เมื่อวันที่ 5 มีนาคม อันเป็นวันพระราชทานเพลิงศพพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าเกษรศีลคุณ หรือวัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี
ท่ามกลาง พุทธศาสนิกชนเดินทางหลั่งไหลมายังวัดป่าบ้านตาด จำนวนมาก เพื่อร่วมพิธีสำคัญ และรอเฝ้าฯ รับเสด็จ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่จะเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเป็นประธานในพิธี ในช่วงเย็น
ในประชุมเพลิงส่งหลวงตา เวลา 18.30 น. พระสงฆ์วัดป่าบ้านตาด ขึ้นเมรุวางไม้จิกอีกครั้ง ก่อนที่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จขึ้นเมรุวางดอกไม้จันทน์แก่นไม้จิก แล้วเสด็จลงประทับพระราชอาสน์ ในพลับพลาที่ประทับ ทอดพระเนตรพิธีพระราชทานเพลิงศพหลวงตามหาบัว ท่ามกลางบรรยากาศเศร้าสลด
บริเวณรอบเมรุ บรรดาญาติโยมพุทธศาสนิกชน ยังคงนั่งพนมมือภาวนาจิตเพ่งไปที่จิตกาธาน ที่ไฟกำลังลุกโชน ควันลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า เพื่อส่งหลวงตามหาบัวสู่วิมุตธรรม โดยบอกว่าหลวงตาจะไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว ขณะที่บางส่วนภาวนาสังโฆ สังโฆ ด้วยดวงตาที่แดงก่ำ น้ำตาคลอเบ้า และร้องไห้กันระงมไปทั่ววัด
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่บันทึกภาพดังกล่าว ด้วยกล้องดิจิตัล ต่างตื่นตะลึงกับภาพที่ได้เห็น เพราะภาพที่ถูกบันทึก ปรากฏเป็นภาพเปลวไฟ เป็นรูปทรงคล้ายหลวงตา อุ้มบาตร
กลางท้องฟ้า ภาพดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ กันอย่างกว้างขวาง ว่าเป็น ปาฏิหาริย์ ของหลวงตา
lสำนัก ข่าว ไอเอ้นเอ็น รายงานว่า จากควันไฟที่พวยพุ่งจากลานจิตกาธาน มีลักษณะคล้ายภาพด้านข้างของหลวงตามหาบัวครึ่งตัว กำลังอุ้มบาตร สร้างความฮือฮา และเชื่อว่าเป็นปาฎิหาริย์ของหลวงตามหาบัว
ภาพจาก ทีเอ็นเอ็น / มติชน