โอม มณี ปัทเม หุมท่านคาลุ รินโปเช กล่าวว่ามีการตีความมนตร์บทนี้อีกอย่างหนึ่งว่า เสียง โอม คือสารัตถะแห่งรูปของผู้เข้าถึง
ความรู้แจ้ง มณี ปัทเม หรือ พยางค์ทั้งสี่
กลางบท หมายถึง คำพูดของผู้บรรลุธรรม และ พยางค์สุดท้าย หุม หมายถึง
จิตใจของผู้เข้าถึงความรู้แจ้ง กาย วาจา และ ใจของพระพุทธเจ้าและ พระโพธิสัตว์
ทั้งหลายดำรงอยู่ในเสียงของมนตร์บทนี้
มนตร์บทนี้ได้ชำระล้างสิ่งเคลือบคลุมครอบงำกาย วาจา และใจ ทั้งยังนำสรรพชีวิต
เข้าสู่ความรู้แจ้ง เมื่อมนตร์บทนี้ประกอบเข้ากับศรัทธา และ วิริยะ
ในการบำเพ็ญสมาธิภาวนาและการสาธยายมนตร์ อานุภาพในการแปรเปลี่ยน
ของมนตร์บทนี้ได้บังเกิดและเพิ่มพูน เป็นไปได้จริงๆ ที่ชำระล้างตนเองด้วยวิธีนี้สำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับมนตร์บทนี้ และ สาธยายด้วยความจริงจังและศรัทธาตลอดชีวิต
คัมภีร์มรณศาสตร์แห่งธิเบต ได้กล่าวไว้ในบาร์โด"
เมื่อเสียงแห่งธรรมดากัมปนาท
ประหนึ่งอสนีบาตนับพัน ขอให้เสียงเหล่านี้กลายเป็นเสียงหกพยางค์ "
ในทำนองเดียวกัน
สุรังคมสูตรได้กล่าวไว้ว่า
เสียงทิพย์แห่งอวโลกิเตศวรเจ้าช่างลึกลับและงดงามยิ่ง
เป็นเสียงปฐมกัลป์
แห่งจักรวาล... เป็น
เสียงกระซิบของกระแสน้ำขึ้นลงของ
ทะเลภายใน เสียงลึกลับนี้ทำให้
ความหลุดพ้นบังเกิดแก่สรรพชีวิตผู้เรียกหาความช่วยเหลือ
ด้วยความทุกข์ทรมาน
อีกทั้งยังนำความสงบมาให้แก่สัตว์ทั้งหลาย ผู้แสวงหา
สันติอันไร้ขอบเขตแห่ง
พระนิพพานคัด
บางส่วนมาจาก หนังสือ
ประตูสู่สภาวะใหม่ :
คำสอนธิเบต
เพื่อเตรียมตัวตาย
และช่วยเหลือผู้ไกล้ตาย
ของ ท่านโซเกียล รินโปเช
Credit by :
http://agaligohome.com/index.php?topic=4495.msg11890#newนำมาแบ่งปันโดย : miracle of lovePics by :
Google :
http://solitaryanimal.blogspot.com/2005_12_01_archive.htmlอกาลิโกโฮม *
สุขใจดอทคอมใต้ร่มธรรมดอทเน็ท อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ