[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
22 ธันวาคม 2567 20:32:00 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ปฐมเหตุเกิดสถานเสาวภา "หมาบ้า” กัดพระธิดากรมพระยาดำรงราชานุภาพ “สิ้นชีพตักษัย"  (อ่าน 1032 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5800


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 28 มีนาคม 2561 13:36:59 »


หม่อมเจ้าบันลุศิริศานต์ ดิศกุล
ภาพจาก : wikimedia.org

ปฐมเหตุเกิดสถานเสาวภา
“หมาบ้า” กัดพระธิดากรมพระยาดำรงราชานุภาพ “สิ้นชีพตักษัย”

เรื่องน่าเศร้าที่ “หมาบ้า” กัดพระธิดาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ จนเป็นเหตุให้สิ้นชีพตักษัยนั้น ม.จ. พูนพิศมัย ดิศกุล ทรงนิพนธ์เล่าไว้ในหนังสือพระราชวงศ์จักรี สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖ (สิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็น สมัยรัชกาลที่ ๖) จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์มติชน ทรงกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “…ในเวลาที่กำลังมีการซ้อมรบเสือป่าประจำสัปดาห์อยู่นี้ มีเหตุที่เศร้าโศกเกิดขึ้นเรื่องหนึ่ง คือ พวกพี่น้องรุ่นเดียวกับข้าพเจ้าออกไปเยี่ยมจากกรุงเทพฯ กันชั่วคราว. วันหนึ่งเรากำลังเล่น-เอาเถิด-กันอยู่กลางสนามหน้าบังกะโล เวลาราว ๑ ทุ่ม มีหมาดำตัวหนึ่งวิ่งไล่อ้าปากน้ำลายไหลและหางตกเข้ามาทางหน้าบ้าน มันวิ่งเหยาะเหยาะตรงเข้ามาทางพวกเรา ทุกคนก็ร้องว่า-“หมาบ้าๆ” แล้วต่างคนต่างก็วิ่งเฮขึ้นบนเก้าอี้กลางสนามและวิ่งเข้าไปบ้านบังกะโลกันวุ่นไป.

หญิงเภา [หม่อมเจ้าบันลุศิริศานต์ ดิศกุล พระธิดาในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ กับหม่อมเจิม (สกุลเดิม สนธิรัตน์)] น้องข้าพเจ้าวิ่งตามมาจะขึ้นเก้าอี้ตัวเดียวกัน, แต่เพอินเธอล้มและขายื่นไปทางหมา มันก็ตรงเข้างับเป็นแผลลึก, เสียงเราร้องกันอึกทึก จนผู้ใหญ่วิ่งออกมาช่วยไล่หมาไปได้และอุ้มเอาหญิงเภาขึ้นไปบนเรือน, เรียกหมอมาทำแผลเรียบร้อยแล้ว, เขาก็พากันไปไล่จับหมาว่าจะเป็นบ้าจริงหรือไม่. เมื่อจับได้ด้วยตีตายแล้วเขาก็ส่งศพมันไปให้ตรวจน้ำลายที่โรงพยาบาลทำหนองปลูกฝี. พอราว ๒ ยามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จมาเสวยเครื่องว่างตามเคย, ทรงทราบเรื่องราวก็ทรงแนะนำเสด็จพ่อให้ส่งหญิงเภาไปรักษาที่ฮ่องกงจะดีกว่าทุกทาง. เสด็จพ่อก็ทรงเห็นตามพระราชดำริห์ให้โทรเลขว่าตั๋วเรือที่กรุงเทพฯ เพอินเรือออกไปเสียแล้ววันนั้นเอง จึงจำต้องรอเรือไปอีกอาทิตย์หนึ่ง. ในระหว่างนั้นมีหลายคนที่เชื่อว่าหมาไม่บ้าและตัวหญิงเภาก็ร้องไห้ไม่ยอมไป, วิงวอนขอรักษาในเมืองไทยจนได้. ส่วนทางโรงซีรัมเขาก็รายงานว่า หมาตัวนั้นบ้าจริงๆ แต่ก็ไม่มีใครรู้คุณของการรักษาอย่างฉีดยาในเวลานั้น. ทุกคนยังเชื่อว่าไม่ใช่หมาบ้าจริงๆ อยู่.ต่อมา ๓ เดือนเศษมีงานแรกนาที่ทุ่งพญาไท, พวกเราก็จะไปดูงานนั้นกันหลายคน. หญิงเภาเกิดปวดหัวตัวรุ่มเหมือนจะเป็นไข้ขึ้นมาผู้ใหญ่ห้ามว่าอย่าไปเลย แต่ทุกคนนึกว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องหมากัด. รุ่งขึ้นอีกวันก็เลยตัวร้อนจริงๆ และมีอาการแปลกแปลกขึ้นกว่าไข้ธรรมดา. เสด็จพ่อทรงตกพระทัยให้ตามหมอปัวร์มาในทันที หมอมาถึงตรวจแล้วก็เรียกน้ำใส่ถ้วยแก้วมาให้กิน หญิงเภาเองก็อยากกิน แต่พอเห็นน้ำเข้าสดุ้ง เธอพยายามจะกินแต่ก็กินไม่ได้ บอกแต่ว่ากลัวอย่างอธิบายไม่ถูก. หมอก็ตามใจลากลับ

ครั้นมาถึงข้างนอกหมอก็กระซิบทูลขอเฝ้าเด็จพ่อเป็นไปรเวต แล้วทูลว่าอยู่ได้อีก ๒๔ ชั่วโมง. แต่นั้นมาอาการก็มีแน่นยิ่งขึ้นทุกที, จนถึงบิดตัวดิ้นรนจนต้องช่วยกันจับไว้น้ำลายฟูเต็มๆ ปาก แต่เป็นอยู่เป็นพักๆ แล้วก็หายพูดได้เป็นปรกติ. สิ่งที่เศร้าใจอย่างยิ่งก็ด้วยเธอรู้ตัวว่าจะตาย เรียกทุกๆ คนไปลาเวลาหายแน่น พอถึงเวลาแน่นขึ้นมาก็โบกมือไล่คนข้างๆ พูดร่อมแร่มๆ ว่า “ไปๆ เดี๋ยวฉันจะกัดต่อ” ข้าพเจ้าไม่อยู่ เข้าไปข้างในวังเวลานั้น, แต่เธอสั่งไว้ว่าให้ลาด้วย. พอเธอตายแล้วแม่นมข้าพเจ้าไปตามข้าพเจ้ามาจากในวัง มาถึงเห็นแต่ศพนอนตายสีเขียวทั้งตัว และที่ตรงแผลหมากัดไว้นั้นเขียวจนดำ. เราร้องไห้กันเสียมากมาย.

ผลของการเศร้าโศกนี้, เป็นเหตุให้เสด็จพ่อทรงพยายามเรี่ยรายทำสถานปาร์สเตอร์* ขึ้นได้ในกรุงเทพฯ แต่คราวนั้นและต่อมาก็เกือบจะไม่มีใครที่ต้องตายเพราะหมาบ้าอีก. จึงควรนับว่าหญิงเภาได้ตายไปเพื่อช่วยชีวิตคนไว้เป็นอันมาก.”


-----------------------------------------------------------------------------------------
* พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้ตึกหลวงที่ถนนบำรุงเมืองเป็นที่ทำการผลิตและฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า เมื่อสร้างเสร็จใน พ.ศ.๒๔๕๖ โปรดเกล้าฯ ให้เรียกชื่อว่า “ปาสตุรสภา” ตามชื่อ หลุยส์ปาสเตอร์ (Louis Pasteur) นักเคมีชาวฝรั่งเศสผู้พบวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ต่อมา พ.ศ.๒๔๖๐ โปรดเกล้าฯ ให้โอนปาสตุรสภาจากกระทรวงมหาดไทยไปสังกัดสภากาชาดไทย และเปลี่ยนชื่อเป็น “สถานปาสเตอร์”ต่อมาใน พ.ศ.๒๔๖๓ ทรงบริจาคพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ให้แก่สภากาชาดไทย จัดสร้างที่ทำการของสถานปาสเตอร์แห่งใหม่ขึ้นที่ถนนพระราม ๔ และได้พระราชทานนาม “สถานเสาวภา” เพื่อเป็นพระบรมราชานุสาวรีย์เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถพระบรมราชชนนี พันปีหลวง

ขอขอบคุณที่มา : นิตยสารศิลปวัฒนธรรม

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 มีนาคม 2561 13:43:10 โดย Kimleng » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.396 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 12 พฤศจิกายน 2567 04:36:40