หลวงปู่นาค โชติพโล วัดดินดอน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช

หลวงปู่นาค โชติพโล
วัดดินดอน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช

พระครู สุนทรดิตถคณี หรือ หลวงปู่นาค โชติพโล วัดดินดอน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช เป็นพระอีกรูปที่มีวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มีเมตตาธรรมสูง

เดิมมีชื่อว่า นาค ไม่ทราบนามสกุล เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 18 ส.ค.2420 ที่บ้านบางชัน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช บิดา-มารดา ชื่อนายศรีและนางพุ่ง โยมปู่ของท่านมีศักดิ์เป็นหมื่น ชื่อ หมื่นเดช เป็นผู้มีฝีมือทางการช่างและการก่อสร้าง ได้รับราชการเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ส่วนตาของท่านมีบรรดาศักดิ์เป็นขุน เป็นพราหมณ์ที่มีความรอบรู้ในฤกษ์พิธีตลอดทั้งพิธีกรรมแต่โบราณ

วัยเยาว์ อายุ 6 ขวบ บิดาบวชเป็นพระภิกษุ หมื่นศรีซึ่งเป็นปู่ ได้สอนหนังสือให้ ครั้นพอเห็นหลานออกอ่านออกเขียนได้จึงพาไปถวายตัวเป็นศิษย์วัดสระเรียง ต.ในเมือง อ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อเรียนหนังสือต่อ พ.ศ.2435 บรรพชาที่วัดขัน ก่อนย้ายไปจำพรรษาที่วัดหน้าพระบรมธาตุ อยู่กับพระสมุห์ศรีเป็นบิดา บวชได้ 1 ปี ก็ลาสิกขา

ครั้นอายุ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดสวนหลวงตก ได้ฉายาว่า โชติพโล

จากนั้นอยู่จำพรรษาที่วัดพระบรมกับพระครูกาแก้ว (ศรี) ผู้เป็นโยมบิดา ศึกษาพระธรรมวินัยกับหัดเทศน์มหาชาติจนชำนาญ และมีชื่อเสียงในเมืองนครศรีฯ พรรษาที่สามเข้ามาศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดมหาธาตุฯ กรุงเทพฯ เมื่อมีความรู้พอสมควรจึงเดินทางกลับนครศรีธรรมราช มาอยู่จำพรรษาที่วัดหน้าพระบรมธาตุ และได้รับแต่งตั้งเป็นพระปลัด ฐานานุกรมของพระครูกาแก้ว (ศรี)

ราวปี พ.ศ.2472 พระอุปัชฌาย์เกลี้ยงเจ้าอาวาสวัดดินดอน ได้มรณภาพ ชาวบ้านได้เดินทางมานิมนต์พระปลัดนาค ไปปกครองอารามวัดดินดอน

วัดดินดอน ตั้งอยู่ในเขต ต.ท่าดี อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช เป็นวัดที่ตั้งขึ้นมาในสมัยรัตนโกสินทร์เราแผ่นดินรัชกาลที่ 3

รักษาการอยู่จนถึง พ.ศ.2475 จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดดินดอน ปีถัดมา พ.ศ.2476 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะหมวด พ.ศ.2476 ได้เป็นกรรมการศึกษาฝ่ายสงฆ์

วันที่ 1 มี.ค.2480 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่พระครู สุนทรดิตถคณี เมื่อถึงปี พ.ศ.2481 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์

นอกจากมีความรู้ทางด้านพระปริยัติธรรมและการบริหารการปกครอง ท่านยังรอบรู้ในวิทยาคมและเชียวชาญวิปัสสนากรรมฐานรูปหนึ่งของเมืองนครศรีธรรมราชในยุคนั้น

สร้างวัตถุมงคลก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง วัตถุมงคลมีหลายชนิด เช่น รูปเหมือนพระเครื่องเนื้อดินเผา เครื่องรางของขลังตะกรุด ผ้ายันต์ และลูกอม เป็นต้น

แต่ที่สร้างชื่อเสียงมากคือ เชือกคาดเอวที่เรียนวิชาสร้างเชือกคาดเอวมาจากพระครูกาแก้ว (ศรี) ผู้เป็นบิดาส่วนพระครูกาแก้ว (ศรี) ได้เรียนวิชาการสร้างเชือกคาดเอวมาจากเจ้าอาวาสวัดบางกล้วย จ.สุราษฎร์ธานี

ลักษณะนำผ้ามาฉีกเป็นริ้วยาวๆ หลายเส้นแล้วลงอักขระไปตามแนวยาวของริ้วผ้า เวลาทางจะขมวดส่วนหัวก่อน จากนั้นก็ถักเป็นเกลียวไปจนตลอดจนถึงสวนห่างก็ขมวดปมอีกปมหนึ่ง เวลาถักเชือกก็จะบริกรรมคาถาไปพร้อมกัน

หลวงปู่นาคมรณภาพวันพฤหัสบดีที่16 ต.ค.2512 เวลา 15.00 น. สิริอายุ 93 ปี เก็บศพไว้เป็นเวลานานกว่า 13 ปีจึงประกอบพิธีพระราชทานเพลิง เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2526 ข่าวสดออนไลน์