[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
01 พฤศจิกายน 2567 08:22:55 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สังคมไร้หลัก  (อ่าน 1610 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sometime
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2553 15:34:10 »

http://i191.photobucket.com/albums/z119/bee_99/yesterday/IMG0006.jpg
สังคมไร้หลัก



Amitabha Mantra - Mantra to rebirth in Pureland part1



วันก่อนเดินดูร้านหนังสือจากที่เมื่อก่อนมีแก้กรรม ล้างกรรม เห็นกรรม สแกนกรรม โหร ค.ม.ช. พ่อปู่ครูบา หลวงพ่อ หลวงปู่
หลวงเณร แม่ชี ฯลฯ มากมาย ๑๐๘ เดี๋ยวนี้จากเห็นผีก็มีคนเห็นนรก เห็นกรรม ฯลฯ นั่นแสดงว่าอะไร ? คำตอบก็คือ สังคมไร้หลักคนเมื่อมีความทุกข์
หาทางออกไม่ได้ก็มักหาที่พึ่ง อะไรก็ได้ที่เขาคิดว่า ช่วยตนเองได้  หินทิเบต จตุคาม เจ้าพ่อเจ้าแม่ หมาแมว ต้นไม้ที่ไหนก็กราบไหว้ได้
พระพุทธศาสนา ไม่ว่าจะนิกายไหน ต่างมีคำสอนที่ตรงกันว่า วัฏฏะสงสารคือความทุกข์ ความเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นทุกข์ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีใคร
หนีพ้น มีเพียงดับกิเลสจึงพ้นจากวัฏฏะสงสาร เป็นการดับทุกข์ที่แท้จริง พ้นจากนี้แล้วไม่ว่า ใครที่ไหนก็มิอาจพ้นจากทุกข์ไปได้
ธรรมทั้งหลายไหลมาแต่เหตุ คนเราจะรวยมีทรัพย์นั้น อยู่ที่ขยันทำงาน และบุญกุศลอันเกิดจากทานส่งผล แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือไม่ว่าคุณจะกราบ
ไหว้อ้อนวอน เทพเจ้า พระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ ขนาดไหน หรือไม่ว่าคุณจะอยู่ในประเทศใดภูมิภาคใด ระบอบการปกครองใดใครเป็นผู้นำก็ไม่สามารถ
ทำให้ทุกคนในโลกนี้รวยได้ทั้งหมด ในแง่เชิงตรรกะ ลองนึกว่า ถ้าทุกคนในโลกนี้รวยกันหมด มนุษย์คงอดตายกันหมด เพราะทุกวันนี้ที่มีกินมีใช้กัน
ก็เพราะคนต้องการทรัพย์มาเลี้ยงตนและครอบครัว จึงได้ทำงานเพื่อแลกกับเงิน แต่ถ้ารวยกันหมดทุกคนคงไม่มีใครทำงาน คุณมีเงิน ผมก็มีเงิน และจะลำบากทำไม เพราะสิ่งที่ต้องยอมรับคือ ทรัพย์สินมีค่า เพราะหายาก เงินทองมีค่า เพราะมีคนจน
ในแง่หนึ่ง เงินทองทรัพย์สินที่มีค่า แม้ว่ามีมากมายก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีความสุข และไม่มีทุกข์ ดังคำที่ว่า มั่งมี หรืออยากไร้ ต่างก็ทุกข์เหมือนกันเพราะชีวิตนั้นมีบริบทมากมาย มากว่าแค่คำ ๒ คำว่า จน หรือ รวย
วัฏฏะสงสารเป็นเรื่องใหญ่ เป็นที่รวมแห่งทุกข์ทั้งปวง การดับกิเลสจึงจะเป็น การพ้นทุกข์ที่แท้จริง เพราะหาไม่แล้ว จะร่ำรวยสูงส่งสักเพียงใด คงไม่มีประโยชน์ หรือแม้แต่การได้รับเทวสมบัติ พรหมสมบัติ ก็ไม่อาจเทียบได้กับความสุขแห่งการหลุดพ้น เพราะนั่นคือบรมธรรม
หลายคนอาจจะคิดว่า ก็คนนั้นเค้าไหว้แล้วได้นิ ในความเป็นจริงการ คนที่กราบไหว้  เทพเจ้า, พระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ นั้นมีมาก คนสมหวังนั้นมีน้อย และคนที่สมหวัง ก็เป็นเรื่องของเหตุปัจจัย พระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ทั้งปวง มีพระกรุณาพ้นประมาณการที่จะลำเอียง เลือกที่รักมักที่ชัง ซึ่งนั่นหาใช่คุณสมบัติของผู้ที่คู่ควรที่จะได้ชื่อว่า เป็น พระพุทธเจ้า และพระโพธิสัตว์ และการไหว้เทพเจ้าทั้งปวงบางครั้งนั้นอาจจะมีผลบ้าง แต่นั่นก็ต้องควรแก่เหตุปัจจัย เพราะช่วยได้ครั้งหนึ่ง แต่ช่วยไม่ได้ทุกครั้ง และนั่นไม่ใช่ที่พึ่งอันเกษม.........................................................

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 พฤษภาคม 2553 16:01:41 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: 15 พฤษภาคม 2553 15:40:06 »

http://i191.photobucket.com/albums/z119/bee_99/yesterday/IMG0006.jpg
สังคมไร้หลัก



สิ่งสำคัญจึงอยู่ที่การฉลาดในการหาทรัพย์ สั่งสมทรัพย์ และวัตถุอย่างมีคุณธรรม และอดออมไว้ใช้ในยามฉุกเฉินและยากลำบาก ตลอดจนการทำบุญกุศล และช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ฯลฯ อีกประการหนึ่งคือการรู้จักพอในสิ่งตนได้และมี เพราะท้ายที่สุด เมื่อความตายมาถึง ก็ต้องทิ้งทรัพย์สมบัติ และสิ่งที่รักใคร่ทั้งปวงไว้ในโลกนี้ ไม่อาจนำติดตัวไปด้วยได้
ที่จริงหนังสือที่ดีในร้านหนังสือก็มีอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นจะเป็นของท่านเจ้าคุณพระพรหมคุณาภรณ์ ประยุทธ์ ปยุตฺโต ท่าน ว. วชิรเมธี หรือว่าจะเป็นของ
คุณดังตฤน แต่ทั้งนี้จะดีกว่านี้ ถ้าไม่ใช่เพราะกระแสนิยม เพราะแง่ของสำนักพิมพ์นั้น ต้องยอมรับว่า ผู้เขียนที่ได้รับความนิยมจากสังคม หรือมีชื่อเสียง
นั้นจะได้รับการพิจารณาจากสำนักพิมพ์ ส่วนผู้เขียนที่ไม่มีชื่อเสียงหรือไม่ได้รับความนิยมแล้วแม้ตัวเนื้อหาของหนังสือนั้นจะมีคุณค่ามากเท่าใดการที่จะ
ได้รับ
การตีพิมพ์นั้น ค่อนข้างที่จะเป็นไปได้ยากและจริงอยู่เองว่าธรรมมะในพระไตรปิฎกเป็นภาษาในสมัยโบราณ และการที่จะให้การเผยแพร่และศึกษาธรรม
มีชีวิตขึ้นมาจะต้องอาศัยผู้ที่เผยแผ่ นี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมการศึกษามหายานต้องมีอาจารย์ หรือที่เรียกว่า อาจาริยวาทมีผู้ศึกษาเถรวาทบางคน ที่ศึกษาเพียงฉาบฉวย กล่าวโจมตีมหายานในประเด็นนี้ ซึ่งในความเป็นจริง เถรวาทก็มีลักษณะดังกล่าวคือ อาศัยอาจารย์คอยชี้แนะเช่นกัน เพราะคนเรามีพ่อแม่ฉันใด การศึกษาธรรมก็ต้องมีพ่อแม่ คือครูอาจารย์ฉันนั้นแต่การศึกษาธรรม เพราะการยึดติดที่ตัวบุคคล หรือเพราะกระแสนิยมของผู้คนและสังคมแล้ว การศึกษาธรรมนั้น
จะค่อนข้างคับแคบ และฉาบฉวย จึงจำเป็นอยู่เองที่ ผู้ศึกษาธรรมจะต้องพิจารณา การสุดโต่งทั้ง ๒ ทาง คือ การที่ไม่มีครูอาจารย์ และยึดมั่นใน
ครูอาจารย์มากเกินไป ล้วนแต่ไม่เป็นผลดี



ขียนโดย ธัมมปาณี วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม 2010 เวลา 16:33 น


credit by..........................................http://www.q1133.com/

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 พฤษภาคม 2553 15:54:54 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.295 วินาที กับ 30 คำสั่ง

Google visited last this page วานนี้