[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
22 ธันวาคม 2567 19:42:39 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ในโชคมีเคราะห์ ในเคราะห์มีโชค โดย พระไพศาล วิสาโล  (อ่าน 4316 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Maintenence
ผู้ดูแลระบบ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออนไลน์ ออนไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 1117


[• บำรุงรักษา •]

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 40.0.2214.115 Chrome 40.0.2214.115


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 13 มีนาคม 2558 16:10:52 »

.


พระไพศาล วิสาโล

ในโชคมีเคราะห์ ในเคราะห์มีโชค
โดย
พระไพศาล วิสาโล


สำหรับประเทศที่ยากจนหรือเศรษฐกิจย่ำแย่  คงไม่มีข่าวใดจะดีไปกว่าการค้นพบทรัพยากรธรรมชาติแหล่งใหญ่ เช่น น้ำมัน เพชร ทอง เพราะนั่นหมายถึงรายได้จำนวนมหาศาล ที่สามารถยกระดับเศรษฐกิจของประเทศ และช่วยให้ประชากรมีงานทำ มีการศึกษา และมีสุขภาพดีขึ้น ประเทศไหนที่สำรวจพบทรัพยากรเหล่านี้ต้องถือว่ามีโชคทีเดียว

แต่ประสบการณ์ในหลายทศวรรษที่ผ่านมากลับชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่เรียกว่า “โชค” นั้น บ่อยครั้งกลับกลายเป็น “เคราะห์”มากกว่า มีหลายประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตช้าลง การเมืองเลวร้ายมากขึ้น มีการคอร์รัปชั่นหนักกว่าเดิม หลังจากที่มีการค้นพบทรัพยากรดังกล่าว บางประเทศถึงกับเกิดสงครามกลางเมืองและความรุนแรงที่ยืดเยื้อ เช่น ไนจีเรีย หลังจากค้นพบน้ำมันในปี ๒๔๙๙ ก็เกิดสงครามกลางเมืองและการรัฐประหารครั้งแล้วครั้งเล่าติดต่อกันมาร่วมครึ่งศตวรรษแล้ว ในทำนองเดียวกันเมื่อเซียราเลโอนและแองโกลาค้นพบแหล่งเพชร สงครามกลางเมืองก็อุบัติตามมา

รายได้มหาศาลจากทรัพยากรธรรมชาติ เป็นตัวกระตุ้นให้การแย่งชิงอำนาจรัฐรุนแรงเข้มข้นยิ่งกว่าเดิม ยิ่งประเทศยากจนส่วนใหญ่ขาดสถาบันการเมืองที่เข้มแข็งและเป็นประชาธิปไตย ก็ยิ่งเปิดโอกาสให้มีการใช้วิธีการที่ฉ้อฉลและรุนแรงเพื่อครองอำนาจรัฐ โดยมักได้รับการหนุนหลังจากบรรษัทข้ามชาติที่หวังประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติดังกล่าว แม้เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้อำนาจรัฐแล้ว ก็ยังต้องใช้ความรุนแรงเพื่อปราบปรามฝ่ายตรงข้าม (ซึ่งบางครั้งก็สามารถต่อสู้ได้อย่างยืดเยื้อเพราะมีรายได้จากน้ำมันหรือเพชรมาหนุนหลัง)

พม่าเป็นตัวอย่างของประเทศที่เผด็จการทหารมีความเข้มแข็งขึ้นหลังจากการค้นพบแก๊สธรรมชาติ รายได้อันมหาศาลจากทรัพยากรดังกล่าวถูกนำไปซื้ออาวุธและสร้างเสริมกำลังทหารเพื่อปราบปรามประชาชนและชนกลุ่มน้อย แม้จะเป็นที่รังเกียจของประชาชนค่อนประเทศและถูกกดดันจากนานาชาติมากว่า ๒๐ ปี รัฐบาลทหารก็ยังอยู่ได้และไม่มีทีท่าว่าจะถูกโค่นในเร็ววัน

ส่วนประเทศที่มีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง รายได้มหาศาลจากทรัพยากรธรรมชาติก็เป็นแรงจูงใจอย่างดีให้นักการเมืองทำการคอร์รัปชั่น ทั้งโดยการผันเงินนั้นมาเข้ากระเป๋าของตัว หรือรับสินบนจากบรรษัทข้ามชาติที่ต้องการสัมปทาน ที่แนบเนียนกว่านั้นก็คือคอร์รัปชั่นเชิงนโยบายเพื่อให้พวกพ้องของตนได้ประโยชน์จากทรัพยากรดังกล่าว

มองในแง่เศรษฐกิจ ประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติมหาศาลไม่ได้มีเศรษฐกิจดีขึ้นมากมายอย่างที่ใครๆ คาดคิด ตรงกันข้ามส่วนใหญ่กลับแย่ลงด้วยซ้ำ มีการศึกษาวิจัยพบว่า ระหว่างปี ๒๕๐๘-๒๕๔๑ ประเทศกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน(โอเปค) มีผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติต่อหัวลดลงร้อยละ ๑.๓ โดยเฉลี่ยต่อปี ขณะที่ประเทศกำลังพัฒนานอกกลุ่มโอเปค ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติต่อหัวเพิ่มขึ้นร้อยละ ๒.๒ โดยเฉลี่ยต่อปี

ทำไมประเทศที่ร่ำรวยทรัพยากรธรรมชาติจึงเติบโตช้ากว่า?  สาเหตุมีหลายประการ อาทิ ราคาของทรัพยากรเหล่านี้ในตลาดโลกมักจะผันผวนไม่แน่นอน (โดยเฉพาะน้ำมัน) ในยามที่ราคาในตลาดโลกตกต่ำก็จะส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้อย่างรุนแรง โดยเฉพาะประเทศที่พึ่งการส่งออกทรัพยากรดังกล่าวนอกจากนั้นประเทศเหล่านี้ยังมีแนวโน้มที่จะกู้ยืมเงินจากต่างชาติมากเพราะคาดหวังว่าจะมีรายได้จากทรัพยากรเหล่านี้มาจ่ายคืน แต่เมื่อราคาของทรัพยากรดังกล่าวตกต่ำลง ซ้ำร้ายค่าเงินของประเทศนั้นก็ตกด้วย ทำให้ไม่สามารถจ่ายหนี้คืนได้ หนี้จึงสะสมพอกพูน และทำให้ค่าเงินตกยิ่งกว่าเดิม จนเกิดวิกฤตขึ้นได้ ดังที่เกิดกับไนจีเรียและเวเนซูเอลาซึ่งมีหนี้เพิ่มพูนขึ้นอย่างมากช่วงที่น้ำมันมีราคาสูงขึ้น แต่พอน้ำมันราคาตก เศรษฐกิจจึงพลอยตกต่ำลงไปด้วยจนเกิดวิกฤตในสิบปีต่อมา

โชคที่กลายเป็นเคราะห์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับนานาประเทศที่ค้นพบทรัพยากรธรรมชาติมูลค่ามหาศาล จนมีผู้เรียกปรากฏการณ์ดังกล่าวว่า resource curse (คำสาปหรือ “เคราะห์กรรม”จากทรัพยากร) พูดอย่างภาษาชาวบ้าน ปรากฏการณ์นี้ไม่ต่างจาก “สามล้อถูกหวย”ในระดับชาตินั่นเอง (แต่ถึงแม้ไม่ใช่“สามล้อ” หรือประเทศยากจน แต่หาก “ถูกหวย”เมื่อไรก็หนีเคราะห์ดังกล่าวไม่พ้น เช่น เนเธอร์แลนด์ ซึ่งค้นพบแหล่งน้ำมันในทะเลเหนือเมื่อ ๔๐ ปีก่อนรายได้มหาศาลจากน้ำมันทำให้ค่าแรงในประเทศสูงขึ้น อีกทั้งยังหนุนค่าเงินให้สูงขึ้นด้วย ทำให้สินค้าชนิดอื่นที่เคยส่งออก มีราคาสูงขึ้นมากจนไม่สามารถผลิตและขายในต่างประเทศได้)

อย่างไรก็ตามเมื่อมองให้กว้างแล้วจะพบว่า แม้แต่ประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์มานับร้อยปีหรือนานกว่านั้น มิใช่เพิ่งพบสมบัติล้ำค่าเมื่อไม่นานมานี้ ก็มักประสบชะตากรรมคล้ายๆ กัน คือ เศรษฐกิจขาดความมั่นคง การเมืองคอร์รัปชั่น มีคนยากจนมาก ปัญหาสังคมเรื้อรัง อาชญากรรมแพร่ระบาด คนมีการศึกษาน้อย ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะเห็นได้ชัดเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่มีทรัพยากรน้อยมาก แต่กลับมีเศรษฐกิจมั่นคง สังคมมีเสถียรภาพ และมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี อาทิ หลายประเทศในยุโรป ในเอเชียก็ได้แก่ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ไต้หวัน และเกาหลีใต้

ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เหตุผลประการหนึ่งก็คือประเทศที่มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์นั้น มักจะพึ่งพารายได้จากการส่งออกทรัพยากรดังกล่าว จนมองข้ามการพัฒนาคนหรือเทคโนโลยี ปฏิเสธไม่ได้ว่ารายได้จากการขายทรัพย์ในดินสินในน้ำนั้น ทำได้ง่ายกว่าการสร้างรายได้จากการพัฒนาคนหรือเทคโนโลยี ผู้นำประเทศเหล่านั้นจึงเลือกใช้วิธีที่ง่ายและสะดวกสบายกว่า ในขณะที่ประเทศซึ่งขาดแคลนทรัพยากรไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการพัฒนาคนและเทคโนโลยีขึ้นมา ดังนั้นจึงหันมาทุ่มเททางด้านการศึกษาและวิจัยพัฒนา แม้จะให้ผลช้า แต่ก็ยั่งยืนกว่า

นี้เป็นเหตุผลข้อหนึ่งว่าเหตุใดประเทศไทยจึงมีความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจช้ากว่าหลายประเทศในเอเชีย ทั้ง ๆ ที่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์มากกว่า พูดอีกนัยหนึ่งเราหวังพึ่งทุนเก่ามากกว่าสร้างทุนใหม่ แม้ทุนทรัพยากรธรรมชาติเริ่มร่อยหรอ ก็ยังไม่ใส่ใจที่จะพัฒนาคนและเทคโนโลยี ยังหวังว่าจะ “โชติช่วงชัชวาล” อีกหากเจอน้ำมันหรือแก๊สธรรมชาติในทะเลต่อไป ขณะเดียวกันก็หวังหารายได้เข้าประเทศด้วยการกดค่าแรงให้ต่ำเข้าไว้ ซึ่งก็คือการใช้ทุนเก่าในอีกรูปแบบหนึ่ง (คือทุนมนุษย์) มากกว่าที่จะพัฒนาคนให้มีคุณภาพมากขึ้น

ปรากฏการณ์ดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าความร่ำรวยมั่งคั่งที่ได้มาง่าย ๆ หรือได้มาโดยไม่ต้องเหนื่อยนั้น เป็นโทษมากกว่าเป็นคุณในระยะยาว นี้ไม่ใช่ความจริงในระดับประเทศเท่านั้น หากยังเป็นความจริงในระดับบุคคลด้วย คำว่า “สามล้อถูกหวย” ก็บ่งบอกเป็นนัยอยู่แล้วว่าลาภก้อนใหญ่นั้นในท้ายที่สุดย่อมส่งผลเป็นลบกับสามล้อผู้นั้นเอง  อย่าว่าแต่สามล้อเลย แม้แต่คนที่มีอันจะกิน หากถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง ได้เงินหลายสิบล้าน ก็อาจเสียผู้เสียคนได้ เมื่อสิบปีที่แล้วมีสามีภรรยาชาวอเมริกันคู่หนึ่งได้โชคก้อนใหญ่ เป็นรางวังจากสลากกินรวบจำนวน ๓๔ ล้านเหรียญ ทั้งสองเลิกทำงานและใช้ชีวิตอย่างหรูหราเฟือย แต่ไม่นานทั้งสองได้แยกทางกัน ต่อมาสามีเสียชีวิตจากโรคสุรา ส่วนภรรยาก็เสียชีวิตแต่ผู้เดียวในคฤหาสน์หลังใหญ่ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในเวลาเพียง ๕ ปีเท่านั้น น่าคิดว่าหากไม่ได้ลาภก้อนใหญ่ขนาดนั้นทั้งสองอาจจะยังมีชีวิตที่ผาสุกก็ได้

มิใช่แต่คนที่ถูกหวยหรือได้ลาภอย่างกะทันหันเท่านั้น แม้แต่คนที่เกิดมาท่ามกลางกองเงินกองทองก็ใช่ว่าจะพ้นจากเคราะห์ดังกล่าวได้ง่ายๆ บ่อยครั้งที่เราพบว่าคนที่เติบโตในสภาพดังกล่าว กลายเป็นคนที่หยิบโหย่ง เอาแต่เที่ยวเตร่สนุกสนาน และผลาญเงินของพ่อแม่จนร่อยหรอ แม้แต่ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ก็รักษาไว้ไม่ได้ ดังมีคำกล่าวว่ากิจการของเศรษฐีนั้นมักจะรุ่งเรืองได้นานแค่ ๓ ชั่วอายุคนเท่านั้น พ้นจากนั้นก็จะร่วงโรยตกต่ำ คนที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาตั้งแต่เกิดและอยู่สบายมาตลอด นอกจากจะไม่เห็นคุณค่าของเงินแล้ว ยังมักไม่สนใจศึกษาหาความรู้ เพิ่มพูนประสบการณ์ ทั้งไม่กระตือรือร้นที่จะทำการงาน ในเมื่อทุนเก่ามีมากมายใช้ไม่หมด จะขวนขวายสร้างทุนใหม่ให้เหนื่อยไปทำไม

พ่อแม่ที่ฉลาดย่อมไม่ปล่อยให้ลูกมีชีวิตที่สะดวกสบาย แต่ยินดีที่จะเห็นลูกประสบความยากลำบากโดยไม่มีใครประคบประหงม เพื่อให้ลูกรู้จักพึ่งตนเอง มีวินัยและความพากเพียรพยายาม ทั้งในระหว่างเล่าเรียนและเมื่อสำเร็จการศึกษา เศรษฐีที่มีสติปัญญาจะสนับสนุนให้ลูกไปหาประสบการณ์การทำงานจากที่อื่น แทนที่จะเริ่มต้นที่บริษัทของตัว เพราะกลัวจะถูกป้อยอจนเสียคน หากลูกจะมาทำงานในกิจการของพ่อแม่ก็ต้องไต่เต้าจากระดับล่างขึ้นมา คือเป็นลูกน้องของเขา มิใช่เป็นผู้บริหารเลย นั่นหมายความว่าหากจะเลื่อนระดับขึ้นมา ก็ต้องอาศัยสติปัญญาและน้ำพักน้ำแรงของตัวด้วย มิใช่พึ่งพาบารมีของพ่อแม่เท่านั้น

ความมั่งคั่งร่ำรวยและความสะดวกสบายสามารถเป็นสิ่งกีดขวางการพัฒนาศักยภาพทั้งของประเทศและของบุคคลได้ ในทางตรงกันข้ามความขาดแคลนและความยากลำบากเป็นแรงผลักที่ทรงพลังในการพัฒนาศักยภาพ มันสามารถกระตุ้นให้บุคคลหรือประเทศสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเองได้

จะว่าไปแล้วไม่ใช่แต่ความขาดแคลนและความยากลำบากเท่านั้น พูดได้ว่าความทุกข์ทั้งมวลสามารถเป็นแรงผลักให้เกิดการพัฒนาคุณภาพใหม่ขึ้นมาได้ การที่โลกแปรสภาพจากดวงดาวที่ไร้ชีวิตแห้งผากและพลุ่งพล่านด้วยความร้อนสูง กลายเป็นดาวโลกสีครามที่งดงามเต็มไปด้วยชีวิตนานาพันธุ์นั้น สาเหตุสำคัญประการหนึ่งก็คือการเกิดแผ่นดินไหวภูเขาไฟระเบิดกัมปนาทครั้งแล้วครั้งเล่าส่งผลให้ระบบนิเวศแปรเปลี่ยนจนเอื้อต่อสิ่งมีชีวิต โรคระบาดและความแห้งแล้งได้ผลักดันให้เกิดเทคโนโลยีนานาชนิดที่ทำให้มนุษย์มีสวัสดิภาพในชีวิตสูงขึ้น บุคคลอย่างลินคอล์นยากที่จะกลายเป็นมหาบุรุษได้หากไม่มีชีวิตลำเค็ญในวัยเด็ก ในทำนองเดียวกันเนลสัน แมนเดลา คงไม่ได้เป็นรัฐบุรุษของโลกอย่างทุกวันนี้หากเขาไม่ได้ถูกจำคุกนานถึง ๒๗ ปี ดังเขายอมรับว่าการถูกจองจำนานขนาดนั้นทำให้เขาประสบความสำเร็จในการทำสิ่งที่ยากที่สุดในชีวิต นั่นคือการเปลี่ยนแปลงตนเอง

ถึงที่สุดแล้ว ความทุกข์ที่บีบคั้นชีวิตนั้นสามารถผลักดันให้เกิดความพากเพียรพยายามจนจิตใจพ้นจากความทุกข์ได้ กล่าวได้ว่าถ้าไม่เห็นทุกข์จริงๆ ก็ไม่มีการบรรลุธรรม ถ้าไม่มีทุกข์ก็ไม่มีพระอรหันต์ อันที่จริงพระพุทธองค์ถึงกับตรัสเองว่า ถ้าไม่มีทุกข์ คือเกิด แก่ และตาย ก็ไม่มีพระองค์เกิดขึ้นในโลก

โชคกับเคราะห์นั้นหาได้แยกจากกันไม่ โชคสามารถกลายเป็นเคราะห์ และเคราะห์สามารถกลายเป็นโชค ดังนั้นเมื่อเจอโชคก็อย่าประมาท และหากประสบเคราะห์ก็อย่าตื่นตระหนก ในทำนองเดียวกันเมื่อเจอสุขก็อย่าลิงโลด ประสบทุกข์ก็อย่าคร่ำครวญ หากวางใจให้เป็น โชคหรือเคราะห์ สุขหรือทุกข์ ก็สามารถเป็นคุณแก่เราได้

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

[• สุขใจ บำรุงรักษาระบบ •]
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.365 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 20 ธันวาคม 2567 02:48:09