22 ธันวาคม 2567 18:46:28
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
สุขใจในธรรม
พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
.:::
พระประวัติ กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส พระนิพนธ์ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: พระประวัติ กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส พระนิพนธ์ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ (อ่าน 672 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +5/-0
ออนไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 5800
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น
ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 109.0.0.0
พระประวัติ กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส พระนิพนธ์ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
«
เมื่อ:
08 สิงหาคม 2566 19:13:44 »
Tweet
พระประวัติ กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส
พระนิพนธ์ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
กรมสมเด็จพระปรมานุชิตฯ มีพระนามเดิมว่า พระองค์เจ้าวาสุกรี เป็นพระเจ้าลูกยาเธอในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ประสูติเมื่อ ณ วันเสาร์ เดือนอ้าย ขึ้น ๕ ค่ำ ปีจอ จุลศักราช ๑๑๕๒ ตรงกับวันที่ ๑๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๓๓๓ ทรงผนวชเป็นสามเณรแต่ในรัชชกาลที่ ๑ ทรงศึกษาในสำนักสมเด็จพระวันรัตวัดพระเชตุพน องค์ที่แจ้งประวัติไว้ในคำนำหนังสือพระราชปุจฉาที่พิมพ์นั้น เสด็จทรงผนวชอยู่วัดพระเชตุพนจนได้รับอุปสมบทเป็นพระภิกษุในรัชชกาลที่ ๒ เมื่อปีมะแม จุลศักราช ๑๑๗๓ พ.ศ.๒๓๕๔ และเสด็จประทับอยู่วัดพระเชตุพนต่อมาจนตลอดพระชนมายุ
มีเรื่องราวเล่าสืบกันมาว่า เมื่อทรงผนวชเป็นพระภิกษุได้สัก ๓ พรรษา สมเด็จพระวันรัตถึงมรณภาพ ยังไม่ทันจะได้โปรดให้ผู้ใดเป็นธิบดีสงฆ์ในวัดพระเชตุพน ประจวบเวลาพระราชทานพระกฐิน พระสงฆ์ในวัดพระเชตุพนจึงเตรียมจะอปโลกน์พระกฐินถวายพระราชาคณะที่รองลงมา ครั้นพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเสด็จไปพระราชทานพระกฐินถึงวัดพระเชตุพน มีรับสั่งให้กรมสมเด็จพระปรมานุชิตฯ แต่ยังไม่ได้รับกรม เป็นอธิบดีสงฆ์ครองวัดพระเชตุพน เข้าใจว่าเห็นจะทรงตั้งให้เป็นพระราชาคณะด้วยในเวลานั้น ประเพณีทรงตั้งเจ้านายที่ผนวชเป็นพระราชาคณะแต่ก่อนเป็นแต่พระราชทานพัดแฉกเท่านั้น ข้าพเจ้าเคยได้สดับมาจากสมเด็จพระสังฆราชวัดราชประดิษฐ์ฯ ว่า เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงผนวชยังประทับอยู่วัดราชาธิวาส วัน ๑ เสด็จเข้ามาถวายเทศน์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานพัดแฉก รับว่าว่า “สี่ต้นบวชมานานแล้ว เป็นพระราชาคณะเสียเถิด” เท่านี้ เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงตั้งกรมสมเด็จพระปรมานุชิตฯ เป็นพระราชาคณะก็เห็นจะทำนองเดียวกัน คงทรงตั้งเมื่อวันเสด็จไปพระราชทานพระกฐิน พร้อมกับเมื่อรับสั่งให้ครองวัด และรับสั่งให้ครองกฐินในปีนั้นด้วยทีเดียว กรมสมเด็จพระปรมานุชิตฯ ถวายพระพรว่า ไม่ได้เตรียมท่องอปโลกน์ไว้ มีรับสั่งว่า ไม่เป็นไร เมื่อไม่ได้ท่องไว้ให้องค์อื่นแทนก็ได้ จึงเลยเป็นธรรมเนียมในวัดพระเชตุพนตั้งแต่นั้นมา พระราชาคณะผู้จะครองกฐินไม่ต้องว่าอุปโลกน์จนตราบเท่าทุกวันนี้
กรมสมเด็จพระปรมานุชิตฯ ได้รับกรมครั้งแรกเป็นกรมหมื่นนุชิตชิโนรส ศรีสุคตขัติยวงศ์ แต่จะสถาปนาเมื่อใดยังไม่ทราบ ปรากฏจดหมายเหตุตั้งกรมในรัชชกาลที่ ๒ สองคราว คราวแรกเมื่อปีระกา จุลศักราช ๑๑๗๕ พ.ศ.๒๓๕๖ ตั้งหลายพระองค์ มีพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นต้น อีกคราว ๑ เมื่อปีชวด จุลศักราช ๑๑๗๘ พ.ศ.๒๓๕๙ ปรากฏพระนามแต่ กรมหมื่นสุรินทรรักษ์พระองค์เดียว ข้าพเจ้าเข้าใจว่า กรมสมเด็จพระปรมานุชิตฯ เห็นจะได้เป็นกรมหมื่นในคราวหลัง คือ เมื่อปีชวด จุลศักราช ๑๑๗๘ พ.ศ.๒๓๕๙ นี้
กรมสมเด็จพระปรมานุชิตฯ เมื่อยังเป็นกรมหมื่นนุชิตชิโนรสเห็นจะได้เป็นอาจารย์เจ้านายหลายพระองค์ มีเนื้อความปรากฏในพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงไว้ว่า เมื่อพระองค์ยังทรงพระเยาว์อยู่นั้น ได้ทรงศึกษาอักขรวิธีและพระพุทธวจนะและวิชาการคดีโลกอื่นๆ ในสำนักกรมสมเด็จพระปรมานุชิตฯ เจ้านายพระองค์อื่นที่ได้ทรงศึกษาก็คงจะมีอีก ในรัชชกาลที่ ๓ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงผนวชอยู่ในเวลานั้น ทรงเคารพนับถือกรมสมเด็จพระปรมานุชิตฯ มากทั้ง ๒ พระองค์ เห็นจะเมื่อคราวปฏิสังขรณ์วัดพระเชตุพน ในรัชชกาลที่ ๓ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้รวมวัดในกรุงเทพฯ จัดขึ้นเป็นคณะกลางอีกคณะ ๑ ให้ขึ้นกรมสมเด็จพระปรมานุชิตฯ ทรงบังคับบัญชาเสมอพระราชาคณะ และมีเรื่องซึ่งครั้ง ๑ เป็นความลับรู้กันแต่ในพระราชวงศ์ว่า กรมสมเด็จพระปรมานุชิตฯ กับพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อยังทรงผนวชอยู่ ได้เคยทรงปรึกษาปรารภกันว่า ถ้าพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคต ถ้าราชสมบัติได้แก่เจ้านายบางองค์ บางทีจะถูกเบียดเบียฬได้รับความเดือดร้อน ทรงพระดำริเห็นพร้อมกันว่า ควรจะสร้างวัดเล็กๆ ไว้ในเรือกในสวนสักแห่ง ๑ ถ้าถึงเวลาคับแค้นเมื่อใดจะเสด็จออกไปอยู่เสียที่วัดนั้นให้ห่างไกล อย่าให้เป็นที่กีดขวางแก่ราชการบ้านเมือง ทรงพระดำริพร้อมกันเป็นความลับอย่างนี้ กรมสมเด็จพระปรมานุชิตฯ จึงทรงไปสร้างวัดชิโนรสขึ้นในคลองมอญ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ไปทรงสร้างวัดนอกซึ่งพระราชทานนามว่า วัดบรมนิวาศ เมื่อภายหลัง แต่ชตาเมืองไทยไม่ทรุดโทรมอย่างพระวิตก เมื่อพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคต ราชสมบัติได้แก่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงสถาปนาพระเกียรติยศกรมหมื่นนุชิตชิโนรสขึ้นเป็นสมเด็จ มีเนื้อความตามพระบรมราชโองการ ประกาศเลื่อนกรม เมื่อ ณ วันศุกร์ ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๙ ปีกุน จุลศักราช ๑๒๑๓ พ.ศ.๒๓๙๔ ว่า “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฎฯลฯ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จถวัลยราชสมบัติในกรุงเทพมหานครอมรรัตนโกสินทร มหินทรายุทธยามหาดิลกภพนพรัตนราชธานีบุรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน ได้ประดิษฐานดำรงมาเป็นมหานครอันใหญ่เป็นที่สุขเกษมสมบูรณ์ด้วยสรรพโภคัยมไหสุริยสมบัติ เพียบพูนด้วยชนคณานิกรบรรพสัตว์ คือบุรุษรัตนราชวงศานุวงศ์ เสนามาตย์ราชมนตรีกระวีชาติราชปุโรหิต เป็นที่ไปมาค้าขายแห่งนานาประเทศพานิชวิจิตรด้วยวิกัยภัณฑ์สรรพพัสดุล้วนวิเศษเป็นที่รื่นเริงบันเทิงจิตแห่งชาวนานาประเทศคามนิคมชนบทปรากฏด้วยมหาชนอันเจริญขึ้นด้วยความฉลาดในหัตถกรรมต่างๆ และชำนาญในการช่างสรรพกิจทุกประการ เจริญขึ้นด้วยหมู่นิกรโยธาทวยหาญ เป็นประเทศที่ประดิษฐานพระบวรพุทธศาสนา ประดับด้วยเรือนพระปฏิมา อุโบสถาคาร เสนาสน์วิจิตรด้วยสุวรรรหิรัญมาศ เป็นที่เจริญความเลื่อมใสแห่งมหาชน ซึ่งเป็นมาได้ดังนี้ สำเร็จด้วยอำนาจบุญบารมีพระเดชานุภาพวิริยปรีชาวิจารณกิจ แห่งสมเด็จบรมนารถบพิตรซึ่งทรงสถิตเป็นประถม แห่งสมเด็จบรมนารถบพิตรซึ่งทรงสถิตย์เป็นประถม คือองค์สมเด็จพระบรมไอยกาธิราช ที่ได้ทรงนามตามประกาศด้วยพระนามแห่งพระมโหทิศปฏิมาว่า พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เป็นเดิมมา ส่วนกรมหมื่นนุชิตชิโนรสเล่าก็เป็นพระบรมวงศ์ผู้ใหญ่ในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์นั้น และได้ทรงผนวชรับธุระฝ่ายพระบวรพุทธศาสนามาช้านาน ทรงพระปรีชาญาณฉลาดรอบรู้ในพุทธศาสตร์ ราชศาสตร์ แบบอย่างโบราณราชประเพณีต่างๆ และในทางปฏิสันถารปราศรัยแล้วมีพระหฤทัยโอบอ้อมอารี เป็นที่สนิทเสน่หาแห่งพระบรมวงศานุวงศ์ทั่วไป และได้เป็นครูอาจารย์ครุฐานิยบุทคลแห่งราชสกุลวงศ์และมหาชนเป็นอันมาก ควรที่จะเป็นประธานาธิบดี มีอิสสริยยศยิ่งกว่าบรรดาคณานิกรสงฆ์คามวาสี อรัญวาสีปักษ์ใต้ฝ่ายเหนือทั้งปวง เมื่อบุรุษรัตนอันล้ำเลิศประเสริฐดังนี้มีอยู่ ก็มิได้ควรที่จะยกย่องพระราชาคณะองค์ใดองค์หนึ่ง แม้ถึงจะมีสติปัญญาวิทยาคุณ ที่มีตระกูลเป็นอย่างอื่น ให้มีอิสสริยยศฐานานุศักดิ์ยิ่งกว่า จึงมีพระบรมราชโองการมานพระบัณฑูรสุรสีหนาทดำรัสสั่งให้สถาปนาพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นนุชิตชิโนรสเป็นกรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส ศรีสุคตขัติยวงษ์ บรมพงศาธิบดี จักรีบรมนารถ ปฐมพันธุมหาราชวรางกูร ปรเมนทรนเรนทร์สูรสัมมานาภิสักกาโรดมสถาน อริยสมศีลาจารพิเศษมหาวิมล มงคลธรรมเจดีย์ยุตมุตวาทีสุวิรมนุญ อดุลยคุณคณาธาร มโหฬารเมตยาภิธยาศรัย ไตรปิฎกกลาโกศล เบญจปดลเศวตฉัตรสิริรัตโนปลักษณ มหาสมณุตมาภิเษกาภิษิต ปรมุกกฤษฐสมณศักดิธำรง มหาสงฆปรินายก พุทธศาสนดิลกโลกุตมหาบัณฑิต สุนทรวิจิตรปฏิภาณ ไวยัติญาณมหากระวีพุทธาทิศรีรัตนตรัยคุณารักษ์ เอกอรรคมหาอนาคาริยรัตน์ สยามาทิโลกยปดิพัทธพุทธบริสัษยเนตร สมณคณินทราธิเบศร์สกลพุทธจักโรปการกิจสฤษดิศุภการ มหาปาโมกษประธานวโรดม บรมนารถบพิตร เสด็จสถิต ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร พระอารามหลวง กรุงเทพฯมหานคร อมรรัตนโกสินทร มหินทรายุธยา มหาดิลก ภพนพรัตนราชธานีบุรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน ทฤฆายุศมศิริสวัสดิ” ดังนี้ กรมสมเด็จพระปรมานุชิตฯ ประชวรสิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๔ เมื่อ ณ วันศุกร์ ขึ้น ๙ ค่ำ เดือนอ้าย ปีฉลู เบญจศก พ.ศ.๒๓๙๖ พระชนมายุได้ ๖๔ พรรษา พระราชทานเพลิงพระศพที่พระเมรุท้องสนามหลวงแล้ว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้เชิญพระอัฏฐิประดิษฐานไว้ที่พระตำหนัก ณ วัดพระเชตุพนฯ และให้มีตำแหน่งฐานานุกรมสำหรับประจำรักษาพระอัฏฐิแต่นั้นมา ถึงเวลาเข้าพระวัสสา เสด็จไปถวายพุ่มวัดพระเชตุพนฯ ย่อมเสด็จไปถวายพุ่มพระอัฏฐิกรมสมเด็จพระปรมานุชิตฯ ด้วย และเมื่อวันเสด็จพระราชทานพระกฐินวัดพระเชตุพนฯ ก็โปรดให้เชิญพระอัฏฐิกรมสมเด็จพระปรมานุชิตฯ มาในพระอุโบสถ ทรงทอดผ้าไตรปีสำหรับฐานานุกรมสดับปกรณ์พระอัฏฐิทุกปีมา ประเพณีที่ทรงเคารพบูชาต่อพระอัฏฐิกรมสมเด็จพระปรมานุชิตฯ ดังกล่าวมานี้ มีตลอดรัชชกาลที่ ๔ มาในรัชชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ได้ทรงปฏิบัติตามแบบอย่างสืบมา จนตราบเท่าทุกวันนี้
กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส เป็นกวีหนังสือไทยอย่างวิเศษที่สุดพระองค์หนึ่ง หนังสือเรื่องต่างๆ ที่ทรงนิพนธ์ไว้ สอบได้บัญชีดังนี้ คือ
๑. สรรพสิทธิคำฉันท์
๒. สมุทรโฆษคำฉันท์ตอนปลาย แต่งต่อพระราชนิพนธ์สมเด็จพระนารายณ์มหาราชที่ทรงค้างไว้จนจบ
๓. กฤษณาสอนน้องคำฉันท์
๔. ฉันท์ดุษฏีสังเวยกล่อมช้างพัง
๕. กาพย์ขับไม้กล่อมช้างพัง
๖. ฉันท์มาตราพฤติ
๗. ฉันท์วรรณพฤติ
๘. ลิลิตตะเลงพ่าย
๙. ลิลิตกระบวนพยุหยาตราพระกฐินสถลมารคและชลมารค
๑๐. โคลงยอพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปฏิสังขรณ์วัดพระเชตุพน ดั้นบาทกุญชรและวิวิธมาลี
๑๑. ร่ายทำขวัญนาค
๑๒. มหาชาติ ๑๑ กัณฑ์
นอกจากนี้ยังมีโคลงฉันท์เบ็ดเตล็ด เช่น โคลงฤๅษีดัดตน โคลงกลบท เป็นต้น ซึ่งทรงรับแต่งพร้อมกับคนอื่นๆ
มีข้อควรสังเกตอย่าง ๑ ว่า กรมสมเด็จพระปรมานุชิตฯ ไม่ได้ทรงนิพนธ์หนังสือเป็นกลอนแปดเลยสักเรื่องเดียว ไม่ใช่ทรงไม่ได้ ข้าพเจ้าเข้าใจว่า ที่ไม่ทรงกลอนแปดนั้น เพราะกลอนแปดมักแต่งในทางสังวาสและบทละคร จึงทรงรังเกียจประการ ๑ อีกประการ ๑ จะเป็นเพราะเมื่อในรัชชกาลที่ ๒ ที่ ๓ ในสมัยเมื่อกรมสมเด็จพระปรมานุชิตฯ ทรงนิพนธ์หนังสือเรื่องต่างๆ นั้น กวีที่เชี่ยวชาญกระบวนแต่งกลอนแปดมีมาก คือ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และสุนทรภู่ เป็นต้น กรมสมเด็จพระปรมานุชิตฯ จะทรงพระดำริเห็นว่ากระบวนแต่งกลอนแปดจะสู้กวีที่มีอยู่ในเวลานั้นยาก จึงไม่ทรงเสียทีเดียวเหมือนอย่างหนังสือมหาชาติกัณฑ์มหาพนซึ่งไม่ทรงแต่งสู้พระเทพโมฬี (กลิ่น) ฉะนั้น
ที่มา : "พระประวัติ กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส" พระนิพนธ์ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
บริษัท แพร่พิทยา บริษัท โอเดียนสโตร์ กรุงเทพฯ พิมพ์เผยแพร่ พ.ศ.๒๔๙๖
(การสะกดคำ - คัดตามต้นฉบับ)
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 สิงหาคม 2566 15:00:45 โดย Kimleng
»
บันทึกการเข้า
กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...