[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
22 ธันวาคม 2567 18:46:27 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ค้นพบสุสานเร้นลับในเปรู ซึ่งรอดพ้นเงื้อมมือของโจรปล้นสุสานมานานกว่าหนึ่งพันปี  (อ่าน 9033 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2497


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 26 กรกฎาคม 2557 16:37:12 »

.
นักโบราณคดีค้นพบสุสานหลวงแห่งหนึ่งในเปรู
ซึ่งรอดพ้นสายตาและเงื้อมมือของโจรปล้นสุสานมานานกว่าหนึ่งพันปี


http://www.ngthai.com/Images/Albums/Album-98-IMG-980.jpg
ค้นพบสุสานเร้นลับในเปรู ซึ่งรอดพ้นเงื้อมมือของโจรปล้นสุสานมานานกว่าหนึ่งพันปี

มือของชนชั้นสูงในแถบเทือกเขาแอนดีสที่อยู่ในสภาพดีอย่างน่าทึ่ง ยังคงกำเศษผ้าห่อศพเอาไว้ในมือ

ในแสงยามเย็นที่ทาบทาชายฝั่งเปรู นักโบราณคดี มีโวช เกียร์ช และโรเบร์โต ปีเมนเตล นีตา เปิดห้องเล็กๆ ที่ถูกปิดตายแถวหนึ่งใกล้กับทางเข้าสุสานโบราณแห่งหนึ่ง  ห้องหับขนาดเล็กซึ่งซ่อนตัวอยู่ใต้ชั้นอิฐหนาหนักมานานกว่าหนึ่งพันปี  ภายในบรรจุเหยือกดินเผาใบโตๆ บางใบมีภาพวาดรูปกิ้งก่าและใบหน้าคนยิ้มยิงฟันประดับอยู่ เกียร์ช  ทำหน้าเหยเกพลางพูดขึ้นว่า “ข้างล่างนี่กลิ่นแย่มากครับ” เขามองลงไปในหม้อใบใหญ่ใบหนึ่งอย่างระมัดระวัง ในนั้นเต็มไปด้วยเปลือกดักแด้เปื่อยยุ่ย อันเป็นร่องรอยที่หลงเหลือของแมลงวันซึ่งครั้งหนึ่งคงถูกดึงดูดมายังสิ่งที่บรรจุอยู่ภายในหม้อ ว่าแล้วนักโบราณคดีผู้นี้ก็ลุกขึ้นยืน ปัดฝุ่นอายุ 1,200 ปีจากกางเกงขายาวจนฟุ้งไปทั่ว ในช่วงสามปีของการขุดค้นแหล่งโบราณคดีแห่งนี้ซึ่งมีชื่อว่า เอลกัสตีโยเดอัวร์เมย์ เกียร์ชพานพบกับระบบนิเวศแห่งความตายที่คาดไม่ถึง ตั้งแต่ร่องรอยแมลงที่เคยกัดกินเนื้อมนุษย์ งูที่เข้ามาซุกกายและตายคาก้นหม้อดินเผา ไปจนถึงผึ้งเพชฌฆาตแอฟริกาที่บินกรูออกมาจากห้องใต้ดินและไล่ต่อยคนงาน

หลายคนเคยเตือนเกียร์ชว่า การขุดค้นท่ามกลางซากปรักของเอลกัสตีโยเป็นเรื่องยาก และแทบจะพูดได้เลยว่าเสียทั้งเวลาและเงินไปเปล่าๆ โจรปล้นสมบัติขุดอุโมงค์เข้าไปในเนินเขาขนาดใหญ่ลูกนั้นกันมาไม่ต่ำกว่าหนึ่งศตวรรษแล้ว เพื่อค้นหาสุสานบรรจุโครงกระดูกโบราณสวมเครื่องประดับทองคำ และห่อหุ้มด้วยผ้าทอลายวิจิตรที่สุดเท่าที่โลกเคยรู้จัก เนินเขาที่ตั้งอยู่ห่างจากกรุงลิมาไปทางเหนือสี่ชั่วโมงทางรถยนต์ เต็มไปด้วยหลุมบ่อและระเกะระกะไปด้วยกระดูกมนุษย์โบราณและขยะสมัยใหม่

แต่เกียร์ช อาจารย์หนุ่มวัย 36 ปี ผู้สอนวิชาโบราณคดีแถบเทือกเขาแอนดีสที่มหาวิทยาลัยวอร์ซอ ยังมุ่งมั่นจะขุดค้นที่นั่นอยู่ดี  เกียร์ชมั่นใจว่าต้องมีเหตุการณ์สำคัญบางอย่างเกิดขึ้นที่เอลกัสตีโยเมื่อ 1,200 ปีก่อน ชิ้นส่วนสิ่งทอและเศษเครื่องปั้นดินเผาจากอารยธรรมวารีของเปรูซึ่งยังเป็นที่รู้จักน้อยมาก และมีศูนย์กลางตั้งอยู่ไกลออกไปทางใต้ ปรากฏให้เห็นอยู่ทั่วเนินน้อยใหญ่ในแถบนั้น เกียร์ชและทีมวิจัยทีมเล็กๆ จึงลงมือสร้างภาพสิ่งที่อยู่ใต้ดินด้วย แมกนิโทมิเตอร์และภาพถ่ายทางอากาศ ผลที่ออกมาเผยให้เห็นบางสิ่งซึ่งเล็ดลอดสายตาของบรรดาโจรปล้นสุสานหลายชั่วรุ่น นั่นคือแนวเส้นจางๆ ของกำแพงที่ถูกกลบฝังทอดตัวไปตามแนวสันเขาหินทางใต้

ปรากฏว่าเส้นจางๆ นั้นคือแนวหอคอยและกำแพงสูงที่ประกอบกันเป็นเขาวงกตขนาดมหึมา แผ่ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดทางใต้สุดของเอลกัสตีโย หมู่สิ่งปลูกสร้างแผ่ไพศาลซึ่งเดิมทาสีแดงเข้มดูเหมือนจะเป็นวิหารวารีที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการบูชาบรรพบุรุษ ขณะที่ทีมวิจัยขุดลงไปใต้ชั้นอิฐสี่เหลี่ยมคางหมูหนาๆ ในฤดูใบไม้ร่วง ปี 2012 พวกเขาค้นพบสิ่งที่นักโบราณคดีแถบเทือกเขาแอนดีสเพียงไม่กี่คนเคยคาดหวังว่าอาจพบเจอ นั่นคือ สุสานหลวงที่พวกหัวขโมยยังไม่เคยแตะต้องมาก่อน ภายในฝังพระศพราชินีหรือเจ้าหญิงชาววารีไว้สี่พระองค์ รวมทั้งชนชั้นสูงอีกอย่างน้อย 54 คน และโบราณวัตถุล้ำค่าของชาววารีอีกกว่าหนึ่งพันชิ้น มีตั้งแต่ต่างหูทองคำขนาดใหญ่ไปจนถึงชามเงินและขวานทำจากโลหะทองแดงผสม ซึ่งล้วนเป็นงานฝีมือชั้นยอด

อารยธรรมวารีรุ่งเรืองขึ้นในแถบหุบเขาไอย์อากูโชของเปรูราวศตวรรษที่เจ็ดโดยไม่มีใครรู้ความเป็นมา และยิ่งใหญ่เกรียงไกรเนิ่นนานก่อนหน้าอารยธรรมอินคาจะผงาดขึ้นในอีกหลายร้อยปีต่อมา พวกเขาก่อตั้งเมืองหลวงขนาดใหญ่ซึ่งทุกวันนี้รู้จักกันในชื่อนครอัวรี (Huari) ขึ้นใกล้ๆ กับเมืองไอย์อากูโชในปัจจุบัน ในช่วงที่รุ่งเรืองถึงขีดสุด นครอัวรีมีประชากรมากถึง 40,000 คน จากฐานที่มั่นแห่งนี้ เหล่าขุนศึกชาววารีแผ่ขยายอาณาเขตของตนออกไปหลายร้อยกิโลเมตรตามแนวเทือกเขาแอนดีส และรุกคืบเข้าไปถึงทะเลทรายแถบชายฝั่ง ก่อร่างสร้างสิ่งที่นักโบราณคดีหลายคนเรียกว่า จักรวรรดิแห่งแรกในแถบเทือกเขาแอนดีสของอเมริกาใต้

ชาววารีในฐานะผู้รุกรานต่างแดนน่าจะรุกคืบมายังแถบชายฝั่งแห่งนี้ราวปลายศตวรรษที่แปด ในสมัยนั้นพื้นที่แถบนี้ทอดยาวไปตามพรมแดนทางใต้ของเหล่าขุนศึกโมเชผู้มั่งคั่ง และดูเหมือนจะขาดผู้นำเผ่าที่แข็งแกร่ง ผู้รุกรานชาววารีเปิดฉากโจมตีด้วยวิธีใดไม่ทราบแน่ชัด เมื่อเมฆหมอกแห่งสงครามจางหายไป ชาววารีก็ผงาดขึ้นในฐานะผู้ครอบครองดินแดนไว้ในอุ้งมือ เจ้าครองผู้มาใหม่สร้างพระราชวังขึ้นตรงเชิงเขาเอลกัสตีโย เมื่อเวลาผ่านไป ผู้ปกครองรายนี้และผู้สืบทอดรุ่นต่อๆ มาก็เปลี่ยนเนินเขาลาดชันเบื้องบนให้กลายเป็นวิหารสูงตระหง่านอุทิศให้กับการบูชาบรรพบุรุษ

เอลกัสตีโยถูกปกคลุมด้วยซากปรักและตะกอนที่กระแสลมพัดพามาตลอดเกือบหนึ่งพันปี ทำให้หน้าตาในปัจจุบันดูเหมือนพีระมิดขั้นบันไดขนาดมหึมา เป็นอนุสรณ์สถานที่สร้างจากด้านล่างขึ้นไปด้านบน แต่เกียร์ชสงสัยมาตั้งแต่แรกว่า เอลกัสตีโยต้องมีอะไรมากกว่าที่ตาเห็น เขาเชิญทีมผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรมมาช่วยตรวจสอบ และผลการศึกษาวิเคราะห์ก็ยืนยันข้อสงสัยของเกียร์ช นั่นคือ วิศวกรชาววารีเริ่มก่อสร้างตรงบริเวณยอดสุดของเอลกัสตีโยซึ่งเป็นหมวดหินธรรมชาติ แล้วจึงไล่ระดับลงมาถึงด้านล่างในที่สุด

ผู้ก่อสร้างเริ่มจากการขุดห้องใต้ดินตามแนวยอดเขาเอลกัสตีโยซึ่งจะกลายเป็นสุสานหลวง ครั้นเมื่อเสร็จสิ้นการฝังพระศพและพร้อมจะปิดผนึกสุสาน เหล่าคนงานจะเทกรวดทรายราว 30 ตันลงไป และปิดทับด้วยอิฐหนาหนักอีกชั้น จากนั้นพวกเขาจึงสร้างหอคอยสุสานขึ้นด้านบน ทาผนังเป็นสีแดงเข้มมองเห็นได้จากหลายกิโลเมตรโดยรอบ เหล่าชนชั้นสูงชาววารีจะถวายเครื่องสักการะสูงค่าไว้ตามห้องเล็กๆ ภายในสุสาน ซึ่งมีตั้งแต่ผ้าทอฝีมือประณีตที่ผู้คนแถบเทือกเขาแอนดีสโบราณยกย่องยิ่งกว่าทองคำ ไปจนถึงเส้นเชือกผูกเป็นปมลักษณะต่างๆที่เรียกว่า กีปู (khipu) ซึ่งใช้เป็นเครื่องมือบันทึกจำนวนและประเภททรัพย์ศฤงคารที่องค์จักรพรรดิและจักรวรรดิครอบครอง ตลอดจนชิ้นส่วนอวัยวะของแร้งเทือกเขาแอนดีส ซึ่งเป็นนกที่มีความเกี่ยวโยงกับชนชั้นสูงชาววารีอย่างแนบแน่น

ตรงใจกลางหอคอยเป็นห้องประดิษฐานบัลลังก์ ราวปี ค.ศ. 2000 โจรปล้นสุสานเล่าให้นักโบราณคดีชาวเยอรมันคนหนึ่งฟังว่า พวกเขาพบมัมมี่ฝังอยู่ในซุ้มกำแพงรอบห้อง “เราค่อนข้างมั่นใจว่าห้องนี้ใช้ประกอบพิธีบูชาบรรพบุรุษครับ” เกียร์ชบอก และอาจกระทั่งเคยใช้เป็นสถานที่บูชามัมมี่ขององค์จักรพรรดิ แต่ทางทีมวิจัยยังค้นไม่พบ

บรรดาชนชั้นสูงชาววารีต่างจับจองพื้นที่บนยอดเขาสำหรับสร้างสุสานของตนเอง เมื่อใช้พื้นที่ว่างจนหมดแล้ว พวกเขาก็ออกแบบพื้นที่เพิ่มด้วยการสร้างยกพื้นขั้นบันไดไล่ลงไปตามลาดเนินเขาเอลกัสตีโย และสร้างหอคอยสุสานกับหลุมฝังศพตามยกพื้นขั้นบันไดเหล่านั้นนั่นเอง

เมื่อการก่อสร้างสิ้นสุดลง น่าจะเป็นช่วงใดช่วงหนึ่งระหว่างปี ค.ศ. 900 ถึง 1000 นครแห่งผู้วายชนม์สีแดงเข้มก็ตั้งตระหง่านเหนือหุบเขา เอลกัสตีโยได้ส่งสารทางการเมืองอันทรงพลังถึงผู้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ว่า บัดนี้ผู้รุกรานชาววารีคือผู้ครองดินแดนโดยชอบธรรม

http://www.ngthai.com/Images/Albums/Album-98-IMG-981.jpg
ค้นพบสุสานเร้นลับในเปรู ซึ่งรอดพ้นเงื้อมมือของโจรปล้นสุสานมานานกว่าหนึ่งพันปี

ท่ามกลางเขาวงกตของห้องหับและกำแพง นักโบราณคดี โรเบร์โต ปีเมนเตล นีตา
กำลังพินิจพิจารณาโบราณวัตถุชิ้นหนึ่งที่ขุดพบ ภูมิอากาศที่เอลกัสตีโยแห้งแล้งมาก
จนแม้แต่เส้นด้ายบางๆ ยังคงสภาพเดิมอยู่ใต้ดินได้นานหลายศตวรรษ

http://www.ngthai.com/Images/Albums/Album-98-IMG-982.jpg
ค้นพบสุสานเร้นลับในเปรู ซึ่งรอดพ้นเงื้อมมือของโจรปล้นสุสานมานานกว่าหนึ่งพันปี

นักโบราณคดี มีโวช เกียร์ช วัดระยะห่างระหว่างสุสานหลวงกับจุดที่พบหม้อแตกหัก
จากน้ำมือโจรปล้นสุสาน “พวกเขาเกือบค้นพบสุสานแบบเฉียดฉิวจริงๆครับ” เขาบอก

http://www.ngthai.com/Images/Albums/Album-98-IMG-983.jpg
ค้นพบสุสานเร้นลับในเปรู ซึ่งรอดพ้นเงื้อมมือของโจรปล้นสุสานมานานกว่าหนึ่งพันปี

บนบันไดที่เพิ่งได้รับการขุดค้น เกียร์ซ นักโบราณคดีฉงนกับแบบแปลนทางสถาปัตยกรรม
อันน่าทึ่งของเอลกัสตีโย แหล่งโบราณคดีแห่งนี้ดูเหมือนพีระมิดก็จริง แต่ผู้สร้าง
เริ่มสร้างจากด้านบนสุดซึ่งเป็นหมวดหินตามธรรมชาติ แล้วจึงไล่ระดับลงด้านล่าง

http://www.ngthai.com/Images/Albums/Album-98-IMG-984.jpg
ค้นพบสุสานเร้นลับในเปรู ซึ่งรอดพ้นเงื้อมมือของโจรปล้นสุสานมานานกว่าหนึ่งพันปี

ไหสองใบ ที่ใช้บรรจุเครื่องสักการะบรรพบุรุษ

http://www.ngthai.com/Images/Albums/Album-98-IMG-985.jpg
ค้นพบสุสานเร้นลับในเปรู ซึ่งรอดพ้นเงื้อมมือของโจรปล้นสุสานมานานกว่าหนึ่งพันปี

ในสุสานสมัยใหม่ใกล้กับเอลกัสตีโย โจรปล้นสุสานคนหนึ่งกางผืนผ้าที่ขโมยมา
ให้ลูกค้าชม ทุกวันนี้ สุสานที่เอลกัสตีโยมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

http://www.ngthai.com/Images/Albums/Album-98-IMG-986.jpg
ค้นพบสุสานเร้นลับในเปรู ซึ่งรอดพ้นเงื้อมมือของโจรปล้นสุสานมานานกว่าหนึ่งพันปี

หญิงชนชั้นสูงชาววารีนิยมสวมต่างหู ซึ่งบางชิ้นมีขนาดใหญ่พอๆ กับลูกบิดประตู
การค้นพบโบราณวัตถุทำจากทองคำและเงินทำให้นักโบราณคดีเป็นกังวล
จนนอนไม่หลับเพราะกลัวถูกปล้น

http://www.ngthai.com/Images/Albums/Album-98-IMG-987.jpg
ค้นพบสุสานเร้นลับในเปรู ซึ่งรอดพ้นเงื้อมมือของโจรปล้นสุสานมานานกว่าหนึ่งพันปี

กะโหลกศีรษะที่ยังมีผมติดอยู่ของหญิงสูงศักดิ์ชาววารีให้เบาะแสใหม่ๆ
เกี่ยวกับชีวิตของชนชั้นปกครองในเอลกัสตีโย ก่อนได้รับการฝัง
ผู้ประกอบพิธีระบายใบหน้าของหญิงคนนี้ด้วยสารสีแดง
ซึ่งยังหลงเหลือให้เห็นบนคิ้วของเธอ

http://www.ngthai.com/Images/Albums/Album-98-IMG-988.jpg
ค้นพบสุสานเร้นลับในเปรู ซึ่งรอดพ้นเงื้อมมือของโจรปล้นสุสานมานานกว่าหนึ่งพันปี

กะโหลกพระเศียรของราชินีผู้ยิ่งใหญ่แห่งเอลกัสตีโย

http://www.ngthai.com/Images/Albums/Album-98-IMG-989.jpg
ค้นพบสุสานเร้นลับในเปรู ซึ่งรอดพ้นเงื้อมมือของโจรปล้นสุสานมานานกว่าหนึ่งพันปี

ชิ้นส่วนเสื้อคลุมลวดลายงดงามเผยให้เห็นภาพเจ้าผู้ครองอาณาจักรวารี
ผู้ก่อร่างสร้างจักรวรรดิแห่งแรกในแถบเทือกเขาแอนดีส เป็นส่วนหนึ่งของ
ขุมทรัพย์จากสุสานที่เอลกัสตีโยเดอัวร์เมย์ซึ่งรอดพ้นจากเงื้อมมือโจรมาได้

http://www.ngthai.com/Images/Albums/Album-98-IMG-990.jpg
ค้นพบสุสานเร้นลับในเปรู ซึ่งรอดพ้นเงื้อมมือของโจรปล้นสุสานมานานกว่าหนึ่งพันปี

หม้อเขียนสีเผยให้เห็นภาพเจ้าผู้ครองอาณาจักรวารี ผู้ก่อร่างสร้าง
จักรวรรดิแห่งแรกในแถบเทือกเขาแอนดีส เป็นส่วนหนึ่งของขุมทรัพย์
จากสุสานที่เอลกัสตีโยเดอัวร์เมย์ซึ่งรอดพ้นจากเงื้อมมือโจรมาได้

http://www.ngthai.com/Images/Albums/Album-98-IMG-991.jpg
ค้นพบสุสานเร้นลับในเปรู ซึ่งรอดพ้นเงื้อมมือของโจรปล้นสุสานมานานกว่าหนึ่งพันปี

ชายผู้พิทักษ์นั่งขัดสมาธิเฝ้าสมบัติในสุสานหลวงมานานกว่าหนึ่งพันปี
ข้างกายมีถ้วยน้ำกับน้ำเต้าอย่างละใบ

http://www.ngthai.com/Images/Albums/Album-98-IMG-992.jpg
ค้นพบสุสานเร้นลับในเปรู ซึ่งรอดพ้นเงื้อมมือของโจรปล้นสุสานมานานกว่าหนึ่งพันปี

รูปสิ่งมีชีวิตมีปีกประดับอยู่บนต่างหูทำจากทองคำและเงินที่สตรีสูงศักดิ์ชาววารีสวมใส่

http://www.ngthai.com/Images/Albums/Album-98-IMG-993.jpg
ค้นพบสุสานเร้นลับในเปรู ซึ่งรอดพ้นเงื้อมมือของโจรปล้นสุสานมานานกว่าหนึ่งพันปี

รูปปั้นเขียนสีบนคนโทดินเผาอาจเป็นเจ้าผู้ครองนครวารีประทับอยู่บนแพไม้บัลซา
ซึ่งอาจเป็นเบาะแสหนึ่งที่ชี้ว่า ชนเผ่าวารีรุกรานเข้าสู่ดินแดนแถบนี้จากทางทะเล
ในสุสานที่รอดพ้นจากเงื้อมมือโจรที่เอลกัสตีโยแห่งนี้

http://www.ngthai.com/Images/Albums/Album-98-IMG-994.jpg
ค้นพบสุสานเร้นลับในเปรู ซึ่งรอดพ้นเงื้อมมือของโจรปล้นสุสานมานานกว่าหนึ่งพันปี

นักโบราณคดีขุดพบโบราณวัตถุมากกว่า 1,000 ชิ้นที่ทำขึ้น
ตามคำสั่งของชนชั้นสูงชาววารี รวมถึงต่างหูไม้ฝังทอง เปลือกหอย

http://www.ngthai.com/Images/Albums/Album-98-IMG-995.jpg
ค้นพบสุสานเร้นลับในเปรู ซึ่งรอดพ้นเงื้อมมือของโจรปล้นสุสานมานานกว่าหนึ่งพันปี

ชนชั้นนำชาววารีแต่งกายอย่างหรูหรา กระทั่งรองเท้ายังตัดเย็บ
จากหนังและเขียนลวดลายสีสันเจิดจ้า พวกเขาดื่มกินอย่างมีรสนิยมอีกด้วย

http://www.ngthai.com/Images/Albums/Album-98-IMG-996.jpg
ค้นพบสุสานเร้นลับในเปรู ซึ่งรอดพ้นเงื้อมมือของโจรปล้นสุสานมานานกว่าหนึ่งพันปี

ช่างฝีมือแกะสลักถ้วยใบนี้จากหินในแถบเทือกเขาแอนดีส
ซึ่งมีสีขาวคล้ายหินอะลาบาสเตอร์

http://www.ngthai.com/Images/Albums/Album-98-IMG-997.jpg
ค้นพบสุสานเร้นลับในเปรู ซึ่งรอดพ้นเงื้อมมือของโจรปล้นสุสานมานานกว่าหนึ่งพันปี

ขนนกประดับอยู่บนชิ้นส่วนเครื่องประดับชิ้นนี้



ขอขอบคุณ เว็บ.ngthai.com/

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.455 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 17 พฤศจิกายน 2567 03:03:45