วัดโพธิ์เก้าต้น - "วีรกรรมพลีชีวิต" ต.ค่ายบางระจัน อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี

ศาลวีรชนชาวบ้านบางระจัน
ณ สถานที่นี้ประมาณ ๒๕๐ ปีเศษมาแล้ว ชาวบ้านบางระจันได้ประกอบวีรกรรมพลีชีวิต ต่อสู้กับกองทัพพม่าที่ได้ล้อมกรุงศรีอยุธยา
เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยให้ลูกหลานได้อยู่ร่วมกันอย่างร่มเย็นเป็นสุขมาสืบมาถึงทุกวันนี้

วัดโพธิ์เก้าต้น
ตำบลค่ายบางระจัน อำเภอค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี

วัดโพธิ์เก้าต้น หรือ วัดไม้แดง ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ ๘ ตำบลบางระจัน อำเภอค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี ตรงข้ามกับอนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจัน ห่างจากตัวเมืองสิงห์บุรีประมาณ ๑๕ กิโลเมตร เป็นสถานที่ชาวไทยรู้จักกันดี จากการเรียนวิชาประวัติศาสตร์มาตั้งแต่เด็ก

วีรชนชาวบ้านบางระจันได้เคยใช้บริเวณนี้เป็นที่มั่นในการต่อต้านพม่าที่ยกกองทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาเมื่อปี พ.ศ.๒๓๐๘ ชาวบ้านเรียกวัดนี้ว่า “วัดไม้แดง” เพราะภายในวัดมีต้นไม้แดงซึ่งเป็นไม้เนื้อแข็งอยู่หลายต้น และชาวบ้านถือกันว่าเป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีใครกล้าตัดหรือทำลาย

ภายในวัดมี “วิหารพระอาจารย์ธรรมโชติ” เป็นวิหารทรงจัตุรมุข ซึ่งภายในประดิษฐานรูปเหมือนพระอาจารย์ธรรมโชติ พระที่มีอาคมชั้นเลิศ มีความชำนาญเรื่องเกี่ยวกับยาสมุนไพร เป็นที่ยึดเหนี่ยวแห่งวีระชนชาวบ้านบางระจันและเป็นที่เคารพสักการะของชาวสิงห์บุรี ท่านเป็นผู้นำสำคัญคนหนึ่งแก่วีระชนชาวบ้านบางระจันที่ทำให้สามารถเข้าต่อสู้ป้องกันข้าศึกและได้รับชัยชนะถึง ๗ ครั้ง พระอาจารย์ธรรมโชติแห่งวัดเขาขึ้น (เขาบวช) ได้รวบรวมชาวบ้าน และบรรดาศิษย์ช่วยกันสร้างค่ายขึ้นที่บริเวณวัดนี้ เพราะเป็นที่ดอน มีลำธารไหลผ่านหน้าวัดจากทิศตะวันตกสู่ทิศตะวันออก และอีกสายหนึ่งมาจากทางทิศเหนือไหลล่องลงใต้ตัดกันตรงบ้านวังกา

ปัจจุบันได้มีการสร้างค่ายจำลองขึ้นบริเวณด้านหน้าของวัดโพธิ์เก้าต้น เพื่อเป็นอนุสรณ์เตือนใจแก่ผู้คนที่มาท่องเที่ยวว่าบริเวณวัดโพธิ์เก้าต้นนี้ ครั้งหนึ่งเคยเป็นสมรภูมิรบ และเป็นที่มั่นของบรรพชนไทยในอดีตอีกทั้งยังเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่บรรพบุรุษของเราได้เอาเลือด เอาเนื้อ เอาชีวิตเข้าแลก กลิ่นคาวเลือดที่ฝังลึกลงไปในแผ่นดินที่เหล่าวีระชนชาวบ้านบางระจันได้ฝากเอาไว้ให้ลูกหลานได้สำนึกในการรักษ์ชาติรักษ์แผ่นดิน ถึงแม้วันเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด ดินแดนแห่งนี้ยังคงเป็นดินแดนวีระชนที่สร้างคุณประโยชน์ให้กับชาติไทยเรา

พระพุทธรูปองค์ใหญ่สีขาว พุทธลักษณะงดงาม แห่งวัดโพธิ์เก้าต้น

พระพุทธรูปพุทธลักษณะต่างๆ และรูปหล่อพระอาจารย์ธรรมโชติ ประดิษฐานในวิหารพระอาจารย์ธรรมโชติ

วิหารพระอาจารย์ธรรมโชติ

บ่อสระน้ำศักด์สิทธิ์แห่งวัดโพธิ์เก้าต้น
หากใครได้มาสัมผัสที่วัดแห่งนี้ จะเห็นชาวจังหวัดสิงห์บุรีรวมถึงประชาชนจากทั่วสารทิศมีต่างก็หาบน้ำมาเติมในสระน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งวัดโพธิ์เก้าต้น
ใครได้บนบานศาลกล่าวแล้วสำเร็จก็จะมาหาบน้ำเติมในสระแก้บนด้วยเช่นกัน ดินแดนแห่งนี้จึงนับว่าเป็นดินแดนที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่ง

แม้จะอยู่ในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทุกวันนี้ยังมีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาหาบน้ำเติมในสระน้ำศักดิ์สิทธิ์มิขาดสาย

วิหารพระอาจารย์ธรรมโชติ วัดเขานางบวช ซึ่งมาอยู่ ณ วัดโพธิ์เก้าต้น
ได้ประสาทวิทยาคมบำรุงขวัญวีรชนค่ายบางระจัน ในการสู้รบกับพม่า ระหว่างเดือนสาม ปีระกา พุทธศักราช ๒๓๐๘ ถึงวันจันทร์ เดือนแปด
ปีจอ พุทธศักราช ๒๓๐๙ รัฐบาลและประชาชนชาวไทยจึงพร้อมใจกันสร้างวิหารนี้ขึ้น เพื่อประกาศเกียรติคุณและความรักชาติของท่าน

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระราชดำรัสในวโรกาสเสด็จพระราชดำเนิน
มาเปิดอนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจัน เมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๑๙ ไว้ว่า.....วีรกรรมในครั้งนั้นเป็นของผู้ที่รักแผ่นดินไทย
เป็นสิ่งที่ทำให้คนไทยทั้งมวล ทั้งในอดีตและปัจจุบันมีกำลังใจและเตือนสติให้มีความสามัคคีและรักษาจิตใจให้เข้มแข็ง เพื่อรักษา -
ประเทศไทยให้ตนเองและเพื่อความมั่นคงของแผ่นดิน.....

ขอขอบคุณเว็บไซต์ historykiku.files.wordpress.com (ที่มาภาพประกอบ "อนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจัน")