[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
22 ธันวาคม 2567 17:28:19 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: 慈善機構  (อ่าน 2255 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.6.10 Firefox 3.6.10


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 17 กันยายน 2553 12:52:05 »



<a href="http://www.youtube.com/v/ltga-Clm2bY?fs=1&amp;amp;hl=en_US" target="_blank">http://www.youtube.com/v/ltga-Clm2bY?fs=1&amp;amp;hl=en_US</a>


เมื่อมีการทำบุญอย่างใดอย่างหนึ่งก็กล่าวอุทิศส่วนบุญว่า.............................

ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลที่ได้บำเพ็ญแล้วในวันนี้

แก่มารดาบิดา - ทั้งอดีตและผู้มีพระคุณ

ทั้งอดีตอนันตชาติ

แก่ญาติและมิตรสหายผู้ล่วงลับไปแล้ว

ตลอดจนเทพและอมนุษย์ทั้งหลาย

ขอจงมีจิตโสมนัสยินดี

อนุโมทนาในส่วนกุศลนี้โดยทั่วกันเทอญ



เทียบเคียงในพระไตรปิฎก


อุทิศบุญให้ผู้ล่วงลับทันที เล่ม 39 หน้า 284


เปรตพวกนั้น พากันไปยืนที่นอกฝาเรือนเป็นต้นด้วยหวังว่าวันนี้พวกเราคงได้อะไรกันบ้าง พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงทำโดยอาการที่เปรตพวกนั้นจะปรากฏแก่พระราชาหมดทุกตนพระราชาถวายน้ำทักษิโณทก{ถวายน้ำเป็นทาน}ทรงอุทิศว่าขอทานนี้จงมีแก่พวกญาติของเราทันใดนั้นเองสระโบกขรณีดารดาษด้วยปทุม ก็บังเกิดแก่เปรต พวกนั้น เปรตพวกนั้นก็อาบและดื่มในสระโบกขรณีนั้นระงับความกระวนกระวายความลำบากและหิวกระหายได้แล้ว มีผิวพรรณดุจทองลำดับนั้นพระราชาถวายข้าวยาคู ของเคี้ยว ของกินเป็นต้นแล้วทรงอุทิศในทันใดนั้นเองข้าวยาคูของเคี้ยวและของกินอันเป็นทิพย์ก็บังเกิดแก่เปรตพวกนั้นเปรตพวกนั้นก็พากินบริโภคของทิพย์เหล่านั้นมีอินทรีย์เอิบอิ่มลำดับนั้นพระราชาถวายผ้าและเสนาสนะ
{ที่อาศัย}เป็นต้นทรงอุทิศให้เครื่องอลังการต่าง ๆ มีผ้าทิพย์ ยานทิพย์ ปราสาททิพย์ เครื่องปูลาดและที่นอนเป็นต้นก็บังเกิดแก่เปรตพวกนั้นสมบัติแม้นั้นของเปรตพวกนั้นปรากฏทุกอย่างโดยประการใด พระผู้มีพระภาคเจ้า ก็ทรงอธิษฐานให้พระราชาทรงเห็น)โดยประการนั้นพระราชาทรงดีพระทัยยิ่ง



เมื่อทำบุญแล้วควรอุทิศบุญให้ท่านเหล่านี้ เล่ม 49 หน้า 30


บุคคลผู้ไม่ตระหนี่ควรทำเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง คือปรารภถึงบุรพเปตชน นึกถึงบรรพบุรุษผุ้ตายไป หรือเทวดาผู้สิงอยู่ในเรือ

หรือท้าวมหาราชทั้ง ๔  ผู้รักษาโลก ผู้มียศ คือ....................................

ท้าวธตรฐ ๑

ท้าววิรุฬหก ๑

ท้าววิรูปักษ์ ๑

ท้าวกุเวร  ๑  

ให้เป็นอารมณ์แล้วพึงให้ทานท่านเหล่านั้นเป็นอันบุคคลได้บูชาแล้วและทายกผู้ให้ทาน ก็ไม่ไร้ผลความร้องไห้ ความเศร้าโศก หรือความร่ำไห้อย่าง
อื่นไม่ควรทำเลยเพราะความร้องไห้เป็นต้นนั้น ย่อมไม่เป็น ประโยชน์แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ญาติทั้งหลาย ที่ตายไป คงตั้งอยู่ตามธรรมดาของตน ๆ
อันทักษิณาทาน สิ่งของทำบุญ นี้ที่ท่านเข้าไปตั้งไว้ดีแล้วในสงฆ์ ให้แล้ว อุทิศให้ญาติที่ตายไป ย่อมสำเร็จประโยชน์แก่บุรพเปตชนโดยทันที สิ้น
กาลนาน



อุทิศบุญบ่อย ๆ เพื่ออนุเคราะห์แก่เปรตทั้งหลาย เล่ม 49 หน้า 348



เพราะฉะนั้น บัณฑิตผู้มีปัญญา พึงให้ทักษิณาผลบุญ บ่อย  ๆ เพื่ออนุเคราะห์แก่เปรตทั้งหลายเปรตเหล่าอื่น บางพวกนุ่งผ้าขี้ริ้วขาดรุ่งริ่ง บางพวกนุ่งผม หลีกไปสู่ทิศน้อยทิศใหญ่เพื่อหาอาหารบางพวกวิ่งไปแม้ในที่ไกลก็ไม่ได้อาหารแล้วกลับมาบางพวกสลบแล้วเพราะความหิวกระหายนอนกลิ้งไปบนพื้นดินบางพวกล้มลงที่แผ่นดินในที่ตนวิ่งไปนั้นร้องไห้ร่ำไรว่าเมื่อก่อนเราทั้งหลายไม่ได้ทำกุศล ความดีไว้ จึงได้ถูกไฟคือความหิวและความกระหายเผาอยู่ดุจถูกไฟเผาแล้วในที่ร้อนเมื่อก่อนพวกเรามีธรรมอันลามกป็นหญิงแม่เรือนมารดาทารกในตระกูล เมื่อไทยธรรม{ของทำบุญ}ทั้งหลายมีอยู่ไม่กระทำที่พึ่งแก่ตนเออ…....ก็ข้าวและน้ำมีมากแต่เราไม่กระทำการแจกจ่ายให้ททานและไม่ได้ให้อะไรในบรรพชิตทั้งหลาย ผู้ปฏิบัติชอบอยากทำแต่กรรมที่คนดีไม่พึงทำเป็นคนเกียจคร้านใคร่แต่ความสำราญและกินมากให้แต่เพียงโภชนะก้อนหนึ่งด่าปฏิคาหก(ผู้รับทาน)ผู้รับอาหารเรือนพวกทาสีทาสา คนรับใช้ชาย – หญิง และผ้าอาภรณ์ของเราเหล่านั้นไม่สำเร็จประโยชน์แก่พวกเรา พวกเขาไปบำเรอคนอื่นหมดเรามีแต่ส่วนแห่งทุกข์เราจุติ (ตาย)จากเปรตนี้แล้วจักไปเกิดในตระกูลอันต่ำช้าเลวทราม คือ ตระกูลจักสาน ตระกูลช่างรถ ตระกูลนายพรานตระกูลคนจัณฑาล ตระกูลคนกำพร้า ตระกูลช่างกัลบกนี้เป็นคติ (ที่ไปเกิดของสัตว์) แห่งความตระหนี่ส่วนทายกทั้งหลายผู้มีกุศลอันทำไว้แล้วในชาติก่อน ปราศจากความตระหนี่ย่อมยังสวรรค์ให้บริบูรณ์และย่อมยังนันทวันให้สว่างไสวรื่นรมย์แล้วในเวชยันตปราสาทสำเร็จความ ปรารถนาครั้นจุติ(ตาย)จากเทวโลกแล้ว ย่อมเกิดในตระกูลสูงมีโภคะ(ทรัพย์สมบัติ)มาก


ทำบุญให้เทวดาบริเวณที่อาศัยอยู่ เล่ม 44  หน้า 755


บุรุษชาติบัณฑิตย่อมสำเร็จการอยู่ในประเทศ(สถานที่)ใดพึงเชิญท่านผู้มีศีลผู้สำรวมแล้วผู้ประพฤติพรหมจรรย์ให้บริโภคในประเทศนั้น  
แล้วควรอุทิศทักษิณาทาน(อุทิศบุญ)เพื่อเทวดาผู้สถิตอยู่ในที่นั้น ๆ เทวดาเหล่านั้นอันบุรุษชาติบัณฑิตนับถือบูชาแล้วย่อมนับถือบูชาบุรุษชาติบัณ
ฑิตนั้น แต่นั้นย่อมอนุเคราะห์บุรุษชาติบัณฑิตนั้นประหนึ่งมารดาอนุเคราะห์บุตร        
บุคคลผู้อันเทวดาอนุเคราะห์แล้วย่อมเห็นความเจริญทุกเมื่อ


Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 กันยายน 2553 15:36:33 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

คำค้น: 慈善 อุทิศ ส่วน กุศล ผู้ล่วงลับ บางครั้ง ธรรม เปรต ตระกูล สูง ต่ำ dhamma อภิญญา 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.305 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 12 มีนาคม 2567 06:26:14