คมชัดลึก :สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมีแห่งภูฏานทรงหมั้นและเตรียมอภิเษกสมรสกับสาวสามัญชนในเดือนตุลาคมนี้ มีพระราชประสงค์ให้เป็นพระราชพิธีเรียบง่าย เผยพระคู่หมั้นเป็นนักศึกษาที่งดงาม วางตัวเรียบง่ายและเป็นมิตร สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันศุกร์ (20 พ.ค.) ว่า สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน พระชนม์ 31 พรรษา ซึ่งขึ้นครองราชย์เมื่อปี 2551 ทรงประกาศหมั้นกับนักศึกษาสาวสามัญชน และเตรียมอภิเษกสมรสในเดือนตุลาคมนี้ โดยพระองค์มีพระราชดำรัสเกี่ยวกับข่าวดีนี้อย่างเป็นทางการระหว่างเปิดประชุมรัฐสภาเมื่อวันศุกร์
ทั้งนี้ ดาโช คินลีย์ ดอร์เจ เลขานุการกระทรวงข่าวสารภูฏาน ได้เปิดเผยเรื่องนี้ให้สำนักข่าวเอเอฟพีทราบทางโทรศัพท์ว่า ระหว่างทรงเปิดประชุมรัฐสภาเมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซึ่งทรงสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาออกซ์ฟอร์ด มีพระราชดำรัสว่า ได้ทรงหมั้นและจะอภิเษกสมรสในเดือนตุลาคมนี้
พร้อมกันนี้ พระองค์ทรงขอร้องไม่ให้รัฐบาลจัดงานใหญ่ เพราะมีพระราชประสงค์จะจัดเป็นงานเรียบง่ายเท่านั้น เนื่องจากภูฏานเป็นประเทศเล็กๆ ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติใดๆ อีกทั้งทรงเห็นว่าเป็นเรื่องส่วนพระองค์มากกว่า
อย่างไรก็ดี ดอร์เจ วังชุก กล่าวว่า ทั้งรัฐบาลและประชาชนคงจะให้มีงานฉลองพระราชพิธีอภิเษกสมรสนี้
ดอร์เจ วังชุก เผยด้วยว่า สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมีทรงรู้จักกับ นางสาวเจตซุน หรือเจตซัน เปมา สาวสามัญชนชาวภูฏาน ซึ่งขณะนี้เป็นนักศึกษามหาวิทยาทิมพูมาชั่วระยะหนึ่งแล้ว
ขณะเดียวกัน เชอริง ทอบเก หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านภูฏาน เผยเพิ่มเติมว่า พระคู่หมั้นงดงามมาก เป็นคนง่ายๆและเป็นมิตร สำหรับการคบหานี้ แม้จะไม่มีการประกาศให้ทราบ แต่ก็เป็นเรื่องที่ทราบกันดีเป็นการภายใน
เชอริง ทอบเก ให้ความเห็นด้วยว่า แม้ชาวภูฏานจะรู้สึกปีติยินดีในข่าวดีนี้ แต่เป็นธรรมเนียมของประชาชนที่นี่ที่จะยินดีกันเงียบๆ ไม่ไปฉลองความยินดีกลางท้องถนน
สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมีประสูติเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2523 เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก และสมเด็จพระราชินีอาชิ เชอริง ยางดน วังชุก เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2551 เป็นสมเด็จพระราชาธิบดีลำดับที่ 5 แห่งราชวงศ์วังชุก แต่ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ใต้รัฐธรรมนูญพระองค์แรกของภูฏานหลังจากมีการประกาศใช้ครั้งแรกเมื่อปี 2551 ตามด้วยการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาครั้งแรก
ถึงแม้จะเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระเยาว์ที่สุดในโลก แต่ก็ทรงได้รับการยกย่องจากชาวภูฏานรวมถึงชาวไทยส่วนใหญ่ว่ามีพระจริยวัตรงดงาม และทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของพสกนิกรทุกหมู่เหล่า จากการที่ทรงวางพระองค์อย่างเป็นกันเองในหมู่ประชาชน จึงสร้างความประทับใจแก่พสกนิกรถ้วนหน้า จนทรงได้รับยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญในการสร้างเอกภาพและเสถียรภาพในประเทศที่มีประชากรเพียง 6.5 แสนคน โดยมุ่งเน้นด้านความสุขมวลรวมของประชากรภายในประเทศเป็นสำคัญ
สมัยที่สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ดำรงพระอิสริยยศเพียงเจ้าฟ้าชายจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก มกุฎราชกุมาร ได้เสด็จแทนพระประมุขของราชอาณาจักรภูฏาน มาประเทศไทย เพื่อทรงร่วมงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ.2549 โดยทรงเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนและประชาชนชาวไทยที่ต่างชื่นชมในพระสิริโฉมและพระจริยวัตรอันงดงามของพระองค์
ดังนั้นในทุกพระกรณียกิจที่ทรงปฏิบัติขณะเสด็จเยือนประเทศไทยในครั้งนั้น จะมีคณะสื่อมวลชนของไทยตามเก็บความเคลื่อนไหวของพระองค์ในทุกพระอริยาบถจนเสด็จกลับ
ข่าวการอภิเษกสมรสของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมีแห่งภูฏานทำให้ปีนี้เป็นปีทองอีกปีหนึ่งของพระวงศานุวงศ์ในหลายประเทศที่ได้อภิเษกสมรสหรือเสกสมรสหลายคู่ นับจากเจ้าชายวิลเลียม รัชทายาทอันดับสองแห่งราชวงศ์อังกฤษ ที่เพิ่งเสกสมรสกับนางสาวเคท มิดเดิลตัน สาวสามัญชน เมื่อวันที่ 29 เมษายน
ส่วนเดือนกรกฎาคม เจ้าชายอัลแบรต์ หรืออัลเบิร์ตที่ 2 แห่งราชรัฐโนมาโก จะอภิเษกสมรสกับนางสาวชาร์ลีน วิตต์สต็อก แชมป์ว่ายน้ำโลก
http://www.komchadluek.net/detail/20110520/98098/จิกมีกษัตริย์ภูฏานเตรียมเสกสมรสต.ค.นี้.html
http://pad.fx.gs/index.php?topic=1333.new#new