[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
22 ธันวาคม 2567 20:28:50 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - เผยพม่าทิ้งระเบิดพื้นที่พลเรือนส่งผลกระทบไทย จี้ฝ่ายนิติบัญญัติร่วมหาทางออก  (อ่าน 115 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สุขใจ ข่าวสด
I'm Robot
สุขใจ บอทนักข่าว
นักโพสท์ระดับ 15
****

คะแนนความดี: +101/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Italy Italy

กระทู้: มากเกินบรรยาย


บอท @ สุขใจ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 06 สิงหาคม 2566 00:51:28 »

เผยพม่าทิ้งระเบิดพื้นที่พลเรือนส่งผลกระทบไทย จี้ฝ่ายนิติบัญญัติร่วมหาทางออก
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sat, 2023-08-05 18:57</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>สำนักข่าวชายขอบเผย คนทำงานชายแดนสุดทน ทหารพม่าทิ้งระเบิดพื้นที่พลเรือนส่งผลกระทบไทย ชาวบ้านผวาทำกิน ส่งหนังสือจี้ฝ่ายนิติบัญญัติร่วมหาทางออก</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://transbordernews.in.th/home/wp-content/uploads/365003797_1411320006328659_4736091889165690289_n-1024x579.jpg" />
<span style="color:#f39c12;">แฟ้มภาพสำนักข่าวชายขอบ</span></p>
<p>5 ส.ค. 2566 สำนักข่าวชายขอบ รายงานว่า น.ส.เพียรพร ดีเทศน์ เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา (พชภ.) เปิดเผยว่าเครือข่ายภาคประชาสังคม 7 องค์กร ประกอบด้วย สมาคมฟื้นฟูและพัฒนาลุ่มน้ำสาละวิน จ.แม่ฮ่องสอน, เสมสิกขาลัย มูลนิธิเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีป, มูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา (พชภ.), มูลนิธิเครือข่ายสถานะบุคคล, มูลนิธิเพื่อนไร้พรมแดน, เครือข่ายแก้ปัญหาคืนสัญชาติคนไทย พังงา ระนอง ชุมพร ประจวบฯ (คนไทยพลัดถิ่น), Burma Concern ได้ส่งหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อขอให้มีมาตรการคุ้มครองประชาชนตามแนวชายแดนตะวันตก ในสถานการณ์การสู้รบของประเทศพม่า</p>
<p>น.ส.เพียรพร ระบุว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-พม่า นับตั้งแต่ชายแดนภาคเหนือ ที่ จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ จ.แม่ฮ่องสอน จ.ตาก จ.กาญจนบุรี ลงไปจนถึง จ.ระนอง ในช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่รัฐประหารในพม่าได้เกิดความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดการอพยพของประชาชนจากฝั่งประเทศพม่าเข้ามาประเทศไทยจำนวนมาก และสิ่งที่ประชาชนไทยที่อาศัยอยู่ในชุมชนตลอดแนวชายแดนต้องเผชิญ คือ การได้รับผลกระทบจากการโจมตีโดยอากาศยานและภาคพื้นของกองทัพพม่า โดยได้สร้างความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชนไทยเกิดขึ้นในหลายเหตุการณ์</p>
<p>ทั้งนี้หนังสือที่ส่งถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคการเมืองระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2564 ที่บ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย และบ้านท่าตาฝั่ง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เครื่องบินรบพม่าบินมาทิ้งระเบิดฝ่ายตรงข้ามบริเวณชายแดนริมแม่น้ำสาละวิน แต่เครื่องบินรบพม่าได้รุกล้ำข้ามมาถึงน่านฟ้าไทย การสู้รบครั้งนี้มีลูกกระสุนปืนหลายชนิด ตกใส่ทรัพย์สินและบ้านเรือนของประชาชน ต่อมา 28 เมษายน 2564 การปะทะกันบริเวณรอบฐานดากวินซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบ้านท่าตาฝั่ง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เครื่องบิน-เฮลิคอปเตอร์ของพม่าทิ้งระเบิด พร้อมมีเสียงปืนกลบนเครื่องบิน  ชาวบ้านชาวไทยที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำสาละวินได้อพยพเข้าป่าหนีห่างจากชายแดน อีกจำนวนหนึ่งยังอยู่ในบ้านแต่ยังเฝ้าระวังสถานการณ์ เพราะเกรงว่าเครื่องบินของพม่าจะจู่โจมในตอนกลางคืน การสู้รบกครั้งนี้ชาวบ้านสามารถถ่ายภาพเครื่องบินรบพม่าที่บินเหนือน่านฟ้าหมู่บ้านท่าตาฝั่งไว้ได้ชัดเจนและมีการเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์</p>
<p>“ทุกวันนี้ในรัฐกะเหรี่ยงฝั่งพม่าใกล้ชายแดนไทยก็ยังคงมีเครื่องบินมาทิ้งระเบิดเป็นระยะๆ และมีโดรนมาสำรวจพิกัดอย่างต่อเนื่อง สร้างความหวาดกลัวแก่ชาวบ้านที่ทำไร่ไถนาในฝั่งไทย”</p>
<p>หนังสือถึงประธานสภาฯและหัวหน้าพรรคการเมืองยังระบุว่า ช่วงวันที่ 30 มิถุนายน 2565 มีเครื่องบินรบของกองทัพพม่าได้บินผ่านหมู่บ้านวาเล่ย์เหนือ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก โดยยิงอาวุธปืนจากเครื่องบินทำให้กระสุนตกบริเวณในไร่ปาล์ม และมีสะเก็ดระเบิดถูกรถยนต์กระบะ ของประชาชนไทย ซึ่งจอดห่างจากชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร เครื่องบินรบของพม่า ยังบินผ่านเข้าไปในตัวเมือง อ.พบพระ อีกด้วย ชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายพยายามเรียกร้องให้ทหารไทยประสานกับทหารพม่าเพื่อชดใช้ค่าเสียหาย แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นภาระของบริษัทประกันภัย</p>
<p>“ทุกวันนี้ราษฎรไทยที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเมยต่างรู้สึกกังวลใจในสถานการณ์สู้รบจากฝั่งพม่า เพราะไม่แน่ใจว่าจะมีการรุกล้ำพื้นที่เข้ามาหรือไม่ เพราะยังมีการสู้รบอย่างสม่ำเสมอ”</p>
<p>หนังสือระบุว่า กุมภาพันธ์ 2566 ที่ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง ทหารพม่าได้ยิงปืนค. ถล่มฝ่ายต่อต้านและหมู่บ้านพลเรือนชายแดนพม่า ทำให้ชาวบ้านฝั่งพม่าต้องหลบหนีข้ามมาอาศัยอยู่ในสวนปาล์มฝั่งไทย ขณะเดียวกันมีกระสุนปืนค.ของทหารพม่าได้ตกลงข้างคอกวัวในฝั่งไทย ทำให้วัวตายและบาดเจ็บ คอกวัวเสียหาย ต่อมามีทหารไทยเข้ามาเก็บสะเก็ดระเบิดทั้งหมดออกไป แต่ไม่เคยหน่วยงานรัฐเข้ามาสอบถามเรื่องความเสียหายหรือเยียวยาใดๆ และเมื่อเดือนกรกฎาคม 2566 ชายแดนไทยด้าน บ้านเสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน กองทัพพม่าได้ส่งเครื่องบินรบมาทิ้งระเบิดลงหมู่บ้านอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีชาวบ้านฝั่งรัฐคะเรนนีต้องหนีภัยความตายข้ามมาพักพิงยังฝั่งไทยร่วมหมื่นคนจนปัจจุบันก็ยังไม่มีท่าที่ว่าความรุนแรงดังกล่าวจะคลี่คลาย</p>
<p>หนังสือระบุด้วยว่า นอกจากสถานการณ์ข้างต้นแล้ว ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่ไม่เป็นข่าว ซึ่งเครือข่ายภาคประชาชนเห็นว่าสถานการณ์ในลักษณะนี้ จะหนักขึ้นเรื่อยๆ ประชาชนจำนวนมากในฝั่งพม่าถูกถล่มโดยไม่แยกแยะเป้าหมายระหว่างพลเรือนและทหารฝ่ายตรงกันข้าม โดยกองทัพพม่าได้โจมตีทั้ง โรงเรียน โรงพยาบาล ศูนย์พักพิงชั่วคราวและหมู่บ้านจำนวนนับไม่ถ้วน ทุกวันนี้ประชาชนสองฝั่งต่างหวาดผวาเมื่อได้ยินเสียงเครื่องบิน ชาวบ้านที่ทำไร่ทำนาประกอบอาชีพอยู่ตามแนวชายแดนทั้งฝั่งไทยและพม่าต่างหนีหลบภัยจนไม่เป็นอันทำมาหากิน</p>
<p>“การยิงระเบิดและทิ้งระเบิดจากอากาศยานของกองทัพพม่าเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะนับวันกองทัพพม่าจะเข้าถึงพื้นที่ด้วยกองกำลังทหารราบยากขึ้น จึงต้องใช้แสนยานุภาพทางอากาศยานเป็นหลัก แต่การไม่แยกแยะเป้าหมาย ได้ส่งผลต่อพลเรือนชายแดนทั้งฝั่งไทยและฝั่งพม่า ทำลายทรัพย์สินและสร้างความหวาดหวั่นให้ประชาชนชาวไทยตามแนวชายแดน การทิ้งระเบิดและโจมตีพื้นที่พลเรือนเป็นการละเมิดกติกาสากล นอกจากนี้ประเทศไทยยังต้องรองรับผู้หนีภัยความตายด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม ปัจจุบันยังไม่มีมาตรการใดๆ ที่ทำให้ชาวบ้านอุ่นใจได้เลย”</p>
<p>ในช่วงท้ายของหนังสือระบุว่า พวกเราเป็นองค์กรที่ทำงานเกี่ยวเนื่องกับชายแดน ได้รับรู้ข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เกิดขึ้นและรู้สึกเป็นกังวลในสถานการณ์บริเวณชายแดน พวกเราเห็นว่ารัฐบาลไทยควรให้ความคุ้มครองประชาชนในแนวชายแดนเพื่อให้ทำมาหากินได้เป็นปกติ อย่างน้อยควรมีมาตรการคุ้มครองป้องกันไม่ให้อากาศยานพม่าเข้ามาทำร้ายชุมชนพลเรือนตามแนวชายแดน จึงหวังว่าฝ่ายนิติบัญญัติที่เป็นตัวแทนของประชาชนจะร่วมกันผลักดันให้เกิดมาตรการคุ้มครองประชาชนตามแนวชายแดนที่กำลังเผชิญความเดือดร้อนจากสงครามในประเทศเพื่อนบ้าน</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/08/105334
 

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

นักข่าวหัวเห็ด แห่งเวบสุขใจ
อัพเดตข่าวทันใจ ตลอด 24 ชั่วโมง

>> http://www.SookJai.com <<
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.563 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 17 สิงหาคม 2567 22:46:46