หัวข้อ: เพราะความประมาท - เพราะความตระหนี่ เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 26 กันยายน 2553 13:08:25 (http://www.seesod.com/storage17/K3ZFs3DcJ51254910597/o.jpg) http://www.fungdham.com/download/song/allhits/24.wma (http://www.kusolsuksa.com/images/karaak.gif) ........................ถ่ายภาพประกอบเนื้อหาสาระโดย{Sometime}............................ (http://uyfz9q.bay.livefilestore.com/y1puwwLyY1hQGevKbPEFyCjgBoQn3NSNeo-y8gjotl_lxJ--glH5i3PgMx-t56j5hxrXEdhp0j_jvxReSFv7ti_moNX3z_jaCAr/hyooneunhye.gif?psid=1) http://www.tairomdham.net/index.php/topic,2453.msg11646.html#msg11646 (http://www.tairomdham.net/index.php/topic,2453.msg11646.html#msg11646) ซึ่งเห็นได้น่ะค่ะว่าขณะใดที่{อกุศลธรรม}เกิดขณะนั้นหลงลืม{สติ}เพราะว่าสติไม่ เกิดด้วยเหตุนี้ สติ จำปราถนาในที่ทั้งปวง ข้อความต่อไปอีกว่า ความประมาทสมควรกล่าวการปล่อย{จิต}ความเพี่มการปล่อย {จิต}ในกายทุจริตก็ดี ในวจีทุจริตก็ดี ในมโนทุจริตก็ดี ในเบญจกามคุณก็ดี หรือ ความเป็นผู้ทำโดยไม่เอื้อเฟื้อความเป็นผู้ทำไม่ติดต่อความเป็นผู้ทำ ๆ หยุด ๆ ความเป็นผู้มีความประพฤติย่อหย่อนความเป็นผู้ปลง{ฉันทะ}ความเป็นผู้ทอดธุระ ความเป็นผู้ไม่ซ่องเสพความไม่เจริญความไม่ทำให้มากความไม่ตั้งใจความไม่ ประมาทเนือง ๆ ในการบำเพ็ญกุศลธรรมทั้งหลายเป็นความประมาทความมัวเมา กิริยาที่มัวเมาความเป็นผู้ที่มัวเมาเห็นปานนี้เรียกว่า ประมาท พระผู้มีภระภาค ฯ ไม่ทรงละเว้นพยัญชนะซึ่งอาจจะทำให้ท่านผู้หนึ่งผู้ใดเกิด{สติ}ระลึกได้ เพราะว่าทรงแสดงเรื่องของความประมาทว่าเป็นการปล่อย{จิต}เป็นการเพี่มการปล่อย จิต ในกายทุจริตใน วจีทุจริตใน มโนทุจริตถ้า{สติ}ไม่เกิดเห็นว่าเป็นเรื่่องธรรมดา ใช่ไหมค่ะเขาก็ทุจริตกันทั้งนั้นก็อาจจะคิดว่าอย่างนี้ไม่ว่าจะเป็น กายทุจริต หรือ วจีทุจริต แต่ผู้ที่มีสติ{สติ}เกิดจะรู้ได้ค่ะว่าไม่ควรจะคิดอย่างนั้นเลยเพราะไม่ควรจะ ปล่อยจิตหรือเพี่มการปล่อยจิต ในกายทุจริต ในวจีทุจริต ในมโนทุจริต ผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่ย่อมไม่พ้นจากการที่จะมีกายทุจริตบ้างวจีทุจริตบ้างมโน - ทุจริตบ้างถ้าเป็นผู้ที่ตรงต่อตัวเองจะรู้ได้จริง ๆ ค่ะว่าขณะไหนเป็น กายทุจริตขณะ ไหนเป็นวจีทุจริต คำพูดที่ทำให้บุคคลอื่นไม่สบายใจหรือว่าเป็นการเสียประโยชน์ของบุคคลนั้น ซึ่ง{สติ}ไม่เกิดก็ดูเหมือนกันเป็นเรื่องธรรมดาอีกเพราะฉะนั้นผู้ที่ขัดเกลากิเลส ก็จะพิจารณาธรรมโดยละเอียดจริง ๆ ว่าไม่เพี่มการปล่อยจิตในกายทุจริต ในวจีทุจริตในมโนทุจริตในเบญจกามคุณ คือ ใน รูป เสียง หรือบางท่านเป็นผู้ทำโดยความเป็นผู้ไม่เอื้อเพื้อเป็นผู้ทำไม่ติดต่อเป็นผู้ทำ ๆ หยุด ๆ เป็นผู้มีความประพฤติย่อหย่อนความเป็นผู้ปลงฉันทะความเป็นผู้ทอดธุระความเป็น ผู้ไม่ส้องเสพความไม่เจริญความไม่ทำให้มากความไม่ตั้งใจความไม่ประกอบ เนือง ๆ ในการบำเพ็ญกุศลธรรมทั้งหลายเป็นความประมาท เพราะฉะนั้น................ก็เป็นการเตือนให้เห็นสภาพธรรมตามความเป็นจริง หรือว่าประมาทหรือเปล่า หรือว่าเพิ่มความประมาทขึ้นหรือเปล่า มีข้อสงสัยอะไรบ้างไหมคะ ในเรื่องนี้ ข้อความต่อไปพระผู้มีพระภาคฯ ตรัสว่า............................... คำว่า โลก ไม่ปรากฏ เพราะความตระหนี่เพราะความประมาท ความว่าโลกไม่ปรากฏไม่สว่างไม่รุ่งเรืองไม่ไพโรจน์ไม่แจ่มไม่กระจ่าง เพราะความตระหนี่เพราะความ ประมาท ท่านที่อยากจะประจักษ์ลักษณะของสภาพธรรม อาจจะใช้คำว่าเต็มที่เหลือเกินคอย ไม่ไหว อยากจะรู้ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรมในขณะที่กำลังเห็น - กำลังลี้มรส ก็ควรที่จะได้พิจารณาว่าเป็นผู้ที่ประมาทหรือเปล่า ถ้าสติไม่ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ แล้วจะให้โลกกระจ่างโลกแจ่มแจ้งย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าผลย่อมเป็นไปตามเหตุ..................................... ข้อความบางตอนจากการบรรยายธรรมโดยท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์ มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา สำนักงานเลขที่ 174/1 ซอย เจริญนคร 78 ดาวคะนอง ธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600 โทร 02 - 4680239 หัวข้อ: Re: เพราะความประมาท - เพราะความตระหนี่ เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 26 กันยายน 2553 14:09:41 (http://www.kusolsuksa.com/images/karaak.gif) (:88:) (:88:) (:88:) |