[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน => ข้อความที่เริ่มโดย: phonsak ที่ 27 สิงหาคม 2553 15:35:38



หัวข้อ: ผู้เริ่มหัดฝึกสมาธิ อย่าใช่บทแผ่เมตตาแบบพระ ระวังผีจะหลอกนะ
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 27 สิงหาคม 2553 15:35:38
ทำสมาธิมือใหม่ อย่าใช่บทแผ่เมตตาที่พระสอน...เจอผีแน่


คุณtalasa แนะนำว่า:

โดยปรกติแล้ว หลายท่านเวลาที่แผ่เมตตา มักจะใช้บทแผ่เมตตาบทนี้

สัพเพ สัตตา อะเวรา โหนตุ - ขอสัตว์ทั้งปวง อย่าได้มีเวรให้แก่กันเลย
อัพพะยาปัชฌา โหนตุ - ขอสัตว์ทั้งปวง อย่าได้เบียดเบียนทำร้ายกันเลย
อะนีฆา โหนตุ - ขอสัตว์ทั้งปวง อย่าได้มีความทุกข์ทางกายและความทุกข์
ทางใจใด ๆ เลย
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ - ขอให้มีความสุข รักษาตัวเองให้รอดพ้นไปได้ด้วยเถิด

ส่วนใหญ่แล้ว เมื่อแผ่เมตตา หลายท่านจะกล่าวบทเหล่านี้ รวมกันไป


ผมไม่แนะนำให้ใช้บทแผ่เมตตาใดๆของคุณทั้งนั้น  เพราะอะไรรู้ไหมครับ

1. บทเหล่านั้นเป็นบทของพระภิกษุทั่วๆไป ประชาชนนำไปใช้  ผมรับประกันเลยครับ  เจอผีหลอกแน่นอน   ผีที่ได้รับกุศลจากการแผ่เมตตาของคุณ  พวกมันไม่หลอกคุณแน่  ไอ้ผีที่หลอกเป็นพวกที่ไม่ได้รับกุศลจากคุณ 

สัพเพ สัตตา = ทั้งหมด หรือทุกดวง

แล้วคุณมีผลบุญขนาดไหนกัน  จึงเรียกทุกสรรพชีวิตทั้งหมดมารับส่วนแบ่งกัน  เหมือนคุณมีข้าวจานเดียว เสือกไปตะโกนว่า "พวกเราทั้งหมดมากินอาหารกัน" ...มันบ้าไหม

2. น้องผมเคยอยู่อิหร่าน  มันทะลึ่งใช้บทสัพเพ สัตตา    พอมันนอน นอนไม่ได้เลย  ผีตัวนั้นตัวนี้มาอำ ไอ้ผีที่ได้รับส่วนบุญจากการแผ่เมตตา  มันก็มาดี ขอบคุณใหญ่  บอกด้วยว่ามันอิ่มจากบทสวดนี้  ไอ้ผีที่ไม่ได้รับส่วนบุญจากการแผ่เมตตาน่ะซิ  มันจะเอาตาย  ขยี้พลังลงมาใส่

3. ผมแผ่เมตตาตอนที่อยู่ในฌานเลย  จะหวะนั้นพลังจิตจะสูงที่สุด   แผ่ระบุไปเลยว่าให้ใคร ญาติเราคนไหน  อย่าไประบุทุกคนที่เป็นญาติเรานะ  มันมีมากมายมหาศาล  เดี๋ยวเจอดีแบบเดียวกัน

4. พอสมาธิเราแข็งแกร่งขึ้น  วิญญาณที่เขาเดือดร้อนเขาจะมาให้เรารู้เองตอนอยู่ในสมาธิ  บางทีมากันเป็นแสนดวง  ก็พายุนากิสที่ฆ่าประชาชนพม่านั่นไง  วิญญาณเหล่านั้นมาหาผม(รู้ในจิต)  ผมเห็นแล้วรู้เลยว่าน่าจะเป็นแสนดวง   ผมเลยบอกพวกเขาว่า ช่วยไม่ไหวในวันเดียว  ใครรับกุศลจากการแผ่เมตตาของผมแล้วก็ไปเลย  ไม่ต้องมาขอบคุณ และไม่ต้องมาหาอีก  มาเฉพาะที่ยังไม่ได้รับกุศล  พวกเขาก็ทำตามนั้น

กว่าวิญญาณพวกพม่าจะรับผลบุญครบ  ผมต้องแผ่เมตตา 6 วัน  วันสุดท้ายผมขอให้เขาส่งตัวแทนมาคนหนึ่ง ให้ผมเห็นทางจิตเลย  และให้มาสัมผัสตัวผมได้  ผมจะได้รู้ว่า  ทั้งหมดเป็นเรื่องจริง  เพราะตอนที่พวกเขามา  ผมเห็นแต่หัวในความมืด เยอะมากเหลือเกิน

วิญญาณพวกพม่าก็ส่งตัวแทนมาคนหนึ่งจริงๆ เป็นผู้ชายนุ่งสโร่งแบบพม่า อ้วนนิดๆพองาม  มาจับมือขอบคุณผมใหญ่  ผมเห็นจะจะ  วิญญาณของเขามาจับมือ สัมผัสตัวผม(กายทิพย์,วิญญาณ)ด้วย จึงรูว่าไม่ใช่ความฝัน

ครั้งนั้นผมประเมินว่า  กระแสเมตตาของผม วิญญาณที่ได้รับประมาณ 20,000 ดวง ต่อครั้ง  แล้วก็ต้องชาร์ตพลังใหม่

5. เมื่อปีก่อนผมไปอุดร  พอเข้าไปในโรงแรม  ก็รู้ทันทีว่า  โรงแรมนี้มีผี   ผมก็คิดในใจว่า  ผีพวกนี้โชคดีจริงๆที่ผมมานอนที่นี่  ตกดึกผมก็นั่งทำสมาธิ  พอทำไปสักครึ่งชั่วโมง  ก็แผ่เมตตาให้เหล่าผีทั้งหมดในโรงแรม  หลังจากนั้นมาคิดดู  เดี๋ยวผมนั่งสมาธิอีก 15 นาที และแผ่เมตตาออกไปให้บรรดาสรรพวิญญาณระบุไปว่าทั้งหมดในจังหวัดนั้นเลย  ดูว่าเขาจะได้รับจำนวนสักกี่ดวง  เพราผมบอกให้เขามาหาด้วย

ปรากฏว่าตอนผมนอน มีเทวดาคนหนึ่งมาปลุก บอกว่า "ท่านมีวิญญาณมาหาท่านเยอะแยะเลย"  
ผมก็ถามว่าสักกี่ดวง  เทวดาตอบ "200,000 ดวง"
ตอนนั้นผมง่วงมาก เลยให้เทวดาช่วยไปบอกพวกเขาว่า "กลับไปได้แล้ว  ผมไม่ไหวแล้ว ต้องนอน"
เทวดากลับมาอีกทีบอกว่า "เขาไม่ยอมกลับ  ต้องมาขอบคุณท่าน"
ผมก็สวนคำไปว่า "วิธีขอบคุณผมที่ดีที่สุด คือ ให้ผมนอน พรุ่งนี้ผมจะไปธุระ"

คราวนี้วิญญาณเหล่านี้ จะขอบคุณ หรือโกรธ หรืออย่างไงไม่รู้ เล่นดับไฟ ดับแอร์ ห้องผมหมดเลย  ผมจึงต้องตื่น ไปเข้าห้องน้ำ  ผมสังเกตดู  ไฟข้างนอกห้องผมยังติดอยู่นี่หว่า

พอผมกลับมา ก็นั่งสมาธิแผ่เมตตาให้วิญญาณเหล่านั้นอีกครั้ง บอกพวกเขาว่า "เปิดไฟ เปิดแอร์ได้แล้ว ให้ผมอยู่ในความมืดสนิท  ผมยังไม่บรรลุอรหันต์นะ ความกลัวยังมี  แล้วไอ้ความกลัวนี่แหละ  มันจะทำให้จิตเสียสมาธิ  แผ่เมตตาให้พวกท่านไม่ได้"

ทันทีที่ผมพูดในจิตเสร็จ  ทั้งไฟทั้งแอร์ก็ติด แล้วผมก็นั่ง-นอนทำสมาธิแผ่เมตตาให้เหล่าวิญญาณที่มาหาอีกครั้งหนึ่ง ระบุก่อนเลยว่า ...ให้วิญญาณที่ยังไม่ได้รับผลบุญ  รับไปก่อนเลย  วิญญาณที่รับไปแล้ว  รับทีหลัง

ผมก็แค่เตือนและแนะนำเท่านั้นนะครับ  เชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่พวกท่าน

ถ้าทำสมาธิแล้วจิตอ่อนไสว ความกลัว ความโกรธ ความเกลียด ฯลฯ เบาบางลง  เหมือนผมในทุกวันนี้  ผมใช้บทแผ่เมตตาอย่างที่ท่านtalasaและพวกพระสอนได้ครับ


หัวข้อ: Re: ผู้เริ่มหัดฝึกสมาธิ อย่าใช่บทแผ่เมตตาแบบพระ ระวังผีจะหลอกนะ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 28 สิงหาคม 2553 02:11:04
สาธุครับ ปกติผมแผ่แบบไม่มีประมาณอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้เจออะไรนะครับ

แผ่ให้สรรพสัตว์ สรรพชีวิต ทุกดวงวิญญาณเท่าที่กำลังบุญบารมีจะไปได้

แต่เคยฟังพระท่านว่าบุญนี่จะแผ่ไปเท่าไหร่มันก็ไม่ได้ลดลง

อุปมาดั่งความรู้ ครูมอบความรู้ให้ศิษย์ ยิ่งมากก็ยิ่งดี ความรู้ครูก็ไม่ได้ลดลง

ประมาณนี้อ่ะครับ



หัวข้อ: Re: ผู้เริ่มหัดฝึกสมาธิ อย่าใช่บทแผ่เมตตาแบบพระ ระวังผีจะหลอกนะ
เริ่มหัวข้อโดย: Pastello ที่ 28 สิงหาคม 2553 02:25:47
อ่ะจะกะอึ๊ย ... สาธุๆๆ ค่ะ ~ ปกติก็จะแผ่สัพเพ สัตตา นี่แหละ แต่ยังไม่เคยเจออะไรอย่างว่านะ แต่ถ้านั่งสมาธิเสร็จ จะแผ่บท อิทัง เมฯ ค่ะ ^_^


หัวข้อ: Re: ผู้เริ่มหัดฝึกสมาธิ อย่าใช่บทแผ่เมตตาแบบพระ ระวังผีจะหลอกนะ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 28 สิงหาคม 2553 02:42:15
อ่ะจะกะอึ๊ย ... สาธุๆๆ ค่ะ ~ ปกติก็จะแผ่สัพเพ สัตตา นี่แหละ แต่ยังไม่เคยเจออะไรอย่างว่านะ แต่ถ้านั่งสมาธิเสร็จ จะแผ่บท อิทัง เมฯ ค่ะ ^_^

ถ้าเป็นอย่างที่คนเล่า เล่ามา อิทังเม ก็น่าจะโดนกะเค้าด้วย

อยู่ที่ใจมากกว่าครับผมว่า



หัวข้อ: Re: ผู้เริ่มหัดฝึกสมาธิ อย่าใช่บทแผ่เมตตาแบบพระ ระวังผีจะหลอกนะ
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 28 สิงหาคม 2553 05:58:52



 (:-_-:)  แผ่แบบไม่มีประมาณ น่าจะอยู่ที่ใจ..
ขอบคุณ คุณ  phonsak คุณ Pastello  น้องแม๊คค่ะ...


หัวข้อ: Re: ผู้เริ่มหัดฝึกสมาธิ อย่าใช่บทแผ่เมตตาแบบพระ ระวังผีจะหลอกนะ
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 29 สิงหาคม 2553 20:17:58
สาธุครับ ปกติผมแผ่แบบไม่มีประมาณอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้เจออะไรนะครับ

แผ่ให้สรรพสัตว์ สรรพชีวิต ทุกดวงวิญญาณเท่าที่กำลังบุญบารมีจะไปได้
แต่เคยฟังพระท่านว่าบุญนี่จะแผ่ไปเท่าไหร่มันก็ไม่ได้ลดลง
อุปมาดั่งความรู้ ครูมอบความรู้ให้ศิษย์ ยิ่งมากก็ยิ่งดี ความรู้ครูก็ไม่ได้ลดลง
ประมาณนี้อ่ะครับ



มนุษย์เราแตกต่างกัน  50%สัมผัสวิญญาณไม่ได้ 40% สัมผัสได้ในบางครั้งเท่านั้น  อีก 10% สัมผัสวิญญาณได้  อาจจะเห็น หรือไม่เห็น สัมผัสได้แบบอื่น เช่น กลิ่น รับรู้ในบางเรื่อง หรือวิญญาณติดต่อทางนิมิต แต่ครึ่งหนึ่งหรือ 5%จะมีของดีคุมครอง  ทำให้วิญญาณเข้าหาไม่ได้

คน 5%ที่สัมผัสวิญญาณได้ และไม่มีของดีคุ้มตัว เป็นคนกลุ่มน้อย  และโดนคนส่วนใหญ่ที่โคตรโง่เลย  บอกว่าเขาจิตหลอนบ้าง คิดไปเองบ้าง โกหกบ้าง  บางคนโดนกล่าวหาว่าเป็นโรคจิต  ทำให้พวกเขาไม่กล้าเปิดตัว

ผมเชื่อว่าคุณน่าจะเป็นพวกที่สัมผัสวิญญาณได้  แต่มีของดีคุ้มตัว  สังเกตุได้จากสร้อยคอ และการชอบเล่นปืนของคุณ 

ถือว่าคุณโชคดีไปก็แล้วกัน


หัวข้อ: Re: ผู้เริ่มหัดฝึกสมาธิ อย่าใช่บทแผ่เมตตาแบบพระ ระวังผีจะหลอกนะ
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 29 สิงหาคม 2553 20:21:36
อ่ะจะกะอึ๊ย ... สาธุๆๆ ค่ะ ~ ปกติก็จะแผ่สัพเพ สัตตา นี่แหละ แต่ยังไม่เคยเจออะไรอย่างว่านะ แต่ถ้านั่งสมาธิเสร็จ จะแผ่บท อิทัง เมฯ ค่ะ ^_^

ที่บ้านมีพระบูชา หรือมีเจ้าท่คุ้มครอง  ผีทั่วไป ก็เข้ามาไม่ได้  ถือว่าคุณโชคดีอีกคน


หัวข้อ: Re: ผู้เริ่มหัดฝึกสมาธิ อย่าใช่บทแผ่เมตตาแบบพระ ระวังผีจะหลอกนะ
เริ่มหัวข้อโดย: Sweet Jasmine ที่ 29 สิงหาคม 2553 22:10:19
สาธุครับ ปกติผมแผ่แบบไม่มีประมาณอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้เจออะไรนะครับ

แผ่ให้สรรพสัตว์ สรรพชีวิต ทุกดวงวิญญาณเท่าที่กำลังบุญบารมีจะไปได้
แต่เคยฟังพระท่านว่าบุญนี่จะแผ่ไปเท่าไหร่มันก็ไม่ได้ลดลง
อุปมาดั่งความรู้ ครูมอบความรู้ให้ศิษย์ ยิ่งมากก็ยิ่งดี ความรู้ครูก็ไม่ได้ลดลง
ประมาณนี้อ่ะครับ



มนุษย์เราแตกต่างกัน  50%สัมผัสวิญญาณไม่ได้ 40% สัมผัสได้ในบางครั้งเท่านั้น  อีก 10% สัมผัสวิญญาณได้  อาจจะเห็น หรือไม่เห็น สัมผัสได้แบบอื่น เช่น กลิ่น รับรู้ในบางเรื่อง หรือวิญญาณติดต่อทางนิมิต แต่ครึ่งหนึ่งหรือ 5%จะมีของดีคุมครอง  ทำให้วิญญาณเข้าหาไม่ได้

คน 5%ที่สัมผัสวิญญาณได้ และไม่มีของดีคุ้มตัว เป็นคนกลุ่มน้อย  และโดนคนส่วนใหญ่ที่โคตรโง่เลย  บอกว่าเขาจิตหลอนบ้าง คิดไปเองบ้าง โกหกบ้าง  บางคนโดนกล่าวหาว่าเป็นโรคจิต  ทำให้พวกเขาไม่กล้าเปิดตัว

ผมเชื่อว่าคุณน่าจะเป็นพวกที่สัมผัสวิญญาณได้  แต่มีของดีคุ้มตัว  สังเกตุได้จากสร้อยคอ และการชอบเล่นปืนของคุณ 

ถือว่าคุณโชคดีไปก็แล้วกัน

เอ เราเป็นพวกไหนเหนอ


หัวข้อ: Re: ผู้เริ่มหัดฝึกสมาธิ อย่าใช่บทแผ่เมตตาแบบพระ ระวังผีจะหลอกนะ
เริ่มหัวข้อโดย: Sweet Jasmine ที่ 29 สิงหาคม 2553 22:18:47
สาธุครับ ปกติผมแผ่แบบไม่มีประมาณอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้เจออะไรนะครับ

แผ่ให้สรรพสัตว์ สรรพชีวิต ทุกดวงวิญญาณเท่าที่กำลังบุญบารมีจะไปได้
แต่เคยฟังพระท่านว่าบุญนี่จะแผ่ไปเท่าไหร่มันก็ไม่ได้ลดลง
อุปมาดั่งความรู้ ครูมอบความรู้ให้ศิษย์ ยิ่งมากก็ยิ่งดี ความรู้ครูก็ไม่ได้ลดลง
ประมาณนี้อ่ะครับ



มนุษย์เราแตกต่างกัน  50%สัมผัสวิญญาณไม่ได้ 40% สัมผัสได้ในบางครั้งเท่านั้น  อีก 10% สัมผัสวิญญาณได้  อาจจะเห็น หรือไม่เห็น สัมผัสได้แบบอื่น เช่น กลิ่น รับรู้ในบางเรื่อง หรือวิญญาณติดต่อทางนิมิต แต่ครึ่งหนึ่งหรือ 5%จะมีของดีคุมครอง  ทำให้วิญญาณเข้าหาไม่ได้

คน 5%ที่สัมผัสวิญญาณได้ และไม่มีของดีคุ้มตัว เป็นคนกลุ่มน้อย  และโดนคนส่วนใหญ่ที่โคตรโง่เลย  บอกว่าเขาจิตหลอนบ้าง คิดไปเองบ้าง โกหกบ้าง  บางคนโดนกล่าวหาว่าเป็นโรคจิต  ทำให้พวกเขาไม่กล้าเปิดตัว

ผมเชื่อว่าคุณน่าจะเป็นพวกที่สัมผัสวิญญาณได้  แต่มีของดีคุ้มตัว  สังเกตุได้จากสร้อยคอ และการชอบเล่นปืนของคุณ 

ถือว่าคุณโชคดีไปก็แล้วกัน

งั้นพวกห้าสิบเปอร์เซ็นต์ใช้ได้ เพราะสัมผัสวิญญาณไม่ได้


หัวข้อ: Re: ผู้เริ่มหัดฝึกสมาธิ อย่าใช่บทแผ่เมตตาแบบพระ ระวังผีจะหลอกนะ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 29 สิงหาคม 2553 22:34:23
OMG !! = OOh My GOD !!


หัวข้อ: Re: ผู้เริ่มหัดฝึกสมาธิ อย่าใช่บทแผ่เมตตาแบบพระ ระวังผีจะหลอกนะ
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 30 สิงหาคม 2553 12:37:37
สาธุครับ ปกติผมแผ่แบบไม่มีประมาณอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้เจออะไรนะครับ

แผ่ให้สรรพสัตว์ สรรพชีวิต ทุกดวงวิญญาณเท่าที่กำลังบุญบารมีจะไปได้
แต่เคยฟังพระท่านว่าบุญนี่จะแผ่ไปเท่าไหร่มันก็ไม่ได้ลดลง
อุปมาดั่งความรู้ ครูมอบความรู้ให้ศิษย์ ยิ่งมากก็ยิ่งดี ความรู้ครูก็ไม่ได้ลดลง
ประมาณนี้อ่ะครับ



มนุษย์เราแตกต่างกัน  50%สัมผัสวิญญาณไม่ได้ 40% สัมผัสได้ในบางครั้งเท่านั้น  อีก 10% สัมผัสวิญญาณได้  อาจจะเห็น หรือไม่เห็น สัมผัสได้แบบอื่น เช่น กลิ่น รับรู้ในบางเรื่อง หรือวิญญาณติดต่อทางนิมิต แต่ครึ่งหนึ่งหรือ 5%จะมีของดีคุมครอง  ทำให้วิญญาณเข้าหาไม่ได้

คน 5%ที่สัมผัสวิญญาณได้ และไม่มีของดีคุ้มตัว เป็นคนกลุ่มน้อย  และโดนคนส่วนใหญ่ที่โคตรโง่เลย  บอกว่าเขาจิตหลอนบ้าง คิดไปเองบ้าง โกหกบ้าง  บางคนโดนกล่าวหาว่าเป็นโรคจิต  ทำให้พวกเขาไม่กล้าเปิดตัว

ผมเชื่อว่าคุณน่าจะเป็นพวกที่สัมผัสวิญญาณได้  แต่มีของดีคุ้มตัว  สังเกตุได้จากสร้อยคอ และการชอบเล่นปืนของคุณ  

ถือว่าคุณโชคดีไปก็แล้วกัน

งั้นพวกห้าสิบเปอร์เซ็นต์ใช้ได้ เพราะสัมผัสวิญญาณไม่ได้

ก็ใช่ซิครับ  แต่ไอ้พวกห้าสิบเปอร์เซ็นต์ที่สัมผัสวิญญาณไม่ได้  มันใช้กำลังและกฎหมู่ ส่งข้อมูลผิดๆให้ประชาชน  ตัวอย่าง

- ผีเข้าเด็กเป็นสิบๆคนในหลายจังหวัด  ไอ้พวกแพทย์ซื่อบื่อไปบอกเป็นโรคอุปทานหมู่
- โรคไหลตายเกิดจากวิญญาณถูกกระชากออกจากร่าง  ไอ้พวกแพทย์ซื่อบื่อไปบอกว่าขาดแร่ธาตุ
- ผีสิงเกิดจากผีเข้าสิงจริงๆ ไอ้พวกแพทย์ซื่อบื่อไปบอกว่าเป็นโรคจิตอย่างแรง
- ผีอำเกิดจากวิญญาณดวงอื่นมาหาเพื่ออะไรสักอย่าง  ไอ้พวกแพทย์ซื่อบื่อไปบอกว่า นอนทับเส้น

จ้างไอ้พวกแพทย์งี่เง่าพวกนี้มาทำไมก็ไม่รู้  เปลืองข้าวสุกข้าวสารเปล่าๆ  เวลาหาคำตอบอะไรไม่ได้ แม่งมั่วเลย

ผมต้องทดสอบด้วยตัวเองเรื่องผีอำ จึงพบความจริงว่า  ผีอำเกิดจากผีหรือวิญญาณดวงอื่นเข้ามาอยู่ใกล้เราเกินไปในช่วงภวังค์(กึ่งหลับกึ่งตื่น)  ร่างกายเนื้อของเราหลับไปแล้ว  แต่วิญญาณของเรายังไม่หลับ  พอวิญญาณดวงอื่นมาอยู่ใกล้  เขาจึงเปิดประตูมิติในปรโลกซึ่งเขาอยู่ให้เราออกจากร่างกายเนื้อ  

แต่เราไม่ยอมออกจากร่างกายเนื้อ พยายามยกแขนยกขา มันก็ยกไม่ได้  เพราะตอนนั้นเป็นตอนที่วิญญาณธาตุ(กายทิพย์)ของเรา แยกตัวเป็นอิสระจากกายเนื้อซึ่งหลับไปแล้วนั่นเอง  แต่เราไม่รู้  นึกว่ากายเนื้อเรายังตื่นอยู่  แขนขากายเนื้อที่หลับอยู่ เป็นตัวสกัดกายทิพย์ซึ่งเป็นตัวจริงของเรา  แต่เราไม่รู้ ยังพยายามยกแขนขาซึ่งถือว่าตายตอนนั้นอีก  มันจึงยกไม่ขึ้น

ผมพบความจริงๆนี้ จึงพิมพ์หนังสือเรื่องผีอำแจกฟรี 2 เล่น แจกให้โรงพยาล 2 แห่ง ให้แพทย์และนางพยาบาลทุกคนด้วย  แพทย์จะได้ฉลาดสักที  ใช้วิธีมั่วเวลารักษาคนไข้ไม่ได้มานานแล้ว

ผมกำลังคิดจะผลิตและส่งออกน้ำมนต์รักษาโรคต่างๆ  เพราะทุกโรคล้วนเกิดจากกรรม  เราเอาน้ำมนต์ไปลดพลังความแค้นของเจ้ากรรมนายเวรเสียอ่อน อาการของโรคต่างๆจะได้เบาบางลง

ใครคิดจะลงทุนกับผมบ้าง? รวยหรือไม่ก็จนไปเลยเอามั๊ยครับ  ให้ต่างชาติทุกชาติรู้ว่า เอ็งมีน้ำมันมาขาย มียาแพงๆมาขาย  ข้ามีน้ำมนต์มาขาย


หัวข้อ: Re: ผู้เริ่มหัดฝึกสมาธิ อย่าใช่บทแผ่เมตตาแบบพระ ระวังผีจะหลอกนะ
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 30 สิงหาคม 2553 12:55:01
โอวววว์ พระเจ้าจอร์จ มาทอดกล้วย !!!


หัวข้อ: Re: ผู้เริ่มหัดฝึกสมาธิ อย่าใช่บทแผ่เมตตาแบบพระ ระวังผีจะหลอกนะ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 18 พฤษภาคม 2555 11:30:11
http://www.sookjai.com/index.php?topic=34257