หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ เล่าถึงพญานาคในถ้ำเชียงดาวหลวงปู่แหวน
ภายในถ้ำหลวง ที่ถ้ำเชียงดาว มีพญานาคอยู่ถ้ำดังกล่าวนี้ สต้องแยกขึ้นไปทางซ้ายมือ อยุ่ เหนือถ้ำหลวงเล็กน้อย พื้นถ้ำมีก้อนหินเป็นรูปกงจักรดับดอกบัว มีพญานาคเฝ้าอยู่ภายใต้แผ่นหิน นี้
เวลามีพระเข้าไปภาวนาอยู่ภายในถ้ำนั้น ท่านแทบกระดุกกระดิกตัวไม่ได้เลย เป็นต้องถูก พญานาคกล่าวโทษทันที่ว่า สมณะอะไร ช่างไม่สำรวม คะนองกายเหมือนเด็กๆ
ถ้าเดินไปสะดุดเอาก้อนหินดังกรอกแกรก เขาก็จะกล่าวโทษว่า สมณะอะไร จะเดินจะเหิน ไม่สำรวมระวัง รีบไปรีบมา เหมือนม้าแข่ง
ไม่ว่าพระจะทำอะไร ต้องสำรวมทุอิริยาบถ ถึงอย่างนั้นก็ไม่วายจะถูกตำหนิติเตียน
พญานาคนี้มีอัธยาศัยชอบพอกับ พระมหาบุญ ถ้าพระมหาบุญเข้าไปอยู่ในถ้ำนั้น ไม่ว่าท่าน จะทำอะไร เช่น ทำเสียงกระแอมกระไอ เดินเสียงดัง ทำก้อนหินหล่น เธอก็เฉย ไม่แสดงกิริยา อะไร ต่อต้าน เพราะมีจริตเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม ไม่มีพระองค์ใด เข้าไปอยุ่ในถ้ำนั้นได้นาน เพราะในถ้ำมีช่องให้อากาศเช้าไป ทางเดียว คือทางปากถ้ำ เมื่อพระเข้าไปอยู่ข้างในแล้วปิดประตู อาากศภายนอกแทบเข้าไปไม่ได้ เลย ทำให้อึดอัด หายใจไม่สะดวก
ยกเว้น หลวงปุ่มั่น องค์เดียว ที่ท่านเข้าไปอยู่ในถ้ำนั้นได้นานเป็นวันๆ
หลวงปุ่มั่น เคยเทศน์แนะนำพญานาค แต่เธอไม่ยอมรับคำแนะนำ เพราะยังอาลัยอัตภาพ ปัจจุบันของตนอยู่ ในที่สุดท่านเห็นว่า เข้าไปทำความรำคาญให้แก่เธอ จึงไม่เข้าไปในถ้ำนั้น อีกเลย
ที่ถ้ำพญานาคนี้ หลวงปุ่แหวน เข้าไปอยู่ ๑ วัน หลวงปู่ตื้อเข้าไปอยู่ ๓ วัน แต่ละองค์ที่เข้าไป อยู่ ต่างถูกพญานาค ตำหนิกล่าวโทษเอาทั้งสิ้น พระท่านอยู่ไม่ได้เพราะส่งจิตออกไปดูทีไรเห็น พญานาคคอยจ้องหาเรื่องตำหนิพระอยู่ตลอดเวลา
เมื่อพระต่างองค์ต่างเห็นว่า ถ้าเข้าไปแล้วจะทำให้พญานาคสร้างบาป หนักเข้าไปอีก จึงได้ ช่วยเหลือเธอโดยการไม่เข้าไปรบกวน ในที่อยู่ของเธออีกต่อไป