- ท่านบ้างหลงติดฝ่ายนั้น หลงติดฝ่ายนี้ ไม่สามารถจะอยู่เหนือบ้าง คือความทุกข์
ศึกษาให้มีสติสัมปชัญญะสมาธิปัญญาไว้ให้เพียงพอทำกรรมฐานทำให้สิ่งทั้ง ๔ นี้ เพียงพอ มันก็ใช้ควบคุมผัสสะก็ไม่เป็นผัสสะโง่ไม่มีเวทนาโง่
ไม่มีตัณหา อุปาทาน ภพ ชาติ ก็เลยไม่มีความทุกข์
กำจัดความยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ทั้ง ๕ เสียได้เพราะว่าพอรูปขันธ์ทำหน้าที่เรียกว่าพอร่างกาย ทำหน้าที่ ตา หู จมูก ลิ้น ใดก็ตามกายทำหน้าที่ก็
เรียกว่ารูปขันธ์เกิดก็มีผัสสะก็มีเวทนาขันธ์เกิดสัญญาหมายมั่นก็สัญญาขันธ์เกิด คิดนึกอย่างไรก็สังขารขันธ์เกิด มารู้แจ้งที่ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
ก็วิญญาณขันธ์เกิดจึงจะเห็นได้ตามลำดับว่าพอรูปขันธ์ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ทำ หน้าที่ ข้างในและข้างนอกก็เหมือนกัน รูปขันธ์ข้างนอกถึงกันเข้า
รูปขันธ์เกิดก็เกิดจักษุวิญญาณโสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ วิญญาณขันธ์เกิด แล้วก็เกิด ผัสสะ รูปขันธ์ที่กำลังทำหน้าที่เกิดเวทนาขันธ์แล้วเกิด
สัญญาขันธ์ก็ถ้ามีเวทนาอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วมันก็หมายมั่นว่าอะไรว่าสุขว่าทุกข์ ว่าอะไรก็ตาม หมายมั่นไปอย่างใดอย่างหนึ่งสัญญาขันธ์
สังขารขันธ์
ก็คิดไปตามนั้น คิดไปตามอารมณ์ไปตามสัญญาขันธ์นี่ขันธ์ ๕ ถ้ามันมีสติ ปัญญา โอ้ ขันธ์ ๕ มันอย่างนี้เอง มันเป็นอย่างนี้เองมันเป็นของมันอย่าง
นี้องก็ไม่เกิดความรู้สึกว่าตัวกูของกูในเวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขาร ขันธ์ วิญญาณขันธ์ หรือแม้แต่ในรูปขันธ์ มันก็ไม่เกิด ปัญจุปาทานัก
ขันธามันก็ไม่มี สังขิตเตนะ ปัญจุปาทานักขันธา ทุกขา มันก็ไม่เป็นทุกข์ เห็น ขันธ์โดยความเป็นขันธ์ตามธรรมชาติอย่างนั้นเท่านั้นไม่ใช่ สัตว์
บุคคล ตัวตนอะไรนี่ที่ว่าจะไม่เกิดความทุกข์ และเย็นเป็นนิพพานอยู่ ได้ตลอดไป ที่อุปาทานยังไม่เกิดกิเลสยังไม่เกิด
ขอให้มีสติ ปัญญาในเรื่องนี้มากได้อาบรสอยู่ด้วยพระนิพพานขั้นต้น ๆ เป็นอย่างดียิ่ง มี ชีวิตเย็น เป็นนิพพุตะ นิพพุติ เป็นนิพพุติ แปลว่าความเย็น
เป็นนิพพุตะ แปลว่าผู้เย็น คุณเองก็ดี ไปสวดให้ศีลเขาน่ะ สีเลนะ สุคะติงยันติ สีเลนะ โภะ สัมปะทา สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสะมาสีลังวิโสทะเย
นิพพุติ แม้แต่ศีลก็ยังได้นิพพุติ มีศีลอย่างนี้ก็ระงับไปได้มาก มีนิพุตติตาม สมควร ความเย็นในชีวิตมีได้เพราะศีล และค่อยๆ สูงขึ้นไปจนเป็น
นิพพาน เป็น นิพุตติอ่อน ๆ บอกเขาว่า นิพุตติให้รู้ว่าอะไรอย่าบอกเขาแล้วตัวเองก็ไม่รู้ว่าอะไร มีนิพพุติ เพราะศีล มีสุคติ เพราะศีล มีโภคะ
เพราะศีลเพราะฉะนั้นทำศีลให้สมบูรณ์ ให้มีชีวิตเย็นเป็นนิพพุติอย่างนี้ ก็เรียกว่าเราเป็นผู้มี ชีวิตในประจำวันอยู่ด้วยนิพพาน
มีนิพพานในชีวิตประจำวันไม่เสียทีที่
เกิดมาเป็นมนุษย์ได้พบกับพระพุทธศาสนาสามารถมีนิพพานน้อย ๆ นิพพานตัวอย่าง นิพพานชั่วขณะก็ตามอยู่ในชีวิตประจำวันนี่วิเศษที่สุดเพราะ
มันจะค่อย ๆ กลายเป็นนิพพานสมบูรณ์
ขอให้ได้รับประโยชน์อันสูงสุดอันนี้ให้สมกับว่าได้เสียสละออกมาบวชทั้งที ให้ได้หัวใจของพระพุทธ ศาสนา ออกไปอย่างนี้
เวลา หมดแล้วหนึ่งชั่วโมง ขอยุติการบรรยายในวันนี้ ในหัวข้อว่ามีนิพพานในชีวิตประจำวันจงด้วยกันทุก ๆ คนเถิด
.........................................THE END........................................