22 ธันวาคม 2567 08:50:17
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
สุขใจในธรรม
สมถภาวนา - อภิญญาจิต
.:::
การวัดความฉลาดของคน : พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จ.ชลบุรี
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: การวัดความฉลาดของคน : พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จ.ชลบุรี (อ่าน 1154 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Maintenence
ผู้ดูแลระบบ
นักโพสท์ระดับ 10
คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 1117
[• บำรุงรักษา •]
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 86.0.4240.75
การวัดความฉลาดของคน : พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จ.ชลบุรี
«
เมื่อ:
21 ตุลาคม 2563 14:59:00 »
Tweet
การวัดความฉลาดของคน ทางธรรมเรามองที่พฤติกรรม
การวัดความฉลาดของคน มีวิธีวัดอย่างไร ถ้าเป็นความฉลาดทางโลก เราก็วัดที่ปริญญาว่าเรียนจบปริญญาไหน ปริญญาตรี โท เอก ยิ่งเรียนสูงยิ่งมีความรู้ความฉลาดมาก อันนี้เป็นวิธีหนึ่งของการวัดความฉลาดทางโลก ส่วนทางธรรมนี้ วิธีวัดความฉลาดทางธรรมนี้วัดอย่างไร ก็วัดตอนที่มีวันหยุดนี่ อย่างช่วงที่มีวันหยุด ๔ วันนี่ ว่าไปไหนกัน ถ้าไปเที่ยวก็ไม่ฉลาด ถ้าไปทำบุญฉลาด ถ้าไปอยู่วัดฉลาด ทำไมถึงพูดอย่างนี้ เพราะว่าทางธรรมนี้ ถือว่าการทำบุญเป็นคุณเป็นประโยชน์แก่จิตใจ ส่วนการไปเที่ยวนี้เป็นพิษเป็นภัยแก่จิตใจ การไปเที่ยวนี้เหมือนเป็นการเสพยาเสพติด ส่วนการไปทำบุญเหมือนกับการไปรับประทานอาหาร “บุญ” คืออาหารของจิตใจ แต่การเที่ยวหาความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกาย เป็นยาเสพติดของใจ เสพแล้วก็ติด ที่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดกันอยู่ไม่รู้กี่แสนล้านชาติแล้วนี้ ก็เพราะติดยาเสพติดนี้เอง ติดการเที่ยวกัน ติดการหาความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกาย ที่เราเรียกว่า “กามตัณหา” นี้เอง ความอยากหาความสุขจากรูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะผ่านทางตาหูจมูกลิ้นกาย ที่หาได้เท่าไหร่ก็ไม่มีวันอิ่มไม่มีวันพอ มีแต่จะมีแต่หิวมีแต่อยากอยู่เรื่อยๆ
ร่างกายนี้ตายไป ความอยากไม่ได้ตายไปกับร่างกาย ใจไม่ได้ตายไปกับร่างกาย ความอยากอยู่ในใจ ความอยากก็เลยดึงใจให้มาหาร่างกายอันใหม่ มาเกิดใหม่ มาเกิดมาแก่มาเจ็บมาตายกันใหม่ เป็นอย่างนี้มาเป็นเวลายาวนาน ตายจากร่างนี้ก็ไปหาร่างใหม่ ได้ร่างใหม่เดี๋ยวก็ตาย ตายก็ไปหาร่างใหม่ เพราะความอยากที่จะเสพรูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะ มันไม่มีวันหมดจากจิตจากใจ จากการเสพรูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะนี้เอง มันจะหมดได้ก็คือจากการทำบุญนี้เอง เพราะการทำบุญจะทำให้ใจอิ่ม หายอยาก จะสามารถกำจัดความอยากทางตาหูจมูกลิ้นกาย ให้หมดสิ้นไปได้ด้วยการทำบุญ นี่แหละคือการวัดความฉลาดทางธรรม วัดที่พฤติกรรม วัดที่การกระทำ ธรรมะของพระพุทธเจ้านี่ คุณสมบัติมีอยู่ข้อหนึ่งก็คือ “ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ” เป็นธรรมที่เหมาะกับคนฉลาด คนที่ไม่ฉลาดนี้เปรียบเหมือนไก่ ไก่จะคุ้ยหาแต่ตัวหนอนแต่ตัวไส้เดือน แต่ถ้าไปเจอเพชรไปเจอพลอย ก็จะเขี่ยทิ้งๆ เพราะไม่รู้คุณค่าของเพชรของพลอย ว่ามีคุณค่ายิ่งกว่าตัวหนอนตัวไส้เดือน เพราะถ้ามีเพชรสักเม็ดหนึ่งนี้ ไปซื้อตัวหนอนตัวไส้เดือนได้เป็นแสนตัว ไม่ต้องมาคุ้ยเขี่ย เป็น “เศรษฐีไก่” มีตัวหนอนตัวไส้เดือนกินไปตลอดจนวันตายถ้ารู้จักเก็บเพชรเอาไว้เก็บพลอยเอาไว้ แต่นี่เขี่ยทิ้งหมด เจอเพชรเจอพลอย เขี่ยทิ้งๆ จะหาแต่ตัวหนอนตัวไส้เดือน แสดงว่าไก่มันไม่ฉลาด ไก่มันโง่
ถ้าเป็นคนนี่ จะเอาไส้เดือนหรือจะเอาเพชรจะเอาพลอย ถ้าเดินไปเจอตัวหนอนตัวไส้เดือน กับเจอเพชรเจอพลอยนี้ คนมันฉลาดกว่าไก่ก็ต้องเอาเพชรเอาพลอย มันไม่เอาตัวหนอนตัวไส้เดือน ถึงแม้จะเอาไปตกปลาได้ก็ตาม สมัยก่อนเขาตกปลานี้ เขาก็หาตัวไส้เดือนนี่มาเป็นเหยื่อ ถ้าไปค้นหาตัวไส้เดือน ไปเจอเพชรนี่ ไม่ต้องเอาแล้วไส้เดือน เอาเพชรนี้ไปซื้อปลากี่ตัวมากินก็ได้ คนฉลาดจะคิดอย่างนี้ ฉันใด ศาสนาก็เหมือนกัน ศาสนาเหมือนเพชรเหมือนพลอย “พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์” นี่ เราเรียกว่า “พระรัตนตรัย” “รัตนะ” ก็คือเพชรพลอยที่มีคุณค่าอันมหาศาล เพราะผู้ใดได้เพชรพลอยนี้ไปเป็นสมบัติแล้ว จะเหมือนมีทรัพย์ที่จะซื้อความสุขใจ ซื้อได้อย่างเต็มเปี่ยมและตลอดไปด้วย จะซื้อความสุขได้ตลอด จะมีเงินซื้อความสุขไปตลอด แต่คนไม่ฉลาดกลับจะไปเห็นตัวหนอนตัวไส้เดือนสำคัญกว่า ก็คือการเห็นการไปหาความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกาย สำคัญกว่าการมาหาความสุขทางใจ
นี่คือพระคุณของพระรัตนตรัย “พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์” ถ้าผู้ใดได้มาพบได้มาได้ยินได้มาฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าจากพระพุทธเจ้าเองก็ดี หรือจากพระอริยะสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าก็ดี ก็จะได้ความรู้ได้ปัญญา ได้ความฉลาด ได้รู้จักวิธีหาความสุขที่แท้จริง หาความสุขที่ถาวร หาความสุขที่ไม่มีความทุกข์ตามมา แต่ถ้าไม่ได้เจอกับ “พระพุทธ พระธรรม หรือพระสงฆ์” จะไม่มีใครรู้จักวิธีหาความสุขที่แท้จริงที่ถาวร ที่ไม่มีความทุกข์ตามมา ก็จะไปหาแต่ความสุขที่เป็นความสุขชั่วคราว ความสุขที่มีความทุกข์ตามมา เช่น หยุด ๔ วันนี้ ไปเที่ยวกัน มีความสุขขณะไปเที่ยว พอกลับมาบ้านกลับมาที่ทำงาน ความสุขนั้นก็หายไป ความทุกข์ที่เกิดจากความอยากไปเที่ยวใหม่ ก็จะโผล่ขึ้นมา ความทุกข์ที่เกิดจากการที่ต้องหาเงินมาเพื่อที่จะได้ไปเที่ยวต่อก็จะตามมา ถ้าไม่สามารถหาเงินหาทองเพื่อไปเที่ยวต่อได้ เวลาไม่ได้เที่ยวอยู่บ้านก็หงุดหงิดรำคาญใจ เศร้าใจ ว้าเหว่
นี่คือผลที่เกิดจากการไปหาความสุขจากการไปเที่ยว ไปหาความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกาย นอกจากการไปเที่ยวแล้วก็ อย่างอื่นก็มีการซื้อของฟุ่มเฟือยต่างๆ เรียกว่าไปช้อปปิ้งกัน บางทีของ ๒ อย่างนี้มันไปด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยแล้วก็ไปช้อปปิ้งด้วย แล้วก็ไปกินไปดื่มด้วย นี่เป็นเรื่องของการเสพกาม เสพรูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะ ในรูปแบบต่างๆ ที่เป็นเหมือนยาเสพติด ระหว่างอาหารกับยาเสพติดนี้เราจะเอาอะไร คนโง่จะเลือกอะไร คนฉลาดจะเลือกอะไร คนโง่มันก็จะเลือกยาเสพติด พวกที่ติดยามันไม่เอาหรอกอาหาร เวลามันมาขอเงิน ถามว่า “ไม่มีอาหารกินเหรอ” มันก็บอก “ไม่มี” แต่พอจะให้อาหารมันไม่เอา มันจะเอาเงิน เอาเงินไปซื้อยาเสพติด นี่คือคนโง่ เสพยาแล้วเป็นยังไง ร่างกายก็ซูบผอม ไม่กินอาหาร เอาเงินไปเสพยา ระหว่างต้องเลือกระหว่างการซื้ออาหารกับซื้อยาเสพติด คนติดยาจะเลือกอะไร เขาก็ต้องเลือกยาเสพติด เสพยาเสพติดแล้วมันบรรเทาความทรมานใจ ที่เกิดจากการอยากเสพยาได้ชั่วคราว แต่รับประทานอาหาร มันไม่ได้ทำให้ความทรมานใจหายไป แต่มันไม่ได้มองถึงว่ามันหายก็ชั่วคราวเท่านั้นเอง ความทรมานใจที่เกิดจากการติดยาเสพติด อยากเสพยาเสพติด มันจะรู้สึกทรมานใจมาก ต้องไปหายาเสพติดมาเสพ แล้วความทรมานใจนี้ก็จะหายไปชั่วคราว เดี๋ยวความทรมานใจใหม่ก็ปรากฏขึ้นมาอีก ร่างกายก็จะต้องตายไปถ้าไม่ได้รับประทานอาหาร หรือรับประทานไม่มากพอ ยาเสพติดก็จะไปทำลายร่างกาย พิษของยาเสพติด
นี่คือลักษณะของคนฉลาดกับของคนโง่ ทางธรรมเรามองที่พฤติกรรมว่า มีพฤติกรรมไปในทาง “กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา” หรือไม่ ถ้าไปก็แสดงว่าโง่ ไม่ฉลาด ถ้าไปในทาง “การทำบุญทำทาน การรักษาศีล การภาวนา” เราเรียกว่าเป็นคนฉลาด เพราะ “การทำบุญทำทาน การหาความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกาย” นี้เป็นเหมือนอาหารของจิตใจนั่นเอง มีแต่คุณมีแต่ประโยชน์ ไม่มีโทษต่อจิตใจ ยิ่งรับประทานมากเท่าไหร่ จิตใจยิ่งเจริญเติบโต ยิ่งได้ความสุขมากยิ่งขึ้นไปตามลำดับ จนถึงความสุขที่สมบูรณ์ ความเจริญเติบโตที่สมบูรณ์ คือ ได้เป็นพระอริยะเจ้า ถ้าหาเองถ้าทำเองก็เป็นพระพุทธเจ้า ถ้าเรียนรู้จากพระพุทธเจ้า ก็จะเป็นพระอรหันตสาวก นี่คือประโยชน์ที่จะได้รับจากการไปทำบุญกัน ในวันที่มีเวลาว่างจากภารกิจการงานต่างๆ อย่าเอาเวลาอันมีค่านี้ไปกับการเสพยาเสพติดเลย อย่าไปเสพรูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะ อย่าไปเที่ยว อย่าไปช้อปปิ้ง อย่าไปหาความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกายกันเลย มาหาความสุขทางใจกันดีกว่า มาทำบุญทำทาน มารักษาศีล มาภาวนา แล้วใจจะมีแต่ความสุข ความทุกข์ที่เกิดจากความอยากต่างๆ มันจะลดน้อยลงไปตามลำดับ และหมดไปได้ในที่สุด
สนทนาธรรมบนเขา
วันที่ ๒๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๑
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี
ณ จุลศาลา เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาชีโอน
บันทึกการเข้า
[• สุขใจ บำรุงรักษาระบบ •]
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...