[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
23 พฤศจิกายน 2567 21:11:02 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สำนึกของดอกไม้ : การแสดงตน และร่ายรำในพื้นที่ว่าง ( Ikebana สำนัก Kalapa)  (อ่าน 514 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5162


ระบบปฏิบัติการ:
Linux Linux
เวบเบราเซอร์:
Chrome 114.0.0.0 Chrome 114.0.0.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 08 กรกฎาคม 2567 21:14:48 »


สำนึกของดอกไม้ : การแสดงตน และร่ายรำในพื้นที่ว่าง

โพสต์โดย วัชรสิทธา

บทความโดย KONG วัชรสิทธา



ในฐานะอดีตนักเรียนศิลปะคนหนึ่ง​ซึ่งมีความรู้ความเข้าใจทางศิลปะผ่านการเรียนในสถาบันและประสบการณ์ทางโลกศิลปะมาแบบนึง ​เมื่อได้มีโอกาสร่วมคลาสเรียน​ “ดอกไม้สื่อใจ ขั้น​ 1”​ ในเดือนกุมภา ฯ ที่ผ่านมา​ ชั้นเรียนดังกล่าวว่าด้วยแนวทางของศิลปะการจัดดอกไม้แบบ​ “อิเคบานะ”​ ควบคู่ทั้งทางด้านเนื้อหาทฤษฎีและการปฏิบัติ ถือเป็นการเปิดโลกทัศน์​ทางศิลปะที่เคยมี ชนิดที่ว่าพลิกผันมุมมองเชิงศิลปะ​-ทัศนศิลป์จากประสบการณ์ที่ผ่านมาโดยสิ้นเชิง

ในโลกของงานศิลปะ​ ตัวผลงานโดยทั่วไปมักจะมี​แนวความคิด​ หรือข้อความที่ต้องการสื่อสารให้ผู้ชม​ได้รับรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศิลปะที่เน้นการใช้ความคิดเพื่อสื่อสารทัศนคติ ความเชื่อ หรือหลักปรัชญาบางประการ ก่อนที่จะออกผลสำเร็จมาเป็นชิ้นงานจริงนั้น​ จำต้องผ่านการร่างแบบ​ คัดสรร​สื่อและวัตถุดิบที่ต้องการ การคำนึงถึงหลักองค์ประกอบศิลป์​ ฯ เพื่อให้สอดรับกับแนวความคิดที่ต้องการสื่อสารออกไป​ ซึ่งในหลายต่อหลาย​ครั้ง ​ท่าทีดังกล่าวมักมีแนวโน้มของการ​ “ยัดเยียดความคิดของผู้สร้างสรรค์แก่ผู้ชมอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก ทั้งนี้​เพื่อให้เกิดการคล้อยตามความคิดของผู้สร้างสรรค์โดยใช้งานศิลปะเป็นสื่อกลางในการรับใช้ concept ที่ต้องการส่งต่ออีกทอดหนึ่ง ผ่านความชำนิชำนาญทางการจัดการเชิงศิลปะ




ในขณะที่เริ่มศึกษาการจัดดอกไม้อิเคบานะ​ มีความเป็นได้อย่างใหม่เกิดขึ้นเป็นหน่ออ่อน​ ๆ ซึ่งเริ่มแตกยอดแทรกผ่านความเข้าใจทางศิลปะแบบเดิมออกมา ทั้งทางด้านรูปแบบการเรียนที่ถือเป็นประสบการณ์อย่างใหม่สำหรับตัวผู้เขียน เพราะเป็นการศึกษาศิลปะแขนงนึงซึ่งจัดอยู่ในหมวด tradition อันมีปูมหลังทางวัฒนธรรมมาอย่างเข้มข้น มีพัฒนาการทางด้านรูปแบบและปรัชญามาอย่างยาวนาน ทว่ายังคงสามารถแสดงสุนทรียะในแนวทางของตนได้อย่างสง่างามและเป็นสากล จุดพลิกผันสำคัญซึ่งถือเป็นกุญแจในการไขสู่ความเข้าใจปรัชญาทางศิลปะประเภทนี้คือ การเปิดนิยามต่อมุมมองของ​ “ความก้าวร้าว” ซึ่งในที่นี้ไม่ใช่การแสดงออกที่ดูรุนแรง​ เช่น​ การใช้กำลัง​ หรือ​ อาการหัวฟัดหัวเหวี่ยง​ เสมอไป​ หากคือแนวทางที่เราตีกรอบความคิด​ วางแผนสิ่งต่าง​ ๆ​ ไว้อย่างชัดเจน​ การตั้งจินตภาพในหัว​เบ็ดเสร็จ การตัดสินล่วงหน้า​ ฯ ซึ่งแง่มุมต่าง ๆ ข้างต้นเหล่านี้คืออะไรที่เราไม่เคยตระหนักเลยด้วยซ้ำว่าคือ “ความก้าวร้าว” นั่นเอง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันต่างแฝงอยู่ในกระบวนการทาง “ศิลปะ”

“เส้นทางคือจุดหมาย”

หน่ออ่อนดังกล่าวได้ถูกบ่มเพาะให้ค่อย ๆ เติบโตขึ้นเรื่อย​ ๆ​ ผ่านการศิลปะการจัดดอกไม้​ โดยมีหลักสำคัญสำหรับการตั้งต้นอยู่ที่​ “วินัย​ 14​ ขั้นตอน” เพื่อผ่านเข้าสู่บานประตูของโลกศิลปะจัดดอกไม้อิเคบานะ (เช่น​ การดูสถานที่​ การยืนภาวนา​ 1​ นาที​ เพื่อปล่อยวางความคิดเกี่ยวกับการจัดดอกไม้​ การพินิจดอกไม้-แจกัน​ ไปจนจบขั้นตอนที่การชื่นชมความงาม)​ การตั้งต้นที่ขั้นตอนทางวินัยดังกล่าวนี้ถือเป็นภูมิปัญญาที่ควรค่าแก่การเคารพ ทั้งนี้เพราะเราต่างก็มีสิ่งที่สั่งสมมาต่างกัน ทั้งทางด้านแบบแผนความคิด ความรู้ ประสบการณ์ และสิ่งละอันพันละน้อยต่าง ๆ ดังนั้น​ หลักคิดของ “วินัย 14 ขั้นตอน” นี้เองจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เราละวางสิ่งต่าง ๆ ดังว่านั้นไว้ในที่ทางของมัน​ ทั้งก่อน-ในขณะ-และหลังการสร้างสรรค์ผลงาน เพื่อช่วยส่งเสริมการแปรเปลี่ยนแบบแผนของ “ความก้าวร้าว​” สู่ “ความอ่อนโยน​​” เพื่อลด​ ละ​ ความคิดและการคาดเดา​ ประสบการณ์​ต่าง​ ๆ​ ที่เคยมีต่อการจัดดอกไม้​ การมีใจฝักใฝ่เลือกเฉพาะดอกที่เราพึงใจ​ การตัดสินล่วงหน้า ความคาดหวังต่อตัวงาน​ ความกลัวว่าจะทำไม่ได้ดี ฯลฯ​ ทั้งหมดนี้เป็นไปเพื่อให้เราได้เปิดออก​ และสามารถกระทำการโดยสัมพันธ์กับปัจจุบันขณะในแต่ละกระบวนการอย่างเปิดกว้างโดยธรรมชาติในฐานะเส้นทาง​ ซึ่งก็คือจุดหมายในขณะเดียวกัน


ภาพวาดลายเส้นผลงานสาธิตหลักการ​ ฟ้า​ ดิน​ มนุษย์​ ผลงานจัดดอกไม้โดย​ อ.​ ดิเรก​ ชัยชนะ

ฟ้า​-ดิน​-มนุษย์

​เมื่อผ่านการเรียน-สร้างสรรค์ผลงาน​ผ่านพัฒนาการของอิเคบานะในหัวข้อต่าง​ ๆ​ มาพอสมควรแล้ว​ ในที่สุดก็มาถึงปรัชญาการจัดดอกไม้แห่งสำนัก​ Kalapa​ Ikebana​​ ซึ่งมีวิถีทางปรัชญาที่พัฒนาขึ้นมาผ่านสายธรรม​Shambhala​ โดย​ ตรุงปะ​ รินโปเช​ ชัมบาลาคือดินแดนศักดิ์สิทธิ์​ โลกของผู้ตื่นรู้​หรือสังคมอริยะ​ที่ทุกคนต่างดำรงตนอยู่ในสังคมและสัมพันธ์กับโลกแห่งปรากฏการณ์ด้วยพุทธภาวะเดิมแท้ภายใน แนวคิดที่ว่านำมาสู่ปรัชญาทางศิลปะแบบ​ “ธรรมศิลป์”​ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายให้ผู้สร้างสรรค์และผู้ชมเข้าถึงสภาวธรรมได้​ ผ่านการทำงานศิลปะ​และถ่ายทอดสภาวะของ “ความดีงามพื้นฐาน”​ (Basic​ Goodness)​ ซึ่งมีอยู่ในตัวเราทุกคนนั้นออกมา

*​ เรียนรู้แนวคิด “ธรรมศิลป์”​ เพิ่มเติมได้ใน “รู้เห็นเป็นธรรม”​

สำหรับการจัดดอกไม้อิเคบานะของสำนัก​ Kalapa​ นั้น​ มีหลักการสร้างสรรค์ผลงานที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่​ คือ​ หลักการ​ “ฟ้า​ ดิน​ มนุษย์”​ โดยสามารถอธิบายคร่าว​ ๆ​ ได้ดังนี้

•ฟ้า​ แทน​ “กิ่งหลัก” (กิ่งแรก) ทำหน้าที่เป็น​ vision ของงาน​ เปิดพื้นที่ว่าง​ (space)​ หรือความเป็นไปได้ต่าง​ ๆ​ ที่จะถือกำเนิดขึ้นในพื้นที่ว่างนับจากนี้ เปรียบได้เป็นเฟรมผ้าใบว่างเปล่า

•ดิน​ แทน​ ​สิ่งแรกที่ผุดขึ้นบนพื้นที่ว่าง มีเซนส์ของความ grouding ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่เชื่อมโยงลงสู่เบื้องล่างของผืนดิน เปรียบได้กับรูปร่างหรือรูปทรงที่ปรากฎบนผืนผ้าใบ

•มนุษย์​ แทน สิ่งที่ตามมาหลังจาก ดิน-ฟ้า ได้ปรากฏขึ้น​ เป็นความรื่นรมย์ของชีวิตที่ผุดขึ้นบนโลกเพื่อเล่นล้อไปกับสองสิ่งแรก​ เป็นแง่มุมของการชื่นชมในความงามและการเชื่อมโยงฟ้ากับดินเข้าสู่กัน ซึ่งในศิลปะอิเคบานะ​ มนุษย์ก็คือ​ ดอกไม้​ นั่นเอง

ภาวนากับร่างกายสู่ผืนดิน (Yin Breathing)



สิ่งหนึ่งที่ประทับใจเป็นพิเศษสำหรับการเข้าร่วมชั้นเรียนนี้​ คือ​ การทำ​ bodywork​ คั่นระหว่างกิจกรรม​ เป็นการภาวนาแบบ Yin-Breathing เพื่อเชื่อมโยงกับ “จุดหยิน” บริเวณท้องน้อย​ โดยเน้นการ​ grouding ลงสู่ผืนดิน​ เป็นคุณลักษณะของพลังงานสตรี​ และมีความเชื่อมต่อกับร่างกายส่วนล่าง​ ไม่เน้นความคิด​ (ซึ่งเป็นส่วนบน)​ จุดหยินนี้มีความสัมพันธ์กับ​ root chakra ซึ่งเชื่อมโยงกับผืนโลก​ ความรู้สึกได้รับการโอบอุ้บและความรู้มั่นคง​ โดยในการภาวนาจะค่อย​ ๆ​ ใช้ลมหายใจแตะสัมผัสกับจุดหยิน​ รับรู้ถึงการมีอยู่ของพลังงานส่วนนี้อย่างละเมียดละไม​ มากขึ้นและมากขึ้น​ แล้วปล่อยให้ร่างกายมี​เซนส์ของการจมลงสู่พื้นดิน​ ลึกขึ้น ลึกขึ้น และลึกขึ้นจนไม่อาจหยั่งประมาณ​ สำรวจลักษณะของ​ Space​ ที่เราเข้าไปสัมพันธ์ด้วย​ รวมทั้งการสำรวจขอบเขตของร่างกายและลองแผ่ขยายขอบเขตนั้นออกมา​ทั้งในแนวดิ่งและแนวราบ​ แล้วพากลับมาสู่ปัจจุบันขณะที่สดใหม่​ คมชัด​ ยิ่งขึ้น

หลังจบเซสชั่นการภาวนา bodywork นี้แล้ว รู้สึกว่าส่งผลเป็นอย่างมากต่อการที่จะปฏิบัติงานสร้างสรรค์ต่อไป​ เพราะเมื่อการจัดดอกไม้นับตั้งแต่ช่วงเช้า​ได้ผ่านไป​ 3-4​ กระถาง​ แบบแผนทางความคิดจะเริ่มแทรกตัวเข้ามาโดยไม่รู้ตัว​ เช่น​ การเริ่มรู้จัก-คุ้นตาดอกไม้และกระถาง​​ การได้เห็นงานตัวเองและเพื่อน ๆ ในชั้นเรียน ความคาดหวัง การวิเคราะห์เปรียบเทียบ ฯ อันนำไปสู่การวางแผน​ สร้างภาพในใจ​ และความคิดเกี่ยวกับความงาม-ไม่งาม ซึ่งจะนำไปสู่การตัดสินล่วงหน้า ณ จุดนี้เองที่แง่มุมของ “ความก้าวร้าว” ได้แทรกซึมเข้ามาโดยไม่รู้ตัว ทว่า Yin-Breathing จะช่วยให้เราตระหนักรู้ในส่วนนั้นได้แล้วปล่อยให้สิ่งเหล่านั้นกระจัดกระจายกลับสู่ที่ทางของมัน



ภาพวาดบันทึกผลงานจัดดอกไม้ของผู้เขียนในห้อง​ Hri : Dakini Space

ดิน-ฟ้า (ธรรมชาติ) ก็มีแปรปรวน

เมื่อเข้าสู่วันที่สองของการเรียน โจทย์ของการสร้างผลงานก็จะเริ่มท้าทายมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากการทำงานกับดอกไม้และแจกันแล้ว ปัจจัยเรื่องพื้นที่ก็ได้ถูกเสริมเข้ามา เพื่อให้การจัดดอกไม้นั้นมีความเชื่อมโยงกับ space ที่ต้องเข้าไปสัมพันธ์ด้วยโดยใช้ดอกไม้และกระถางเป็นสื่อ จากภาพตัวอย่างผลงานเป็นโจทย์ของการทำงานในวันสุดท้ายและชิ้นสุดท้ายของชั้นเรียน โดยเราจับฉลากได้ห้องโถงกิจกรรม “หรีะ” หรือ Dakini Space ด้วยตัวพื้นที่นั้นกว้างใหญ่และใช้เป็นสถานที่สำหรับการจัดกิจกรรมต่าง ๆ รวมไปถึงงานดนตรี

หลังจากผ่านการจัดดอกไม้มาสองวัน เราพยายามวางความคิดและความคาดหวังลง ซึ่งพอดีจังหวะกับเซสชันการภาวนาแบบ​ Yin Breathing ที่ได้กล่าวถึงข้างต้น​ ​มาคั่นระหว่างกิจกรรมก่อนจะเริ่มงานชิ้นสุดท้ายนี้พอดี​ ดังนั้นการเผชิญความท้าทายใหม่​ ๆ​ ที่ซึ่งความกลัวและความคาดหวังได้เจือจางลง​ก็ดำเนินต่อไป เริ่มจากการเดินสำรวจพื้นที่​-แท่นวาง​ และมาเลือกกระถาง​ โดยใช้กระถางที่ตลอดมาเราหลีกเลี่ยงเสมอ ซึ่งจัดอยู่ในหมวด “กระถางทรงแปลก” และเข้าสู่ความ unknown ของพื้นที่ ตลอดการปฏิบัติงานชิ้นนี้ราว 30-40 นาที ปัญหาต่าง ๆ ก็เริ่มถาโถม แม้จะพอคาดเดาล่วงหน้าไว้บ้างแต่ก็ดูจะเหนือกว่าที่คาด เราเริ่มงานด้วยการใช้กิ่งแห้งแทนฟ้าเพื่อเปิด space ด้านบนให้ดูโปร่งโล่ง ทำงานไปกับหลักการ ฟ้า-ดิน-มนุษย์ ที่เพิ่งได้ร่ำเรียนมา ใช้ดอกและใบที่ไม่คุ้นเคยรวมทั้งสีโทนร้อนของดอกไม้ที่เรามักจะหลีกหนี เวลาผ่านเรื่อยไป เราทำงานกับข้อจำกัดของกระถางและของกิ่ง ใบ ดอก เมื่อเวลาผ่านไปเลยครึ่งทาง อาจารย์ผู้สอนที่เคารพเดินมาดูขณะเราจัดและถามว่า “เราต้องการให้เห็นด้านนี้ใช่ไหม? ด้านนี้เป็นด้านหลังของกระถางนะ” !? ทันใดนั้น แบบแผนทุกอย่างก็พังครืน เราแทบจะต้องรื้อทุกอย่างใหม่หมด สิ่งต่าง ๆ ใด ๆ ที่วาดหวังไว้ต้องมีอันแปรเปลี่ยนไปด้วยเวลาที่ยิ่งกระชั้นเข้ามา

ด้วยสถานการณ์เช่นว่านี้เองทำให้เราไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากทำให้สำเร็จในเวลาที่กำหนด เมื่อแยกส่วนต่าง ๆ ออกจากกันและเรียบเรียงใหม่ เราหยิบ ตัด ปัก ไปอย่างรวดเร็ว จัดวาง ปรับแต่งตามสมควร และปล่อยให้กิ่ง ใบ ดอก สื่อสารออกมาผ่านข้อจำกัดต่าง ๆ ด้วยการหาสมดุลของปัจจัยนานัปการ ณ ขณะนั้น ทั้งของภาพรวมผลงานเมื่ออยู่ในพื้นที่ ของเวลาอันน้อยนิด ของกระถาง (ไม่ให้ล้ม) ของเส้น-สี ของดอก กิ่งและใบ และละความหวังตั้งใจไว้ในที่ทางของมัน น่าแปลกใจ การจัดดอกไม้กระถางนี้ผลลัพย์กลับกลายออกมาในทางที่ดีและน่าประทับใจหลังได้รับ feedback จากอาจารย์และเพื่อน ๆ ดีกว่าหลายกระถางก่อนหน้าที่เราดูจะตั้งใจและมีเวลาให้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ การทำงานกับพื้นที่นี้นับเป็นบทเรียนที่เข้มข้นมากสำหรับเราในชั้นเรียนครั้งนี้ ด้วยสถานการณ์ที่สืบเนื่องมาทำให้เราต้อง ละ วาง ปล่อย อย่างแท้จริง สถานการณ์ที่ดำเนินไปมีส่วนทำให้เราต้องสัมพันธ์กับพื้นที่และดอกไม้ด้วยความเป็นไป ณ ขณะนั้นจริง ๆ นั่นอาจเป็นเหตุให้ “ความคิด” เบาบางลงโดยปริยาย เมื่อนั้นพื้นที่ของ “ใจ” (space) ก็ว่างโล่งขึ้น เป็นเหตุให้เราได้สื่อสารกับพืชพันธุ์ด้วยความซื่อตรง แม่นยำ ชัด ลึก ยิ่งขึ้น

กระบวนการระหว่างการปฏิบัติงานอันทุลักทุเลและไม่อาจเดาทางได้นี้ในตัวมันเองก็คงคลับคล้ายการร่ายรำของเหล่าฑากินีบนท้องฟ้า  เมื่อเราสื่อสารกับพื้นที่ผ่านดอกไม้ พื้นที่ก็ดูเหมือนจะสื่อสารกับเราดุจเดียวกัน

เหมือนตอนที่กลับไปถ่ายผลงานชิ้นนี้ กลีบดอกสีส้มในวงรีกลีบหนึ่งก็ร่วงหล่นลงตรงหน้างาน ดังคำทักทายของพื้นที่


ภาพวาดลายเส้นแสดงการเริงรำระหว่าง​ มนุษย์​ พืชพันธุ์​ และพื้นที่ว่าง​ (ฟ้า​ ดิน​ มนุษย์)​

“ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนยอมรับได้ ทั้งใน อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต”

ประโยคหนึ่งของ อ.เชค (ดิเรก ชัยชนะ) ในช่วงท้ายของชั้นเรียนวันที่สอง

ในความเข้าใจของผู้เขียนคือ สภาวการณ์ต่าง ๆ ล้วนเป็นที่ต้อนรับเข้ามาให้เราได้สัมผัส-สัมพันธ์ หากเราสามารถกระทำการไปกับปัจจัยต่าง ๆ ด้วยสภาวะของความเปิดกว้างมากพอ “ความก้าวร้าว” ก็ย่อมแปรเปลี่ยนไปสู่ “ความอ่อนโยน” ได้อย่างเป็นธรรมชาติ แล้วสำนึกของเรากับสำนึกของดอกไม้ก็อาจพบบรรจบกันตรงนั้นเอง

แล้วพบกันอีกใน “ดอกไม้สื่อใจ ขั้น 2”



วัชรสิทธา

สถาบันวัชรสิทธา ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นพื้นที่ทดลองทางการศึกษา บนพื้นฐานของการภาวนา การใคร่ครวญด้วยใจ และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์อย่างเป็นมนุษย์ระหว่างผู้เรียน

จาก https://www.vajrasiddha.com/article-kongikebana/

จาก http://tairomdham.net/index.php/topic,16382.0.html

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
รู้เพื่อรอด : เวบไซท์ สำนัก เฝ้าระวัง แผ่นดินไหว
รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ 0 2166 กระทู้ล่าสุด 18 มกราคม 2553 13:42:36
โดย 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.772 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 7 ชั่วโมงที่แล้ว