[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ธรรมะจากพระอาจารย์ => ข้อความที่เริ่มโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 19 กรกฎาคม 2553 00:38:22



หัวข้อ: หลวงปู่ดู่ปรารภเรื่อง การบวชจิต - บวชใน
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 19 กรกฎาคม 2553 00:38:22
[ คัดจากบอร์ดเก่า โดย อ.มดเอ็กซ์ ]

(http://board.palungjit.com//picture.php?albumid=758&pictureid=11836)

นะโมโพธิสัตโต พรหมปัญโญ
 
การบวชจิต-บวชใน
 
หลวงปู่ปรารภว่า...
 
 
จะเป็นชายหรือหญิงก็ดี ถ้าตั้งใจประพฤติปฏิบัติมีศีล
รักในการปฏิบัติจิตมุ่งหวังเอาการพ้นทุกข์เป็นที่สุด
ย่อมมีโอกาสเป็นพระกันได้ทุกๆ คนมีโอกาสที่จะบรรลุมรรค ผล นิพพาน
ได้เท่าเทียมกันทุกคนไม่เลือกเพศ เลือกวัย หรือฐานะ แต่อย่างใด
 
ไม่มีอะไรจะมาเป็นอุปสรรคในความสำเร็จได้ นอกจากใจของผู้ปฏิบัติเอง
ท่านได้แนะเคล็ดในการบวชจิตว่า.....
 
 
" ในขณะที่เรานั่งสมาธิเจริญภาวนานั้น
คำกล่าวว่า
 
 
พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
ให้นึกถึงว่าเรามีพระพุทธเจ้าเป็นพระอุปัฌาย์ของเรา
 
 
ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ...
ให้นึกว่าเรามีพระธรรมเป็นพระกรรมวาจาจารย์
 
 
สังฆัง สรณัง คัจฉามิ...
ให้นึกว่าเรามีพระอริยสงฆ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
 
 
แล้วอย่าสนใจขันธ์ 5 หรือร่างกายเรานี้ ให้สำรวมจิตให้ดี
มีความยินดีในการบวช
 
 
ชายก็ตั้งจิตเป็นพระภิกษุ
หญิงก็ตั้งจิตเป็นพระภิกษุณี
 
 
อย่างนี้จะมีอานิสงส์สูงมาก
จัดเป็นเนกขัมบารมีขั้นอุกฤษฎ์ทีเดียว "
 
---------------------------------------------------
 
 
(http://www.palungjit.com/board/attachment.php?attachmentid=156713&stc=1&d=1173960285)
แกนึกถึงข้า ข้าก็นึกถึงเอง ...
 
กายทิพย์ของเรานั้นหากก่อนภาวนาเราได้ตั้งจิตบวชพระแล้ว
ระหว่างที่ภาวนาอยู่กายทิพย์เราก็เป็นพระมีรัศมีกายทิพย์สว่างมาก
อย่างนี้จะมีอานิสงส์พลังบุญสูงมาก
ภาวนาได้ง่าย เนื่องจากตั้งจิตไว้ในศีลและฐานะอันสูง
อย่างนี้เรียกว่าบวชจิต ซึ่งการบวชจิตด้วยใจกุศลศรัทธานั้น
มีอานิสงค์ดีกว่าผู้ที่บวชรูปลักษ์ภายนอกแล้วไม่บวชจิตเสียอีก
แต่หากบวชได้ทั้งนอกและในอานิสงค์ก็ทวีคูณแต่สำหรับ
ฆราวาสผู้ครองเรือนนั้นเวลาสวดมนต์หรือภาวนาทำสมาธิ
ตั้งจิตบวชเป็นพระแล้วอานิสงค์มากภาวนาได้ง่าย
 
หลวงปู่ดู่แนะวิธีปฏิบัติ
 
เคยมีสุภาพสตรีท่านหนึ่งมีปัญหาถามว่า
นั่งปฏิบัติภาวนาแล้วจิตไม่รวม
ไม่สงบ ควรจะทำอย่างไร ท่านแก้ให้ว่า
 
" การปฏิบัติ ถ้าอยากเป็นเร็วๆ
มันก็ไม่เป็น หรือไม่อยากให้เป็น มันก็ประมาทเสีย ไม่เป็นอีกเหมือนกัน
อยากเป็นก็ไม่ว่า ไม่อยากเป็นก็ไม่ว่า ทำใจให้เป็นกลางๆ ตั้งใจให้แน่วแน่ในกัมมัฏฐานที่เรายึดมั่นอยู่นั้น
แล้วภาวนาเรื่อยไป เหมือนกับเรากินข้าวไม่ต้องอยากให้มันอิ่ม ค่อยๆ กันไปมันก็อิ่มเอง
ภาวนาก็เช่นกันไม่ต้องไปคาดหวังให้มันสงบ หน้าที่ของเราคือภาวนาไปก็จะถึงของดี ของวิเศษในตัวเรา
แล้วจะรู้ชัดขึ้นมาว่าอะไรเป็นอะไร ให้หมั่นทำเรื่อยไป "
 
 
(http://www.geocities.com/pranipan/lpduu.jpg)
นะโมโพธิสัตโต พรหมปัญโญ
 
 
อุบายวิธีทำความเพียร
 
 
ครั้งหนึ่งที่ได้สนทนาปัญหาธรรมกับหลวงพ่อ
ท่านเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า...เขามาถามปัญหาเข้า
ข้าก็ตอบไม่ได้อยู่ปัญหาหนึ่ง ผู้เขียนเรียนถามท่านว่า "ปัญหาอะไรครับ"
ท่านเล่าว่า " เขาถามว่า ขี้เกียจ (ปฏิบัติ) จะทำอย่างไรด ี"
หลวงพ่อหัวเราะ ก่อนที่จะตอบต่อไปว่า " บ๊ะ ขี้เกียจก็หมดกัน ก็ไม่ต้องทำซิ”
สักครู่ท่านจึงเมตตาสอนว่า " หมั่นทำเข้าไว้ๆ
ถ้าขี้เกียจให้นึกถึงข้า ข้าทำมา 50 ปี อุปัชฌาย์ข้าเคยสอนไว้ว่า
ถ้าวันไหนยังกินข้าวอยู่ก็ต้องทำ วันไหนเลิกกินข้าว...นั่นแหละถึงไม่ต้องทำ "
 
ที่มา........


http://www.watthummuangna.com/board/showthread.php?t=1554 (http://www.watthummuangna.com/board/showthread.php?t=1554)