หัวข้อ: why ashamedness ? เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 03 กันยายน 2553 14:06:07 (http://lh4.ggpht.com/_0PApGu2nb30/TICkiKwXTkI/AAAAAAAAA1g/lw9G2soNDZU/dhamo.jpg) http://www.youtube.com/v/2prDB4ssZ-4?fs=1&hl=en_US มีท่านผู้หนึ่ง -> ท่านกำลังฟังพระธรรมซึ่งแต่ก่อนนี้ท่านไม่ได้ฟังเพราะว่าไม่ ได้เห็นประโยชน์ แต่ว่าเรี่มฟังแล้วก็เรี่มเห็นประโยชน์ แล้วก็ฟังด้วยความเคารพและ ฟังด้วยการพิจารณาเมื่อเรี่มเข้าใจขึ้นท่านก็รู้จักตัวท่านเองตามความเป็นจริงว่า ท่านเองเพียงแต่เรีมเข้าใจ แต่ว่ายังปฏิบัติไม่เป็น คือยังเจริญสติปัฏฐานไม่เป็นซึ่งนั่น เป็นสี่งที่ตรงและถูกต้องเพราะว่าไม่ใช่เรื่องที่ผู้ที่ยังไม่มี{หิริโอตตัปปะ}ที่จะเห็นความ น่ารังเกียจน่าละอายของ{อวิชชา} ความไม่รู้ลักษณะของ สภาพธรรมที่เกิดดับในชีวิต ประจำวันตามความเป็นจริงก็ย่อมจะไม่เกิดการที่จะระลึกลักษณะของสภาพธรรมที่ กำลังปรากฏเพื่อจะศึกษาให้ประจักษ์แจ้งในลักษณะที่ไม่{เที่ยง}ที่เกิดดับของ นามธรรม และ รูปธรรม ในขณะนี้ เพราะฉะนั้นไม่ใช่ว่ามีใครพยายาม ต้องไปกระตุ้นหรือไปฝืน หรือว่าไปเร่งรัดท่านผู้ นั้นเพียงแต่ว่าท่านผู้นั้น ต้องฟังต่อไปอีกเท่านั้นเองจนกว่า{กุศลธรรม}หิริโอตตัปปะ ศรัทธา{สติ}จะเจริญขึ้นในชีวิตประจำวันจนกระทั่งเห็นประโยชน์แล้วรู้ว่าสี่งที่ได้ฟัง นั้นควรที่จะได้ประจักษ์แจ้งไม่ใช่เพียงแต่ขั้น เข้าใจ เท่านั้น อย่างในเรื่องของนามธรรมและรูปธรรมเป็น{ปรมัตถธรรม}ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน ขั้นความเข้าใจไม่มีข้อสงสัยเลยยิ่งฟังเรื่องของจิตแต่ละประเภท{เจตสิก}แต่ละ ประเภท รูปแต่ละประเภทซึ่งเป็นสังขารธรรมมีปัจจัยก็เกิดขึ้นก็เข้าใจแต่ว่ายังไม่ ได้ถึงขั้นที่จะรู้ลักษณะของนามธรรม และ รูปธรรมนั้น ๆ เพราะว่าเพียงเข้าใจเมื่อมี ความเข้าใจชัดเจนขึ้นก็ยี่งรู้ว่าไม่ควรที่จะปล่อยให้เป็นเพียงความเข้าใจขั้นปริยัติหรือ ขั้นฟังเท่านั้นแต่ควรที่จะได้อบรมเจริญปัญญาถึงขั้นที่จะประจักษ์แจ้งลักษณะของ นามธรรมและรูปธรรมตรงกับที่ได้เข้าใจแล้วด้วย หัวข้อ: Re: why ashamedness ? เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 03 กันยายน 2553 14:09:56 (http://lh4.ggpht.com/_0PApGu2nb30/TICkiKwXTkI/AAAAAAAAA1g/lw9G2soNDZU/dhamo.jpg) นี่ก็เป็น{หิริโอตตัปปะ}อีกขั้นหนึ่งซึ่งก็ต้องอาศัยการอบรมเจริญขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่ว่าเร่งรัดไม่ได้เลยจะบอกให้ใครเจริญสติเดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้เพราะว่าบุคคลนั้นยัง ไม่เกิด{หิริโอตตัปปะ}ขั้นที่ละอายและรังเกียจใน อวิชชา ที่ไม่รู้ความจริง ของนามธรรมและรูปธรรมที่กำลังเกิดดับในขณะนี้แม้แต่เพียงลักษณะของ นามธรรมและรูปธรรมก็ไม่ใช่สี่งที่รู้ได้ทันทีถึงแม้ว่าจะได้ฟังมานานนับปีแต่จะรู้ได้ว่า สติเรี่มระลึกที่ลักษณะของรูปธรรมหรือนามธรรมบ้างหรือเปล่าถ้าไม่เรี่มระลึกก็ไม่มีทาง ที่จะรู้ชัดในลักษณะของนามธรรมและรูปธรรมเพียงแต่ว่าสามารถขั้นเข้าใจหรือว่า สามารถแค่เข้าใจเรื่องของนามธรรมและรูปธรรมเพราะฉะนั้นก็ต้องเจริญกุศล ทุกประการเพี่มขึ้นเพื่อที่จะเป็น{สังขารขันธ์}ปรุงแต่งให้{สติ}ระลึกที่ลักษณะของ ของนามธรรมและรูปธรรมทีกำลังปรากฏ หัวข้อ: Re: why ashamedness ? เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 03 กันยายน 2553 14:17:10 (http://lh4.ggpht.com/_0PApGu2nb30/TICkiKwXTkI/AAAAAAAAA1g/lw9G2soNDZU/dhamo.jpg) ...........................มีข้อสงสัยอะไรไหมค่ะในเรื่องนี้........................ คุณอดิศักดิ์ {หิริโอตตัปปะ}มีหลาย ๆ ขั้นอย่างที่(อาจารย์)ว่าเวลานี้ก็เกิด{หิริโอตตัปปะ} แล้วว่าเรายังไม่รู้แจ้ง{อริยสัจธรรม}เลยก็เกิด(หิริ)อีกว่าก็ต้องเจริญ หิริโอตตัปปะ ให้ สูงขึ้นไปอีกใช่ไหมครับ ท่านอาจารย์ ทุกประการค่ะควรจะเจริญกุศลทุกประการค่ะเรี่มจากการเป็นผู้ตรง รู้จักตัวเองตามความเป็นจริงในชีวิตประจำวันเพราะว่าถ้ายังไม่มี{หิริโอตตัปปะ}แม้ แต่ในเรื่องทานบ้าง{ศีล}บ้างในเรื่อง{อัปปจายนะ}บ้างในเเรื่อง{เวยยาวัจจะ}บ้างแล้ว มุ่งหวังที่จะดับกิเลสก็เป็นสี่งซึ่งสุดวิสัยเป็นไปไม่ได้เพราะว่ายังไม่รู้เลยว่าตนเองมี {อกุศล}ในวันหนึ่ง ๆ มากสักแค่ไหน คุณอดิศักดิ์ แล้วก็เกิด{หิริโอตตัปปะ}อีกว่าเรานี้เคยดูถูก{หิริโอตตัปปะ}ว่านัยของ ของมันคงมีไม่เท่าไรมาได้ฟังอย่างนี้แล้วก็รู้ว่ามีนัยที่ลึกซึ้งมากเกิด{หิริโอตตัปปะ} อีกเหมือนกันว่าเคยดูถูกไว้ ท่านอาจารย์ เป็นธรรมที่คุ้มครองโลกทีเดียวนะค่ะ{หิริโอตตัปปะ} แล้วเป็น{พละธรรม}ด้วย มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา สำนักงานเลขที่ 174/1 ซอย เจริญนคร78 ดาวคะนอง ธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600 โทร 02 - 4680239 |