17 ธันวาคม 2567 01:37:45
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
นั่งเล่นหลังสวน
สุขใจ ห้องสมุด
.:::
กำเนิดวิธีปลูกฝีป้องกันโรคฝีดาษ มาจากฤาษีเต๋าในจีน
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: กำเนิดวิธีปลูกฝีป้องกันโรคฝีดาษ มาจากฤาษีเต๋าในจีน (อ่าน 579 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 2492
ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 101.0.4951.64
กำเนิดวิธีปลูกฝีป้องกันโรคฝีดาษ มาจากฤาษีเต๋าในจีน
«
เมื่อ:
24 พฤษภาคม 2565 09:30:18 »
Tweet
ประชาชนเข้ารับวัคซีนป้องกันฝีดาษ เมื่อ ธ.ค.1961 ที่ปารีส ฝรั่งเศส (ภาพจาก
STF / AFP
)
ค้นกำเนิดวิธีปลูกฝีป้องกันโรคฝีดาษ โดยใช้เชื้อไวรัสฝีดาษเอง มาจากฤาษีเต๋าในจีน?
เผยแพร่ - ศืลปวัฒนธรรม วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ.2565
ในโลกใบนี้นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีโรคระบาดมากมายหลายชนิดที่คร่าชีวิตผู้คนไปนับไม่ถ้วน รวมทั้งสร้างความเสียหายที่กระทบต่อมนุษยชาติโดยตรง เช่น การอพยพย้ายถิ่นฐานเพื่อหนีโรคระบาด แต่ใช่ว่าในอดีตจะไม่มีการต่อสู้กับโรคร้ายทั้งหลายเหล่านี้ มนุษย์ย่อมคิดหาทางรักษาโรคด้วยวิธีต่างๆ และการป้องกันไม่ให้เกิดโรคนั้นๆ
โรคติดต่อที่มีอันตรายมากโรคหนึ่งในอดีตคือโรค “
ฝีดาษ
” หรือ “
ไข้ทรพิษ
” พบร่องรอยของโรคนี้ในมัมมี่อียิปต์สมัยราชวงศ์ที่ 20 ในศตวรรษที่ 10 จากหลักฐานจะเห็นได้ว่าโรคระบาดนี้อยู่กับมนุษย์มายาวนาน
เพื่อความอยู่รอด มนุษย์ในอดีตคงหาวิธีต่อสู้กับโรคนี้มากพอสมควร และพบว่ามีวิธีหนึ่งที่สามารถต่อสู้กับโรคฝีดาษได้ซึ่งไม่ใช่การรักษาแต่เป็นการป้องกัน นั่นคือ “การปลูกฝี”
โรเบิร์ต เทมเพิล นักวิชาการผู้ศึกษาประวัติศาสตร์จีน และผู้เขียนหนังสือ “ต้นกำเนิด 100 สิ่งแรกของโลก” หรือ “
The Genius of China
” ระบุถึงต้นกำเนิดของวิธีการปลูกฝีว่า อยู่ที่ประเทศจีนจุดเริ่มต้นนั้นค่อนข้างลึกลับอยู่พอสมควรเพราะผู้ที่คิดค้นวิธีการปลูกฝีใช้ชีวิตอยู่ในถ้ำดุจกับฤาษี
ในหนังสือดังกล่าวระบุว่า การปลูกฝีมีต้นกำเนิดอยู่ในมณฑลซื่อชวนซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของจีน ขณะที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของมณฑลนี้มีภูเขาอันโด่งดังชื่อ “เอ๋อเหมยซาน” เป็นที่รู้จักกันในฐานะที่มีความสัมพันธ์กับทั้งศาสนาพุทธและลัทธิเต๋า นักประสมแร่แปรธาตุลัทธิเต๋าอาศัยอยู่ในถ้ำที่ภูเขาลูกนี้ เป็นเจ้าของความลับของการปลูกฝีโรคฝีดาษในช่วงศตวรรษที่ 10
การปลูกฝีเป็นที่สนใจครั้งแรกเมื่อบุตรชายคนโตของอัครมหาเสนาบดีหวังต้าน (ปี 957 – 1017) เสียชีวิตด้วยโรคฝีดาษ หวังต้าน ไม่อยากให้โรคนี้เกิดขึ้นกับคนอื่นๆ ในครอบครัวอีก เขาจึงรวบรวมแพทย์ผู้รู้และผู้ที่มีวิชาอาคมจากทั่วอาณาจักรเพื่อหาทางรักษาโรคฝีดาษ ฤาษีเต๋าท่านหนึ่งเดินทางมาจากเอ๋อเหมยซาน ซึ่งมีคนกล่าวขานตั้งสมญาให้เขาต่างๆ นานา และได้นำเอาเทคนิคการปลูกฝีมาเผยแพร่ให้ผู้คนได้รู้จัก
การปลูกฝีไม่ได้ให้ประโยชน์ด้านเดียวแต่ก็แฝงอันตรายด้วยเช่นกัน การปลูกฝีให้กับคนคนหนึ่งนั่นหมายความว่าคนคนนั้นจะได้รับการฝังไวรัสเข้าไปในร่างกาย เมื่อกระบวนการประสบความสำเร็จ เขาจะมีภูมิคุ้มกันไปตลอดชีวิต
แม้เชื้อไวรัสที่นำมาใช้ปลูกฝีจะมีอันตรายถึงตายได้ แต่ด้วยเทคนิคอันพิเศษจากแพทย์จีน ได้ทำให้เชื่อไวรัสนั้นอ่อนกำลังลงก่อนเพื่อลดโอกาสการเป็นโรคให้เหลือน้อยที่สุด และเพิ่มโอกาสการเกิดภูมิคุ้มกันให้มากที่สุด
การปลูกฝีห้ามทำโดยนำเนื้อเยื่อฝีดาษมาจากผู้ที่เป็นโรคนี้อย่างเด็ดขาดซึ่งจะกลายเป็นการแพร่กระจายของเชื้อโรค พวกเขาเข้าใจว่าการปลูกฝีคือการ “ปลูกถ่าย” เนื้อเยื่อฝี ที่จินตนาการเหมือนดั่งต้นถั่วงอกที่เพิ่งแตกหน่อ
วิธีทำคือนำเนื้อเยื่อฝีใส่ในก้อนสำลี จากนั้นสอดเข้าไปในจมูก ฝีจะถูกดูดซับเข้าไปทางเยื่อบุผิวในช่องจมูกและทางการหายใจ
ตามหลักการ หมอจะไม่เลือกใช้เนื้อเยื่อฝีจากผู้ป่วยโรคฝีดาษ แต่จะเลือกจากผู้ที่ได้รับการปลูกฝี และเกิดเป็นแผลตกสะเก็ดเล็กน้อย พวกเขายังรู้จักฝีดาษสองชนิดคือ วาริโอล่า เมเจอร์ (
Variola major
) และ วาริโอล่า ไมเนอร์ (Variola minor) และเลือกใช้เนื้อเยื่อฝีจากชนิดหลังซึ่งมีพิษรุนแรงน้อยกว่า
ความจริงแล้วแหล่งเนื้อเยื่อฝีที่เป็นที่ต้องการคือสะเก็ดแผลจากคนที่ได้รับการปลูกฝีด้วยเนื้อเยื่อจากคนที่ได้รับการปลูกฝีอีกที่ ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่ผ่านการทำให้อ่อนกำลังลงหลายรุ่นด้วยวิธีการปลูกฝีหลายครั้ง
การทำให้เชื้อไวรัสอ่อนกำลังลงยังมีวิธีอื่นๆ อีก ดังที่ จางเหยี่ยน ได้เขียนเรื่อง “
Transplanting the Smallpox
” เมื่อปี 1741 ว่า
“วิธีการเก็บเนื้อเยื่อ ห่อสะเก็ดอย่างระมัดระวังด้วยกระดาษและใส่ในขวดขนาดเล็ก ปิดจุกให้แน่นเพื่อไม่ให้ปฏิกิริยาแพร่กระจายออกไป ขวดต้องไม่ถูกแสงแดดหรือความร้อนจากกองไฟ จะดีที่สุดหากพกคิดตัวไปด้วยระยะหนึ่ง เพื่อให้สะเก็ดแห้งลงช้าๆ ตามธรรมชาติ ควรระบุวันที่เก็บเนื้อเยื่อจากผู้ป่วยไว้บนขวดให้ชัดเจน
ในฤดูหนาว เนื้อเยื่อจะมีพลังหยางอยู่ภายใน ดังนั้น จึงยังคงมีปฏิกิริยาอยู่แม้จะเก็บไว้สามสิบถึงสี่สิบวันแล้ว แต่ในฤดูร้อน พลังหยางจะหายไปภายในเวลาประมาณยี่สิบวัน เนื้อเยื่อที่ดีที่สุดคือเนื้อเยื่อที่ไม่ถูกเก็บไว้นานเกินไป ในขณะที่พลังหยางมีมาก มันจะ ‘จับ’ เก้าคนในสิบคน แต่เมื่อมันเก่าลง จะค่อยๆ สูญเสียปฏิกิริยา จนบางที ‘จับ’ เพียงห้าในสิบคน-ในที่สุดจะไม่มีปฏิกิริยาโดยสินเชิงและจะใช้ไม่ได้เลย ในสถานการณ์ที่สะเก็ดใหม่หายากและความต้องการสูง ก็เป็นไปได้ที่จะผสมสะเก็ดใหม่เข้ากับสะเก็ดที่มีอายุมากแล้ว แต่ในกรณีนี้ควรเป่าผงเข้าไปทางรูจมูกมากขึ้นเมื่อปลูกฝีเสร็จแล้ว”
นีดแฮม ผู้ที่มีความชื่นชอบและศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับจีนให้ความเห็นเกี่ยวกับข้อความนี้ในลักษณะเดียวกันว่า
“ดังนั้น ระบบทั่วไปคือการเก็บตัวอย่างฝีเป็นเวลาหนึ่งเดือนหรือนานกว่านั้น ที่อุณหภูมิร่างกาย (37 องศาเซลเซียส) หรือน่าจะต่ำกว่า ซึ่งจะมีผลให้ไวรัสประมาณร้อยละ 80 ที่มีชีวิตอยู่ไม่มีปฏิกิริยาทางความร้อน แต่เนื่องจากโปรตีนที่ตายแล้วของมันยังคงอยู่ จึงจะต้องให้สารกระตุ้นเข้มข้นเพื่อไปกระตุ้นผลผลิตอินเตอร์ฟีรอนและแอนติเจนที่ก่อตัวขึ้นเมื่อปลูกฝีเสร็จแล้ว”
สรุปแล้ว ร้อยละ 80 ของเชื้อไวรัสฝีดาษที่ชาวจีนใช้ปลูกฝี เป็นเชื้อที่ตายไปแล้วไม่สามารถทำให้คนเป็นโรคฝีดาษได้ แต่พวกเขาจะกระตุ้นร่างกายให้ผลิตแอนติบอดี้มาต่อต้านโรคฝีดาษและสารอิเตอร์ฟีรอน ซึ่งช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันโดยรวม
ดังนั้น มีเชื้อไวรัสเพียงร้อยละ 20 เท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่ และเป็นชนิดที่ทำให้อ่อนลงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ รวมทั้งเป็นเชื้อโรคที่ไม่รุนแรง การปลูกฝีแบบเดิมของจีนจึงปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และเชื้อทุกก้อนที่จะนำมาปลูกได้ถูกลดทอนให้อ่อนลงมาก
การปลูกฝีป้องกันโรคฝีดาษในประเทศจีนเป็นที่รู้จักและมีการปฏิบัติกันอย่างแพร่หลายในช่วงปี 1567 – 1572 ต่อมาพบบทบรรยายสมจริงเรื่องการรักษาที่บันทึกไว้โดย “อวี้ชาง” ในหนังสือของเขาชื่อ “
Miscellaneous Ideas in Medicine
” เมื่อปี 1643
เทมเพิล บรรยายต่อมาว่า ศตวรรษที่ 17 การปลูกฝีแพร่กระจายสู่พื้นที่แถบตุรกี ซึ่งทำให้ชาวยุโรปได้พบเห็นและให้ความสนใจ ท่านผู้หญิงแมรี่ วอร์ทลีย์ มอตากู (ปี 1689 – 1762) ภริยาทูตอังกฤษประจำเมืองคอนสแตนติโนเปิล ยอมให้ครอบครัวได้รับการ “วางเชื้อ” (
Variolated
) เมื่อปี 1718 ซึ่งสี่ปีก่อนหน้านั้น อี. ทีโมนี่ ได้ตีพิมพ์เรื่องราวเกี่ยวกับการปลูกฝีเผยแพร่ในกรุงลอนดอน สองปีให้หลัง เจ. พิลารินี่ ก็ตีพิมพ์เรื่องราวเพิ่มเติมที่มาจากแหล่งเดียวกัน ดังนั้น จึงมีการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ในกรุงลอนดอน และท่านผู้หญิงแมรี่คงได้แรงบัลดาลใจจากที่นั่นจึงกล้าตัดสินใจดังกล่าว
ปี 1721 การวางเชื้อ (ตอนนั้นเรียกว่า ‘การปลูกถ่ายเชื้อ’) เริ่มปฏิบัติกันอย่างกว้างขวางในยุโรปเพื่อป้องกันโรคฝีดาษ การมีวัคซีนป้องกันและวิทยาศาสตร์ด้านภูมิคุ้มกันวิทยาที่ได้รับการพัฒนาขึ้นภายหลัง เทมเพิล เชื่อว่า คงได้รับเทคนิควิธี ความรู้จากการปลูกฝีที่ถ่ายทอดมาจากประเทศจีนอยู่ไม่น้อย
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...