มาฟัง คำตอบว่าทำไม คุณยายจึงบริจาคที่ดิน ให้สร้างห้องสมุด
ยังจำเรื่องราวของคุณยายผู้ใจบุญที่ทางเว็บปาฏิหาริย์เคยลงไว้ได้ไหม ? เรื่องราวของ
คุณยายทองสวรรค์ วงษ์รัตนะที่ทำอาชีพขายผักในตลาด แต่มีที่ดินเป็นมรดก แล้วยอมยกที่ดินที่มีมูลค่าสูงเช่นนี้ ให้เป็นสาธารณะประโยชน์ โดยได้ยกให้สร้างเป็น หอสมุดเฉลิมพระเกียรติเมื่อหลายปีก่อน จนมาเมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา คุณยายได้รับเหรียญพระราชทานจากสมเด็จพระเทพ ฯ เพื่อตอบแทนในน้ำใจและความเสียสละของคุณยายท่านนี้
ซึ่งสำนักข่าวของกรุงเทพธุรกิจได้ลงไปทำข่าวของคุณยายท่านนี้ ว่าท่านมีสาเหตุจูงใจใดที่ตัดสินใจนำไปบริจาค ดังนี้ว่า
เป็นความต้องการของตนเอง และน้องสาวที่เห็นดีด้วยที่จะร่วมบริจาคที่ดินให้กับทางราชการ เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลฯให้กับสมเด็จพระเทพฯ เพื่อจะได้นำไปใช้เพื่อสาธารณะ
คุณยายทองสวรรค์ ยังเล่าต่อว่า ตนเองตัดสินใจกับน้องสาวเพียงไม่กี่วัน ก็ได้ไปเดินเรื่องเพื่อขอแยกโฉนดที่ดินให้ง่ายกับการบริจาค แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าจะบริจาคให้ใคร หรือหน่วยงานไหน แต่เมื่อทราบว่า ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดสกลนคร กำลังมองหาพื้นที่ก่อสร้างห้องสมุดประชาชน เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ ตนเห็นว่าเป็นประโยชน์ จึงตัดสินใจบริจาคให้ โดยได้ขอความมั่นใจจาก ผอ.ศูนย์ กศน.ขณะนั้นว่า เมื่อได้รับที่ดินไปต้องมีการก่อสร้าง ไม่ใช่รับบริจาคไปแล้วไม่ทำอะไรเลย เพราะตนเองและน้องสาว ก็ต้องการเห็นว่า พื้นที่ดังกล่าวได้สร้างประโยชน์ให้กับชุมชนและสังคม ในช่วงเวลาบั้นปลายของชีวิตที่เหลืออยู่
“ไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนใดๆ เคยมีคนมาขอซื้อที่ดินเมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว มูลค่ากว่าร้อยล้านบาท แต่มองว่า เมื่อได้เงินมาแล้วปัญหาต่างๆจะตามมาอีกมากมาย ในชีวิตอายุ 70 ปี และน้องสาวอายุ 60 ปี ที่อยู่ด้วยกันเพียงสองคน แม้จะเป็นพี่น้องคนละพ่อ แต่ก็มีความรักใคร่ไม่เคยทะเลาะกันเลย อีกทั้งไม่มีครอบครัวและไม่มีลูก จึงอาศัยทำนาและปลูกผัก เก็บผัก หาปลา ตามท้องทุ่งมากิน และเมื่อเหลือจะนำไปขายที่ตลาดสด ชีวิตจึงไม่ได้เดือดร้อนอะไร” คุณยายทองสวรรค์ กล่าว
คุณยายทองสวรรค์ เล่าอีกว่า หลังจากบริจาคที่ดินไปก็มีการก่อสร้างเป็นศูนย์ กศน.อ.เมืองสกลนคร และก่อสร้างเป็นห้องสมุดประชาชน ‘เฉลิมราชกุมารี’ อำเภอเมืองสกลนคร จนแล้วเสร็จ และมีการใช้ประโยชน์ตามเจตนารมณ์ที่ตนเองและน้องสาวตั้งใจไว้ ตอนนี้รู้สึกสบายใจ หมดห่วง และภูมิใจในชีวิต แม้ช่วงแรกจะมีคนมาทักท้วงว่าพื้นที่ดังกล่าวมีมูลค่ามหาศาล แต่เมื่อตนเองมีความตั้งใจไว้แล้ว ก็ต้องทำ
สำหรับพื้นที่ที่ดินที่บริจาคดังกล่าว ด้านหน้าอยู่ติดริม ถ.สกลทวาปี ซึ่งเป็นถนนตัดใหม่ โดยสำนักงานทางหลวงชนบทสกลนคร ได้ทำการเวนคืนเพื่อก่อสร้างเป็นถนนเลี่ยงเมืองชั้นใน รองรับการขยายตัวของชุมชนเมือง จุดเริ่มต้นโครงการเชื่อมต่อกับสี่แยกถนนคูเมือง เขตเทศบาลนครสกลนคร ปัจจุบันเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญ มีทั้งห้างสรรพสินค้า ย่านตลาดสด ตลอดจนพื้นที่ก่อสร้างหมู่บ้าน ที่อยู่อาศัย มีบ้านเรือนประชาชนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น ปัจจุบันมีมูลค่านับร้อยล้านบาท
ที่มา :
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/690434http://www.partiharn.com/contents/147835/