[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
21 ธันวาคม 2567 18:08:29 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: การเดินทางเข้าถึงพุทธธรรม  (อ่าน 2945 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sometime
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 14 กรกฎาคม 2553 19:03:12 »




(:LOVE:)ชื่อภาพทางขึ้นสวรรค์ถ่ายโดย(บางครั้ง) รัก


.....................ธรรมมะโกอืนเตอร์(เนท)...................


(:LOVE:)วีดีโอบรรยายธรรมของพระป่าสาย หลวง ปู่ชา สุภัทโท ความยาว 1 ชั่วโมง 4 นาที รัก


The Secret



ตามธรรมดา การที่บุคคลจะไปถึงบ้านเรือนได้นั้น มิใช่บุคคลที่มัวแต่นอนคิดเอาเขาเองจะต้องลงมือเดินทางด้วยตนเองและเดินให้ถูกทางด้วย จึงจะมีความสะดวก และถึงที่หมายได้
หากเดิน ผิดทางก็จะได้รับอุปสรรค และยังไกลที่หมายออกไปทุกที หรืออาจจะได้รับอันตรายระหว่างทาง เมื่อเดินไปถึงบ้านแล้ว จะต้องขึ้นอยู่อาศัย พักผ่อนหลับนอน เป็นที่สบายทั้งกายและใจ จึงจะเรียกว่าคนถึงบ้านได้โดยสมบูรณ์




............................ทางแห่ง ศีล สมาธิ และปัญญา............................



ถ้าหากเดินเฉียดบ้าน หรือผ่านบ้านไปเฉยๆ คนเดินทางนั้นจะไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลยจากการเดินทางของเขา
ข้อนี้ฉันใด การเดินทางเข้าสู่พุทธธรรมก็เหมือนกันทุก ๆ คนจะต้องออกเดินทางด้วยตนเอง ไม่มีการเดินให้กัน ต้องเดินไปตามทางแห่งศีล สมาธิ ปัญญา จนถึงซึ่งที่หมาย ได้รับความสะอาด สงบ สว่าง นับว่าเป็นประโยชน์เหลือหลายแก่ผู้เดินทางเอง
แต่ถ้าหากผู้ใดมัวแต่ อ่านตำรา มัวแต่กางแผนที่ออกดูอยู่ตั้งร้อยปีร้อยชาติ เขาผู้นั้นไม่สามารถไปถึงที่หมายได้เลย เขาจะเสียเวลาไปเปล่า ๆ ปล่อยให้ประโยชน์ที่ตนจะได้รับให้ผ่านเลยไป
ครูบาอาจารย์เป็นเพียง ผู้บอกให้เท่านั้น เราทั้งหลาย เมื่อได้ยินได้ฟังแล้ว จะเดินหรือไม่เดิน จะได้รับผลมาน้อยเพียงใด นั้นเป็นเรื่องเฉพาะตน
เช่นเดียวกันกับการ ที่หมอให้ยาคนไข้ ถ้าคนไข้มัวแต่อ่านฉลากยาแต่ไม่เคยได้นำยานั้นไปใช้ คนไข้ก็คงอาจจะตายเปล่าและก็จะมาร้องตีโพยตีพายว่า ยาไม่ดี หมอไม่ดี เพราะมัวแต่ไปอ่านฉลากยาจนเพลิน
แต่ถ้าเขาเชื่อหมอ จะอ่านฉลากเพียงครั้งเดียว หรือไม่อ่านก็ได้ แต่ถ้าลงมือกินยาตามคำสั่งหมอ ถ้าคนไข้เป็นไม่มาก เขาก็จะหายจากโรค แต่ถ้าเป็นมาก....................อาการก็จะทุเลาลงไปเรื่อย ๆ ถ้าหากกินบ่อย ๆ โรคก็จะหายไป
ที่ต้องกินยามาก และบ่อยครั้ง ก็เพราะโรคของมันมาก เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ธรรมดามากๆ แต่ถ้าโรคน้อยกินครั้งเดียวก็อาจจะหายได้เลย ผู้อ่านลองใช้สติปัญญาพิจารณาถ้อยคำนี้ให้ละเอียดจริงๆ จะเข้าใจได้ดี


Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14 กรกฎาคม 2553 19:24:19 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: 14 กรกฎาคม 2553 19:06:54 »




..............................การทำตนให้เป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์.........................



ศีลนั้นก็คือ ระเบียบควบคุมรักษากาย วาจาให้เรียบร้อย ว่าโดยประเภทมีทั้งชาวบ้าน และของนักบวช แต่เมื่อกล่าวโดยรวบยอดแล้วมีอย่างเดียวคือ เจตนา
เมื่อเรามีสติ ระลึกได้อยู่เสมอ เพื่อควบคุมให้รู้จักละอายต่อความชั่ว ความเสียหาย และรู้สึกตัวกลัวผลของความชั่วจะตามมา พยายามรักษาใจให้อยู่ในแนวทางแห่งการปฏิบัติที่ถูกที่ควร พยายามรักษาใจให้อยู่ในแนวทางแห่งการปฏิบัติที่ถูกที่ควร เป็นศีลอย่างดีอยู่แล้ว ตามธรรมดาเมื่อเราใช้เสื้อผ้าที่สกปรก และตัวเองก็สกปรก ย่อมทำให้จิตใจยึดอัดไม่สบาย แต่ถ้าหากเรารู้จักรักษาความสะอาด ทั้งร่างกายและเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ย่อมทำให้จิตใจผ่องใสเบิกบาน
ดังนั้น เมื่อศีลไม่บริสุทธิ์ เพราะกายวาจาสกปรก ก็เป็นผลให้จิตใจเศร้าหมอง ขัดต่อการปฏิบัติธรรม และเป็นเครื่องกั้นมิให้บรรลุถึงจุดหมาย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจิตใจที่ได้รับการฝึกมาดีหรือไม่เท่านั้น เพราะใจเป็นผู้สั่งให้พูดให้ทำ ฉะนั้นเราจึงต้องมีการฝึกจิตใจต่อไป




..........................การฝึกสมาธิ..........................



การฝึกสมาธิก็คือ การฝึกจิตใจของเราให้ตั้งมั่น และมีความสงบ เพราะตามปกติ จิตนี้เป็นธรรมชาติ ดิ้นรน กวัดแกว่ง ห้ามได้ยาก รักษาได้ยาก ชอบไหลไปตามอารมณ์ต่ำ ๆ เหมือนน้ำที่ชอบไหลลงสู่ที่ลุ่มเสมอ
พวกเกษตรกรทั้งหลาย เขารู้จักกั้นน้ำไว้ให้ทำประโยชน์ในการเพาะปลูกต่างๆ มนุษย์เรามีความฉลาดรู้จักเก็บรักษาน้ำ เช่น ทำฝาย ทำทำนบ ทำชลประทาน เหล่านี้ล้วนแต่กั้นน้ำเพื่อประโยชน์ทั้งนั้น พลังงานไฟฟ้าที่ให้ความสว่าง และใช้ทำประโยชน์อื่นๆ ก็ยังอาศัยน้ำที่คนเรารู้จักกั้นไว้นี้เอง ไม่ปล่อยให้มันไหลลงที่ลุ่มเสียหมดดังนั้น จิตใจที่มีการฝึกที่ดีอยู่ ก็ให้ประโยชน์มหาศาลเช่นกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14 กรกฎาคม 2553 19:15:11 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: 14 กรกฎาคม 2553 19:10:11 »




...................พระพุทธองค์ตรัสว่า.................


จิตที่ฝึกดีแล้ว ย่อมนําความสุขมาให้การ ฝึกจิตให้ดี ย่อมสําเร็จประโยชน์
เราสังเกตดูแต่สัตว์พาหนะ เช่น ช้าง ม้า วัว ควาย ก่อนที่เราจะเอามันมาใช้งานต้องฝึกเสียก่อน เมื่อฝึกดีแล้ว เราจึงได้อาศัยแรงงานมันทำประโยชน์
นานาประการท่านทั้งหลายก็ทราบกันแล้วว่า จิตที่ฝึกดีแล้วย่อมมีคุณค่ามากกว่ากันหลายเท่า ดูแต่พระพุทธองค์ และพระอริยสาวก ได้เปลี่ยนจากภาวะปุถุชน มาเป็นพระอริยบุคคล จนเป็นที่กราบไหว้ของคนทั่วไป และท่านก็ยังได้ทำประโยชน์อย่างกว้างขวางเหลือประมาณที่เราๆ จะกำหนด ก็เพราะว่า พระองค์และสาวก ได้ผ่านการฝึกจิตมาด้วยดีแล้วทั้งนั้น
จิต ที่ฝึกดีแล้วย่อมเป็นประโยชน์แก่ทุกสิ่งทุกอย่าง อันได้แก่การดำเนินชีวิต การประกอบกิจการงานอาชีพทุกอย่าง นอกจากนี้ก็ยังเป็นทางให้รู้จักทำงานด้วยความรอบคอบ ไม่เป็นคนหุนหันพลันแล่น ทำให้ตนเองมีเหตุผล และได้รับความสุขตามสมควรฐานะ



Credit By..................................http://board.palungjit.com/


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14 กรกฎาคม 2553 19:17:19 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
คำค้น: พทธ ธรรมมะ บางครั้ง บารมี เป็นกลาง อุทาน กำหนด เดินทาง สัทธรรม dhamma 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.368 วินาที กับ 29 คำสั่ง

Google visited last this page 18 ธันวาคม 2567 19:12:08