอให้พบพานแต่สิ่งที่ดีชีวิตมีแต่ความสว่างรุ่งโรจน์ รุ่งเรือง เจริญในหน้าที่การงานชื่อเสียงลาภยศ สรรเสริญ ศัตรูคิดร้ายขอให้พ่ายแพ้เป็นมิตรทำมาค้าขึ้นร่ำรวยเงินทองอยู่เย็นเป็นสุข โรคภัยไม่เบียดเบียนแคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายทั้งหลาย - ทั้งปวงด้วยเทอญ สาธุ..............สาธุ..............สาธุ หนังสืออีเล็คโทรนิคชุดนี้จัดทำขึ้นสำหรับผู้ที่สนใจใฝ่หาศึกษาธรรมถ้าผู้ใดได้ไปกรุณาพิมพ์แจกต่อ ๆ ไปเพื่อเป็นธรรมทานและเป็นการสร้างกุศลบารมีขออนุโมทนาด้วย ณ........................โอกาสนี้ http://yoawarat.blogspot.com/2010/04/6.html (http://yoawarat.blogspot.com/2010/04/6.html) http://www.buddhayan.com/board.php?subject_id=763&ss= (http://www.buddhayan.com/board.php?subject_id=763&ss=) ศีลห้า เป็นศีลของมนุษย์ ผู้ที่เกิดมาเป็นมนุษย์จะต้องมีศีลห้าบริบูรณ์ ศีลห้าจึงเป็นศีลของมนุษย์ มีคำถามถามว่า มีใครรักษาศีลห้าได้ครบถ้วนตลอดชีวิตบ้าง ?โปรดยกมือขึ้น จะเห็นได้ว่าไม่มีคนยกมือ นี่ก็แสดงว่าลำพังแต่ศีลเพียงห้า ข้อก็รักษากันไว้ไม่ได้เสียแล้ว ! พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ว่า ให้รักษาใจตัวเดียว ดังในสมัยพุทธกาล ภิกษุรูปหนึ่งในจำนวน ๕๐๐ รูปผู้บวชใหม่ เมื่อบวชแล้วได้ไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเพื่อขอลาสิกขา โดยกล่าวว่า ศีลของภิกษุมากเหลือเกิน ปฏิบัติไม่ไหว จึงขอลาสิกขา พระพุทธองค์จึงให้ภิกษุรูปนั้นรักษาศีลเพียงข้อเดียว คือให้รักษาใจ พระภิกษุรูปนั้นจึงรับถือศีลข้อเดียวจนได้สำเร็จอริยบุคคล หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ตอบคำถามที่ว่า ทราบว่าท่านรักษาศีลเพียงข้อเดียว มิได้รักษาทั้ง ๒๒๗ ข้อ เหมือนพระทั้งหลายที่รักษากันใช่ไหม ? หลวงปู่ ฯ ตอบว่า ใช่ อาตมารักษาเพียงอันเดียว คือใจ อาตมารักษาใจ ไม่ให้คิดพูดทำในทางผิด อันเป็นการล่วงเกินข้อห้ามที่ทรงบัญญัติไว้จะเป็น๒๒๗ ข้อ หรือมากกว่านั้นก็ตาม บรรดาที่เป็นข้อทรงบัญญัติห้าม อาตมาก็ใจเย็นว่าตนมิได้ทำผิดต่อพุทธบัญญัติ ส่วนท่านผู้ใดจะว่าอาตมา รักษาศีล ๒๒๗หรือไม่นั้น สุดแต่ผู้นั้นจะคิด จะพูดเอาตามความคิดของตน เฉพาะอาตมาได้รักษาใจอันเป็นประธานของกาย วาจา อย่างเข้มงวดกวดขันมาตลอด นับแต่เริ่มอุปสมบท ฯลฯกลิ่น ศีลหอมทวนลม (http://img50.imageshack.us/img50/9048/7dfsfs.jpg) หัวข้อ: Re: ทำอย่างไรจึงจะรักษาศีล ๕ ตลอดชีวิตได้ เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 15 กรกฎาคม 2553 09:28:24 (http://lh3.ggpht.com/_0PApGu2nb30/TDr9scV3czI/AAAAAAAAAuc/RoZ8EYpO9Mc/9463994416.jpg) .............................ทำอย่างไรจึงจะรักษาศีล ๕ ตลอดชีวิตได้ ?............................ การรักษาศีล คือ การมีเจตนางดเว้นจากการทำความชั่วดังคำพุทธพจน์รับรองว่า เจตนาหัง ภิกขะเว สีลัง วะทามิ ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเรากล่าวว่าเจตนาเป็นเครื่องงดเว้นนั่นแหละคือ ศีล การงดเว้นมีอยู่ ๓ ประการ คือ ๑. สมาทานวิรัติ คือ การงดเว้นด้วยการสมาทาน เช่น สมาทานศีลกับพระ ๒. สัมปัตตวิรัติ คือ การงดเว้นเมื่อมีเหตุบังเกิดขึ้นเฉพาะหน้าแม้ไม่สมาทาน แต่เมื่อมีเหตุการณ์อันใดอันหนึ่งที่จะผิดศีลและตั้งใจงดเว้นขึ้นในขณะนั้น ถือว่าเป็นศีลเพราะตั้งใจงดเว้นเอาเอง ๓. สมุจเฉทวิรัติ คือ การงดเว้นโดยเด็ดขาด นั่นคือศีลของพระอริยะบุคคลซึ่งเป็นโลกุตตระศีล เป็นศีลขั้นสูง เช่น พระโสดาบันรักษาสิกขาบท๕ หรือ ศีล ๕ นี้ได้ตลอดชีวิต เป็นศีลที่รักษาได้โดยอัตโนมัติคืองดเว้นโดยเด็ดขาด โดยไม่ต้องสมาทานและไม่ต้องตั้งเจตนา ศีลนี้.......หากใครรักษาดีแล้ว ย่อมอำนวยประโยชน์แก่ผู้นั้นมากมายเป็นประโยชน์ในชาตินี้ คือ มีความเย็นใจไม่เดือดร้อนเพราะเป็นผู้มีศีล ประโยชน์ในชาติหน้าพระพุทธองค์ได้ทรงแสดงสรุปผลของศีลไว้ ๓ ประการว่า.............................................. สีเลนะสุคะติง ยันติ บุคคลจะไปสู่สุคติได้ก็เพราะศีล สีเลนะโภคะ สัมปะทา บุคคลจะมีโภคะได้ก็เพราะศีล สีเลนะ นิพพุติง ยันติ บุคคลจะบรรลุพระนิพพานได้ก็เพราะศีล หัวข้อ: Re: ทำอย่างไรจึงจะรักษาศีล ๕ ตลอดชีวิตได้ เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 15 กรกฎาคม 2553 09:31:36 (http://lh3.ggpht.com/_0PApGu2nb30/TDr9scV3czI/AAAAAAAAAuc/RoZ8EYpO9Mc/9463994416.jpg) อริยทรัพย์ ๗ ประการสำคัญที่สุด ชาวพุทธควรมีไว้ประดับใจเป็น ทรัพย์ภายในได้แก่........ ๑. ทรัพย์คือศรัทธา ความเชื่อที่มีเหตุผล ๒. ทรัพย์คือศีล การรักษากาย วาจาให้เรียบร้อย ๓. ทรัพย์คือหิริ การละอายใจต่อการทำความชั่ว ๔. ทรัพย์คือโอตตัปปะ ความเกรงกลัวต่อความชั่ว ๕. ทรัพย์คือพาหุสัจจะ ความเป็นผู้ได้ศึกษาเล่าเรียนมาก ๖. ทรัพย์คือจาคะ ความเสียสละเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ๗. ทรัพย์คือปัญญา ความรู้ความเข้าใจถ่องแท้ในเหตุผลอริยทรัพย์นี้เป็นทรัพย์อันประเสริฐอยู่ในจิตใจ อานิสงส์ของการรักษาศีลชาดกนิทานเรื่อง นายติณปาลพราหมณ์ถือศีลตาย ในสมัยพุทธกาล นายติณปาลเป็นคนใช้ทำไร่หญ้าของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีเช้าก็ออกไปทำงานที่ไร่หญ้าทุกวัน เย็นวันหนึ่งหลังจากนายติณปาลกลับจากทำงานกลับเข้าบ้านเศรษฐีก็จะไปรับ ประทานอาหารเย็น แต่ไม่พบเห็นใคร เลยสงสัยว่าเขาไปทำอะไรที่ไหนกันหมด ก็ได้รับคำตอบจากคนครัวว่า วันนี้เป็นวันอุโบสถศีลทุกคนรับศีลอุโบสถกันหมด จึงไม่มีใครรับประทานมื้อเย็น นายติณปาลจึงเข้าไปถามท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ขอถือศีลด้วยแม้จะไม่ได้สมาทานศีลตั้งแต่ตอนเช้าก็ตามเศรษฐีก็ว่า ตามแต่ติณปาลก็แล้วกัน ติณปาลตั้งใจถือศีลไม่รับประทานอาหารมื้อนั้นอยู่ต่อมาประมาณหนึ่งชั่วโมง นายติณปาลมีอาการเป็นลมเพราะอดข้าวเย็น เนื่องด้วยไม่เคยอดอาหารเศรษฐีขอร้องให้นายติณปาลเลิกล้มความตั้งใจและให้ รับประทานอาหารแต่นายติณปาลไม่เลิกล้มความตั้งใจเพราะทุกคนต่างถือศีลกันได้ ตั้งหลายชั่วโมงตนเองเพิ่งถือศีลได้เพียงชั่วโมงเดียวเท่านั้นเอง ชั่วโมงต่อมานายติณปาลได้ถึงกาลกิริยาได้ไปบังเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ หัวข้อ: Re: ทำอย่างไรจึงจะรักษาศีล ๕ ตลอดชีวิตได้ เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 15 กรกฎาคม 2553 09:36:21 (http://lh3.ggpht.com/_0PApGu2nb30/TDr9scV3czI/AAAAAAAAAuc/RoZ8EYpO9Mc/9463994416.jpg) ...............................ชาดกนิทานเรื่องนางวิสาขาถืออุโบสถศีล........................ พระพุทธองค์ได้ตรัสเรื่องนี้กับนางวิสาขาว่าดูก่อนวิสาขา อานิสงส์ที่บุคคลรักษาอุโบสถศีล ชั่ววันหนึ่งกับคืนหนึ่งนี้ เมื่อเอาอานิสงส์แห่งการรักษาศีลอุโบสถนี้มาแบ่งออกเป็น ๑๖ ส่วน เอาออกเสีย ๑๕ ส่วน เหลืออยู่อีกส่วนหนึ่ง เอามาแบ่งออกเป็น ๑๖ เสี้ยวแล้วเอาออกเสีย ๑๕ เสี้ยวเหลืออยู่ ๑ เสี้ยว ยังมากกว่าสมบัติใน ๑๖ มหานคร แล้วพระองค์ได้ทรงพรรณนาถึงสมบัติใน ๑๖ มหานคร ในชมพูทวีปนั้นว่า สมบัติของมนุษย์ทั้ง ๑๖ มหานครนั้นยังน้อยกว่าผลของอานิสงส์ของการรักษาศีลอุโบสถเพียงเสี้ยวหนึ่ง เท่านั้นเพราะอานิสงส์แห่งการรักษาศีลอุโบสถเพียงเสี้ยวหนึ่งนั้นเป็นเหตุให้ผู้นั้นได้รับทิพยสมบัติในสวรรค์ การไปเกิดบนสวรรค์ได้รับทิพยสมบัติแม้เพียงชั่ววันหนึ่ง คืนหนึ่งของสวรรค์ชั้นนั้น ๆ ก็ยังประเสริฐกว่าสมบัติในเมืองมนุษย์ทั้ง ๑๖มหานคร เพราะว่าทิพยสมบัติเป็นของละเอียดอ่อน ประณีต ไปเกิดอยู่เพียงชั่ววันหนึ่ง คืนหนึ่งของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ก็เท่ากับการเสวยมนุษยสมบัติในช่วงเวลาร้อยปีในเมืองมนุษย์เพราะว่าร้อยปีใน เมืองมนุษย์นี้เท่ากับวันหนึ่งคืนหนึ่งของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ............................กิริยาส่อเชื้อชาติมารยาทส่อสกุล.............................. ก้านบัวบอกลึกตื้นชลธาร มารยาทส่อสันดาน ชาติเชื้อ โฉดฉลาดเพราะคำขานควรทราบ หย่อมหญ้าเหี่ยวแห้งเรื้อบอกร้ายแสลงดิน ..............................โคลงโลกนิติ........................... หัวข้อ: Re: ทำอย่างไรจึงจะรักษาศีล ๕ ตลอดชีวิตได้ เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 15 กรกฎาคม 2553 09:41:10 (http://lh3.ggpht.com/_0PApGu2nb30/TDr9scV3czI/AAAAAAAAAuc/RoZ8EYpO9Mc/9463994416.jpg) ..................................ศีลห้ากับกุศลกรรมบทสิบ.......................... ศีลห้าข้อ เมื่อประมวลลงแล้วขยายความออกได้เป็นกุศลกรรมบท ๑๐ คือ กายกรรม ๓ วจีกรรม ๔ และมโนกรรม ๓ ดังนี้..... กายกรรม ๓ ได้แก่.................................. ศีลข้อที่ ๑. ปาณาติปาตาเวรมณี ศีลข้อที่ ๒. อทินนาทานาเวรมณี ศีลข้อที่ ๓. กาเมสุมิฉาจาราเวรมณี วจีกรรม ๔ ได้แก่ ศีลข้อที่ ๔. มุสาวาทาเวรมณี คือ ไม่พูดวจีกรรม ทุจริต ได้แก่ ๑. มุสาวาทะ การไม่พูดปด ๒. สัมผัปลาปะวาทะ การไม่พูดเพ้อเจ้อไม่เป็นประโยชน์แม้จะเป็นความจริง ๓. ปิสุณวาทะ การไม่พูดส่อเสียดให้เสียหายให้เขาเจ็บใจ ๔. ผรุสวาจา การไม่พูดคำหยาบคาย มโนกรรม ๓ ได้แก่ ศีลข้อที่ ๕ สุราเมรยะมัชชะปมาทัฏฐานาเวรมณี คือการเว้นจากการตั้งอยู่ในความไม่ประมาท มีสติสัมปชัญญะ มั่นคง ไม่เพ่งเล็งอยากได้(อภิชฌาหรืออโลภะ)การไม่คิดพยาบาทปองร้าย(อพยาปาทะหรืออโทสะ)และการไม่หลงเห็นผิดทำนองคลองธรรม ละจากมิจฉาทิฏฐิเป็นสัมมาทิฏฐิ หัวข้อ: Re: ทำอย่างไรจึงจะรักษาศีล ๕ ตลอดชีวิตได้ เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 15 กรกฎาคม 2553 09:46:15 (http://lh3.ggpht.com/_0PApGu2nb30/TDr9scV3czI/AAAAAAAAAuc/RoZ8EYpO9Mc/9463994416.jpg) พระไตรปิฎกกล่าวถึงเรื่องลักษณะของวาจาสุภาษิตลักษณะ ๕ ของวาจาสุภาษิต ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! วาจาที่ประกอบด้วยองค์ ๕ นับเป็นสุภาษิตไม่เป็นทุพภาษิต ไม่มีโทษ อันผู้รู้ติไม่ได้คือ............... ๑. วาจาที่กล่าว(ถูกต้อง)ตามกาล ๒. วาจาที่กล่าวเป็น ความจริง ๓. วาจาที่กล่าว อ่อนหวาน ๔. วาจาที่กล่าว ประกอบด้วยประโยชน์ ๕. วาจาที่กล่าวด้วยจิตประกอบด้วยเมตตา ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! วาจาที่ประกอบด้วยองค์ ๕ เหล่านี้แลนับเป็นสุภาษิต ไม่เป็นทุพภาษิต ไม่มีโทษ อันผู้รู้ติไม่ได้ ปัญจกนิบาต (อังคุตตรนิกาย ๒๒/๒๗๑)คนที่เกิด มีขวานเกิดมาในปากด้วย คนที่เกิดมาแล้ว มีขวานเกิดมาในปากด้วย คนพาลเมื่อกล่าวคำชั่วชื่อว่าใช้ขวานนั้นฟันตนเองผู้ใดสรรเสริญคนที่ควรติ ติคนที่ควรสรรเสริญผู้นั้นชื่อ ว่าใช้ปากเลือกเก็บความชั่วไว้ จะไม่ได้ประสบสุขเพราะความชั่วนั้น (จากหลักนิบาตอังคุตตรนิกาย ๒๔/๑๘๕) หัวข้อ: Re: ทำอย่างไรจึงจะรักษาศีล ๕ ตลอดชีวิตได้ เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 15 กรกฎาคม 2553 09:49:51 (http://lh3.ggpht.com/_0PApGu2nb30/TDr9scV3czI/AAAAAAAAAuc/RoZ8EYpO9Mc/9463994416.jpg) ................................พูดดี.......................... หลักของการพูดดีมีอยู่สาม หนึ่งพูดตามเป็นจริงทุกสิ่งสรรพ์ สองพูดดีมีประโยชน์ไร้โทษทัณฑ์ สามสิ่งนั้นน่าฟังทั้งไพเราะ แม้เรื่องจริงน่าฟังไม่ขวางโลก แต่พูดไปไร้ประโยชน์ก็ไม่เหมาะ แม้พูดเรื่องสัจจริงทั้งพริ้งเพราะ มีประโยชน์เหมาะเจาะควรพูดเอย อันรสปากหากหวานก็หวานเด็ดบรเพ็ดขมไม่มากเหมือนปากขม ถึงคมมีดคมไม่มากเหมือนปากคม รสหวานขมก็ไม่มากเหมือนปากคนฯ ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตรให้ชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา ฯ .......................พระสุนทรโวหาร(ภู่)........................... หัวข้อ: Re: ทำอย่างไรจึงจะรักษาศีล ๕ ตลอดชีวิตได้ เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 15 กรกฎาคม 2553 09:53:52 (http://lh3.ggpht.com/_0PApGu2nb30/TDr9scV3czI/AAAAAAAAAuc/RoZ8EYpO9Mc/9463994416.jpg) .....................................คิดก่อนพูด............................. เป็นคนคิดแล้วจึ่งเจรจา อย่านอนหลับตาแต่ได้ เลือกสรรหมั่นปัญญาตรองตรึก สติริรอบให้ถูกแล้วจึงทำ .....................................วาจาต่อหน้าชุมชน................................... ท่ามกลางกล่าวถ้อยแต่ พอควร เห็นท่านสรวลอย่าสรวลตอบเต้า ใช้คำแต่น้ำนวลนฤโทษ เห็นท่านเศร้าทำเศร้าโศกหน้าตาตรม หัวข้อ: Re: ทำอย่างไรจึงจะรักษาศีล ๕ ตลอดชีวิตได้ เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 15 กรกฎาคม 2553 09:59:44 (http://lh3.ggpht.com/_0PApGu2nb30/TDr9scV3czI/AAAAAAAAAuc/RoZ8EYpO9Mc/9463994416.jpg) .............................สุภาษิตาจะยาวาจา.................................. ม้โฉมเฉิดเฉกไท้เทพา อีกอิสริยยศถากอร์ปด้วย บุรุษถ่อยทุษฐวาจาพาก นับว่าผู้นั้นม้วยหมดสิ้นสิ่งงาม คำพูดที่สมควร ไป่ถามปราชญ์บ่พร้องพาที เปรียบดั่งเภรีตีจึ่งครื้น คนพาลพวกอวดดีจักกล่าว ถามบ่ถามมันฟื้นเฟื่องถ้อยเกินถาม(โคลงโลกนิติ) ปิดหูซ้ายขวา ปิดตาสองข้าง ปิดปากเสียบ้าง นอนนั่งสบาย อยู่คนเดียวให้ระวังความคิดอยู่กับมิตรให้ระวังวาจา คำสอนเรื่องหน้าที่ ๑๒ สถานะของคนในเรื่องทิศทั้งหกในส่วนของหน้าที่บ่าว(ลูกน้อง)ที่มีต่อนาย(ผู้บังคับบัญชา) มีอยู่ข้อหนึ่งว่า บ่าวพึงพูดสรรเสริญนายหรือ นำเกียรติคุณของนายไปเผยแพร่ดังนี้จะเห็นได้ว่าคำพูดของบ่าวหรือลูกน้อง ไม่พึงพูดนินทาว่าร้าย หรือกล่าวเรื่องไม่ดีของนาย ให้พึงระมัดระวังเพราะนั่นคือ โอษฐภัย นั่นเอง สุภาษิตา จะยาวาจา เอตัมมังคลมุตตะมัง วาจาเป็นสุภาษิตเป็นมงคลยิ่ง http://foruma.212cafe.com/boxser/ (http://forums.212cafe.com/boxser/) (http://img50.imageshack.us/img50/9048/7dfsfs.jpg) |