CHAPTER ONE OF สังขารุเปกขาญาณ
ถึงพระนิพพานก็จะยึดรูปนามมาเป็นอารมณ์ซ้า ๆ อยู่อย่างนั้นอีก
สังขารุเปกขาญาณนี้ยิ่งนานก็ยิ่งละเอียด สุขุม ประณีต ดุจบุคคลเอาตะแกรงร่อนแปู้งฉะนั้นเมื่อพิจารณารูปนามโดยประการต่าง ๆ แล้วละความกลัวละความยินดี วางเฉยได้ จิตย่อมตั้งมั่นอยู่ด้วยอานาจของอนุปัสสนาทั้ง 3 เมื่อตั้งอยู่โดยอาการอย่างนี้ย่อม ถึงความเป็นวิโมกขมุข 3 วิโมกขมุข แปลว่า
หนทางแห่งความหลุดพ้นโดยวิเศษจากกิเสสทั้งปวง ได้แก่อนุปัสสนาทั้ง 3 เพราะเป็นหนทางนาออกไปจากโลกนาไปเหนือโลก คือโลกุตตระได้แก่หนทางไปสู่พระนิพพาน
ยอดของวิปัสสนา ธรรมดาต้นไม้ต้องมียอดฉันใด วิปัสสนาก็มียอดฉันนั้น ยอดของวิปัสสนามี 2 อย่าง คือ
สิกขาปัตตะ วิปัสสนาที่ถึงยอดถึงปลายถึงความสูงสุด ได้แก่ สังขารุเปกขาญาณ ที่ครบองค์ 6 คือ..........................................
1. ไม่มีความกลัว ไม่มีความยินดียินร้าย
2. ดีใจก็ไม่มี เสียใจก็ไม่มี
3. วางเฉยในสังขารทั้งปวง
4 ปล่อยวางแล้ววางเฉยได้ในที่สุดหรือสมาธิตั้งอยู่นานกาหนดอยู่ได้นาน ๆ
5. มีความเป็นกลางในการตรวจสอบสังขารหรือตั้งอยู่ในอนุปัสสนา 3
6. ไม่ปรารถนาในภพต่าง เมื่อครบองค์ 6 แล้ว ผู้นั้นก็มีหวังจะได้บรรลุ มรรค ผลนิพพานอย่างแน่นอน
วุฏฐานคามินี วิปัสสนาที่ออกจากนิมิตจากวัตถุที่เป็นเหตุให้ยึดมั่นถือมั่น ได้แก่ขันธ์ 5 ซึ่งเป็นอารมณ์ของวิปัสสนาและวิปัสสนาที่
ออกไปจากมิจฉาทิฏฐิ ภายในขันธสันดานของตน และออกไปจากกองกิเลสที่เป็นไปตามมิจฉาทิฏฐินั้นเอง
..........................................จบสังขารุเปกขาญาณ......................................