[๑๒๕๗] ฝ่าพระบาท ชาวชนบทและชาวนิคม พร้อมใจกันเนรเทศข้าพระบาท
ผู้ครองราชสมบัติโดยทศพิธราชธรรม จากแว่นแคว้น.
[๑๒๕๘] ดูกรพระลูกรัก จริงทีเดียว การที่พ่อขับไล่ลูกผู้ไม่มีโทษผิดออกไปจาก
แว่นแคว้น
เพราะถ้อยคำของชาวสีพีนั้น ชื่อว่าพ่อได้ทำกรรมอันชั่วช้า
และชื่อว่าพ่อได้ทำกรรมเครื่องทำลายความเจริญ.
[๑๒๕๙]
ขึ้นชื่อว่าบุตร ควรช่วยปลดเปลื้องความทุกข์ของมารดาบิดาและพี่น้อง
ที่เกิดขึ้น เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง แม้ด้วยชีวิตของตน (ข้าแต่
พระมหาราชา เวลานี้เป็นเวลาสมควรที่จะสรงสนาน ขอเชิญทรงชำระ
พระสรีระมลทินเถิด พระเจ้าข้า).
[๑๒๖๐] ลำดับนั้น พระเวสสันดรบรมกษัตริย์ ทรงชำระพระสรีระมลทิน
ครั้น
แล้วไม่ทรงเพศดาบส.
[๑๒๖๑] พระเวสสันดรบรมกษัตริย์ สระพระเกศาแล้ว ทรงเศวตพัสตร์อัน
สะอาด ทรงประดับด้วยเครื่องราชปิลันทนาภรณ์ทุกอย่าง ทรงสอด
พระแสงขรรค์อันทำให้ราชปัจจามิตรเกรงขาม เสด็จขึ้นทรงพระยา-
ปัจจยนาคเป็นพระคชาธาร ครั้งนั้น เหล่าสหชาติโยธาหาญทั้งหกหมื่น
สวมสอดสรรพาวุธและประดับสรรพาภรณ์ล้วนด้วยทอง เป็นสง่างาม
น่าดู ต่างชื่นชมยินดี แวดล้อมพระมหากษัตริย์ผู้เป็นจอมทัพ ลำดับนั้น
เหล่าพระสนมกำนัลของพระเจ้าสีพีมาประชุมพร้อมกัน เชิญพระมัทรี
ให้โสรจสรงด้วยสุคนธวารี แล้วทูลถวายพระพรว่า ขอพระเวสสันดร
จงทรงอภิบาลรักษาพระแม่เจ้าของพระชาลี และพระกัณหาชินาทั้งสอง
พระองค์จงทรงบำรุงรักษาพระแม่เจ้าต่อไป อนึ่ง ขอพระเจ้าสญชัย
มหาราช จงทรงคุ้มครองรักษาพระแม่เจ้ายิ่งขึ้นไป เทอญ.
[๑๒๖๒] ก็พระเวสสันดรบรมกษัตริย์และพระมัทรี
กลับมาได้ดำรงในสิริราช-
สมบัตินี้ตามเดิมแล้ว ทรงระลึกถึงความลำบากขณะที่เสด็จไปประทับอยู่
ในป่าในกาลก่อน จึงรับสั่งให้นำกลองนันทเภรีไปตีประกาศที่เวิ้งว้าง
หว่างเขาวงกต อันเป็นรัมณียสถาน ก็พระเวสสันดรบรมกษัตริย์และ
พระมัทรี กลับมาได้ดำรงในสิริราชสมบัตินี้ตามเดิมแล้ว พระมัทรี
ผู้สมบูรณ์ด้วยลักขณา ทรงระลึกถึงความลำบากขณะที่เสด็จไปประทับ
อยู่ในป่าในกาลก่อน ครั้นได้ทรงประสบพระโอรสพระธิดา ก็มีพระทัย
ปราโมทย์ เกิดโสมนัส ก็พระเวสสันดรบรมกษัตริย์และพระมัทรีผู้มี
ลักขณา กลับมาได้ดำรงในสิริราชสมบัตินี้ตามเดิมแล้ว ทรงระลึกถึง
ความลำบากขณะที่เสด็จไปประทับอยู่ในป่าในกาลก่อน และได้มาอยู่ร่วม
กับพระโอรสและพระธิดา จึงมีพระหฤทัยชื่นชมยินดีปิติโสมนัส.
[๑๒๖๓] ดูกรลูกรักทั้งสอง ในกาลก่อน คือ เมื่อพราหมณ์นำลูกทั้งสองไป แม่
มีความปรารถนาลูกทั้งสอง
แม่จึงได้บำเพ็ญวัตรนี้ คือ แม่บริโภค
อาหารวันละครั้ง นอนเหนือพื้นแผ่นดินเป็นนิตย์ วัตรของแม่นั้นสำเร็จ
แล้วในวันนี้ เพราะได้พบพระลูกทั้งสองแล้ว ดูกรลูกรักทั้งสอง
ขอ
ความโสมนัสอันเกิดจากแม่และแม้ที่เกิดจากพระบิดา จงคุ้มครองลูก อนึ่งเล่า ขอพระเจ้าสญชัยมหาราช จงทรงอภิบาลรักษาลูก บุญกุศล
อย่างใดอย่างหนึ่ง
ที่แม่ก็ดี พระบิดาของลูกก็ดี กระทำแล้วมีอยู่ ด้วย
บุญกุศลทั้งหมดนั้น ขอให้ลูกจงเป็นผู้ไม่แก่ตาย.
[๑๒๖๔] พระนางมัทรีจะทรงงดงามด้วยพระภูษาอย่างใด สมเด็จพระผุสดีสัสสุ-
ราชเทวีก็ทรงจัดพระภูษาอย่างนั้น คือ พระภูษากัปปาสิกพัตร โกสัย-
พัตร โขมพัตร และโกทุมพรพัตร ส่งไปประทานแก่พระมัทรีราชสุณิสา
พระนางมัทรีจะทรงงดงามด้วยเครื่องประดับอย่างใด พระสัสสุผุสดี
ราชเทวี ก็ทรงจัดเครื่องประดับอย่างนั้น คือ พระธำมรงค์สุวรรณรัตน์
สร้อยพระศอนพรัตน์ ส่งไปประทานแก่พระมัทรีราชสุณิสา พระนาง
มัทรีจะทรงงดงามด้วยเครื่องประดับอย่างใด พระผุสดีสัสสุราชเทวีก็ทรง
จัดเครื่องประดับอย่างนั้น คือ พระวลัยสำหรับประดับต้นพระพาหา
พระกุณฑลสำหรับประดับพระกรรณ สายรัดพระองค์ฝังแก้วมณีตาบ
เพชร ไปประทานแก่พระมัทรีราชสุณิสา พระนางมัทรีจะทรงงดงามด้วย
เครื่องประดับอย่างใด พระผุสดีสัสสุราชเทวีก็ทรงจัดเครื่องประดับอย่าง
นั้น คือ ดอกไม้กรองเครื่องประดับพระเมาฬี เครื่องประดับพระนลาต
และเครื่องประดับฝังแก้วมณีสีต่างๆ กัน ไปประทานแก่พระมัทรีราช-
สุณิสา พระนางมัทรีจะทรงงดงามด้วยเครื่องประดับอย่างใด พระผุสดี-
สัสสุราชเทวี ก็ทรงจัดเครื่องประดับอย่างนั้น คือ เครื่องประดับพระถัน
เครื่องประดับพระอังษา สอิ้งเพชร ฉลองพระบาทส่งไปประทานแก่
พระมัทรีราชสุณิสา เครื่องประดับที่สมเด็จพระนางผุสดีส่งไปประทาน
นั้นมีทั้งที่ต้องร้อยด้วยเชือก ทั้งที่ไม่ต้องร้อยด้วยเชือก สมเด็จพระ-
ผุสดีทรงตรวจดูเครื่องประดับพระนางมัทรี ทรงเห็นที่ใดยังบกพร่องก็
รับสั่งให้นำมาประดับเพิ่มเติมจนเต็ม พระนางมัทรีราชบุตรีทรงงดงาม
ยิ่งนัก ดังนางเทพกัญญาในนันทวัน พระนางมัทรีราชบุตรีสระพระเกศา
แล้วทรงเศวตพัสตร์ ประดับด้วยอาภรณ์ทั้งปวง ทรงงดงามยิ่งนัก ดัง
นางเทพอัปสรในดาวดึงส์ วันนั้น พระนางมัทรีราชบุตรีทรงงดงามน่า
พิศวง ดังต้นกล้วยอันเกิดในสวนจิตตลดาถูกลมรำเพยพัดไหวไปมา
ฉะนั้น พระนางมัทรีราชบุตรี ทรงมีไรพระทนต์แดงดังผลตำลึงสุกงาม
ยิ่งนัก มีพระโอษฐ์แดงดังผลไทรสุก งดงามยิ่งนัก ปานดังกินรีมีขน
ปีกงามวิจิตร บินร่อนอยู่ในอากาศ ฉะนั้น.
[๑๒๖๕] เหล่าพนักงานตกแต่งตรุณหัตถี มีวัยปานกลาง อันเป็นช้างพระที่นั่ง
ต้นตัวประเสริฐอดทนต่อหอกซัดและลูกศร มีงางอนงามดังงอนรถ มี
กำลังกล้าหาญ เสร็จแล้วให้นำมาประเทียบเกยคอยรับเสด็จ สมเด็จ
พระมัทรี เสด็จขึ้นประทับบนหลังตรุณหัตถี อันมีวัยปานกลาง เป็น
ช้างพระที่นั่งต้นตัวประเสริฐ อดทนต่อหอกซัดและลูกศร มีงางอนงาม
ดังงอนรถ มีกำลังกล้าหาญ.
[๑๒๖๖] เนื้อประมาณเท่าใดที่มีอยู่ในป่าทั้งปวง ณ เขาวงกตนั้น เนื้อประมาณ
เท่านั้น ไม่เบียดเบียนกันและกันด้วยเดชของพระเวสสันดร นก
ประมาณเท่าใดที่มีอยู่ในป่าทั้งปวง ณ เขาวงกตนั้น นกประมาณเท่านั้น
ไม่เบียดเบียนกันและกันด้วยเดชของพระเวสสันดร เนื้อประมาณเท่าใด
ที่มีอยู่ในป่าทั้งปวง ณ เขาวงกตนั้น มาประชุมในที่เดียวกัน ในเมื่อ
พระเวสสันดรผู้ผดุงสีพีรัฐให้เจริญจะเสด็จกลับ นกประมาณเท่าใดที่มี
อยู่ในป่าทั้งปวง ณ เขาวงกตนั้น มาประชุมในที่เดียวกัน ในเมื่อ
พระเวสสันดรผู้ผดุงสีพีรัฐให้เจริญจะเสด็จกลับ เนื้อประมาณเท่าใด
ที่มีอยู่ในป่าทั้งปวง ณ เขาวงกตนั้น เนื้อประมาณเท่านั้นต่างพากันมีทุกข์
เพราะจะต้องพลัดพรากจากพระเวสสันดร มิได้ส่งเสียงร้องอันไพเราะ
เหมือนกาลก่อน ในเมื่อพระเวสสันดรผู้ผดุงสีพีรัฐให้เจริญจะเสด็จกลับ
นกประมาณเท่าใด ที่มีอยู่ในป่าทั้งปวง ณ เขาวงกตนั้น นกประมาณ
เท่านั้น ต่างพากันมีทุกข์ เพราะจะต้องพลัดพรากจากพระเวสสันดร
มิได้ส่งเสียงอันไพเราะเหมือนในกาลก่อน ในเมื่อพระเวสสันดรผู้ผดุง
สีพีรัฐให้เจริญ จะเสด็จกลับ.
[๑๒๖๗] ราชวิถีที่จะเสด็จพระราชดำเนินนั้น ประชาราษฎร์ช่วยกันตกแต่งราบรื่น
งามวิจิตร ลาดด้วยดอกไม้ ตั้งแต่เขาวงกตที่พระเวสสันดรราชประทับ
อยู่ ตราบเท่าถึงพระนครเชตุดร ลำดับนั้น เหล่าอำมาตย์สหชาติโยธา-
หาญทั้งหกหมื่น แต่งเครื่องพร้อมสรรพงามสง่าน่าดู พากันตามเสด็จ
แวดล้อมโดยรอบ ในเมื่อพระเวสสันดรผู้ผดุงสีพีรัฐให้เจริญเสด็จกลับ
พระนคร พระสนมกำนัลใน พระกุมารที่เป็นพระประยูรญาติ และบุตร
อำมาตย์ พวกพ่อค้าและพราหมณ์ทั้งหลาย พากันตามเสด็จแวดล้อม
โดยรอบ ในเมื่อพระเวสสันดรผู้ผดุงสีพีรัฐให้เจริญเสด็จกลับพระนคร
กองพลช้าง กองพลม้า กองพลรถ กองพลเดินเท้า พากันตามเสด็จ
แวดล้อมโดยรอบ ในเมื่อพระเวสสันดรผู้ผดุงสีพีรัฐให้เจริญเสด็จกลับ
พระนคร ชาวชนบทและชาวนิคม พร้อมใจกันมาประชุมแวดล้อมอยู่
โดยรอบ ในเมื่อพระเวสสันดรผู้ผดุงสีพีรัฐให้เจริญเสด็จกลับพระนคร
เหล่าโยธาสวมหมวกแดง สวมเกราะหนัง ถือธนู ถือโล่ห์ดั้ง เดิน
นำหน้า ในเมื่อพระเวสสันดรผู้ผดุงสีพีรัฐให้เจริญเสด็จกลับพระนคร.
[๑๒๖๘] กษัตริย์ทั้งหกพระองค์นั้น เสด็จเข้าสู่พระนครอันน่ารื่นรมย์ มีป้อม
ปราการและทวารเป็นอันมาก บริบูรณ์ด้วยข้าวน้ำ บริบูรณ์ด้วยการ
ฟ้อนรำขับร้องทั้งสองอย่าง ชาวชนบทและชาวนิคมต่างชื่นชมยินดี มา
ประชุมพร้อมกัน
ในเมื่อพระเวสสันดรผู้ผดุงสีพีรัฐให้เจริญเสด็จมาถึง
เมื่อพระมหาสัตว์ผู้พระราชทานทรัพย์เสด็จมาถึงแล้ว ชาวชนบทและ
ชาวนิคมต่างเปลื้องผ้าโพกออกโบกสะบัดอยู่ไปมา พระองค์รับสั่งให้นำ
กลองนันทเภรีไปตีประกาศในพระนคร รับสั่งให้ประกาศปลดปล่อย
สัตว์ทั้งหลายจากเครื่องจองจำ.
[๑๒๖๙] ขณะเมื่อพระเวสสันดรผู้ผดุงสีพีรัฐให้เจริญ เสด็จเข้าพระนครแล้ว ท้าว
สักกเทวราชทรงบันดาลฝนเงินให้ตกลงในขณะนั้น ลำดับนั้น พระ-
เวสสันดรบรมกษัตริย์ผู้มีพระปัญญา ทรงบำเพ็ญทานแล้ว ครั้นสวรรคต
พระองค์ก็ได้เสด็จเข้าถึงสวรรค์ ฉะนี้แล.
(นี้) ชื่อนครกัณฑ์.
จบ มหาเวสสันตรชาดกที่ ๑๐.
จบ มหานิบาตชาดก.
จบชาดก
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๘ บรรทัดที่ ๖๕๑๑ - ๘๓๔๐. หน้าที่ ๒๔๘ - ๓๑๘.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=28&A=6511