ล็อบซัง ซังเกย์ (ซ้าย) รับการประสาทพรจากองค์ทะไลลามะ
เนื่องในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีฆราวาสในรัฐบาลทิเบตพลัดถิ่น วันนี้(8 /8/54)
เอเอฟพี - ล็อบซัง ซังเกย์ วัย 43 ปี ซึ่งสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาเวิร์ด เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลพลัดถิ่นของทิเบต วันนี้ (8 /8/54) พร้อมให้คำมั่นว่า จะนำพาทิเบตให้หลุดพ้นจากการปกครองของจีนให้จงได้
หลังเข้าพิธีสาบานตนที่เมืองธรรมศาลาในอินเดีย ซังเกย์ ฝากคำเตือนไปถึงจีนทันทีว่า ขบวนการปลดปล่อยทิเบต “จะยืนหยัดอยู่ที่นี่” และจะเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าบทบาทขององค์ทะไลลามะจะลดลงก็ตาม
การรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ ซังเกย์ ถือเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์ในระบบการเมืองของทิเบต ซึ่งปกครองโดยผู้นำทางศาสนามาตั้งแต่อดีตกาล
ขณะกล่าวสุนทรพจน์เข้ารับตำแหน่งผู้นำทิเบต ซังเกย์ ได้ปฏิเสธกระแสความกังวลที่ว่า ความชราภาพและการสิ้นพระชนม์ขององค์ทะไลลามะอาจเป็นจุดจบของขบวนการปลอด ปล่อยทิเบต ซึ่งพระองค์ทรงริเริ่มขึ้นตั้งแต่เสด็จฯออกนอกประเทศในปี 1959
ซังเกย์ ระบุว่า การที่เขาได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีในเดือนเมษายนที่ผ่านมา คือการประกาศให้นักการเมืองหัวรั้นของจีนทราบว่า ผู้นำทิเบตยังไม่สูญหายไป พร้อมยืนยันจะสานต่อขบวนการปลดปล่อยทิเบตจนกว่าจะได้รับอิสรภาพ
ทั้งนี้ ซังเกย์ ระบุว่า ไม่ได้มีแนวคิดต่อต้านประชาชนหรือประเทศจีน แต่เพียงต้องการสู้กับ “นโยบายที่จีนใช้กดขี่ทิเบต และผู้ใดก็ตามที่ไม่ยอมให้ชาวทิเบตได้รับอิสรภาพ, ความยุติธรรม, ศักดิ์ศรี และอัตลักษณ์ของตน”
ด้าน องค์ทะไลลามะ ซึ่งแม้จะทรงถ่ายโอนอำนาจการปกครองแก่นายกรัฐมนตรีซึ่งได้รับเลือกมาตาม ระบอบประชาธิปไตยแล้ว แต่ยังทรงมีบทบาทในฐานะผู้นำจิตวิญญาณ และมีอิทธิพลในการกำหนดนโยบายต่างๆของทิเบต
รัฐบาลทิเบตพลัดถิ่นไม่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศรวมถึงจีน และแม้แต่ชาวทิเบตเองก็อาจมองว่ารัฐบาลชุดนี้ขาดความชอบธรรม หากปราศจากการนำขององค์ทะไลลามะ
:http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9540000098538
noway2know :
http://www.prachathon.org/forum/index.php?topic=3052.0