"SKYLINE เผยโฉมกองทัพผู้บุกรุก เปิดฉากการต่อสู้ปกป้องวันสิ้นโลก"
เปิดฉากการต่อสู้ปกป้องวันสิ้นโลก
ใช้เอฟเฟคเหนือกว่าหนังทุกเรื่องในโลก ใกล้เข้าไปทุกทีสำหรับภาพยนตร์มหาสงครามแอคชั่น-ไซไฟส่งท้ายปี ฟอร์มยักษ์ SKYLINE สงครามสกายไลน์ดูดโลก ที่หลังจากปล่อยตัวอย่างแรกออกมาและมีผู้เข้าไปดูในเวปดังอย่างยูทูปเกือบ 10 ล้านคนนั้น ทาง 2 พี่น้องสเตราท์ ผู้กำกับอัจฉริยะมือขวาของ เจมส์ คาเมรอน ที่ได้รวบรวมมือสเปเชียลเอฟเฟคขั้นเทพที่ได้ชื่อว่าเป็นมือ 1 ของโลกเอาไว้ และล่าสุด Skyline มหากาพย์ภาพยนตร์แอ็คชั่น-ไซไฟ มีการใช้สเปเชี่ยลเอฟเฟ็คมากกว่า 800 ช๊อต ซึ่งถือว่ามากกว่าหนังบล็อคบัสเตอร์ชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Iron Man 2 (530 ช๊อต), X-Men: The Last Stand (600 ช๊อต), Transformers (630 ช๊อต), หรือแม้กระทั่ง Titanic (516 ช๊อต)
ผู้กำกับ เกร็ก สเตราส์ เผยว่า 'Skyline มีเอฟเฟ็คทั้งหมดประมาณ 800 ช๊อต ซึ่งถือว่าเยอะมากสำหรับหนังเรื่องหนึ่ง มันเยอะพอกับหนังที่มีทุนสร้าง 120 ล้านเหรียญ ที่รู้เพราะพวกเราเป็นคนทำเอฟเฟ็คให้กับหนังเหล่านั้น ผมคิดว่านี่ถือเป็นข้อดีที่เรามีพื้นฐานมาทางสเปเชี่ยลเอฟเฟ็ค ซึ่งทำให้คุณสามารถเล่นกับเอฟเฟ็คและใช้ทรัพยากรได้อย่างเต็มที่ เพราะเรารู้ว่าจะทำยังไงให้มันออกมาเจ๋งที่สุด จับตาดูให้ดีกองทัพเอเลี่ยนที่จะได้เห็นในสกายไลน์ รับรองได้ว่าคุณจะไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน พวกมันจะตัวโตกว่า หุ่นยักษ์ใน Transformers ที่สำคัญพวกมันไม่ได้มีตัวเดียวแต่มากันเป็นกองทัพ ฉ '
SKYLINE : สงครามสกายไลน์ดูดโลก เป็นเรื่องราวของเพื่อนกลุ่มหนึ่งที่ปาร์ตี้กันบนคอนโดหรู แล้วจู่ๆ ก็เห็นลำแสงสีฟ้าส่องลงมายังพื้นโลก และดูดเอามนุษย์โลกขึ้นไปด้วย แท้จริงแล้วแสงสีฟ้าพวกนั้นคือแสงจากยานของผู้บุกรุกที่ได้ยินเสียงคลื่น สัญญาณจากนาซ่า และเข้าใจผิดคิดว่าเป็นการส่งสารท้ารบ กองทัพ เอเลี่ยนที่มีเทคโนโลยีและดุร้ายเกิน
ความสามารถที่มนุษย์ธรรมดาจะต้านทาน จึงพร้อมกรีฑาทัพเพื่อยึดครอง ทางเดียวที่มนุษย์ที่เหลืออยู่จะรอดชีวิตได้คือพวกเขาต้องร่วมมือกันเพื่อปกป้องคนที่เขารัก และเสียสละเพื่อร่วมต่อสู้ด้วยกันเพื่อไม่ให้วันสิ้นโลกเดินทางมาถึง
SKYLINE สงครามสกายไลน์ดูดโลก
1. ฉากยานแม่บุกโลกหายนะของโลกใน Skyline เริ่ม ต้นเมื่อ จาร์รอด (เอริค บัลโฟร์) และ เทอร์รี่ (โดนัล ไฟสัน) วิ่งขึ้นไปบนดาดฟ้า พวกเขามองเห็นคนขึ้นมาบนดาดฟ้าของตึกหลังอื่นเช่นกัน เมื่อยานลึกลับโผล่ออกมาจากหมอกสีดำที่ปกคลุมทั่วท้องฟ้า ทันใดนั้นแสงสีฟ้าก็ถูกฉายลงมายังตัวเมือง จาร์รอด ที่ถือกล้องถ่ายรูปพยายามซูมเข้าไปหาแสงสีฟ้า เพราะเขาสังเกตุเห็นวัตถุเล็กๆ ที่กำลังถูกดูดขึ้นไป... วัตถุนั้นปรากฏว่าเป็นร่างของมนุษย์ ทันใดนั้นยานแม่ลำอื่นก็ส่องแสงลงมาคนบนตึกข้างเคียง ซึ่งกำลังเงยหน้าดูแสงก่อนที่จะถูกดูดขึ้นไปเช่นกัน จาร์รอด และ เทอร์รี่ พบว่ามีบางสิ่งผิดปกติและต้องหนีออกจากดาดฟ้า ก่อนที่พวกเขาจะกลายเป็นเหยื่อรายต่อไป
ความลับ: เมื่อเผลอมองแสงสีฟ้า มนุษย์ก็จะถูกดูดขึ้นไปบนท้องฟ้า
2. ฉากเปิดตัวเอเลี่ยนขนาดใหญ่ที่สุดในโลกภาพยนตร์
ฉาก นี้เกิดขึ้นเมื่อกลุ่มพระเอกหนีลงมาถึงลานจอดรถ พวกเขาแบ่งรถเป็นสองคันโดยพยายามหนีออกจากตัวเมือง เทอร์รี่ ขับเฟอร์รารี่คันหน้าและออกจากลานจอด ทันใดนั้นฝูงเอเลี่ยนยักษ์ก็เอาเท้ากระทืบรถหรูจนเละ เทอร์รี่ ที่รอดอย่างปาฏิหาริย์คลานออกมาจากซากรถ ยิงปืนใส่อย่างบ้าคลั่ง และวิ่งมาสมทบกับรถอีกคัน ทันใดนั้นมันก็ปล่อยกรดและแยกรถออกเป็นชิ้นๆ จนทำให้ทุกคนต้องหาทางอื่นเพื่อเอาตัวรอด...
ความลับ: นอก จากการใช้แสงสีฟ้าแล้ว พวกมันยังส่งเอเลี่ยนที่เป็นหน่วยรบภาคพื้นดิน ซึ่งมีหน้าที่ในการเก็บกวาดมนุษย์ที่ยังไม่ถูกดูดขึ้นไปบนท้องฟ้า โดยมันมีขนาดตัวที่สูงใหญ่กว่าทุกตึกในโลก และยังมีอาวุธสังหารอันทรงพลัง
3. ฉากมหาสงครามวันสิ้นโลกฉาก สำคัญอีกฉากเกิดขึ้นในขณะที่พวกพระเอกอยู่ในคอนโด พวกเขาเห็นกองทัพของทหารเข้ามาต่อสู้กับผู้รุกราน โดยมีฝูงเครื่องบินเจ็ทบินเข้าถล่มยานแม่ซึ่งปล่อยยานรบออกมาตอบโต้เช่นกัน นี่คือสงครามระหว่างเผ่าพันธ์อย่างแท้จริง ในขณะเดียวกันทางกองทัพก็มีเครื่องบินทิ้งระเบิดที่บรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ ก่อนที่จะยิงใส่ยานแม่ลำหนึ่งและก่อให้เกิดแรงระเบิดระดับพลาสม่าจนทำให้ยาน แม่ตกสู่พื้น
ความลับ: ยาน แม่ไม่ได้ไร้เทียมทานเมื่อเจอกับระเบิดพลังสูง แต่ระเบิดนิวเคลียร์หนึ่งลูกสามารถจัดการได้เพียงลำเดียวเท่านั้น แล้วยานแม่จำนวนมหาศาลที่กระจายไปทั่วโลกล่ะ... มนุษยชาติจะทำอย่างไร ?