[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
22 ธันวาคม 2567 08:19:36 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า:  1 [2]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ฟ้าสางทางมรดกที่ขอฝากไว้ ท่านพุทธทาส  (อ่าน 20481 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 2.0.0.20 Firefox 2.0.0.20


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2553 09:53:05 »




คำนำ

ข้าพเจ้าไม่มีมรดกอะไร ที่จะฝากไว้กับเพื่อนพุทธบริษัท
ผู้เป็นเพื่อนเกิดแก่เจ็บตายทั้งหลาย นอกจากสิ่งที่ระบุไว้ในข้อความข้างล่างนี้
ด้วยความหวังว่า ถ้ายังมีการสืบมรดกนี้อยู่เพียงใด
กิจกรรมสวนโมกขพลาราม ก็จะยังคงมีอยู่ตลอดกาลนานเพียงนั้น และ "พุทธทาส"
ก็จะยังคงมีอยู่ในสถานที่นั้นๆ ตลอดกาลนานเพียงนั้น. ขอได้โปรดรับพิจารณากันเสียแต่บัดนี้
ซึ่งจะเป็นการง่ายในการสืบมรดกดังกล่าว. ขอให้ถือว่า เป็นมรดกธรรม
แก่บรรดาเพื่อนผู้มอบกายถวายชีวิต ในการสืบอายุพระศาสนา
เพื่อประโยชน์แก่คนทั้งโลกเถิด มิได้เป็นเรื่องส่วนบุคคลแต่ประการใด.

ภาคหนึ่ง
มรดกที่เป็นเรื่องฝ่ายวัตถุธรรมและพิธีกรรม
(มรดกที่ ๑–๔๑)

ภาคสอง
มรดกที่เป็นเรื่องฝ่ายนามธรรมทางสติปัญญา
(มรดกที่ ๔๒–๑๘๙)
บันทึกการเข้า
 
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 2.0.0.20 Firefox 2.0.0.20


ดูรายละเอียด
« ตอบ #21 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2553 08:56:15 »


มรดกที่  ๑๔๑

ขอให้ตั้งต้นการศึกษาธรรมะด้วยการรุ้จักนิวรณ์ และภาวะที่ไม่มีนิวรณ์
อันเป็นสิ่งที่มีอยู่ในชีวิตประจำวัน ด้วยกันทุกวันและทุกคน.
นี้จะเป็นการง่ายเข้า ในการที่จะรู้จักกิเลสอย่างชัดเจน
และปรารถนาชีวิตที่ไม่มีกิเลส หรือคุณค่าของพระนิพพาน ได้ง่ายเข้า.

 
มรดกที่ ๑๔๒

"ชีวิตใหม่" สำหรับผู้ถือศาสนาอะไรก็ได้
คือการทำหน้าที่ให้ถูกต้อง แก่ความเป็นมนุษย์ของตน ๆ
ทุกขั้นตอนแห่งวิวัฒนาการ ตั้งแต่เกิดจนตาย
ทั้งเพื่อประโยชน์ตนและประโยชน์ผ้อื่น.


มรดกที่ ๑๔๓

อนุปาทิเสสนิพพาน ไม่เกี่ยวกับความตาย
หากหมายถึงความดับเย็น ถึงระดับเย็นสนิท ของกิเลสและเบญจขันธ์
มีชีวิตอยู่เสวยรสแห่งความเย็นนั้น จนกว่าจะสิ้นชีวิต
เพราะหมดปัจจัยส่วนชีวิตหรือรูปนาม.
ถือเป็นหลักได้ว่า "นิพพานในพุทธศาสนา ในทุกความหมาย ไม่เกี่ยวกับความตาย".

 
มรดกที่ ๑๔๔

นิพพานเป็นของให้เปล่า โดยไม่ต้องเสียสตางค์
นั้นเป็นเพียงการเสียสละความยึดถือว่าตัวตนออกไปเสีย,
เป็นความสงบเย็นสูงสุดแห่งชีวิต ที่มีความเต็มสูงสุดแห่งความเป็นมนุษย์ กันที่นี่และเดี๋ยวนี้.
แต่ก็ยังไม่เป็นที่สนใจในหมู่พุทธบริษัทเอง
ต้องการแต่ชนิดในอนาคตกาลนานไกล และต่อตายแล้ว
โดยยอมเสียสตางค์มาก ๆ เพื่อเตรียมสิ่งที่เป็นปัจจัยแก่นิพพาน.

 
มรดกที่ ๑๔๕

ขอยืนยันว่า นิพพานก็มิใช่ตัวตนของใคร หรือแม้แต่ของนิพพานเอง
แล้วจะมาเป็นสมบัติของใครได้;
เพียงแต่ทุกคนเปิดใจให้ถูกต้องเพื่อรับรัศมีเย็น
อันเกิดมาจากความไม่มีตัวตนของนิพาน จนตลอดชีวิตก็พอแล้ว
คือทำตนไม่ให้เป็นของใคร หรือแม้แต่ของตนเอง.

 
มรดกที่ ๑๔๖

ดับทุกข์ที่ทุกข์ ดับไฟที่ไฟ อย่าเอาไปไว้คนละแห่งคนละชาติ
คือทุกข์อยู่ในชาตินี้ แล้วจะดับทุกข์หรือนิพพาน ต่อชาติอื่น อีกหลายร้อยหลายพันชาติ
: จะดับไม่ได้ และมีแต่การละเมอเฟ้อฝัน.
จะต้องดับที่ตัวมัน และให้ทันแก่เวลา เมื่อมีผัสสะเกิดขึ้น
ก็มีสติสัมปชัญญะทันควัน จัดการกับผัสสะนั้นทันที
จนทุกข์ไม่อาจจะเกิดขึ้น หรือดับไป,
เดี๋ยวนี้มักจะเอาทุกข์กับดับทุกข์ ไว้คนละชาติ.


มรดกที่ ๑๔๗

ทั้งชั่วทั้งดี ล้วนแต่อัปรีย์ คือไม่น่ารัก
ล้วนแต่ทำให้วิ่งแจ้น ไปในความวนเวียน
ด้วยอำนาจการผลักดันของความชั่วและความดีนั้น.
มาแสวงหา และอยู่กับความสงบ ที่ไม่ชั่วไม่ดีกันดีกว่า, ไม่ต้องวิงให้วุ่นวาย;
ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ แล้วอยู่ด้วยความสงบเย็น.

 
มรดกที่ ๑๔๘

ปัญญาต้องมาก่อนทุกสิ่งที่จะปฏิบัติ นี้คือหลักเกณฑ์ที่ถูกต้อง
เหมือนอริยมรรคมีองค์แปดที่มีสัมมาทิฏฐิเป็นตัวนำ;
มิฉะนั้นการปฏิบัติจะเข้ารกเข้าพง พลาดวัตถุประสงค์ไปเสียหมดสิ้น
นับตั้งแต่สรณาคมน์ และศีล ดังที่กำลังมีอยู่ในที่ทั่วไป.
 

มรดกที่ ๑๔๙

สวดปัจจเวกขณ์กันเพียงครึ่งท่อน ของความจริงทั้งหมด
ว่าเรามีความเกิดแก่เจ็บตายเป็นธรรมดา ไม่อาจพ้นความเกิดแก่เจ็บตายไปได้;
แต่พระพุทธองค์ตรัสว่า
"ถ้าได้อาศัยเราเป็นกัลยาณมิตรแล้ว สัตว์ทั้งหลายจะพ้นจากความเกิดแก่เจ็บตาย"
และตรัสระบุการปฏิบัติอริยมรรคมีองค์แปดว่าเป็การมีพระองค์เป็นกัลยาณมิตร.
เรามีแต่การสวดบทที่หลอนตัวเอง ให้กลัวความเกิดแก่เจ็บตายอย่างเปล่า ๆ ปลี้ ๆ,
นี้เป็นความเหลวไหลของสาวกเอง ในการรับถือพุทธศาสนา.

 
มรดกที่ ๑๕๐

จิตว่างแท้จริงทางธรรมะ ต่างจากจิตว่างของอันธพาล
ซึ่งไม่รู้จักจิตว่างที่แท้จริง แล้วกล่าวหาว่า จิตว่างไม่ทำอะไร ไม่รับผิดชอบอะไร;
ทั้งที่จิตว่างแท้จริงนั้น ทำหน้าที่ทุกอย่าง ได้อย่างฉลาดเฉลียว ถูกต้องและไม่เห็นแก่ตัว.
จงรู้จักจิตว่างกันเสียใหม่เถิด.
บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 2.0.0.20 Firefox 2.0.0.20


ดูรายละเอียด
« ตอบ #22 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2553 09:12:45 »


มรดกที่  ๑๕๑

ขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า นิพพานหาพบได้ที่วัฏฏสงสาร
เพราะความดับแห่งวัฏฏสงสาร ก็ต้องมีที่วัฏฏสงสารนั่นเอง,
เหมือนการดับของไฟ ก็ต้องมีที่ไฟนั่นแหละ;
นิพพานคือการดับแห่งวัฏฏสงสารจึงหาพบได้ที่วัฏฏสงสาร ฉันใดก็ฉันนั้น.
นี้เป็นอภิธรรมที่ยิ่งกว่าอภิธรรม !

 
มรดกที่ ๑๕๒

การพูดว่า ทุกข์เพราะยึดมั่นนั้นถูกกว่า เข้าใจได้ง่ายกว่า
กว่าที่จะพูดว่า ทุกข์เพราะตัณหา,
เพราะยึดมั่นสิ่งใด ก็หนักอกหนักใจเพราะสิ่งนั้น;
และตามกฏปฏิจจสมุปบาทก็กล่าวว่า ตัณหาเป็นปัจจัยให้เกิดอุปาทาน
อุปาทานเป็นปัจจัยให้เกิดภพ–ชาติ–ทุกข์;
นั่นคือตัณหาต้องปรุงเป็นอุปาทานเสียก่อน
คือยึดมั่นถือมั่นเสียก่อน จึงจะเกิดความหนักและเป็นทุกข์
ได้ในบทว่า ภารา หเว ปัญจักขันธา ภาราทานัง ทุกขัง โลเก ดังนี้.

 
มรดกที่ ๑๕๓

ทฤษฏีและคำพูดที่เกี่ยวกับ ตัวกู–ของกู นั้นมีทั้งภาษาคนและภาษาธรรม
: ภาษาคนสำหรับเด็ก ๆและคนโง่ พูดตามที่พูดกันอยู่ ด้วยความรู้สึกยึดมั่นในตัวตน;
ส่วนภาษาธรรมนั้น สำหรับพระอริยเจ้าพูด ด้วยจิตที่ปราศจากความยึดถือ จึงฟังยากสำหรับบุถุชน.

 
มรดกที่ ๑๕๔

โลกรอดได้ แม้เพียงด้วยมนุษย์เป็นผู้กตัญญูกตเวที
คือรู้ว่ามนุษย์แต่ละคน ต่างมีบุญคุณต่อกัน แล้วก็เบียดเบียนกันไม่ได้,
และรู้ว่าโลกมีบุญคุณแก่มนุษย์ โดยให้ปัจจัยแก่ชีวิต
จึงทำลายโลกไม่ได้ : เพียงเท่านี้โลกก็รอดแล้ว.

 
มรดกที่ ๑๕๕

สวรรค์มีขึ้นในใจของผู้นั้น ทันทีที่เขายกมือไหว้ตัวเองได้
ในการทำหน้าที่ของตนอย่างถูกต้องตามธรรม และพอใจตัวเองถึงขีดสุด.
นี่เป็นสวรรค์ที่แท้จริง ที่นี่และเดี๋ยวนี้. สวรรค์อย่างอื่นทุกชนิด ขึ้นอยู่กับสวรรค์นี้.

 
มรดกที่ ๑๕๖

สิ่งที่ต้องรู้จักเป็นพิเศษ คือ ๓ ก. และ ๓ ส.
๓ ก. คือ กิน–กาม–เกียรติ ย่อมกัดเอาผู้เข้าไปเกี่ยวข้องอย่างโง่เขลา แล้วก่อให้เกิดกิเลส.
กำจัดโทษของ ๓ ก. แล้วมี ๓ ส. คือ สะอาด–สว่าง–สงบ.
ที่ต้องรู้จักเป็นพิเศษ ก็เพราะยากที่จะรู้จักมันตามที่เป็นจริง,
มักจะรู้จักกันอยู่ ตามที่มันแสดงตัวอย่างที่มันไม่เป็นจริง
เพราะความเขลา ของผู้ที่เข้าไปเกี่ยวข้องนั่นเอง.

 
มรดกที่ ๑๕๗

คู่ชีวิตที่แท้จริง คือธรรมะที่ปฏิบัติอย่างถูกต้อง อยู่กะเนื้อกะตัว
ช่วยให้รอดชีวิต และปราศจากปัญหาทั้งปวง;
มิใช่คู่กินคู่นอน ซึ่งมีการกระทำอันส่งเสริมกิเลส และสร้างปัญหาผูกพันขึ้น นานัปการ
โดยมีการกระทบ ฮื่อแฮ่กันอยู่เป็นประจำ ซึ่งจะต้องใช้ธรรมะเป็นเครื่องระงับอีกนั่นเอง.
ขอให้รู้จักสิ่งที่อาจจะเป็นคู่ชีวิตได้จริง อย่างที่ผีจะไม่หัวเราะเยาะ.

 
มรดกที่ ๑๕๘

หน้าที่และสิทธิของสตรีที่แท้จริงและควรจะมี
เพื่อความรอดของมนุษยโลกนั้น มิใช่ความมีสิทธิเสมอภาค และอย่างเดียวกันกับบุรุษ,
หากแต่ยอมรับหน้าที่ในการอบรมลูกที่เกิดมา ให้มีความเป็นมนุษย์ ที่ถูกต้องและสมบูรณ์,
โดยไม่ต้องแย่งหน้าที่ของพ่อบ้านมาทำ อย่างที่ทำกันอยู่
ซึ่งจะทำให้�โลกนี้ ปราศจากมารดา.
 

มรดกที่ ๑๕๙

ทำไมต้องไปหาหมอดูให้เสียเวลา
: เพราะแม้หมอจะทายว่าโชคดี เราก็ยังต้องทำดีด้วยความไม่ประมาทอยู่ดี,
แม้หมอทายว่าโชคร้าย เราก็ยังต้องทำดี ด้วยความไม่ประมาทอย่างเต็มที่อย่างนั้นเอง.
พุทธบริษัทไม่ต้องไปดูหมอ ให้เสียทรัพย์เสียเวลา
เพราะเขารู้จักสิ่งที่มีอำนาจอยู่เหนือโชค โดยประการทั้งปวง,
คือการประพฤติถูกต้อง ตามกฏอิทัปปัจจยตา
ชนิดที่ทำให้อยู่เหนือโชคเหนือกรรม ได้โดยสิ้นเชิง.

 
มรดกที่ ๑๖๐

คนที่เติบโตขึ้นมา โดยไม่เคยเกี่ยวข้องกับระบบของศีลธรรม
ได้รับการแวดล้อมแต่ด้วยระบบความก้าวหน้าแห่งยุคปรมาณู
นั้นจะมีนิสัยทนงก้าวร้าวโอหัง ด้วยความเห็นแก่ตัว
อย่างไม่เห็นแม้แก่ชาติของตัว แล้วจะเห็นแก่โลก ได้อย่างไร.
บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 2.0.0.20 Firefox 2.0.0.20


ดูรายละเอียด
« ตอบ #23 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2553 18:00:22 »




มรดกที่  ๑๖๑

ความเจริญที่เต็มไปด้วยแสง–สี–เสียง
นั้นมีไว้สำหรับให้ผีหัวเราะเยาะคนว่าดีแต่ทำสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้
แล้วสร้างปัญหายุ่งยาก ทางเศรษฐกิจและศีลธรรม ให้แก่ตัวเอง
จนเป็นโรคประสาท และมีอาชญากรรม กันเต็มบ้านเต็มเมืองแล้ว.

 
มรดกที่ ๑๖๒

กิจกรรมที่เป็นอบายมุข คือขุมทรัพย์สมบัติของพวกนายทุน
ผู้เห็นแก่ประโยชน์ตน จนถึงกับทำนาบนหลังคนเขลาคนผีสิง ได้อย่างสนุกสนาน
แต่เดือดร้อนกันค่อนบ้านค่อนเมือง,
ทั้งนี้ เพราะเห็นแก่ตัว โดยไม่เห็นแก่ธรรม อย่างที่ไม่น่าจะมีในโลก.


มรดกที่ ๑๖๓

ผลลัพธ์ของปรัชญาชนิด Philosophy นั้นเป็นเพียงทรรศนะหนึ่ง ๆ เท่านั้น
ยังมิใช่ความเห็นแจ้งแทงตลอด ตามความหมายของคำว่าปรัชญา-
ในภาษาของชาวอินเดีย;
แต่ชาวโลกแห่งยุคปัจจุบัน ได้ฝากจิตใจไว้กับปรัชญา-
ชนิด Philosophy กันมากเกินไปจนถอนไม่ออก.

 
มรดกที่ ๑๖๔

ขอชักชวน ในความกล้าหาญทางจริยธรรม
แม้ในกรณี ที่ต้องสละชีวิต เพื่อความคงอยู่ของจริยธรรมในโลก
อันเป็นหนทางรอดทางเดียวของมนุษยชาติ.
แต่การศึกษาของโลกสมัยนี้ไม่ได้ให้คุณค่าทางจริยธรรมมากถึงขนาดนี้.

 
มรดกที่ ๑๖๕

กินแต่เนื้อก็เป็นยักษ์ กินแต่ผักก็เป็นค่าง
ดังนั้น พุทธบริษัทจึงกินแต่อาหารที่บริสุทธิ์
ปราศจากความหมายมั่นด้วยอุปาทาน ว่าเป็นนั่นเป็นนี่,
นอกจากเป็นเพียงธาตุตามธรรมชาติ ควรแก่การบริโภค
ของบุคคลผู้ปรารถนาความเป็นอิสระจากกิเลส.

 
มรดกที่ ๑๖๖

ระบบธรรมชีวีของฆราวาสในทุกอิริยาบถ เป็นระบบที่ควรสนใจ
นั่นคือความมีสติสัมปชัญญะในการปฏิบัติหน้าที่ของตน
ทุกชนิดทุกระดับ ในฐานะเป็นธรรมะที่ช่วยให้รอด
ทั้งทางกายและทางจิต อยู่อย่างเป็นสุขในขณะที่กำลังทำหน้าที่นั้น ๆ
ไม่ต้องซื้อหาความสุขอย่างอื่น ให้เปลืองเงิน และเป็นสิ่งหลอกลวง.

 
มรดกที่ ๑๖๗

สัตว์ไม่กลัวผี เลยไม่มีผี; คนกลัวผี เลยมีผี
นี่น่าหัว และน่าละอายสัตว์ไหม?
มันเป็นความโง่ของพวกที่สร้างผีขึ้นมาเอง แล้วกลัวผีอยู่หรือเปล่า?
จงได้พิจารณาดูให้ดี ๆ เถิด จะได้หมดปัญหาเรื่องผี กันเสียที.

 
มรดกที่ ๑๖๘

ในโลกนี้ มีแต่การแลกวัฒนธรรมผีสิง
(เช่นแบบระบำที่คุณย่าคุณยาย ดูแล้วเป็นลมเป็นต้น)
ไม่มีผลเพื่อสันติภาพเลย แล้วยังส่งเสริมกิเลส
ซึ่งเป็นรากฐานของวิกฤตการณ์ทุก ๆ อย่างในโลกอีกด้วย.
ระวังการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระดับชาติประเภทนี้ กันให้ยิ่งกว่าระวังคอมมิวนิสต์
ซึ่งระวังกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ให้พวกคอมมิวนิสต์หัวเราะเยาะเปล่า ๆ.

 
มรดกที่ ๑๖๙

ขอเน้นความกล้าหาญทางจริยธรรมอีกครั้งหนึ่ง
ว่าเป็นสิ่งที่ใช้แก้ปัญหาของสังคมได้
คือกล้าหาญในการเว้นชั่ว–ทำดี–ช่วยให้มีการทำดี และปราบปรามการทำชั่ว,
ซึ่งสรุปความได้ว่าเป็นการยอมเสียสละทุกอย่าง
เพื่อความมีอยู่แห่งธรรมะ และยอมตายด้วยการมีธรรมะ
ซึ่งเป็นยอดสุดของความกล้าหาญ.

 
มรดกที่ ๑๗๐

รบกันพลาง แลกธรรมะกันพลาง
นี้คือการกระทำที่เหมาะสมแก้โลกยุคปัจจุบัน
อันเต็มไปด้วยวิกฤตการณ์แห่งสงคราม;
อย่ามัวแต่แลกวัฒนธรรม ที่ส่งเสริมกิเลสและความเห็นแก่ตัว กันอยู่เลย.
บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 2.0.0.20 Firefox 2.0.0.20


ดูรายละเอียด
« ตอบ #24 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2553 18:03:46 »


http://i118.photobucket.com/albums/o118/buadin/DSC_0258.jpg
ฟ้าสางทางมรดกที่ขอฝากไว้ ท่านพุทธทาส


มรดกที่  ๑๗๑

ท้าวมาลีวราช ที่นั่งจับปูใส่กระด้ง อย่างไม่มีวันสิ้นสุด
นั้นน่าจะได้แก่องค์การสหประชาชาติ
ที่ระงับวิกฤตการณ์แต่ละกรณี โดยไม่ใช้หลักธรรมะ ในแต่ละศาสนา
เข้าไปเป็นเครื่องตัดต้นเหตุเสียเลย.

 
มรดกที่ ๑๗๒

แผ่นดินทอง ต้องสร้างด้วยแผ่นดินธรรม ของแผ่นดินไทย
ที่พลเมืองไม่เป็นทาสของกิเลส จนอยู่ใต้กะลาครอบของอวิชชา
ซึ่งทำให้บูชาอบายมุข เป็นต้น จึงจะสำเร็จ.

 
มรดกที่ ๑๗๓

การทำความเข้าใจระหว่างศาสนา
ไม่อาจตกเป็นหน้าที่ของประเทศใดประเทศหนึ่งโดยเฉพาะ
แต่เป็นหน้าที่ขององค์การรวมประเทศ เช่นสหประชาชาติเป็นต้น จะพึงกระทำ
เพื่อสามารถใช้หัวใจของทุกศาสนารวมกัน แล้วใช้แก้ปัญหาของโลกได้
ซึ่งจะไม่ต้องใช้เงินเหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
ซึ่งกำลังใช้อยู่ ในการกระทำบางอย่าง.

 
มรดกที่ ๑๗๔

พุทธศาสนาก็มีพระเจ้า
แต่มิใช่เป็นพระเจ้าอย่างบุคคลหรือ เป็นจิตเป็นวิญญาณ
ที่มีความรู้สึกอย่างบุคคล;
หากแต่เป็นกฏของธรรมชาติที่เรียกว่า อิทัปปัจจยตาปฏิจจสมุปปาโท
ที่สามารถสร้างพระเจ้าอย่างบุคคล ขึ้นในหัวใจของมนุษย์ ผู้ไม่อาจจะรู้จักพระเจ้าที่แท้จริง.
อย่าคิดว่าพุทธศาสนาไม่มีพระเจ้า.

 
มรดกที่ ๑๗๕

ความหมายของคำว่าพระเจ้า ในภาษาธรรม
คือกฏหรืออำนาจที่บันดาลให้สิ่งทั้งหลายเป็นไปตามกฏ.
ส่วนพระเจ้าในภาษาคน คือผู้ที่ถูกสมมติเรียกกันว่า ผู้สร้าง–ผ้ควบคุม–ผู้ทำลาย
มีไว้สำหรับพวกที่ ทำอย่างไรเสียก็ไม่สามารถเข้าถึงพระเจ้าในภาษาธรรม.

 
มรดกที่ ๑๗๖

พุทธศาสนาเป็นระบบวิทยาศาสตร์
และมีกฏธรรมชาติเป็นพระเจ้า อย่างมิใช่บุคคล
เป็นกฏที่สามารถแทรกซึม อยู่ในทุกปรมาณูของทุกสิ่งที่ประกอบกันขึ้นเป็นจักรวาล,
และบังคับสิ่งนั้ฯให้เป็นไปตามกฏ.

 
มรดกที่ ๑๗๗

ในแง่ของจริยธรรม พระเจ้าก็คือหน้าที่ของมนุษย์ ที่ช่วยให้ มนุษย์รอด ทั้งสองความหมาย
(คือรอดชีวิตและรอดจากความทุกข์)
ซึ่งที่แท้ก็คือ ธรรมะที่ต้องประพฤติ ให้ถูกต้องแก่ความเป็นมนุษย์ของมนุษย์ นั่นเอง.
เราจงบูชาพระเจ้ากันด้วยการทำหน้าที่ของตน ๆ อย่าให้บกพร่องแม้แต่ประการใด.
ทุกคนก็จะมีพระเจ้า ที่อาจจะช่วยหรืออาจจะคุ้มครองตนได้อย่างแน่นอน.

 
มรดกที่ ๑๗๘

GOD ก็คือกฏ ในเมื่อเราออกเสียงคำนั้นให้สั้นเข้า,
นี้เป็นการบังเอิญทางภาษาที่น่าขบขัน,
แต่ก็ทำให้มี GOD กันได้ทุกพวก ทั้งที่เป็นและมิได้เป็นนักวิทยาศาสตร์;
ทำให้มีทางที่จะหันหน้ามามองดูกันได้ ในระหว่างมนุษย์ ของทุก ๆ ศาสนา.

 
มรดกที่ ๑๗๙

สิ่งที่เรียกว่า Religion หรือศาสนา ที่แท้จริง
นั้น คือระบบการปฏิบัติ ที่ทำให้เกิดการผูกพันและถึงกันเข้า
ระหว่างมนุษย์กับสิ่งสูงสุดหรือบรมธรรม
ซึ่งในทางพุทธศาสนาเรียกสิ่งนั้นว่านิพพาน
อันเป็นจุดหมายปลายทาง ของชีวิตที่แท้จริง
ยิ่งกว่าการเข้าอยู่กับพระเป็นเจ้า ที่มีความรู้สึกอย่างบุคคล.

 
มรดกที่ ๑๘๐

หัวใจของพุทธศาสนา ที่มีอยู่ที่หน้าแรก ๆ ของคัมภีร์ไบเบิ้ล
คือคนเริ่มมีความทุกข์หรือมีบาป ตั้งแต่เริ่มรู้จักดี–ชั่ว
สำหรับจะยึดถือด้วยอุปาทาน เพราะได้กินผลไม้ (คือการเจริญขึ้นมาถึงขั้น)
ขนาดที่รู้จักดี – ชั่ว สูงกว่าสัตว์ก่อนหน้านั้น.
บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 2.0.0.20 Firefox 2.0.0.20


ดูรายละเอียด
« ตอบ #25 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2553 18:06:56 »




มรดกที่  ๑๘๑

สัญญลักษณ์กางเขนของศาสนาคริสต์
อาจมองเป็นสัญลักษณ์แห่งหัวใจของพุทธศาสนา
คือการตัดเสียซึ่งตัวตน หรือ The "I";
ถ้ามองเช่นนี้ ก็จะทำงานร่วมกันได้ ในการช่วยโลกให้พ้นจากความเห็นแก่ตัว
ซึ่งเป็นรากฐาน แห่งวิกฤตกาลอันถาวร ของโลก.
 

มรดกที่ ๑๘๒

คำพูดของพระเยซู ที่พุทธบริษัทยินดีรับฟัง
คือข้อความที่ว่า เขี่ยผงในตาตัวเองก่อน,
–จูงอูฐลอดรูเข็ม ง่ายกว่าจูงมิจฉาทิฎฐิมาหาพระ,
–ชีวิตมิได้รอดอยู่ด้วยข้าวปลาอาหาร แต่รอดอยู่ด้วยพระธรรมของพระเจ้า;
และคำตรัสอย่างอื่น ๆ อีกบางแห่ง.

 
มรดกที่ ๑๘๓

การศึกษาที่เปรียบด้วยสุนัขหางด้วนของทั้งโลก
นั้นคือให้เรียนแต่วิชาหนังสือกับวิชาชีพ
ไม่เรียนธรรมะหรือศาสนา ที่สอนให้รู้ว่า เป็นมนุษย์กันให้ถูกต้อง-
-ได้อย่างไร กันเสียเลย.
ขอให้รีบลืมตา และแก้ไขกันเสียก่อนแต่ที่โลกจะเกิดมิคสัญญี.

 
มรดกที่ ๑๘๔

เด็กทั้งหลายนั่นแหละ คือผู้สร้างโลกในอนาคต
เราจงพากัน สร้างโลก โดยผ่านทางการสร้างเด็ก อย่างถูกต้อง-
-เสียแต่บัดนี้เถิด,
อย่าปล่อยเด็กให้เป็นไปตามบุญตามกรรมเลย
จึงจะเป็นการกระทำ ที่มีความรับผิดชอบ อย่างสูงสุด
ของบิดามารดา ครูบาอาจารย์ แห่งยุคนี้
ซึ่งถือว่า เป็นยุคของสติปัญญา.

 
มรดกที่ ๑๘๕

ดี ๖ ดี
: บุตรที่ดีของบิดามารดา
–ศิษย์ที่ดีของครูบาอาจารย์
–เพื่อนที่ดีของเพื่อน
– พลเมืองที่ดีของชาติ
–สาวกที่ดีของศาสนา
–มนุษย์ที่เต็มตามความหมายของมนุษย์
เหล่านี้เป็นวัตถุประสงค์ ของการจัดการศึกษาที่ถูกต้องแท้จริงสำหรับมนุษย์.

 
มรดกที่ ๑๘๖

ครู ผู้เปิดประตูทางวิญญาณ เป็นผู้นำทางวิญญาณ
คือผู้สร้างโลกในอนาคต โดยผ่านทางเด็ก
และเป็นผู้มีอาชีพอย่างปูชนียบุคคล.
จงรู้จักครูกันในลักษณะนี้
และร่วมมือกับครู ในการทำหน้าที่ของครูอย่างแท้จริง.


มรดกที่ ๑๘๗

ในที่บางแห่ง วันครู นั่นแหละเป็นวันที่ครูกินเหล้า-
-มากกว่าวันธรรมดา
เมามายกันอย่างลืมตัว เพราะว่าวันอื่น ไม่ได้มาชุมนุมกัน-
-มากมายเหมือนวันนี้.
ควรจะปรับปรุงวันครู ให้เป็นวันครูอย่างแท้จริง
คือรับความเคารพอันบริสุทธิ์ของมหาชน
ด้วยความเป็นปูชนียบุคคลอย่างเพียงพอ.

 
มรดกที่ ๑๘๘

โลกเสียเวลาไปมาก ในการศึกษาเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับความดับ ทุกข์ของโลก โดยตรง
เช่น ศิลปะ–โบราณคดี–ประวัติศาสตร์–ภูมิศาสตร์–วิทยาศาสตร์ และอารยธรรมทางวัตถุ ฯลฯ
ที่ไม่ค่อยจะเกี่ยวข้องกับการดับทุกข์ของมนุษย์ มักจะเตลิดเลยไปแต่ในเรื่องนั้น ๆ.
น่าจะมีการค้นคว้าและศึกษากันเสียให้ถูกต้อง
เกี่ยวข้องกับกรณีที่จำเป็นสำหรับการดับทุกข์ของมนุษย์.


มรดกที่ ๑๘๙

ธรรมิกสังคมนิยม เป็นหัวใจของพุทธธรรม หรือของศาสนาทุกศาสนา
อย่างทีไม่มีใครมอง. ลัทธินี้ มุ่งประโยชน์ร่วมกัน ทั้งของฝ่ายนายทุนและฝ่ายกรรมกร,
และของชีวิตทุกชนิด กระทั่งสัตว์เดรัจฉาน และแม้ต้นไม้ต้นไร่
โดยถือเอาหลักแห่งการเป็นเพื่อนเกิดแก่เจ็บตายด้วยกัน เป็นหลักพื้นฐาน.






Credit by : http://www.buddhadasa.org/html/life-work/heritage/index.html
อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ
ใต้ร่มธรรมดอทเน็ต * อกาลิโกโฮม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 ธันวาคม 2553 18:09:00 โดย เงาฝัน » บันทึกการเข้า
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7866


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 2.0.157.2 Chrome 2.0.157.2


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #26 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2553 21:37:30 »

สาธุอนุโมทนามิ

ขอบคุณครับ อ.ป้าแป๋ม
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
คำค้น: มรดกธรรม ฝ่ายนามธรรมทางสติปัญญา 
หน้า:  1 [2]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.511 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 19 ตุลาคม 2567 19:16:26