[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
22 ธันวาคม 2567 19:08:40 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: บุพกรรม พญานาค สองผัวเมีย กับ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม  (อ่าน 2361 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5162


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 50.0.2661.272 Chrome 50.0.2661.272


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 28 สิงหาคม 2559 04:23:58 »



บุพกรรม พญานาค สองผัวเมีย

องค์ท่านหลวงปู่ชอบถามถึงบุพกรรมของเจ้าจอมผาห่มพร้าวกับคู่บารมี กรรมอะไรที่ทำให้ท่านทั้งสองได้มาเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา กรรมอะไรที่ทำให้ท่านทั้งสองได้มาปกปักรักษาสมบัติของพระศาสนาอยู่ที่นี่?

กากะละนาคราชบอกองค์ท่านว่า ชาติที่ข้าพเจ้าเป็นมนุษย์ ข้าพเจ้าเป็นคนนักเลงใจร้อนมุทะลุ เมียข้าพเจ้าจึงชวนเข้าวัดปฏิบัติธรรมถือศีลอุโบสถในวันพระ บุญที่ข้าพเจ้ารักษาศีลห้าและศีลอุโบสถ ประกอบกับบุญที่ข้าพเจ้าอุปัฏฐากพระสงฆ์องค์เณร บุญกุศลนี้จึงส่งผลให้ข้าพเจ้าได้เกิดเป็นเทวะภูมิพญานาคในชาติปัจจุบัน

ตอนเป็นมนุษย์ปฏิบัติอยู่ในวัดวาศาสนา ข้าพเจ้าเผลอพลาดกรรมเพียงครั้งเดียวในการปฏิบัติต่อสมบัติศาสนา ข้าพเจ้ากับเมียยืมจอบเสียมมีดพร้าของวัดเอาไปปลูกผักทำไร่ พอพืชผักออกผลข้าพเจ้ากับเมียก็นำมาทำอาหารถวายพระสงฆ์องค์เณรในวัด มีดพร้าจอบเสียมที่ยืมของสงฆ์ไปชำรุดแตกหักข้าพเจ้าก็ไม่ได้นำมาใช้คืนให้สงฆ์ ปล่อยทิ้งสมบัติของสงฆ์เหล่านี้ไปเพราะชะล่าใจคิดว่ากรรมเล็กน้อยจักไม่เป็น ผลเพราะตนเองไม่มีเจตนายักยอกของสงฆ์

ก่อนตายจิตข้าพเจ้าไปติดยึดกับของสงฆ์ที่ตนเองเคยยืมไปใช้แล้วไม่ส่งคืน เพราะจิตติดยึดในของสงฆ์ที่ตนเองยืมไปใช้ไม่ส่งคืนจึงทำให้ข้าพเจ้าเป็นพญานาคปกปักรักษาสมบัติพระศาสนา ถ้าจิตตนเองไม่ไปติดยึดเรื่องนี้ก่อนตาย ข้าพเจ้าจักได้เกิดเป็นเทพเทวดาในชั้นภูมิที่สูงกว่านี้

ส่วนคู่บารมีข้าพเจ้าเขาปรารถนาเกิดเป็นคู่บารมีกับข้าพเจ้าตลอดไป ความปรารถนาประกอบบุญของเขา จึงทำให้เขาได้มาเกิดเป็นพญานาคคู่บารมีของข้าพเจ้า

หลวงปู่ชอบ: ทำไมเมืองบ้านเมืองพญานาคจึงได้ชื่อว่า “เมืองบาดาล”?

พญานาคเจ้าจอมผาห่มพร้าวบอกท่านว่า

“เมืองบาดาล” คือชื่อที่มนุษย์เรียกกันขึ้นมาเอง พวกข้าพเจ้ามีทิพย์วิมานซ่อนเหลื่อมใกล้กับภูมิมนุษย์ พญานาคบางหมู่เหล่าก็อยู่ในสวรรค์ บางหมู่เหล่าก็อยู่ภูเขา บางหมู่เหล่าก็อยู่ในน้ำ บางหมู่เหล่าก็อยู่ใต้พิภพ พวกข้าพเจ้าจะเรียกชื่อเมืองตามชื่อของพญานาคผู้เป็นใหญ่

หลวงปู่ชอบ: โลกมนุษย์อาศัยแสงสว่างจากไฟ จากพระอาทิตย์ แสงเดือนแสงดาว บ้านเมืองพวกท่านอาศัยแสงสว่างจากอะไรเป็นเครื่องดำรงอยู่?

พญานาคผาห่มพร้าวบอกองค์ท่านว่า แสงสว่างของพระอาทิตย์ แสงเดือนแสงดาวไม่สามารถส่องถึงนาคาพิภพได้ ที่นาคพิภพไม่มีกลางวันกลางคืนเหมือนกับโลกมนุษย์ ที่เมืองนาคพิภพของพวกข้าพเจ้าจะมี “แก้วแสงทิพย์” สว่างไสวอยู่สี่มุมเมือง แสงแก้วทิพย์นี้จะสว่างไสวอยู่ตลอดเวลาไม่มีวันดับ แสงสว่างของแก้วแสงทิพย์เย็นใสไม่ร้อนเหมือนแสงพระอาทิตย์ แก้วทิพย์แสงเมืองนี้เกิดจากบุญฤทธิ์ของพวกข้าพเจ้าพญานาคทุกตนจะมีแก้วทิพย์ประจำตัว แก้วทิพย์บุญฤทธิ์จะเป็นแก้วสารพัดนึกที่พญานาคทุกตนใช้ในการนิรมิต

หลวงปู่ชอบ:พวกมนุษย์กินเนื้อสัตว์ กินพืชผักเป็นอาหาร พวกพญานาคเขาพากันกินอะไรเป็นอาหาร?

เจ้าจอมผาห่มพร้าวตอบองค์ท่านว่า พญานาคเป็นพวกกายทิพย์ไม่มีเวทนาหิวโหยเหมือนมนุษย์ ความเหนื่อยความหิวไม่มีในพญานาค พวกข้าพเจ้า “อิ่มในบุญ” จึงไม่มีเวทนาหิวโหยเหมือนพวกกายหยาบอย่างมนุษย์และเดรัจฉาน

หลวงปู่ชอบ: พญานาคมีฤทธิ์เดชมากแค่ไหน?

เจ้าจอมผาห่มพร้าวบอกองค์ท่านว่า พญานาคมีฤทธิ์มากเกินจะประมาณได้ ถ้าพวกข้าพเจ้าอยากจะทำร้ายผู้ใด เพียงแค่เพ่งฤทธิ์ใส่มนุษย์หรือสัตว์ผู้นั้น มนุษย์และสัตว์ผู้นั้นก็จะแหลกเป็นจุลในทันที พวกพญานาคมีหิริโอตัปปะธรรมสูงกว่ามนุษย์ธรรมดา ถ้าไม่เคยมีกรรมอันหนักต่อกันแล้วพวกพญานาคจะไม่ทำร้ายมนุษย์และสัตว์ให้ถึง แก่ความฉิบหายของชีวิต พญานาคมีฤทธิ์จะจำแลงเป็นอะไรก็ได้ตามที่อยากจะเป็น แต่สุดท้ายต้องกลับคืนสู่อัตภาพภูมิเดิมของตน

หลวงปู่ชอบ: เวลาพวกท่านอยู่บ้านเมืองของตน พวกพญานาคเขามีรูปร่างแบบใด?

พญานาคเจ้าจอมผาห่มพร้าวบอกท่านว่า พวกข้าพเจ้ามีรูปร่างเป็นมนุษย์เหมือนกับพระคุณเจ้านี้แหละ ไม่แตกต่างอะไรกับพวกท่านเลย

หลวงปู่ชอบ: รูปร่างของพญานาคเกิดขึ้นได้อย่างไร?

กากะละนาคราชบอกองค์ท่านว่า รูปร่างของพญานาคจะเกิดขึ้นได้ด้วยเหตุหกประการ

1.เวลาแสดงตน
2.เวลาเกิดโทสะ
3.เวลาเดินทาง
4.เวลาเผลอสติ
5.เวลาแสดงฤทธิ์
6.เวลาจิตเกิดปฏิพัทธ์ในกาม



หลวงปู่ชอบ: พญานาคขึ้นมาโลกมนุษย์เพราะเหตุอะไร?

เขาบอกท่านว่า พญานาคขึ้นมาโลกมนุษย์ด้วยเหตุหลักสี่ประการ

1.มาเพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นเครื่องหมายของพระศาสนา เช่น พระพุทธรูป สถูปเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารริกธาตุของพระพุทธเจ้า ของพระอรหันต์สาวก

2.มาเพื่อกราบไหว้ฟังธรรมกับท่านผู้ทรงธรรม

3.มาเพื่อบำเพ็ญบุญบารมีให้กับตนเอง

4.มาเพื่อเที่ยวชมโลกมนุษย์ แต่มาเที่ยวโลกมนุษย์จะไม่ขึ้นมาบ่อย เพราะโลกมนุษย์วุ่นวายเต็มไปด้วยกิเลส บ้านเมืองพวกข้าพเจ้าสงบร่มเย็นกว่าโลกมนุษย์..
 

หลวงปู่ชอบ: พวกมนุษย์มีการทะเลาะเบาะแว้งเข่นฆ่าทำร้ายกัน พวกพญานาคเป็นแบบนี้เหมือนกับพวกมนุษย์หรือไม่?

เขาตอบท่านว่า พวกพญานาคก็มีการวิวาทกันเหมือนกับมนุษย์ พอวิวาทกันพญานาคราชผู้เป็นเจ้าครองเมืองจะเป็นผู้พิพากษาเรื่องให้ การเข่นฆ่ากันในสังคมของพญานาคจะไม่มี เพราะพญานาคมี “เทวะธรรม” ครองใจ

หลวงปู่ชอบท่านถาม กากะละนาคราช เจ้าจอมพญานาคผาห่มพร้าวในทุกแง่ที่องค์ท่านอยากรู้ กากะละนาคราชตอบทุกเรื่องที่องค์ท่านถาม พอถึงกาลสมควรกากะละนาคราชและคู่บารมีพากันลาองค์ท่านกลับไปยังบ้านเมืองของพวกเขา

ท่านว่าเวลาพญานาคทั้งสองกลับ เขาจะกลายร่างเป็นพญานาคจมลงไปในแม่น้ำโขงหน้าถ้ำผาห่มพร้าว เขาไม่ได้เอาหัวมุดลงไปในน้ำเหมือนพฤติกรรมแบบงูทั่วไป ท่านว่ากิริยาแบบนี้เป็นกิริยาในการไปการมาที่เป็นลักษณะเฉพาะของพวกพญานาค ทั้งสี่ตระกูล

ท่านบอก พญานาคจะมีพฤติกรรมแตกต่างจากงูทั่วไปคือ

เวลาพญานาคเดินทางเขาจะลอยตัวไปในอากาศลักษณะพุ่งไปข้างหน้าเหมือนลูกธนูพุ่งออกจากเกาฑัณคันศร หรือลอยไปในลักษณะเหมือนคลื่นน้ำ ต่างจากพวกงู พวกงูเวลาไปจะเลื้อยวกวนออกซ้ายออกขวา

พญานาคจะไม่เอาหัวของตนเองแตะพื้นดินเหมือนกับงู พญานาคเวลาพักจะขดเป็นชั้นวงเอาหัวพาดวางไว้ที่ลำตัว เรื่องนี้องค์ท่านเคยถาม “เทพนาคา” พญานาคผู้พิทักษ์รักษา “พระพุทธบาทสี่รอย” เมืองเชียงใหม่ เพราะอะไรพญานาคจึงต้องแสดงกิริยาที่แตกต่างจากงู เทพนาคาบอกองค์ท่านว่า พญานาคเป็นเทพ มีศักดิ์เหนือกว่าพวกงูที่เป็นเดรัจฉาน พญานาคจึงแสดงศักดินาทิฐิตนเองแบบนี้

หลังพญานาคผาห่มพร้าวสองผัว เมียกลับไปแล้ว องค์ท่านจึงออกจากสมาธิ พ่อแม่ครูจารย์บอกคืนนั้นเราไม่ได้พักขันธ์ห้า (นอน) เลย เราออกจากภาวนาเราก็มานั่งไหว้พระสวดมนต์แผ่เมตตา จนถึงอรุณวันใหม่

[บันทึกโดย: ครูบากล้วย พระวีระศักดิ์ ธีรภัทโท]

หลวงปู่ชอบ ฐานสโม

ศิษย์มีครู

——————————————————————————-

ติดตามเรื่องราวครูบาอาจารย์ได้เพิ่มเติมที่

แอพเกจิ Facebook: www.facebook.com/appgeji

Web Sit: www.appgeji.com

App Store (IOS): https://appsto.re/th/wlGScb.i

จาก http://www.appgeji.com/ พญานาคสองผัวเมีย/

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.319 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 19 ธันวาคม 2567 13:19:13