21 ธันวาคม 2567 05:30:17
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
สุขใจในธรรม
ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
.:::
หนึ่งขณะจิต
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: หนึ่งขณะจิต (อ่าน 1562 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์
Nepal
กระทู้: 1921
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 4.0.1
หนึ่งขณะจิต
«
เมื่อ:
29 พฤษภาคม 2554 12:51:37 »
Tweet
ทีบัญญัติว่าเป็นสัตว์บุคคล เป็นสิ่งมีชีวิต เพราะอะไรเพระามีจิต เจตสิก รูป
ดังนั้นชีวิตก็คือเพราะมีจิต - เจตสิกเกิดขึ้นแต่โดยทั่วไปแล้ว เราย่อมสำคัญว่าชีวิตของ
เราของใครก็ตามก็มีอายุ 60 ปี 50 ปี 20 ปี หรือน้อยกว่านั้นก็ตามแต่ในความเป็น
จริงแล้วที่เรามีอายุเป็นเดือน เป็นปีก็เพราะความเกิดขึ้นและดับไปของจิตที่เกิดับสืบ
ต่อกันไปนั่นเองและที่สำคัญก็สำคัญว่าชีวิตจะสิ้นสุดก็คือเมื่อตายจากโลกนี้ไป
แต่นั่นเป็นความตายโดยสมมติเพราะเป็นเพียงจุติที่เกิดขึ้นและดับไปเท่านั้นแต่ใน
ความเป็นจริงเมื่อมีแ่ต่จิต เจตสิกจึงบัญญัติว่ามีชีวิตเพราะฉะนั้นชีวิตก็คือ{จิต}และ
เจตสิกทีเ่กิดขึ้น แต่อายุของจิตนั้นสั้นมาก เมื่อเกิดขึ้นและดับไปการดับไปนั้นก็เป็น
การสิ้นสุดชีวิต สิ้นสุดในขณะที่จิตดับไปนั่นเองเป็นการตายโดยปรมัตที่เป็นสัจจะครับ
ดังนั้นชีวิตจึงดำรงอยู่เพียงชั่วขณะจิต เล็กน้อยมาก เพียงจิตเกิดขึ้นและดับไปซึ่งจิตมี
หลายประเภท ทั้งทีเ่ป็นกุศล อกุศล วิบาก เป็นต้นดังนั้นขณะที่เห็นจิตเห็นเกิดขึ้น
ชีวิตเกิดขึ้นและดับไปก็ดำรงอยู่ชั่วขณะนั้นเองและจิตอื่นก็เกิดต่อก็ดำรงอยู่ชั่วขณะ
อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ อันแสดงให้เห็นว่าชีวิตเป็นของน้อยดำรงอยู่เพียงชั่วขณะเท่านั้น
ชีวิตเราดำรงอยู่เพียงชั่วขณะจิตเดียว เเละขณะจิตเดียวนี้จะให้เป็นกุศลหรืออกุศล
ชีวิตก็คือขณะจิตที่เกิดขึ้นและดับไปแน่นอนว่าสิ่งที่คือ กุศลจิต ควรที่จะเป็น
กุศลไม่ควรเป็นอกุศลเลยแต่ธรรมเป็นอนัตตาและเป็นไปตามเหตุปัจจัยไม่อยู่ใน
อำนาจบังคับบัญชา รู้ว่าควร รู้ว่ากุศลเป็นสิ่งที่ดี แต่เมื่อสะสมปัญญามาน้อยสะสม
กุศลธรรมาน้อยกว่ากิเลสที่สะสมมาก็ย่อมทำให้จิตที่เกิดขึ้นเป็นอกุศลจิต มากกว่า
กุศลจิตที่สำคัญคือการอบรมเหตุ คือการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมเพื่อความ
เจริญขึ้นของกุศลธรรมและปัญญาเพราะเมื่อปัญญาเจริญขึ้นกุศลจิตและกุศลธรรม
ประการต่างๆก็เจริญขึ้นตามปัญญาที่เจริญขึ้นอันเป็นหน้าที่ของรรมทีทำหน้าที่ไม่มี
เราไปจัดการไปบังคับให้เกิดกุศลหรืออกุศลเป็นไปตามปัจจัยและตามกำลัง
ปัญญาที่สะสมคำว่า{ควร}จึงไม่ใช่เราที่จะทำแต่เป็นหน้าที่ของธรรม
การเข้าใจเช่นนี้ย่อมเข้าใจหนทางในการอบรมปัญญาที่ถูกต้องเพื่อละควาเมห็น
ผิดว่าเป็นสัตว์บุคคลว่าไม่ใช่การบังคับไม่ให้อกุศลไม่เกิดแต่ควรรู้ในสิ่งที่เกิดแล้ว
แม้อกุศลเป็นสภาพธรรมที่มีจริงเป็นธรรมไม่เใช่เรา
ชีวิตคือจิตที่ดำัรงอยู่เพียงชั่วขณะอย่างนี้แล้วผู้มีปัญญาควรพิจารณาว่าประโยชน์
สูงสุดในการมีชีวิตอยู่คือการฟังพะรธรรม ศึกษาพระธรรมเพราะไม่มีใครรู้เลยว่าชาติ
หน้าจะได้พบพะรธรรมหรือได้เกิดเป็นมนุษย์หรือไม่แต่ชาตินี้ได้พบพระธรรมแล้วได้
เกิดเป็นมนุษย์แล้วดังนั้นขณะท่านทั้งหลายอย่าล่วงเลยไปอย่าได้เป็นผู้เดือดร้อนใน
ภายหลังคือขณะที่ประเสริฐคือขณะที่ฟังพระธรรมและเข้าใจพระธรรม
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย มหานิทเทส เล่ม 5 ภาค 1 หน้าที่ 212 - 215
(:LOVE:)ชีวิตน้อยด้วยเหตุ ๒ ประการ
{๔๙}คำว่า นักปราชญ์ทั้งหลายได้กล่าวชีวิตนี้ว่าเป็นของน้อยมีความว่าชีวิต
ได้แก่อายุความตั้งอยู่ความดำเนินไปความให้อัตภาพดำเนินไปความหมุนไป
ความเลี้ยงความเป็นอยู่ ชีวิตินทรีย์ก็ชีวิตน้อยโดยเหตุ ๒ ประการ คือ ชีวิตน้อยเพราะ.......................
ตั้งอยู่น้อย ๑
ชีวิตน้อยเพราะมีกิจน้อย ๑
ชีวิตน้อยเพราะตั้งอยู่น้อยเป็นอย่างไร ? ชีวิตเป็นอยู่แล้วในขณะจิตเป็นอดีต
ย่อมไม่เป็นอยู่จักไม่เป็นอยู่ชีวิตจักเป็นอยู่ในขณะจิตเป็นอนาคตย่อมไม่เป็นอยู่
ไม่เป็นอยู่แล้วชีวิตย่อมเป็นอยู่ในขณะจิตเป็นปัจจุบันไม่เป็นอยู่แล้วจักไม่เป็นอยู่
สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า....................................
ชีวิตอัตภาพสุขและทุกข์ทั้งมวลเป็นธรรมประกอบกันเสมอด้วยจิตดวงเดียว
ขณะย่อมเป็นไปพลันเทวดาเหล่าใดย่อมตั้งอยู่ตลอดแปดหมื่นสี่พันกัปล์เทวดาเหล่า
นั้นย่อมไม่เป็นผู้ประกอบด้วยจิต ๒ ดวงเป็นอยู่เลยขันธ์เหล่าใดของสัตว์ผู้ตายหรือ
ของสัตว์ที่เป็นอยู่ในโลกนี้ดับแล้วขันธ์เหล่านั้นทั้งปวงเที่ยวเป็นเช่นเดียวกันดับไป
แล้วมิได้สืบเนื่องกันขันธ์เหล่าใดแตกไปแล้วในอดีตเป็นลำดับและขันธ์เหล่าใด
แตกไปแล้วในอนาคตเป็นลำดับความแปลกกันแห่งขันธ์ทั้งหลายที่ดับไปในปัจจุบัน
กับด้วยขันธ์เหล่านั้นย่อมมิได้มีในลักษณะสัตว์ไม่เกิดแล้วด้วยอนาคตขันธ์ ย่อมเป็นอยู่
ด้วยปัจจุบันขันธ์สัตว์โลกตายแล้วเพราะความแตกแห่งจิตนี้เป็นบัญญัติทางปรมัตถ์
ขันธ์ทั้งหลายแปรไปโดยฉันทะย่อมเป็นไปดุจน้ำไหลไปตามที่ลุ่มฉะนั้นย่อมเป็นไป
ตามวาระอันไม่ขาดสายเพราะอายตนะ ๖ เป็นปัจจัยขันธ์ทั้งหลายแตกแล้วมิได้ถึง
ความตั้งอยู่กองขันธ์มิได้มีในอนาคตขันธ์ทั้งหลายที่เกิดแล้วย่อมตั้งอยู่เหมือนเมล็ด
พันธุ์ผักกาดทั้งอยู่บนปลายเหล็กแหลมฉะนั้นก็ความแตกแห่งธรรมขันธ์ทั้งหลายที่เกิด
แล้วนั้นสกัดอยู่ข้างหน้าแห่งสัตว์เหล่านั้นขันธ์ทั้งหลายมีความทำลายเป็นปกติมิได้
รวมขันธ์ที่เกิดก่อนย่อมตั้งอยู่ขันธ์ทั้งหลายมาโดยไม่ปรากฏแตกแล้วก็ไปสู่ที่ไม่
ปรากฏย่อมเกิดขึ้นและเสื่อมไปชีวิตน้อยเพราะมีกิจน้อยอย่างไร ?
ชีวิตเนื่องด้วยลมหายใจเข้าชีวิตเนื่องด้วย
ลมหายใจออกชีวิตเนื่องด้วยลมหายใจเข้าและลมหายใจออกชีวิตเนื่องด้วย
มหาภูตรูปชีวิตเนื่องด้วยไออุ่นชีวิตที่เนื่องด้วยอาหารที่กลืนกินชีวิตเนื่องด้วย
วิญญาณ{รัชกาย}อันเป็นที่ตั้งแห่งลมหายใจเข้าและลมหายใจออกเหล่านี้ก็ดีอวิชชา
สังขารตัณหาอุปาทานและภพอันเป็นเหตุเดิมแห่งลมหายใจเข้าและลมหายใจออก
เหล่านี้ก็ดีปัจจัยทั้งหลายก็ดีตัณหาอันเป็นแดนเกิดก่อนก็ดีรูปธรรมและอรูปธรรมที่
เกิดร่วมกันแห่งลมหายใจเข้าและลมหายใจออกเหล่านี้ก็ดีอรูปธรรมที่ประกอบกันแห่ง
ลมหายใจเข้าและลมหายใจออกเหล่านั้นก็ดีขันธ์ที่เกิดร่วมกันแห่งลมหายใจเข้าและ
ลมหายใจออกเหล่านี้ก็ดีตัณหาอันประกอบกันก็ดีก็มีกำลังทรามธรรมเหล่านั้นมีกำลัง
ทรามเป็นนิตย์ต่อกันและกันมิได้ตั้งมั่นต่อกันและกันย่อมยังกันและกันให้ตกไปเพราะ
ความต้านทานมิได้มีแก่กันและกันธรรมเหล่านั้นจึงไม่ดำรงกันและกันไว้ได้ธรรมแม้ใด
ให้ธรรมเหล่านี้เกิดแล้วธรรมนั้นมิได้มีก็แต่ธรรมอย่างหนึ่งมิได้เสื่อมไปเพราะธรรม
อย่างหนึ่งก็ขันธ์เหล่านี้แตกไปเสื่อมไปโดยอาการทั้งปวงขันธ์เหล่านี้อันเหตุปัจจัยมี
ในก่อนให้เกิดแล้วแม้เหตุปัจจัยอันเกิดก่อนเหล่าใดเหตุปัจจัยเหล่านั้นก็ตายไปแล้ว
ในก่อนขันธ์ที่เกิดก่อนก็ดีขันธ์ที่เกิดภายหลังก็ดีมิได้เห็นกันและกันในกาลไหน ๆ
ฉะนั้น....................ชีวิตจึงชื่อว่าเป็นของน้อยเพราะมีกิจน้อยอย่างนี้
เหมือนสายฟ้าแลบในอากาศฉะนั้นชีวิตน้อยเพราะตั้งอยู่น้อยอย่างนี้
ข้อมูลนี้มาจากมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาบ้านธัมมะ 136 หมู่ 5 ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ 50230
My blog....................
http://bangkokchinatown.wordpress.com
http://www.fungdham.com/download/song/allhits/21.wma
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 พฤษภาคม 2554 17:56:15 โดย 時々sometime
»
บันทึกการเข้า
โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 4.0.1
Re: หนึ่งขณะจิต
«
ตอบ #1 เมื่อ:
30 พฤษภาคม 2554 05:51:11 »
หนึ่งขณะจิต
ใช่ที่เคยบอก หนึ่งขณะจิต
มีสามพันดวงเกิดดับมั๊ยคะ?
บันทึกการเข้า
คำค้น:
ขณะ
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...